ถามความเห็นท่านทั้งหลายหน่อยครับว่าคิดยังไงกับเรื่องการสละที่นั่งบนยวดยานสาธารณะ ?

โปรดอ่านดีๆตรงนี้ก่อนที่ท่านจะด่าว่าผม แล้งน้ำใจ, เห็นแก่ตัว, ไม่มีจิตสำนึก 9ล9 คือ ปกติแล้วเนี่ยผมมีธรรมเนียมปฏิบัติในการสละที่นั่งบนยวดยานสาธารณะอยู่ว่าถ้าเป็นคนท้อง คนพิการ เด็กในวัยทารกหรือเด็กแบเบาะ หรือ คนแก่ขนาดถือไม้เท้า (หรือแม้ว่าไม่ถือไม้เท้าก็ตามแต่เห็นว่าแก่มากแล้ว จะทรงตัวหรือยึดเกาะอะไรก็ลำบาก) พวกนี้ผมจะลุกให้นั่งเสมอ โดยไม่มีเงื่อนไข และไม่ต้องให้ใครมาเรียก แม้ว่าผมจะไม่ได้นั่งอยู่ในที่นั่งสำรองก็ตาม (จริงๆแล้วผมเคยเรียกร้องที่นั่งให้คนพวกนี้ด้วยครับ ลองดูที่ https://ppantip.com/topic/37022273) แต่ถ้าผมเห็นว่าเป็นเด็กที่โตพอที่จะยืนเองได้แล้ว แม้ว่าจะมีพ่อแม่อุ้มอยู่ก็ตาม ผมก็ไม่สนใจครับ หัดยืนเองมั่ง เกาะพ่อแม่ไป ถ้ามันโตไปแล้วมันก็ต้องยืนเองอยู่ดี หรือ คนแก่ที่ยังดูท่าทางกระฉับกระเฉงแข็งแรงดี นั่นแค่เพราะว่าท่านเป็นคนแก่แต่ไม่ได้เป็นง่อย ที่ว่ามานี้ผมจะไม่มองเลยครับ ยิ่งถ้าผมไม่ได้นั่งอยู่ในที่นั่งสำรองด้วยแล้ว ต่อให้คนมาสะกิดผมก็ไม่คิดที่จะเสียสละที่นั่งให้... (อันนี้ลองดูในกระทู้เก่าของผมได้เช่นกันที่ https://ppantip.com/topic/35595788 (ที่พีคสุดๆเลยก็คือ คอมเม็นต์ย่อยอันนี้ https://ppantip.com/topic/35595788/comment162-3 (กระทู้นี้เคยเป็นกระทู้เด็ดพันทิพมาแล้ว ลองหาอ่านได้บนเฟซบุ๊ค  ครับ)) และ อีกกระทู้ https://ppantip.com/topic/36312209 และยังมี https://ppantip.com/topic/37289911)

ตามนั้น... เกริ่นมาซะยืดยาว คือ เมื่อเร็วๆนี้ (ปลายปีที่แล้ว) มีเฟซบุ๊คของรายการซุปเปอร์จิ๋ว ลงโพสท์ของเด็กคนนึงซึ่งออกมาเรียกร้องสิทธิในการได้นั่งบนรถไฟฟ้า และยังมีการเอาไปโยงกับเรื่องอื่นๆที่ดูแล้วไม่เห็นจะเกี่ยวกันตรงไหน อย่าง “ตายเลยก็ยังได้” “โลกนี้มันอยู่ยากขึ้นทุกวัน” ก็มีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานา (ดูโพสท์ที่ว่า https://ppantip.com/topic/37170757) มาวันนี้เอง ด้วยความที่ผมเคลียร์งานเสร็จแล้วอยู่ว่างๆเลยเสิร์ชหาอะไรเพลินๆบนเฟซบุ๊ค ก็ไปเจอโพสท์นี้ของนักเขียนคนนึงเข้า (ตามรูปข้างล่าง) เห็นว่าน่าสนใจดี  


ผมเคยโพสท์เรื่องทำนองนี้ลงพันทิพมาหลายครั้งเเล้ว (ตามตัวอย่างหลายๆกระทู้ที่ยกมาตอนต้น) มันก็มีบรรดามนุษย์โลกสวย รวยศีลธรรม ออกมาก่นด่าบริภาษต่างๆนานา (บางรายมีอาการสมองอ่อนกว่าวัย หรือ ภาษาจีนเรียกว่า "เเปะยิ้ง" ร่วมด้วย) ก็ไม่รู้ว่าคนพวกนี้ยังไม่วางกระป๋องกาวในมือ หรือกำลังจินตนาการว่าตัวเองอยู่ในทุ่งดอกลาเวนเดอร์อยู่รึไง ?????  ไม่รู้ว่าการด่าคนอื่นว่าเเล้งน้ำใจ, เห็นเเก่ตัว, ไม่มีจิตสำนึก (คิดเล็กคิดน้อย, เราเป็นผู้หญิงเเท้ๆทำไมยังเสียสละได้เลย, ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ, เป็นผู้ชายซะเปล่า, ตุ๊ดยังมีน้ำใจมากกว่า 9ล9) ถ่ายรูปประจานลงโซเชียล หรือ บางรายถึงขนาดโดนด่าพ่อล่อเเม่เลยด้วยซ้ำ (อย่างในกระทู้นี้  https://ppantip.com/topic/36275658) การได้กดคนอื่นให้ต่ำลงเพื่อให้ตัวเองดูสูงส่งขึ้น ได้ด่ามันเเล้วกูเป็นคนดี มันเป็นคนเลว ด่าคนอื่นเพื่อประกาศให้โลกรู้ว่ากูเป็นพลเมืองดี กระสันอยากเป็นคนดีศรีสังคมซะเหลือเกิน การได้ "สำเร็จความใคร่ทางศีลธรรม" อย่างงี้เเล้ว มันจะทำให้ท่านเป็นคนใจกว้าง มีน้ำใจขึ้นมาทันทีเลยรึไงครับ ผมล่ะสงสัยจริงๆ ?????

ผมมองอย่างงี้ครับว่าน้ำใจน่ะมีได้ครับ เเละคนในสังคมก็ควรจะมีน้ำใจให้เเก่กัน มันเป็นเรื่องที่ดี ทำให้สังคมน่าอยู่ แต่เราควรจะใช้น้ำใจให้มัน ถูกคน, ถูกที่, ถูกเวลา และถูกสถานการณ์ด้วย ที่สำคัญคือไม่ควรให้และรับน้ำใจกันอย่างพร่ำเพรื่อจนเกินไป มันกลับจะเป็นผลร้ายต่อสังคมมากกว่าในระยะยาว เพราะคนไทยเอาคำว่า “น้ำใจ” มาใช้ได้เสื่อมมากๆ ให้และรับน้ำใจกันเป็นกิจวัตรแต่ไม่เคยตั้งคำถามเลยว่า ผู้ให้สมควรให้มั้ย และ ผู้รับสมควรได้รับรึเปล่า ????? สังคมไทยมันชินชากับการให้เเละการรับน้ำใจที่ไม่ได้สัดส่วนซะจนกระทั่งว่า ผู้ให้มีหน้าที่ "ต้องให้" เเละผู้รับมีสิทธิที่จะ "ต้องได้" คือ ใช้ประเด็นนี้เป็นข้ออ้างในการรีดไถเอาน้ำใจจากคนอื่น ผมขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบที่เห็นได้ใกล้ๆตัว อย่าง คนทำบ้านเมืองสกปรกเลอะเทอะก็ถามหาน้ำใจ, จอดรถในที่ห้ามจอดก็ถามหาน้ำใจ, แซงคิวก็ถามหาน้ำใจ โดยไม่คิดว่ามันสมควรมั้ย คนอื่นเขาเดือดร้อนรึเปล่า ????? ไม่คิดบ้างว่าการเอาคำว่า "น้ำใจ" มาใช้เเทนที่ "สิทธิ" เเละ "หน้าที่" มันจะนำพาบ้านเมืองไปสู่ความ ship หายวายปวงในท้ายที่สุด!!!!!
  
คือ... โดยส่วนตัวผมแล้วเห็นว่า เรา (สังคมไทย) กำลังหลงเดินทางผิดกันอยู่รึเปล่าครับ ????? เอะอะอะไรก็อ้างคุณธรรม, ศีลธรรม, การอบรมสั่งสอนของพ่อเเม่, การปลูกฝังของสังคมไทย 9ล9 เเล้วมายัดข้อหาให้คนอื่นที่ไม่ทำตามอย่างที่ตัวเองต้องการว่า แล้งน้ำใจ, เห็นแก่ตัว, ไม่มีจิตสำนึก 9ล9 โดยไม่สนใจเหตุผลของคนอื่นเลย ที่เขาไม่ลุกให้นั่งอาจเพราะเขาต้องขึ้นสุดสายลงสุดสาย หอบของมาพะรุงพะรัง อาจป่วยไข้ไม่สบาย หรือ ทำงานหนักมาเเล้วทั้งวันก็หวังจะได้นั่งบ้างเพื่อพักผ่อน หรือ  ต่อให้เขาไม่ลุกเพราะไม่คิดที่จะเสียสละที่นั่งให้ใครเลยก็ตาม ท่านก็ไม่มีสิทธิไปรีดไถน้ำใจจากเขาครับ ถ้าต้องบังคับกดดันกันมันก็ไม่เรียกว่าน้ำใจเเล้ว เข้าใจซะใหม่ด้วย! ทั้งนี้เพราะน้ำใจมันคือความพึงพอใจที่เขาจะให้ ไม่ใช่สิ่งที่ท่านควรจะร้องขอจากใครครับ มันไม่ใช่หน้าที่อะไรของเขา เเละคนที่ชอบเรียกร้องหาน้ำใจจากคนอื่น เที่ยวถามคนอื่นว่า มีน้ำใจรึเปล่า ? คำว่าน้ำใจน่ะสะกดเป็นมั้ย ? นั่นต่างหากคือ คนเเล้งน้ำใจ, เห็นเเก่ตัว, ไม่มีจิตสำนึกที่เเท้จริง ที่เที่ยวไปเบียดเบียนชาวบ้าน!!!!!

เรื่องการลุกหรือไม่ลุกนั้น ผมว่าควรให้เป็นวิจารณญาณของคนที่นั่งอยู่เองดีกว่ามั้ยครับ ที่จะตัดสินใจว่าจะลุกให้ใครนั่งมั้ย และถ้าเขาคนนั้นไม่ได้นั่งอยู่ในที่นั่งสำรองก็ไม่มีใครมีสิทธิไปบังคับให้เขาลุกได้ ถ้าท่านอยากนั่งมากนักทำไมไม่ไปขึ้นต้นสายหรือรอเวลาออกบ้านตอนที่รถมันว่างๆ และก่อนที่ท่านจะเรียกร้องขอน้ำใจจากคนอื่น กรุณารู้จักเคารพสิทธิของเขาก่อนดีกว่ามั้ยครับ คนที่นั่งอยู่เขาก็จ่ายเงินค่าโดยสารเหมือนกัน และท่านก็ไม่ได้เป็นอภิสิทธิชนมาจากไหน ทำไมจะต้องเรียกร้องการปฏิบัติที่แตกต่างและไปริดรอนสิทธิของคนอื่น ????? คือ เรื่องอย่างงี้มันควรจะตอบด้วยคอมม่อนเซ้นส์ได้ ใครมาก่อนก็นั่งไป ใครมาทีหลังก็ยืนไปสิครับ!!!!!

ตัวเด็ก (+ พ่อแม่ ผู้ปกครอง) ตัวคนแก่ (ที่ไม่ได้แก่ขนาดที่ว่าจะยืนเองไม่ไหว) ที่หวังเเต่จะให้คนอื่นลุกให้ตัวเองนั่ง (เพราะคิดว่าตัวเองเป็นเด็ก เป็นคนเเก่ ต้องมีอภิสิทธิเหนือคนอื่น) ก็ควรรู้จักมีมารยาท มีความเกรงใจ เคารพสิทธิของคนอื่นบ้าง และถ้ายังคิดจะทำตัวเป็นภาระของคนอื่นแบบนี้ ผมว่าไม่ควรที่จะขึ้นมาบนรถโดยสารสาธารณะเลยครับ เดือดร้อนคนอื่นเขาเปล่าๆ

ท่านทั้งหลายเห็นว่ายังไงครับ ?

ขออภัยที่ผมอาจเห็นต่างจากหลายๆท่านนะครับ!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่