สวัสดีครับ เพื่อนๆ ผมมีน้องที่ทำงานคนนึง นางป่วย ตอนนี้ไม่ได้เจอกันมาเกือบสองเดือนแล้ว
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อเดือน ตุลา เค้าเป็นหวัดเรื้อรัง บางวันก็มาทำงาน บางวันก็ลาป่วย มีไข้ต่ำๆ  ทุกวัน เวลาไปห้องพยาบาล นางจะขอพารามากินชั่วโมงละเม็ดครับ แล้วมีวันนึงมีไข้ขึ้น ผมเลยให้นางไปนอนที่ห้องพยาบาลได้ ปรากฏเพิ่งมารู้ตอนหลังว่าเค้าแอบกินยาแก้แพ้ไป 5 เม็ดแล้ว นอนไป3 ชม. แล้วมาทำงานต่อ ในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันแกดูโทรมมาก ผมบาง และ ผิวคล้ำลง บางวันก็ไอคร่อกๆแคร่กๆ แต่ไม่ไอทุกวันนะครับ เป๋็นบางวัน

พอเดือน พฤศจิกายนที่ผ่านมา เค้าน้ำหนักลดลง ครับ ผอมลงดูชัดมาก ที่ทำงานบอกให้ไปหาหมอ แล้วเอาให้รับรองแพทย์มา แต่ใบที่เค้าเอามาให้ แพทย์เขียนว่า ไม่สบาย (คือเดี๋ยวได้หรอ) เลยให้เค้าลาป่วยเพิ่มไป ทุกคนที่ทำงานเค้นถามว่าน้องเป็นอะไร แกบอกว่า หมอเป็นโรคปอดอักเสบ
ปลายๆเดือนตุลา หัวหน้าให้นางผลัดไปทำงานแบบนั่งได้ ผมเลยเข้าไปคุยกับหัวหน้า ว่า ต้องให้เค้าหยุดไปรักษาตัว เพราะผมไปปรึกษาคุณหมอมาครับ ว่าโรคปอดอักเสบ สามารถผันเป็นวัณโรคได้ ถ้าติดกันหมดที่ทำงานจะพากันฉวยหมด

พอเดือนธันวาที่ผ่านมาหัวหน้าเลยให้เค้าใช้วันหยุดพวก Public Holiday กับv Vacation Leave (ที่ทำงานผมวันหยุดใช้เก็บได้) เดือนธันวา เค้าเลยได้หยุด ระหว่างเดือนผมก้อมีไลน์ไปคุยบ้าง แกจะบอกว่า กะลังทำกายภาพเพราะเดินไม่ไหว

สองสามวันที่ผ่านมา แกแอดมิท โดยไม่บอกใคร ให้เลือดหมดไป 4 ถุง แล้ว ต้องใส่แพมเพิดด้วยเพราะแกบอกว่า เดินไปเข้าห้องน้ำไม่ไหว จากนั้นผมเลยไลน์ไปในกลุ่มว่าจะไปเยี่ยม แต่แกบอกว่าไม่ต้องมาเพราะหมอกลัวคนนอกเอาเชื้อโรคไปติดเพราะร่างกายอ่อนแอ

ผมเลยอยากปรึกษาว่า ทุกคนที่ทำงานพยายามจะถามแล้วว่าแกป่วยเป็นอะไร กันแน่ แต่เค้าก้อบ่ายเบี่ยงตลอด อีกอย่างเราก็อยากไปหาเค้าแต่โดนปฏิเสธตลอดเราควรแอบไปหาดีมั้ย เพราะด้วยความเป็นห่วง ที่ทำงานผมที่นี่เราสนิทกันมาก เหมือนพี่น้องกัน เลยอยากให้เพื่อนๆ ให้คำแนะนำด้วยครับ