สวัสดีครับเกริ่นก่อนว่าผมเป็นลูกค้าบัตรกรุงศรีมา เกือบ 10 ปี ไม่เคยมียอดค้างชำระ ไม่เคยชำระล่าช้า ประวัติสถานะทางการเงินที่หน้าแอป UCHOOSE ดีมาก บัตรกรุงศรีที่ผมถือเป็นบัตร JCB PLATINUM และ VISA PLATINUM บอกตรงๆว่า บัตรสองใบนี้ไม่ได้มีสิทธิประโยชน์อะไรกับไลฟ์สไตล์ของผมในปัจจุบันเลย นั่นคือ JCB PLATINUM
สำหรับใช้จ่ายที่ร้านอาหาร ซึ่งก็คือ ต้องทานหน้าร้าน ใช้จ่ายที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็คือต้องไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้ผมไม่ได้มีแพลนเดินทางไปต่างประเทศเลย ดังนั้นบัตรใบนี้แทบจะเหมือนบัตรเครดิตปกติที่ไม่ได้สร้างแรงจูงใจให้ผมใช้บัตรเลย
ส่วนบัตร VISA PLATINUM
บัตรใบนี้ไม่ต้องพูดถึงครับ เบสิกมากๆ ไม่ได้มีสิทธิประโยชน์อะไร กล่าวคือบัตรสองใบที่ผมถือเหมือนบัตรเครดิตสำหรับคนสูงอายุที่ไม่ได้สนใจสิทธิประโยชน์ของบัตร มีก็ใช้ประมาณนั้น
ก่อนอื่นขออ้างอิงบัตรที่ผมถืออยู่ก่อนนะครับเริ่มต้นที่
CITI ผมถือหน้าบัตร PREMIERE / PRESTIGE วงเงินรวม 6 หลัก
SCB หน้าบัตรที่ผมถือ ULTRA PLATINUM / JCB / UP2ME วงเงินรวม 6 หลัก
BUALUANG หน้าบัตร LEADER วงเงิน 6 หลัก
TTB หน้าบัตร SO FAST วงเงิน 6 หลัก บัตรนี้เวิคมาก จ่าย 1,000 เดียวก็ผ่อนได้ เอากับเค้าสิ
KTC หน้าบัตร CASHBACK / DIAMOND / MASTER CARD / VISA วงเงินรวม 6 หลัก
นับรวมใน 1 ปี ผมใช้บัตรเครดิตเยอะมากครับ และผมก็เปลี่ยนหน้าบัตรเรื่อยมาถ้าเห็นว่าบัตรที่ถืออยู่ไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผม ซึ่งก่อนหน้าที่ผมจะได้หน้าบัตรด้านบน ก็แจ้งแค่ทาง CALL CENTER ให้มารับเอกสารที่บ้าน แค่รอประมาณ 3 วัน ก็ได้บัตรมาใช้งานซึ่งง่ายมาก VERY SIMPLE ครับ
ตัดมาที่กรุงศรีครับหน้ามือกับหลังมือเลย ขออนุมัติจากหน้าแอป UCHOOSE ตามทฤษฎีคือ มันโคตรง่าย ถ้าเงื่อนไขผ่าน แต่ทางผู้พัฒนาและผู้บริหารลืมคิดไปหรือเปล่าครับว่ามันคือ Ai มันคือปัญญาประดิษฐ์ มันคือการใส่เงื่อนไขเข้าไป พอเงื่อนไขไม่ถูกต้องซึ่งความจริงมันเป็นแค่รายละเอียดปลีกย่อยก็คือถูก Reject หรือ Not Approved ไปเลย ดังนั้นการออกแบบเงื่อนไขแบบนี้มันง่าย แต่คุณจะเสียลูกค้าเก่าๆที่ใช้บริการคุณมาอย่างยาวนาน หากผลการอนุมัติไม่ผ่านเพียงเพราะเงื่อนไขที่ลูกค้ากรอกไม่ถูกต้อง เอาหล่ะสิ ผมก็กรอกไปตามที่หน้าแอปให้ระบุข้อมูล ก็ระบุไปครับ และสุดท้ายระบบแจ้งว่า เงื่อนไขไม่ผ่านการอนุมัติ และใบสมัครของผมก็ถูกปฏิเสธในทันที
เอาหล่ะครับ มาดูกันว่าทำไมผมถึงต้องการใช้บัตรเครดิตกรุงศรี Now ใบนี้
อ้างอิงจาก : marketingoops.com
เนื่องจากผมทำธุรกิจส่วนตัวในแต่ละเดือนจะมีการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก เฉลี่ยในแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 2 - 3 หมื่นบาทดังนั้นสิทธิประโยชน์เด่นๆของบัตรใบนี้คือ รับเครดิตเงินคืน 5%* ทุกไลฟ์สไตล์ดิจิทัล สูงสุด 300 บาท และ สิทธิพิเศษสำหรับการซื้อออนไลน์ ยกเว้นหมวดประกัน หมวดกองทุน และหมวดท่องเที่ยว รวมถึง โรงแรมและที่พัก ตั๋วการเดินทาง/เครื่องบิน/รถไฟ เช่ารถ และบริษัทท่องเที่ยว เกริ่นเอาแค่นี้ก็พอครับ เท่ากับว่าสิทธิประโยชน์มีมากกว่าบัตรกรุงศรีที่ผมถืออยู่ทั้ง 2 ใบ
เอาหล่ะมาอธิบายเพิ่มเติมเชิงเศรษฐศาสตร์กันนะครับ ในส่วนเงื่อนไขว่า จ่าย 500 บาทขึ้นไปในช่องทางออนไลน์จะได้เงินคืน 5% ซึ่งก็ตรงกับช่องทางที่ผมใช้จ่ายทุกเดือน เดี๋ยวนี้ผมไม่ไปห้าง ไม่ไปซื้อของที่หน้าร้านแล้วครับ ออนไลน์ 99% แม้แต่สั่งอาหารกลางวันยังออนไลน์เลยครับ มันโคตรตอบโจทย์เลย บางท่านอาจจะมองว่าเงินคืนเดือนละ 300 บาทมันจะแค่ไหนกันเชียววะ!! ใช่ครับมันไม่เยอะ แต่ลองมาคิดดูเล่นๆนะครับ ถ้าใช้บัตรใบนี้ 1 ปี จะได้เงินคืนถึง 3,600 บาทเลยนะครับ เท่ากับว่า หากคุณสั่งอาหารออนไลน์ คุณจะได้ทานอาหารฟรี วันละ 1 มื้อมูลค่า 120 บาท เป็นเวลา 1 เดือน มันคุ้มไหมครับ อันนี้ยกตัวอย่างเฉยๆนะ
หลังจากศึกษาข้อมูลแล้วก็มาสมัครเริ่มจากสมัครผ่านแอป UCHOOSE ใส่รายละเอียดลงไป หลังจากใส่รายละเอียดลงไปแล้วปรากฎว่า "รายการขอสินเชื่อไม่อนุมัติ" เอาละสิผิดพลาดประการใดเพราะทางแอปไม่ได้ขอหลักฐานการสมัครอะไรเลย คิดในใจว่า "เราขาดคุณสมบัติอะไรไปหรือเปล่าเพราะเราไม่ได้ยื่นขอเพิ่มวงเงินอะไรเลย" จึงโทรไปที่ CALL CENTER ของบัตรกรุงศรีทันที รอสาย โคตร.....นานเลยครับ พนักงานรับสายแล้วขอข้อมูลของเราเช่น เรามีบัตรอะไร ถือบัตรอะไรอยู่ สุดท้ายทางพนักงานแจ้งว่า ถ้ารายการไม่อนุมัติ จะไม่สามารถสมัครบัตรได้ ให้รอจนกว่าระบบจะให้ส่งใบสมัครใหม่เข้าไป (ประมาณ 1 เดือน) แต่ถ้าประสงค์อยากยื่นอีกครั้งให้ไปที่สาขา ผมก็เดินทางไปที่สาขาทันทีในวันที่ 4 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 18.00 น. พร้อมทั้งแจ้งความประสงค์ชัดเจนดังนี้ 1. ต้องการเปลี่ยนหน้าบัตรจากบัตร JCB มาเป็นบัตร NOW เพราะผมไม่ได้ใช้บัตรนี้ขณะเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น หรือต่างประเทศ เนื่องจากมีบัตรอื่นที่ตอบโจทย์มากกว่า 2. ผมไม่ได้มีความประสงค์ขอพิจารณาเพิ่มวงเงินสินเชื่อใดๆ 3. บัตรกรุงศรีที่ผมถืออยู่มันไม่ตอบโจทย์การใช้จ่ายของผม ทางเจ้าหน้าที่ก็ให้บริการดีครับให้ข้อมูลครบถ้วน
บัตรในเครือกรุงศรีที่ผมถืออยู่หน้าตาแบบนี้ครับมันเบสิกจนรู้สึกไม่ว้าว และไม่ได้จูงใจให้อยากใช้ นอกจาก First Choice ที่ยังพอมีดีบ้างเช่นผ่อน 0% นาน 15 รอบบิล แต่ก็ต้องแลกกับการใช้จ่ายรายปี 60,000 บาทขึ้นไป อันนี้ยอมรับว่าดีแต่ก็ไม่มาก เห็นได้ชัดนะครับว่าบัตร First Choice จะค่อนข้างเยินเพราะผมใช้งานบ่อยมาก ปีหนึ่งรวมๆกัน เลข 6 หลักครับ
ตั้งแต่วันที่ไปสาขาวันนั้น ถึงวันนี้ 10 ตุลาคม 2566 วันที่ต้องซื้อของก็มาถึง ปรากฎว่าบัตรก็ยังไม่ได้ เลยติดต่อสอบถามไปที่ CALL CENTER อีกครั้งได้คำตอบว่า "บัตรของลูกค้าไม่ผ่านการอนุมัติตั้งแต่วันที่ยื่นเอกสารที่ธนาคารแล้ว" ทางเราก็งงเลยสิครับ ไม่ผ่านแล้วทำไมไม่โทรแจ้งตั้งแต่วันนั้นจะได้ยกเลิกบัตรทั้ง 3 ใบไปเลย เพราะ เราไม่ได้ยื่นขอพิจารณาเพิ่มวงเงินสินเชื่อ แค่เปลี่ยนหน้าบัตรแต่วงเงินเดิม มันก็ควรจะเปลี่ยนได้ง่ายไม่ต้องใช้สลิป ไม่ต้องใช้สำเนาเดินบัญชีย้อนหลัง เทียบกับขั้นตอนการยื่นขอเปลี่ยนบัตรกับ CITI KTC BUALUANG SCB ซึ่งตอนนี้คือ CARD X ยอมรับว่าง่ายมาก แค่โทรไปแจ้ง CALL CENTER พร้อมบอกจุดประสงค์ที่ต้องการเปลี่ยน หรือ เพิ่มบัตรแค่นั้น วันรุ่งขึ้นทางธนาคารก็ส่ง MESSENGER มารับเอกสารและให้กรอกเอกสารถึงที่บ้าน แค่บัตรประชาชนใบเดียว แล้วนั่งรอใช้บัตรหล่อๆ ที่บ้านได้เลย ตรงกันข้ามกับ ธนาคารกรุงศรีอย่างสิ้นเชิงที่ผมต้องเดินทางไปที่สาขานั่งต่อคิวทั้งๆที่การเพิ่มหน้าบัตรมันควรเป็นเรื่องที่ง่ายดายสุดๆแล้ว
เรื่องเอกสารที่ขอเพิ่มเติมด้วยความอยากรู้ผมได้ถามน้อง MESSENGER ที่มารับเอกสารว่าทำไมไม่ต้องขอสำเนาสลิปเงินเดือนหรือรายการเดินบัญชีอะไรเลย น้องเขาแจ้งว่า "คุณลูกค้าไม่ได้ขออนุมัติเพิ่มวงเงินครับ แค่เปลี่ยนหน้าบัตรไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารอะไรเพิ่มเติม ถ้าธนาคารอยากขอเอกสารนี้แสดงว่าธนาคารอยากรู้รายได้ของลูกค้าเพื่อพิจารณาเพิ่มวงเงินให้ก็เท่านั้นเอง" นั่นแปลว่าการขออนุมัติเพิ่มวงเงินจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับธนาคารครับดังนั้นเพื่อความมั่นใจว่าธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าแล้วลูกค้าเป็นหนี้ธนาคารแล้วหนี้นั้นจะต้องสามารถเรียกเก็บได้ไม่ใช่ NPL อันนี้เข้าใจได้แต่สำหรับกรณีผมมันคือการแชร์วงเงินในบัตรครับมันคือวงเงินเดิม วงเงินที่ว่างมากๆไม่ได้ใช้งานเลยเพราะมันไม่มีข้อเสนออะไรที่จูงใจให้ใช้ และผมก็หาทางที่จะใช้บริการ ธนาคารกรุงศรีได้แล้วแต่เหมือนธนาคารกลับมองว่าเราไปง้อขอเงินใช้ฟรีๆ
บอกตรงๆว่า ธนาคารอื่นอำนวยความสะดวกให้กับผมมากๆ และครั้งนี้ผมรู้สึกผิดหวังกับ ธนาคารกรุงศรีฯ ทั้งที่ถือบัตรมาเกือบ 10 ปี ใช้จ่ายผ่านบัตรในเครือปีหนึ่งก็ไม่น้อย หวังว่าการรีวิวในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับทีมพัฒนาธุรกิจของธนาคารกรุงศรีฯ และ ทีมงานพิจารณาสินเชื่อ ไม่มากก็น้อย เพราะอย่างน้อยการอนุมัติบัตรให้ลูกค้าที่เดิมที่ไม่ได้ประสงค์เพิ่มวงเงินก็ยังคงใช้บริการของคุณต่อไป การที่ทางธนาคารกรุงศรีมีนโยบายแบบนี้อาจจะเสียลูกค้าในอนาคตนะครับ
ผมขอแทรกให้คิดนิดนึงครับ "การทำให้ลูกค้าเข้ามา 1 คนนั้นยากแล้ว แต่การรักษาลูกค้ายากกว่า และหากเสียลูกค้าไปแล้วการจะเรียกลูกค้ากลับมายากที่สุด" ฝากไว้ให้คิด
[CR] รีวิวความไม่ประทับใจอย่างแรงของจากนโยบายการขอสมัครเพิ่มบัตรกรุงศรี นาว แบบใช้วงเงินอนุมัติเดิม
ส่วนบัตร VISA PLATINUM
บัตรใบนี้ไม่ต้องพูดถึงครับ เบสิกมากๆ ไม่ได้มีสิทธิประโยชน์อะไร กล่าวคือบัตรสองใบที่ผมถือเหมือนบัตรเครดิตสำหรับคนสูงอายุที่ไม่ได้สนใจสิทธิประโยชน์ของบัตร มีก็ใช้ประมาณนั้น
ก่อนอื่นขออ้างอิงบัตรที่ผมถืออยู่ก่อนนะครับเริ่มต้นที่
CITI ผมถือหน้าบัตร PREMIERE / PRESTIGE วงเงินรวม 6 หลัก
SCB หน้าบัตรที่ผมถือ ULTRA PLATINUM / JCB / UP2ME วงเงินรวม 6 หลัก
BUALUANG หน้าบัตร LEADER วงเงิน 6 หลัก
TTB หน้าบัตร SO FAST วงเงิน 6 หลัก บัตรนี้เวิคมาก จ่าย 1,000 เดียวก็ผ่อนได้ เอากับเค้าสิ
KTC หน้าบัตร CASHBACK / DIAMOND / MASTER CARD / VISA วงเงินรวม 6 หลัก
นับรวมใน 1 ปี ผมใช้บัตรเครดิตเยอะมากครับ และผมก็เปลี่ยนหน้าบัตรเรื่อยมาถ้าเห็นว่าบัตรที่ถืออยู่ไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผม ซึ่งก่อนหน้าที่ผมจะได้หน้าบัตรด้านบน ก็แจ้งแค่ทาง CALL CENTER ให้มารับเอกสารที่บ้าน แค่รอประมาณ 3 วัน ก็ได้บัตรมาใช้งานซึ่งง่ายมาก VERY SIMPLE ครับ
ตัดมาที่กรุงศรีครับหน้ามือกับหลังมือเลย ขออนุมัติจากหน้าแอป UCHOOSE ตามทฤษฎีคือ มันโคตรง่าย ถ้าเงื่อนไขผ่าน แต่ทางผู้พัฒนาและผู้บริหารลืมคิดไปหรือเปล่าครับว่ามันคือ Ai มันคือปัญญาประดิษฐ์ มันคือการใส่เงื่อนไขเข้าไป พอเงื่อนไขไม่ถูกต้องซึ่งความจริงมันเป็นแค่รายละเอียดปลีกย่อยก็คือถูก Reject หรือ Not Approved ไปเลย ดังนั้นการออกแบบเงื่อนไขแบบนี้มันง่าย แต่คุณจะเสียลูกค้าเก่าๆที่ใช้บริการคุณมาอย่างยาวนาน หากผลการอนุมัติไม่ผ่านเพียงเพราะเงื่อนไขที่ลูกค้ากรอกไม่ถูกต้อง เอาหล่ะสิ ผมก็กรอกไปตามที่หน้าแอปให้ระบุข้อมูล ก็ระบุไปครับ และสุดท้ายระบบแจ้งว่า เงื่อนไขไม่ผ่านการอนุมัติ และใบสมัครของผมก็ถูกปฏิเสธในทันที
เอาหล่ะครับ มาดูกันว่าทำไมผมถึงต้องการใช้บัตรเครดิตกรุงศรี Now ใบนี้
อ้างอิงจาก : marketingoops.com
เนื่องจากผมทำธุรกิจส่วนตัวในแต่ละเดือนจะมีการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก เฉลี่ยในแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 2 - 3 หมื่นบาทดังนั้นสิทธิประโยชน์เด่นๆของบัตรใบนี้คือ รับเครดิตเงินคืน 5%* ทุกไลฟ์สไตล์ดิจิทัล สูงสุด 300 บาท และ สิทธิพิเศษสำหรับการซื้อออนไลน์ ยกเว้นหมวดประกัน หมวดกองทุน และหมวดท่องเที่ยว รวมถึง โรงแรมและที่พัก ตั๋วการเดินทาง/เครื่องบิน/รถไฟ เช่ารถ และบริษัทท่องเที่ยว เกริ่นเอาแค่นี้ก็พอครับ เท่ากับว่าสิทธิประโยชน์มีมากกว่าบัตรกรุงศรีที่ผมถืออยู่ทั้ง 2 ใบ
เอาหล่ะมาอธิบายเพิ่มเติมเชิงเศรษฐศาสตร์กันนะครับ ในส่วนเงื่อนไขว่า จ่าย 500 บาทขึ้นไปในช่องทางออนไลน์จะได้เงินคืน 5% ซึ่งก็ตรงกับช่องทางที่ผมใช้จ่ายทุกเดือน เดี๋ยวนี้ผมไม่ไปห้าง ไม่ไปซื้อของที่หน้าร้านแล้วครับ ออนไลน์ 99% แม้แต่สั่งอาหารกลางวันยังออนไลน์เลยครับ มันโคตรตอบโจทย์เลย บางท่านอาจจะมองว่าเงินคืนเดือนละ 300 บาทมันจะแค่ไหนกันเชียววะ!! ใช่ครับมันไม่เยอะ แต่ลองมาคิดดูเล่นๆนะครับ ถ้าใช้บัตรใบนี้ 1 ปี จะได้เงินคืนถึง 3,600 บาทเลยนะครับ เท่ากับว่า หากคุณสั่งอาหารออนไลน์ คุณจะได้ทานอาหารฟรี วันละ 1 มื้อมูลค่า 120 บาท เป็นเวลา 1 เดือน มันคุ้มไหมครับ อันนี้ยกตัวอย่างเฉยๆนะ
หลังจากศึกษาข้อมูลแล้วก็มาสมัครเริ่มจากสมัครผ่านแอป UCHOOSE ใส่รายละเอียดลงไป หลังจากใส่รายละเอียดลงไปแล้วปรากฎว่า "รายการขอสินเชื่อไม่อนุมัติ" เอาละสิผิดพลาดประการใดเพราะทางแอปไม่ได้ขอหลักฐานการสมัครอะไรเลย คิดในใจว่า "เราขาดคุณสมบัติอะไรไปหรือเปล่าเพราะเราไม่ได้ยื่นขอเพิ่มวงเงินอะไรเลย" จึงโทรไปที่ CALL CENTER ของบัตรกรุงศรีทันที รอสาย โคตร.....นานเลยครับ พนักงานรับสายแล้วขอข้อมูลของเราเช่น เรามีบัตรอะไร ถือบัตรอะไรอยู่ สุดท้ายทางพนักงานแจ้งว่า ถ้ารายการไม่อนุมัติ จะไม่สามารถสมัครบัตรได้ ให้รอจนกว่าระบบจะให้ส่งใบสมัครใหม่เข้าไป (ประมาณ 1 เดือน) แต่ถ้าประสงค์อยากยื่นอีกครั้งให้ไปที่สาขา ผมก็เดินทางไปที่สาขาทันทีในวันที่ 4 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 18.00 น. พร้อมทั้งแจ้งความประสงค์ชัดเจนดังนี้ 1. ต้องการเปลี่ยนหน้าบัตรจากบัตร JCB มาเป็นบัตร NOW เพราะผมไม่ได้ใช้บัตรนี้ขณะเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น หรือต่างประเทศ เนื่องจากมีบัตรอื่นที่ตอบโจทย์มากกว่า 2. ผมไม่ได้มีความประสงค์ขอพิจารณาเพิ่มวงเงินสินเชื่อใดๆ 3. บัตรกรุงศรีที่ผมถืออยู่มันไม่ตอบโจทย์การใช้จ่ายของผม ทางเจ้าหน้าที่ก็ให้บริการดีครับให้ข้อมูลครบถ้วน
บัตรในเครือกรุงศรีที่ผมถืออยู่หน้าตาแบบนี้ครับมันเบสิกจนรู้สึกไม่ว้าว และไม่ได้จูงใจให้อยากใช้ นอกจาก First Choice ที่ยังพอมีดีบ้างเช่นผ่อน 0% นาน 15 รอบบิล แต่ก็ต้องแลกกับการใช้จ่ายรายปี 60,000 บาทขึ้นไป อันนี้ยอมรับว่าดีแต่ก็ไม่มาก เห็นได้ชัดนะครับว่าบัตร First Choice จะค่อนข้างเยินเพราะผมใช้งานบ่อยมาก ปีหนึ่งรวมๆกัน เลข 6 หลักครับ
ตั้งแต่วันที่ไปสาขาวันนั้น ถึงวันนี้ 10 ตุลาคม 2566 วันที่ต้องซื้อของก็มาถึง ปรากฎว่าบัตรก็ยังไม่ได้ เลยติดต่อสอบถามไปที่ CALL CENTER อีกครั้งได้คำตอบว่า "บัตรของลูกค้าไม่ผ่านการอนุมัติตั้งแต่วันที่ยื่นเอกสารที่ธนาคารแล้ว" ทางเราก็งงเลยสิครับ ไม่ผ่านแล้วทำไมไม่โทรแจ้งตั้งแต่วันนั้นจะได้ยกเลิกบัตรทั้ง 3 ใบไปเลย เพราะ เราไม่ได้ยื่นขอพิจารณาเพิ่มวงเงินสินเชื่อ แค่เปลี่ยนหน้าบัตรแต่วงเงินเดิม มันก็ควรจะเปลี่ยนได้ง่ายไม่ต้องใช้สลิป ไม่ต้องใช้สำเนาเดินบัญชีย้อนหลัง เทียบกับขั้นตอนการยื่นขอเปลี่ยนบัตรกับ CITI KTC BUALUANG SCB ซึ่งตอนนี้คือ CARD X ยอมรับว่าง่ายมาก แค่โทรไปแจ้ง CALL CENTER พร้อมบอกจุดประสงค์ที่ต้องการเปลี่ยน หรือ เพิ่มบัตรแค่นั้น วันรุ่งขึ้นทางธนาคารก็ส่ง MESSENGER มารับเอกสารและให้กรอกเอกสารถึงที่บ้าน แค่บัตรประชาชนใบเดียว แล้วนั่งรอใช้บัตรหล่อๆ ที่บ้านได้เลย ตรงกันข้ามกับ ธนาคารกรุงศรีอย่างสิ้นเชิงที่ผมต้องเดินทางไปที่สาขานั่งต่อคิวทั้งๆที่การเพิ่มหน้าบัตรมันควรเป็นเรื่องที่ง่ายดายสุดๆแล้ว
เรื่องเอกสารที่ขอเพิ่มเติมด้วยความอยากรู้ผมได้ถามน้อง MESSENGER ที่มารับเอกสารว่าทำไมไม่ต้องขอสำเนาสลิปเงินเดือนหรือรายการเดินบัญชีอะไรเลย น้องเขาแจ้งว่า "คุณลูกค้าไม่ได้ขออนุมัติเพิ่มวงเงินครับ แค่เปลี่ยนหน้าบัตรไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารอะไรเพิ่มเติม ถ้าธนาคารอยากขอเอกสารนี้แสดงว่าธนาคารอยากรู้รายได้ของลูกค้าเพื่อพิจารณาเพิ่มวงเงินให้ก็เท่านั้นเอง" นั่นแปลว่าการขออนุมัติเพิ่มวงเงินจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับธนาคารครับดังนั้นเพื่อความมั่นใจว่าธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าแล้วลูกค้าเป็นหนี้ธนาคารแล้วหนี้นั้นจะต้องสามารถเรียกเก็บได้ไม่ใช่ NPL อันนี้เข้าใจได้แต่สำหรับกรณีผมมันคือการแชร์วงเงินในบัตรครับมันคือวงเงินเดิม วงเงินที่ว่างมากๆไม่ได้ใช้งานเลยเพราะมันไม่มีข้อเสนออะไรที่จูงใจให้ใช้ และผมก็หาทางที่จะใช้บริการ ธนาคารกรุงศรีได้แล้วแต่เหมือนธนาคารกลับมองว่าเราไปง้อขอเงินใช้ฟรีๆ
บอกตรงๆว่า ธนาคารอื่นอำนวยความสะดวกให้กับผมมากๆ และครั้งนี้ผมรู้สึกผิดหวังกับ ธนาคารกรุงศรีฯ ทั้งที่ถือบัตรมาเกือบ 10 ปี ใช้จ่ายผ่านบัตรในเครือปีหนึ่งก็ไม่น้อย หวังว่าการรีวิวในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับทีมพัฒนาธุรกิจของธนาคารกรุงศรีฯ และ ทีมงานพิจารณาสินเชื่อ ไม่มากก็น้อย เพราะอย่างน้อยการอนุมัติบัตรให้ลูกค้าที่เดิมที่ไม่ได้ประสงค์เพิ่มวงเงินก็ยังคงใช้บริการของคุณต่อไป การที่ทางธนาคารกรุงศรีมีนโยบายแบบนี้อาจจะเสียลูกค้าในอนาคตนะครับ
ผมขอแทรกให้คิดนิดนึงครับ "การทำให้ลูกค้าเข้ามา 1 คนนั้นยากแล้ว แต่การรักษาลูกค้ายากกว่า และหากเสียลูกค้าไปแล้วการจะเรียกลูกค้ากลับมายากที่สุด" ฝากไว้ให้คิด
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้