เกินไปไหม เมียตายไม่ถึง 2 เดือน พาเมียใหม่เข้าบ้านแล้ว

ทั้งผัวและเมีย(ที่ตาย)เป็นเพื่อนผมทั้งคู่
ทั้งคู่และผมรู้จักกันตั้งแต่ประถม แต่พึ่งมาคบกันเป็นแฟน ตอนช่วงทำงานแล้ว และตกลงแต่งงานมาได้ 3 ปี
ความสัมพันธ์ถือว่าดี ฝ่ายชายมาจากตระกูลใหญ่ พ่อแม่ตาย ทิ้งกิจการไว้ให้ บวกกับหาเงินเก่ง ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ ฐานะดีมาก
ฝ่ายหญิง ฐานะปานกลาง พ่อตาย แม่รับราชการมีลูกคนเดียว ปกติดูแลสามีดี เรียนเก่ง จบสูง ทำงานราชการ
ตลอดเวลาทั้งคู่ความสัมพันธ์ราบรื่นดีครับ ปัญหาน้อยมากถ้าเทียบกับคู่อื่น

แต่ไม่นานมานี้ก็เกิดเรื่องร้ายขึ้น ฝ่ายหญิงประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกระทันหัน
ฝ่ายชายดูจะเสียใจมาก เพราะรู้จักและคบกันมานานมาก
แม่ฝ่ายหญิงก็เสียใจหนักมาก เพราะมีลูกคนเดียว
ตลอดเวลาที่แม่ฝ่ายหญิงก็รักฝ่ายชายเหมือนลูก เพราะบ้านใกล้ และเอ็นดูมาตั้งแต่เด็กๆ แบบว่าแม่ใจดีมาก
แต่สิ่งที่ผมรู้สึกรับไม่ได้ก็คือหลังจากเมียตาย ฝ่ายชายพาเมียใหม่เข้ามาอยู่ในบ้านเร็วมาก
ทั้งที่ยังไม่ถึงสองเดือนดีเลย รู้สึกเหมือนเป็นการทำร้ายจิตใจแม่กับเพื่อนๆ ฝ่ายหญิงมาก
มันเร็วเกินไปที่จะรับได้ จะอะไรกัน ก็ควรรอระยะเวลาอีกสักหน่อย เพราะแถวบ้านเป็นชุมชนเก่าแก่ ในสังคมก็มีแต่คนรู้จักมักจี่
จุดพีคคือ เมียใหม่ เป็นน้องของรุ่นพี่มหาลัยเดียวกัน คือพึ่งรู้จักกันในงานศพนั่นแหละ แต่เห็นกันในเฟซบุคมานานแล้ว
จุดพีคที่สองคือ ตอนนี้ทั้งคู่ไปเที่ยวต่างประเทศกันอยู่ เหมือนหนีหน้าประชาชน และอัพรูปรัวๆ ปกติไปไหนแทบไม่เคยอัพรูป
ที่สำคัญ น้องผู้หญิงไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย เดาว่าที่คลิ๊กกันเพราะเป็นเนิร์ดเหมือนกันและเรียนสาขาวิชาเดียวกัน

รู้สึกช็อค และ สงสัยในตัวน้องผู้หญิงด้วย ว่าน้องไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือ ที่เข้ามาอยู่ในบ้านฝ่ายชายเร็วขนาดนี้
คนในชุมชนก็เม้าท์กันสนุกปาก เวลาไปเดินตลาดไม่รู้สึกอายบ้างหรือยังไง

เพิ่มเติมนะครับ ผลกระทบหลักอยู่ที่แม่ฝ่ายหญิงครับ
สำหรับผมเพื่อนก็รู้ดีว่าชาวบ้านแถวนี้ขี้ปากแรงขนาดไหน
เขาเองก็เคยเห็นช่วงแม่ผมป่วย ก็อาการทรุดเพราะปากชาวบ้านมาแล้ว (เล่าว่าแม่ผมเป็นมะเร็ง จะอยู่ได้ไม่นาน ทั้งที่เป็นโรคอื่น)
คนแก่บางคนเขาไม่ได้สตรอง ผมโดนชาวบ้านนินทามามากมายก็ไม่ได้แคร์อะไรเลย แต่ผลกระทบนี่แหละที่มาทำร้าย

การเลี่ยงไม่ให้กระทบความรู้สึกก็คือให้ ผญ ไปอยู่คอนโดก่อนก็ได้ ไม่ควรรีบพาเข้ามาในชุมชน
เพราะโตแล้วและมีประสบการณ์นี่แหละ จึงน่าจะคิดได้ไม่ควรทำ
ตอนนี้พอปัญหาเกิดกลับหลบหน้า ยิ่งทวีขี้ปากชาวบ้าน และขาเผือกที่ไปยุ่งกับแม่ฝ่ายหญิงอีก

**ทุกคนในทุกครอบครัวที่กล่าวมารู้จักกันหมดนะครับ เลยรู้รายละเอียดเยอะ บ้านใกล้ๆ กัน ฝ่ายชายเป็นญาติผม

สรุปสถานการณ์และสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้นะครับ
1. ทั้งสองคนไปต่างประเทศ มีเน็ตเล่น แต่ไม่ยอมติดต่อคุยกับใคร ซึ่งผมพยายามติดต่อแค่ฝ่ายชายแล้ว
2. แม่ฝ่ายหญิงทำงานราชการ ต้องลงพื้นที่พบปะผู้คน มักจะถูกถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้เกิดความไม่สบายใจ เหมือนมีนักข่าวมาถามซ้ำ
3. ชาวบ้านไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าเขาไม่ได้คบซ้อน เพราะมีคนรู้ความจริงเรื่องนี้ไม่กี่คน ผมได้ยืนยันกับแม่ฝ่ายหญิงแล้วว่าไม่ได้คบซ้อน แต่หยุดกระแสชาวบ้านไม่ได้
4. ผู้ใหญ่ในตระกูลก็พลอยได้รับผลกระทบจากขาเผือก ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ไหนจะเป็นห่วงหลานว่าจะโดนหลอกหรือเปล่า
5. ผมเดือดร้อนอยู่บ้าง คือ ญาติหลายคนโทรมาปรึกษา เพราะจู่ๆ ก็ติดต่อไม่ได้ เมลมาสั่งงานอย่างเดียว ยังดีที่มีความรับผิดชอบบ้าง
ญาติผู้ใหญ่โดยเฉพาะผู้หญิงก็คิดมากพาลเครียดกันเป็นทอดๆ อันนี้ห้ามยากเพราะเป็นนิสัยผู้หญิง
6. ผมไม่มีปัญหาใดๆ กับการรีบมีเมียใหม่ เหตุผลบางอย่างผมกับเพื่อนรู้กัน ข้อนี้ไม่ขอพูด
7. ประเด็นอิจฉาเพื่อนหรือเปล่า ขอตอบว่าไม่เลย ที่ผ่านมาผมก็เป็นคนติดต่อและสกรีนให้ เพราะนิสัยไม่ค่อยรู้ทันผู้หญิง เลยโดนหลอกมาตลอด
8. ที่สงสัยในตัวน้องผู้หญิง คือไม่เด็กแล้ว โตมาในสังคมแบบเดียวกัน แต่เหมือนจะไม่ห้าม และออกแนวประชด
9. ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นใน กทม คงไม่ได้ร้ายแรงอะไร แต่สังคม ตจว นั้นต่างกันมาก เพราะ 90% เป็นประชากรดั้งเดิมในพื้นที่
เอาง่ายๆว่าแค่ในหมู่บ้าน 30% เป็นญาติกัน บ้านติดกันยาวเป็นกิโล, คนมีหน้ามีตาในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นคนในตระกูล
ตอนเด็ก-วัยรุ่นผมเคยไปเที่ยวตำบลอื่นๆ บางทีก็ข้ามไปอีกอำเภอ มักมีคนถามว่ามาจากไหน และที่น่าตกใจคือเกือบทุกคนรู้จักพ่อ ปู่ ปู่ทวดหมดเลย ทำให้เวลาอยู่ในพื้นที่ผมไม่กล้าทำอะไรไม่ดีเพราะกลัวคนเอาไปบอกที่บ้าน (เวลาอยู่ในตัวเมืองก็เต็มที่)
ความสัมพันธ์ข้อนี้บางท่านอาจจะไม่เข้าใจ

ที่มาตั้งกระทู้เพราะเพื่อนชอบอ่านพันทิปหวังว่าจะได้เข้ามาอ่านความรู้สึกของคนอื่นบ้าง บางทีอาจจะลืมคิดอะไรไปบ้าง
หวังว่าจะติดต่อกลับมาบ้าง เพราะหลายคนที่บ้านก็ยังเป็นห่วง

ปกติเมียตายมีเมียใหม่ก็เป็นเรื่องปกติ แต่เพราะความเป็นชุมชนนี่แหละครับ  
เราโตขึ้นมาในชุมชนแบบนี้ สิ่งที่ควรจะตระหนักก็คือเวลามันมีเรื่องอะไรที่น่าสงสัย มันจะลามไวเหมือนไฟลามทุ่ง
ตัวอย่างมีให้เห็นกันเป็นประจำ ข้อนี้มีประสบการณ์ตรงกันมาทั้งคู่
หลายๆ คนคิดว่ามันเร็วเกินไปจึงทำให้เกิดคำถาม
เวลาอาจจะแก้ปัญหานี้ไม่ได้ แต่เวลามันเพราะมันทำให้ลดคำถามได้

อยากให้เพื่อนดูการเผือกในสังคมอย่างเช่นกระทู้นี้ หลายคนคิดหลายอย่าง
บ้างรู้ข้อเท็จจริงแล้วก็ยังไม่เข้าใจ
บ้างก็เหมือนหมดโควต้า 8 บรรทัด อ่านไม่ครบ ขอตบก่อน
บ้างก็เห็นใจและยินดีที่เจอทางออก
บ้างก็ใช้อารมณ์และความรู้สึกตัดสิน
บ้างก็เข้าใจคนรอบข้างว่ารู้สึกอย่างไร
บ้างก็ด้วยความหมั่นไส้ คอยแซะอยู่เป็นประจำ
บ้างเข้าใจทุกอย่างดี แต่ก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

เราห้ามความคิดของแต่ละคนไม่ได้ ดั่งเช่นในกระทู้นี้นี่แหละเพื่อน
เห็นไหมว่าทั้งในนี้และที่คอมเม้นในเฟซบุคบางคนพูดคนละประเด็นหรือด่าเราก่อนอ่านรายละเอียดด้วยซ้ำ
การจะพูดทุกอย่างให้ทุกคนเข้าใจเหมือนกันมันเป็นอะไรที่ยากมาก และเราก็พูดแทนนายทั้งหมดไม่ได้
ถ้าได้เข้ามาอ่านหวังว่านายคงเข้าใจอะไรบางอย่างแล้วนะ

-----------------------------------------------------------------------
ตอนนี้เพื่อนติดต่อกลับมาแล้วครับ มีความเข้าใจผิดกันหลายเรื่อง แต่ปรับความเข้าใจกับทางญาติกับแม่ฝ่ายหญิงแล้ว
ที่ติดต่อไม่ได้เพราะก่อนหน้านั้นมีการทะเลาะกับคนในครอบครัวค่อนข้างแรง (แต่ญาติไม่ได้เล่า) จนเจ้าตัวถึงกับเสียศูนย์
สิ่งที่ญาติพูดไปก็ด้วยความหวังดี แต่วิธีมันอาจจะไม่ถูก เลยทำให้เรื่องบานปลาย
ด้วยความเห็นใจว่าช่วงนี้ผมยุ่งๆ ก็เลยไม่ได้ปรึกษาผม
และเจ้าตัวเองก็ไม่คิดว่าญาติจะโทรมาฟ้องผม ที่ทำไปเพราะประชดญาติล้วนๆ
สุดท้ายก็ขอโทษขอโพยกันใหญ่และสัญญาว่าจะไม่ทำอีก เพราะผลกระทบมันมากกว่าที่คิด

เรื่องมาตั้งกระทู้เพื่อนไม่ได้โกรธครับ มีอะไรเราตักเตือนกันมาตลอด ข้อดีเค้าเป็นคนยอมรับความจริงได้ครับ และทุกความเห็นทำให้เพื่อนเห็นมุมมองคนอื่นเยอะมาก
อะไรในนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับชีวิตเขาเลย เรื่องนี้มันก็ดังแค่ในตำบล ซึ่งคนในพื้นที่ส่วนใหญ่หาเข้ากินค่ำ ทำไร่ไถนา ไม่ได้เล่นพันทิป
วัยรุ่นส่วนใหญ่ก็เรียนในตัวเมือง นานๆ จะกลับบ้านทีเพราะอยู่ไกลจากตัวเมืองมาก บางเรื่องแถวบ้านดังมากผมอยู่ในเมืองนี่แทบไม่รู้ข่าวเลย

แต่เรื่องนี้ทำที่บ้านกระทบเยอะมาก ยอดที่โรงงานเขาก็ตก พอเถ้าแก่ไม่อยู่ ลูกน้องตัดสินใจแทนไม่ได้ ลูกค้าก็ไม่อยากซื้อ
พึ่งรู้ว่าที่เดือดร้อนใจกันเพราะบางงานเพื่อนไปร่วมดีลกับเจ้าอื่นไว้ เล่นเอาหลายคนหายใจไม่ทั่วท้อง

ส่วนเรื่องของคนในชุมชน อีกด้านหนึ่งก็มีข้อดีครับ คือความห่วงใย กับ ความเผือกบางทีมันก็มีเส้นคั่นบางๆนิดเดียว
ที่จริงคนในชุมชนน่ารักนะครับ เมื่อก่อนผมก็เคยโกรธที่โดนเผือกหนักมาก
พึ่งมาเข้าใจตอนโตว่าส่วนใหญ่หวังดี แต่เขาไม่รู้ตัวว่ากำลังทำร้ายเราอยู่
มันเหมือนวัฒนธรรมองค์กรที่ฝังรากลึกมายาวนาน จนไม่รู้ว่าบางอย่างมันก็ไม่ควร
ถึงแม้หลายอย่างถึงแม้มันจะถูกต้อง แต่มันไม่ถูกใจคนในชุมชน ก็ต้องยอมปรับตัว ถ้าคิดจะทำมาหากินที่นี่ครับ
คือจะให้ย้ายหนีหรือไปด่าคนในชุมชนก็คงจะไม่เข้าท่าครับ
เมื่อก่อนผมมีปัญหาการเข้ากับชุมชนหนักมาก ต่อต้านมันซะทุกอย่าง รู้สึกเบื่อสังคมนี้เหลือเกิน
แต่พ่อของเพื่อนก็เคยสอนผมมาตั้งแต่เด็กว่า จะเปลี่ยนคนทั้งชุมชนมันยากเกินไป เปลี่ยนที่เรา ปรับตัวเข้าหาในส่วนที่ปรับได้มันง่ายกว่าเยอะ
เพราะ ลูกค้า ลูกจ้าง ครอบครัว ทรัพย์สิน ที่ดิน ก็อยู่ที่นี่เกือบทั้งหมด มีกินมีใช้ก็เพราะคนที่นี่ช่วยส่งเสริม
อยู่ในสังคมเมืองใหญ่อาจจะเลือกง่ายครับ แต่ถ้าเป็นสังคมแบบที่พวกผมโตขึ้นมาจะเปลี่ยน จะย้าย หรือทำอะไรบางอย่างมันไม่ง่ายเลย
ยิ่งเป็นคนที่ชาวบ้านรู้จักเยอะ ก็คงเหมือนดารา เวลาทำอะไรคนก็จะสนใจกันเป็นพิเศษ

เรื่องน้องผู้หญิงความจริงคือช่วงนั้นเพื่อนป่วย แล้วมีดีลงานกับน้องเค้าพอดี (บ้านกับโรงงานอยู่ติดกัน)
น้องเค้าก็มาที่บ้านทุกวัน ด้วยความใกล้ชิดและไลฟ์สไตล์ที่เหมือนกันมาก อะไรๆ มันก็เลยเร็วครับ คือเค้าคุยกันรู้เรื่อง จนแทบไม่ต้องปรับตัวเข้าหากันเลย

แต่ที่มันระเบิดคือมีผู้ใหญ่ไปต่อว่าน้องค่อนข้างแรง แนวๆวางอำนาจออกคำสั่ง
สไตล์ข้าราชการผู้ใหญ่นั่นแหละครับ ด้วยความโมโหเพื่อนเลยทำประชดมันซะเลย
น้องก็ซื่อ เพื่อนบอกให้ทำอะไรก็ทำตามหมด ไม่ได้คิดว่าเรื่องมันบานปลาย
คือจุดนั้นเจ้าตัวก็ยอมรับว่าเสียศูนย์ครับ
ตอนนี้ก็ได้ทำความเข้าใจกับแม่ฝ่ายหญิงและญาติๆ เรียบร้อยแล้วครับ
และสัญญาว่าดูแลแม่ฝ่ายหญิงเหมือนตอนยังอยู่ด้วยกันครับ

สรุปก็จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งครับ เหตุมันมาจากการสื่อสารในครอบครัวล้วนๆ บางทีสิ่งที่เราคิดมันอาจจะถูก แต่ถ้าพูดไม่ถูก ก็ตามที่เห็นในเรื่องนี้แหละครับ
สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่าน ไม่ว่าจะคอมเม้นด่า ตำหนิ เข้าใจ ให้กำลังใจ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้ดีขึ้นครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 22
เราเข้าใจที่ จขกท จะสื่อนะคะ แต่แปลกที่คนอื่นไม่เข้าใจ คือ จขกท เผือก คงเพราะเป็นคนในวงใน เคยคลุกคลีสนิทสนมกับคนในเรื่องทุกคน เลยรู้สึกผิดหวัง รู้สึกสงสารแม่ทางฝ่ายหญิงที่เสียชีวิต ถ้าเป็นเราเราก็สงสาร บางทีแม่ทางฝ่ายหญิงอาจจะเข้าใจผิดด้วยซ้ำว่าลูกสาวถูกนอกใจก่อนเสียชีวิตหรือเปล่า
แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะคุณเจ้าของกระทู้ เราไปห้ามไปบอกคนอื่นให้ทำในสิ่งที่เหมาะสมไม่ได้ ตราบใดสิ่งที่เค้าทำมันไม่ได้ผิด

ที่ จขกท จะทำได้ คงได้แค่แวะไปคุยกับทางแม่ฝ่ายหญิง ปลอบใจแกบ้าง คงได้เท่านี้ค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ผมเข้าใจจขกท.นะ

จริงๆแล้วเขาก็ไม่ผิดหรอกที่เมียตายแล้วหาเมียใหม่ภายในระยะสั้นขนาดนั้น (น้อยกว่า 2 เดือน)

แต่พูดถึงความเหมาะสมในสถานะการณ์แบบนี้มันก็ไม่ค่อยดีนะ เพราะเหมือนไม่มีการไว้ทุกข์ให้ภรรยาที่เสียไปเลย มันทำให้ครอบครัวภรรยาอาจรู้สึกไม่ค่อยดี ถ้าผมเป็นเพื่อนกับเขา ผมก็จะพูดไปตามที่ผมรู้สึก ไม่กลัวเขาว่าหรอกครับ
ความคิดเห็นที่ 24
เราเข้าใจจขกท.นะ ถ้าเราเป็นจขกท.เราก็จะไปห้ามปรามเพื่อนเราเหมือนกัน เพราะมันไม่เหมาะสม 2เดือนนี่เร็วมากนะคะ ทำบุญกระดูก100วันก็ยังไม่จัด อะไรเอาเมียใหม่เข้าบ้านเเล้ว รอเวลาให้เหมาะสมเสียหน่อย ทำไม่ได้เชียวเหรอ ใจคนอยู่อีกล่ะ แม่ยาย+ญาติทางภรรยาที่เสีย กะจะให้ขาดกันไปเลย ไม่ต้องรักษาน้ำใจแล้ว? ใจดำจัง
อีกอย่างภรรยาเค้าไม่ใช่เป็นโรคที่ร่างกายค่อยๆทรุดนะนะ เสียเพราะอุบัติเหตุกระทันหัน ไม่คิดจะเยียวยา ไม่แคร์ครอบครัว โดยเฉพาะคุณแม่ของภรรยาหน่อยเหรอ ถ้าเราเป็นภรรยาที่เสียไปคงเสียใจและผิดหวังมากๆที่สามีเราจะดูแลครอบครัวเราแบบนี้

ไม่ตำหนิจขกท.ที่ไม่พอใจเพื่อนนะสำหรับเรา
ความคิดเห็นที่ 1
แล้วเค้าทำผิดตรงไหนล่ะคะ คบชู้รึก็ไม่ใช่

ก็คนมันคลิกกัน จะต้องรออะไร
ผู้ชายก็พร้อมทุกอย่าง มีฐานะ พ่อหม้ายเมียตาย ลูกไม่มีด้วยรึเปล่าไม่พูดถึง
เพอเฟ็กอะ ไม่มีเมียเก่าให้กังวลใจ
ผู้หญิงคนใหม่เค้ารีบคว้าไว้ก็ไม่แปลก

เค้าก็ไม่ได้ขอใครกินจะฟังปากชาวบ้านทำไม

ในเมื่อเค้าไม่สนใจขี้ปากคนอื่น คุณจะไปสนใจแทนเค้าทำไม
ความคิดเห็นที่ 89
จะประชดกันทำไม​ จขกท.ไม่ได้บอกว่าให้รอทั้งชาติหรือรอเป็นสิบๆ​ ปี​ แค่ไม่ใช่คบกันโจ่งแจ้ง​ 2 เดือนให้หลังแบบนี้​ แม่เมียเก่าก็คนรู้จักคุ้นเคยกัน​ แค่คบกันเงียบๆ​ ถนอมน้ำใจคนใกล้ตัวหน่อยมันคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอก​ คือมันไม่ได้ผิดกฎหมายหรอกทำแบบนี้​ แต่มันแสดงให้เห็นว่าเป็นคนไม่แคร์ความรู้สึกคนอื่น​ (การไม่แคร์บางกรณีมันเป็นเรื่องดี แต่กรณีนี้ไม่)​

แล้วเราก็ไม่มองว่าจขกท.เผือกด้วย​ คนสนิทกันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ​ เวลาเห็นเพื่อนทำอะไรที่ตัวเองคิดว่าไม่เหมาะจะปรามกันบ้างไม่เห็นแปลก​ เรามองว่าเป็นเพื่อนที่ดีด้วยซ้ำ หรือนิยามของเพื่อนสมัยนี้คือมีไว้อวยกันเองอย่างเดียว?
ความคิดเห็นที่ 21
จขกท. ขี้เผือก ไม่ต่างกับชาวบ้านที่ชอบนินทาคนอื่นหรอก
เขาจะทำอะไรมันก็เรื่องของเขาปะ จะไปอะไรนักหนาคนจะมีความสุข
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่