(แชร์ความรู้สึก) จากการดู the greatest showman

ปกติผมไม่ค่อยดูภาพยนตร์มิวสิคัลครับ เหตุผลง่าย ๆ ก็คือเพลงไม่พากย์ไทย (ปิดกั้นตัวเอง ><) กลัวฟังไม่รู้เรื่อง ชอบดูการ์ตูนมิวสิคัลแบบดิสนีย์ ดรีมเวิร์ค อะไรพวกนี้มากกว่า มีเคยดูบ้างก็เป็นเรื่อง Beauty and the Beast (2017) กับ Into the woods ครั้งนี้ตัดสินใจดูเพราะเห็นว่าได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ (หรือเปล่า?) สนุกมาก ๆ ครับ เพลงเพราะมาก ๆ อย่างนี้ต้องไปหาดู La la land กับ sound of music ซะแล้ว แต่คงต้องหาซื้อแผ่นที่มีซับไทย ไม่อย่างนั้นจะฟังไม่รู้เรื่อง เค้าล้อเล่น ใครมีภาพยนตร์มิวสิคัลเรื่องไหนอีก แนะนำมาได้เลยน้าา
          รู้สึกว่าหนังจะรวบรัดไปหน่อย นั่งดูแป๊ป ๆ จบและ (อาจคิดไปเอง) แล้วก็แบ็คกราวนด์ของลูกจ้างละครสัตว์ถูก forget ไปหน่อย จริง ๆ อยากรู้ที่มาที่ไปของตัวละครเหล่านั้นมากกว่านี้ และก็น่าจะมีฉากซ้อมก่อนแสดง นี่เหมือนจ้างมาแล้วออกมาเต้น ทำได้เลย ก็เลยแบบ หือ...หา...อะไร 555 เพลงที่ชอบแบบติดหูเลย มี A Million Dreams, This is me (เพลงแนวปลดปล่อยตัวเองอีกแล้ว แนวที่ชอบเลย) กับ Never Enough (ที่เจนนงเจนนี่อะไรเนี่ยร้องน่ะครับ) ฉากการจัดแสดงคณะโชว์แอบคาดหวังมากกว่านี้นะ แต่ฉากเต้นตระการตาดีครับ มีเอาช้างมาโชว์ด้วยสี่ตัว ช้างจากเรื่อง Dumbo หรือเปล่า 555 มีคุณนายจัมโบ้มาด้วยม้ายยย ที่คาดหวังมากเพราะว่าก็เห็นเปิดเป็นแนว ๆ ละครสัตว์ จ้างคนประหลาดมาทั้งที ถ้าเอามาแบบจัดโชว์แยกเดี่ยวแต่ละมุมให้คนเดินดูแล้วพากันหัวเราะเยาะ คงจะอินกับความปวดใจของคนประหลาดได้มากกว่านี้ครับ ส่วนแรงจูงใจที่คนมาประท้วงน่าจะถูกโฟกัสมากกว่านี้ ไม่ค่อยอินตามเพราะว่าค่อนข้างงงกับความคิดของพวกเขา ว่าทำไมเกลียดคนประหลาดนักหนา
         พูดถึงคาร์ไลล์งานดีมากครับ สเปคผมเลย (โอ๊ะ...) ปิ๊งแม่นักกายกรรมไม่เท่าไหร่ แต่แอนลูกแบบทำไมรักกับเขาง่ายจังวะ 555 ล้อพระ-นางดิสนีย์สมัยก่อนใช่ไหม ที่เจอปุ๊ปก็โอเคปั๊ป แต่ที่ขำก็คือตอนบาร์นัมกับแชริตี้ร้องเพลง come alive ไปหาเต้นอยู่บนริมระเบียง What? อยากตกลงไปก็ไม่บอก จะเข้าไปช่วย ไม่มีที่เต้นที่อื่นกันเหรอลูก
           ข้อคิดที่ได้คงเป็นตัวของบาร์นัมเองที่หลงใหลไปกับการหารายได้จากการเปิดโชว์ จนลืมใส่ใจคนรอบข้าง ก็ถ้าให้คะแนนถึงเพลงและฉากเต้น 9/10 ครับ เนื้อเรื่องให้ 7/10 (มีช่องโหว่ของพล็อตหลายจุดอยู่ ถึงจะอิงมาจากเรื่องจริง แต่เราก็ทำให้พล็อตแน่นได้ฮะ ก็อยากที่บอกไปย่อหน้าที่สอง หนังจบไวจริง ๆ อยากให้ยืดกว่านี้ แต่พอมีเพลงสนุก ๆ ตราตรึง ก็เลยทำให้กลบไปได้บ้าง ดูเพลินเพราะ ๆ) เอาสองส่วนมารวมกัน ให้ 7.5/10 เลยครับ <3 ใครที่ชอบการ์ตูนแนวมิวสิคัลอยู่แล้ว แล้วยังไม่เคยได้ดูภาพยนตร์มิวสิคัลแบบจริง ๆ จัง ๆ สักที เริ่มต้นที่เรื่องนี้ก็ได้ครับ อาจจะได้มีฮึมฮัมเพลงเพิ่มนอกเหนือจาก let it go ฮะ 555 ให้ชีวิตมีแต่เสียงเพลงงงงง....
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่