อยากออกไปเร่ร่อนซักพัก นอนตามพื้นที่สาธารณะ ตามศาลา หรือไม่ก็ตามใต้ทางด่วน อยู่แบบคนไร้บ้าน

ถ้าสอบเสร็จเมื่อไหร่ เราจะออกไปลองอยู่ข้างถนนซักพัก5555 ไม่รู้อารมณ์ไหน คิดว่าอยากออกไปเร่ร่อนมาได้พักนึงละ
อาจจะฟังดูไม่เข้าท่าแล้วก็อันตราย เราโตแล้ว ลองผิดลองถูกจนผ่านอะไรมาเยอะ แต่ตอนนี้อยากออกไปคิดอะไรคนเดียวซักพัก
อยากออกไปลองสัมผัสชีวิตที่อยู่แบบหาเช้ากินค่ำ ชีวิตที่มีแต่คนดูถูก ชีวิตที่อยู่นอกระบบสังคม แต่ไม่ต้องยึดติดในวัตถุนิยม
อยากรู้เหมือนกัน ว่าตัวเองจะแน่พอที่จะอยู่แบบนั้นรึเปล่า อาจจะเป็นความคิดที่ฟังดูบ้า คนดีๆที่ไหนทำแบบนี้กัน แต่เชื่อเหอะ เรามีสติดี
ห่างไกลเทคโนโลยีบ้าง ดีเหมือนกัน มีช่วงนึงเคยไปอยู่วัดต่างจังหวัดแบบไม่มีไฟฟ้า ใช้เทียนอ่านหนังสือเอา สงบดีเหมือนกัน ก็ดีนะ
ไปแบบไม่ต้องพกตังค์ไปซักบาทเลย ไปแบบไม่ต้องคิดอะไร ออกไปวาดรูปอย่างเดียว อยากไปไหนก็ไป อยากวาดอะไรก็วาด
พกไปแค่กระดานสเก็ตช์ เหน็บกระดาษไปซักปึก EE หนึ่งโหลพร้อม 3H กับคัตเตอร์ แล้วก็ด้ามต่อ แล้วก็ยางลบ
ไมครอน 01 สองแท่ง กับ สบู่ ยาสระผม แปรงกับยาสีฟัน ผ้าเช็ดตัวเล็กๆผืนนึง เอาไปแค่นี้ โทรศัพท์ไร้สาระไม่ต้องเอาไปไม่พกอยู่แล้ว
อ้อ สำคัญสุด พกมาม่าถูกๆไปแพ็คนึง มาม่าหมดเมื่อไหร่ค่อยกลับบ้าน ระหว่างที่อยู่ข้างนอก อาจจะช่วยน้าๆเก็บขวดขาย

คือเราเป็นคนชอบเข้าไปคุยกับคนอื่นอยู่แล้ว แต่ละคนก็มีเรื่องราวและมุมมองในชีวิตที่ต่างกันออกไป เราว่าน่าสนใจดี
แล้วทุกคนที่เราเข้าไปคุยด้วย จะให้ข้อคิดดีๆกับเราเสมอ บางทีเราก็เข้าไปนั่งคุยกับขอทาน คนเร่ร่อน วณิพก
คนเพิ่งออกจากคุกก็เคยเข้าไปคุยด้วย ชื่อน้าอ็อด แกนั่งเล่นกีต้าร์อยู่เปิดหมวกอยู่ที่อนุเสาวรีย์ วันนั้นเป็นวันที่แกเพิ่งโดนปล่อยตัว
มีอยู่ครั้งนึง ตอนนั้นเราไปทำงานกราฟฟิตี้แถวลาดพร้าว ก็อยู่ทำจนดึก แล้วแถวนั้นมีคนเร่ร่อนนอนอยู่ 3 คน
เราก็เลยเข้าไปทักเค้าแล้วก็แบ่งบุหรี่ให้ แล้วก็แบ่งเมนทอสให้เค้า เค้าก็ใจดีนะ ชวนเราคุย คุยสนุกด้วย เฮฮาเป็นมิตร
แล้วก็มวนยาเส้นให้เรา ถามไปก็ได้เรื่องว่า คนนึงเป็นช่างเชื่อมมาจากต่างจังหวัด แล้วบัตรประชาชนเค้าหาย เลยกลับบ้านไม่ได้ - -"
เราก็ถามเค้าว่า "แล้วน้าไม่เก็บตังกลับบ้านอ่ะครับ ไม่ก็หางานทำ" เค้าก็บอกว่า "ผมอยู่แบบนี้สบายแล้ว มีความสุขดี ชีวิตเรียบๆ
ไม่ต้องเครียดอะไรนะ กับข้าวก็มีกินไม่ได้ถึงกับอดอยาก มีน้ำอาบ มีที่นอน ไม่มีหลักประกัน แต่มีแค่วันละไม่กี่สิบบาทก็อยู่ได้แล้ว"
อืม ฮิปปี้ว่ะ คิดๆไปก็ดี ชีวิตที่ไม่ต้องยึดติด อดมื้อกินมื้อ เรานึกถึงรุ่นพี่เราคนนึง เพิ่งเรียนจบไง แล้วปุ๊ปปั๊ปก็ออกไปอยู่ป่า เดินทางด้วยรถไฟไปเรื่อยๆตามที่นู่นที่นี่ เดินทางไปวาดรูปตามที่นู่นที่นี่เหมือนที่เราจะทำอ่ะ แต่เค้าดีหน่อย มีตังเยอะ เลยซื้อสีน้ำมันตุนไว้ได้ เค้าเคยบอกเราก่อนจะไปเอาไว้ว่า "จำไว้ ป่าคือมหาลัยของชีวิต" อยู่แบบถือสันโดษ อีกซักพักมันต้องไปบวชแน่ๆ แต่ถ้าไปบวชได้ก็ดีเหมือนกัน ยังไง ชีวิตก็คือการตามหาความหมายของชีวิต

ก็นั่นแหละ แชร์ให้ฟัง วันนี้อารมณ์ดีนิดหน่อย เลยแพ่มมาก เราอาจจะไปหรือไม่ไปก็ได้ แล้วแต่อารมณ์ ดูอีกที แต่คิดมานานแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่