สอบถามและขอความคิดเห็นหน่อยครับ... พอดีมีญาติ ได้ใช้วงเงินโอดีของธนาคารกรุงศรีฯและธนาคารกรุงเทพฯ
ซึ่งธนาคารกรุงศรีฯได้เปิดใช้วงเงินมาตั้งแต่ปี 2536 จนถีงตอนนี้ก็ยี่สิบกว่าปีแล้วครับ ส่วนธนาคารกรุงเทพ เปิดใช้หลังธ.กรุงศรีไม่กี่ปี
ซึ่งก็ได้ใช้วงเงินตลอด ใช้ไป เพิ่มไป จนวงเงินปัจจุบันเป็นตัวเลข 8 หลักทั้ง 2 ธนาคาร ( คาดว่าคงได้ดอกเบี้ยโอดีไปไม่น้อยทั้ง 2 ธนาคาร
โดยเฉพาะธ.กรุงศรีฯใช้มาตลอดเป็นคู่ค้ากันร่วมกว่า 25 ปี นานมากพอสมควร )
จนเมื่อสิ้นปี 60 มีเหตุให้ต้องยกเลิกวงเงิน จึงนำเงินไปปิดยอดโอดีทั้ง 2 ธนาคาร ซึ่งทั้ง 2 ธนาคารได้แจ้งมาว่า จะมีค่าธรรมเนียม
การยกเลิกวงเงิน 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเป็นเงินกว่า 3 แสนต่อบัญชี ( เพิ่มเติมครับปิดโอดีครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการย้ายธนาคารแต่อย่างใดครับ )
ซึ่งค่ายกเลิกวงเงิน 3 เปอร์เซ็นต์นี้เข้าใจ ว่าเป็นระเบียบของธนาคาร แต่ก็จะมีข้อยกเว้นว่า ลูกค้าสามารถทำหนังสือขอยกเว้นค่าธรรมเนียม
ตัวนี้ได้ ซึ่งทางญาติก็ได้ขอยกเว้นไปทั้ง 2 ธนาคาร ปรากฎว่า ธนาคารกรุงเทพอนุมัติยกเว้นค่าธรรมเนียมตัวนี้ให้ แต่ธนาคารกรุงศรีไม่อนุมัติ
ยกเว้นค่าธรรมเนียมตัวนี้ให้ ทั้งๆที่เป็นลูกค้ามานานกว่า และใช้วงเงินมากกว่าธนาคารกรุงเทพด้วยซ้ำ
สอบถามและขอความคิดเห็นหน่อยครับ
- เคยมีใครขอยกเว้นค่าธรรมเนียมตัวนี้ของ ธ.กรุงศรี แล้วได้รับการอนุมัติมั้ยครับ
- จริงๆแล้ว ธ.กรุงศรี สามารถยกเว้นค่าธรรมเนียมตัวนี้ได้มั้ยครับ
- กรณีของญาติผม ทำไม ธ.กรุงเทพไม่เสีย แต่ ธ.กรุงศรี ถึงต้องเสียครับ ( อันนี้ขอความคิดเห็นครับ )
สรุป ค่อนข้างแปลกใจกับธนาคารทั้งสองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ การเป็นคู่ค้า การทำธุรกิจทีมีมายาวนาน ระหว่างธนาคารกับลูกค้า
ธนาคารกรุงเทพให้ใจกับลูกค้าและเห็นความสัมพันธ์เป็นลูกค้ากันมายาวนานและคิดถึงวันข้างหน้า ว่าจะกลับมาเป็นลูกค้ากันอีกในอนาคต
แต่ธนาคารกรุงศรี กลับตรงกันข้าม ทั้งๆที่เป็นลูกค้ากันมายาวนานกว่า กลับไม่เห็นความสัมพันธ์ที่ดีในอดีต และไม่คิดคำนึงว่า ลูกค้าที่เคยให้
ความสำคัญกับองค์กรของเขา จะกลับมาเป็นลูกค้ากันอีกในอนาคตหรืออย่างไร ขอบคุณครับ
ค่าธรรมเนียมยกเลิกวงเงินโอดี ธ.กรุงศรีฯ ???
ซึ่งธนาคารกรุงศรีฯได้เปิดใช้วงเงินมาตั้งแต่ปี 2536 จนถีงตอนนี้ก็ยี่สิบกว่าปีแล้วครับ ส่วนธนาคารกรุงเทพ เปิดใช้หลังธ.กรุงศรีไม่กี่ปี
ซึ่งก็ได้ใช้วงเงินตลอด ใช้ไป เพิ่มไป จนวงเงินปัจจุบันเป็นตัวเลข 8 หลักทั้ง 2 ธนาคาร ( คาดว่าคงได้ดอกเบี้ยโอดีไปไม่น้อยทั้ง 2 ธนาคาร
โดยเฉพาะธ.กรุงศรีฯใช้มาตลอดเป็นคู่ค้ากันร่วมกว่า 25 ปี นานมากพอสมควร )
จนเมื่อสิ้นปี 60 มีเหตุให้ต้องยกเลิกวงเงิน จึงนำเงินไปปิดยอดโอดีทั้ง 2 ธนาคาร ซึ่งทั้ง 2 ธนาคารได้แจ้งมาว่า จะมีค่าธรรมเนียม
การยกเลิกวงเงิน 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเป็นเงินกว่า 3 แสนต่อบัญชี ( เพิ่มเติมครับปิดโอดีครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการย้ายธนาคารแต่อย่างใดครับ )
ซึ่งค่ายกเลิกวงเงิน 3 เปอร์เซ็นต์นี้เข้าใจ ว่าเป็นระเบียบของธนาคาร แต่ก็จะมีข้อยกเว้นว่า ลูกค้าสามารถทำหนังสือขอยกเว้นค่าธรรมเนียม
ตัวนี้ได้ ซึ่งทางญาติก็ได้ขอยกเว้นไปทั้ง 2 ธนาคาร ปรากฎว่า ธนาคารกรุงเทพอนุมัติยกเว้นค่าธรรมเนียมตัวนี้ให้ แต่ธนาคารกรุงศรีไม่อนุมัติ
ยกเว้นค่าธรรมเนียมตัวนี้ให้ ทั้งๆที่เป็นลูกค้ามานานกว่า และใช้วงเงินมากกว่าธนาคารกรุงเทพด้วยซ้ำ
สอบถามและขอความคิดเห็นหน่อยครับ
- เคยมีใครขอยกเว้นค่าธรรมเนียมตัวนี้ของ ธ.กรุงศรี แล้วได้รับการอนุมัติมั้ยครับ
- จริงๆแล้ว ธ.กรุงศรี สามารถยกเว้นค่าธรรมเนียมตัวนี้ได้มั้ยครับ
- กรณีของญาติผม ทำไม ธ.กรุงเทพไม่เสีย แต่ ธ.กรุงศรี ถึงต้องเสียครับ ( อันนี้ขอความคิดเห็นครับ )
สรุป ค่อนข้างแปลกใจกับธนาคารทั้งสองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ การเป็นคู่ค้า การทำธุรกิจทีมีมายาวนาน ระหว่างธนาคารกับลูกค้า
ธนาคารกรุงเทพให้ใจกับลูกค้าและเห็นความสัมพันธ์เป็นลูกค้ากันมายาวนานและคิดถึงวันข้างหน้า ว่าจะกลับมาเป็นลูกค้ากันอีกในอนาคต
แต่ธนาคารกรุงศรี กลับตรงกันข้าม ทั้งๆที่เป็นลูกค้ากันมายาวนานกว่า กลับไม่เห็นความสัมพันธ์ที่ดีในอดีต และไม่คิดคำนึงว่า ลูกค้าที่เคยให้
ความสำคัญกับองค์กรของเขา จะกลับมาเป็นลูกค้ากันอีกในอนาคตหรืออย่างไร ขอบคุณครับ