ทำไมระบบตู้อัตโนมัติต่างๆจึงห่วย ทั้งที่ประเทศเรามีEngineer, Programmerเก่งๆก็เยอะ

ผมดูรายการ"แบไต๋ตู้ต่อไป" ของคุณหนุ่ย พงศ์สุข เป็นรายการที่ไปรีวิว ตู้อัตโนมัติต่างๆทั่วกรุงเทพ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ส่วนใหญ่ มีปัญหา ใช้งานจริงไม่ค่อยได้
เช่น
1.ระบบCash Box บนรถเมย์ ปัญหาที่เจอ คือ
1.1. ตู้ไม่ยอมทอนเหรียญ
1.2. กดแล้วปุ่มไม่มีResponse
1.3. หยอดเหรียญต่างประเทศแล้ว ตู้ไม่ยอมคืนเหรียญให้
1.4. ไม่สามารถใช้งานได้จริง (เนื่องจาก สภาพจริง รถเมย์บ้านเรา กรูกันขึ้นทีละเยอะๆและอัดกันเป็นปลากระป๋อง)

2.ตู้ไปรษณีอัติโนมัติ
2.1. ซองไปรษณีย์ไม่ออกมาให้
2.2. สอดบัตรประชาชนแล้วเอาออกไม่ได้
(ออกแบบมาแบบนี้ เหมือนไม่เคยtestการใช้งาน)

เท่าที่ผมสังเกต ตู้ที่จัดทำโดยรัฐ ห่วยทุกตู้
แต่พอเป็นตู้ที่จัดทำโดยบริษัทเอกชน จะใช้งานได้จริง

ส่วนตัว ผมเป็นโปรแกรเมอร์ มีประสบการณ์ในการพัฒนาซอฟแวร์ระบบมาบ้าง
ก็พอจะรู้ว่า การจะทำระบบอะไรสักอย่างขึ้นมา มันต้องผ่านหลายขั้นตอนมาก
Userซึ่งเป็นลูกค้า เขาจะตรวจตั้งแต่เริ่มออกแบบระบบ ตรวจProcess Flow
ตรวจScenario แถมลิสต์Fraud case ที่อาจกลายเป็นช่องโหว่ มาให้เห็นทีมพัฒนามาเป็นข้อๆ
Userหรือลูกค้า ตรวจเช็คเอกสารกัน3-4เดือน จนกว่าจะผ่าน ถ้าไม่ผ่านก็มีสิทธิ์ยกเลิกสัญญา
แต่ถ้าผ่านก็ถึงจะAssignงานไปให้โปรแกรมเมอร์ทำ จากนั้นก็ให้ทีมTesterไปทดสอบ
ถ้ามันมีBug ก็จะโดนProject Managerด่าก่อนด่านแรกแน่ๆ ไม่ปล่อยให้ถึงมือลูกค้าแบบห่วยๆแน่ๆ
และเมื่อเสร็จก็ติดตั้ง ใช้งานได้จริง มีประสิทธิภาพ
จากที่ทำงานด้านนี้มา บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่ก็จะมีมาตรฐานประมาณนี้
ไม่อย่างนั้นก็จะเสียชื่อบริษัท


ดังนั้น ผมจึงค่อนข้างแปลกใจ ที่เห็นผลงานตู้อัตโนมัติที่จัดทำโดยรัฐออกมาห่วยแบบนี้

จะบอกว่า นักพัฒนาของไทย ไม่เก่งก็คงไม่ใช่
ไม่รู้ว่ารัฐ ไปจ้างบริษัทไหนทำ? โปรเจคระดับนี้ มันควรต้องจ้างบริษัทที่มีประสบการณ์ทางด้านี้
ที่รวมโปรแกรมเมอร์หรือวิศวกรเก่งๆเอาไว้ไม่ใช่เหรอ?

หรือปัญหาอยู่ที่งบ 1600ล้านบาทอาจจะไม่พอ?

ปัญหาที่แท้จริงของเรื่องนี้อยู่ตรงไหน?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่