คือสงสัยค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อไหร่ที่ได้ติดต่อประสานงานอะไรซักอย่างกับเพื่อนคนหนึ่ง ถ้าเขาทำเสร็จแล้วเขาจะไม่บอก เพราะถือว่าทำสำเร็จแล้ว แต่จะบอกก็ต่อเมื่องานหรือเรื่องนั้นติดขัด มีปัญหา หรือยกเลิก ส่วนเราเป็นคนชอบทำอะไรแล้วมักจะแจ้งผลว่าถึงขั้นตอนไหน และเมื่อทำเสร็จ ก็จะแจ้งว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว หรือมีปัญหาก็แจ้งเรื่องที่ติดขัด เพื่อจะได้แก้ไขได้ทัน "แต่เพื่อนบอกว่าเราจริงจังเกินไป และบอกต่อว่า นี่ไม่ใช่เรื่องผิดนะ แต่แค่จริงจังเกินไป ดูอึดอัด" เลยมาคิดใหม่ว่า ที่เราเป็นอยู่นี่ตึงเกินไปหรือเปล่า เริ่มสับสนว่าที่คิดว่าเราทำถูกแล้ว ควรต้องปรับ หรือปล่อยวางอะไรหรือต้องคิดอะไรใหม่มั๊ย
เช่น ถ้าต้องตามเอกสารจากเพื่อน เราจะบอกเวลาdateline แต่ก็จะถามว่าส่งให้ได้วันไหน พอเลยกำหนด เราก็ถามใหม่เพราะเป็นเอกสารที่มีอยู่แล้ว(สำเนาบัตรประชาชน) เราแค่คิดว่าตามเสร็จแล้ว ก็จะได้จัดการเรื่องอื่นของเราต่อ ถ้าเสร็จก่อนกำหนดก็เป็นเรื่องดีไง เนอะ! เผื่อมีแก้ไขติดขัดอะไรจะได้แก้ได้ทันท่วงที แบบนี้เป็นต้น อีกตัวอย่างหนึ่ง นัดกันไปเที่ยวกัมพูชากับทัวร์ เราแจ้งให้ส่งหน้าพาสพอร์ตเพื่อทำประกัน แจ้งdateline ทวงถามมา3 ครั้ง ก็ไม่ส่งให้ จนเกินวันdateline เราจึงถามเป็นครั้งที่4ว่าติดขัดไรมั้ย เพื่อนบอกว่าลืม ว่าจะส่งไม่เกินวันนั้นแล้วเชียว พอถึงวันเดินทาง รถตู้จะมารับที่บ้านเราและต้องออกจากบ้านตี3 ถามว่าจะมานอนที่บ้านเรามั้ย แต่เพื่อนบอกไม่ดีกว่า คืนนั้นเพื่อนไม่ได้นอน เพราะออกไปทานข้าวกับเพื่อนอีกคน(แต่เค้าชวนเราอยู่นะแต่เราไม่ได้ไป) เค้าจัดกระเป๋าเดินทางประมาณตี1-2 แล้วจึงออกมา(แอบคิดว่า ทำไมไม่รีบจัดกระเป๋าหัวค่ำแล้วพักผ่อน) พอข้ามด่านมาฝั่งกัมพูชา ถามเพื่อนเรื่องแลกเงินใช้ยังไง แต่เพื่อนทำท่าตกใจ และบอกว่าลืมกดเงินสดมา ว่าจะกดatm มาแล้วเชียว ลืมจนได้ เราแค่รู้สึกว่า ไม่โอเค กับแนวคิดและการดำเนินชีวิตแบบนั้น เราเลยอยากรู้ว่าความจริงแล้ว
1 คนอื่นๆ เขาเป็นแบบนี้กันเยอะรึเปล่า 2 หรือเราเข้มงวดเกินไปไม่ปล่อยวาง 3 ความแตกต่างเรื่องอาชีพมีผลมั้ย เพื่อนอยู่หน่วยงานราชการ ส่วนเราทำธุรกิจส่วนตัว
ทั้งหมดนี้เราปรับความเข้าใจกันนะ และเราก็ยอมรับทั้งคู่ว่าเราคิดไม่เหมือนกันซึ่งเราก็ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม แค่ติดตรงประโยคนี้ "แต่เพื่อนบอกว่าเราจริงจังเกินไป และบอกต่อว่า นี่ไม่ใช่เรื่องผิดนะ แต่แค่จริงจังเกินไป ดูอึดอัด" อืมมมมม มันฟังแล้วรู้สึกแปลกๆๆหน่ะ ณ จุดๆนี้
*แนะนำ และแลกเปลี่ยนเรื่องราวกันได้นะคะ อยากฟังคะ
ความต่างของทัศนคติ เพราะอีกคนไม่ใส่ใจ หรืออีกคนจริงจังเกินไป
เช่น ถ้าต้องตามเอกสารจากเพื่อน เราจะบอกเวลาdateline แต่ก็จะถามว่าส่งให้ได้วันไหน พอเลยกำหนด เราก็ถามใหม่เพราะเป็นเอกสารที่มีอยู่แล้ว(สำเนาบัตรประชาชน) เราแค่คิดว่าตามเสร็จแล้ว ก็จะได้จัดการเรื่องอื่นของเราต่อ ถ้าเสร็จก่อนกำหนดก็เป็นเรื่องดีไง เนอะ! เผื่อมีแก้ไขติดขัดอะไรจะได้แก้ได้ทันท่วงที แบบนี้เป็นต้น อีกตัวอย่างหนึ่ง นัดกันไปเที่ยวกัมพูชากับทัวร์ เราแจ้งให้ส่งหน้าพาสพอร์ตเพื่อทำประกัน แจ้งdateline ทวงถามมา3 ครั้ง ก็ไม่ส่งให้ จนเกินวันdateline เราจึงถามเป็นครั้งที่4ว่าติดขัดไรมั้ย เพื่อนบอกว่าลืม ว่าจะส่งไม่เกินวันนั้นแล้วเชียว พอถึงวันเดินทาง รถตู้จะมารับที่บ้านเราและต้องออกจากบ้านตี3 ถามว่าจะมานอนที่บ้านเรามั้ย แต่เพื่อนบอกไม่ดีกว่า คืนนั้นเพื่อนไม่ได้นอน เพราะออกไปทานข้าวกับเพื่อนอีกคน(แต่เค้าชวนเราอยู่นะแต่เราไม่ได้ไป) เค้าจัดกระเป๋าเดินทางประมาณตี1-2 แล้วจึงออกมา(แอบคิดว่า ทำไมไม่รีบจัดกระเป๋าหัวค่ำแล้วพักผ่อน) พอข้ามด่านมาฝั่งกัมพูชา ถามเพื่อนเรื่องแลกเงินใช้ยังไง แต่เพื่อนทำท่าตกใจ และบอกว่าลืมกดเงินสดมา ว่าจะกดatm มาแล้วเชียว ลืมจนได้ เราแค่รู้สึกว่า ไม่โอเค กับแนวคิดและการดำเนินชีวิตแบบนั้น เราเลยอยากรู้ว่าความจริงแล้ว
1 คนอื่นๆ เขาเป็นแบบนี้กันเยอะรึเปล่า 2 หรือเราเข้มงวดเกินไปไม่ปล่อยวาง 3 ความแตกต่างเรื่องอาชีพมีผลมั้ย เพื่อนอยู่หน่วยงานราชการ ส่วนเราทำธุรกิจส่วนตัว
ทั้งหมดนี้เราปรับความเข้าใจกันนะ และเราก็ยอมรับทั้งคู่ว่าเราคิดไม่เหมือนกันซึ่งเราก็ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม แค่ติดตรงประโยคนี้ "แต่เพื่อนบอกว่าเราจริงจังเกินไป และบอกต่อว่า นี่ไม่ใช่เรื่องผิดนะ แต่แค่จริงจังเกินไป ดูอึดอัด" อืมมมมม มันฟังแล้วรู้สึกแปลกๆๆหน่ะ ณ จุดๆนี้
*แนะนำ และแลกเปลี่ยนเรื่องราวกันได้นะคะ อยากฟังคะ