สวัสดีค่ะทุกท่าน
วันนี้ผู้เขียนกระทู้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ที่พบกับตัวเอง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกท่านเลือกที่พักดี ๆ ในการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ เรื่องมีอยู่ว่า การเดินทางไปแข่งขันที่ขอนแก่นในวันที่ผ่านมา
เนื่องจากเราได้แข่งขันช้ากว่าจังหวัดอื่น ๆ สถานที่พักใกล้ ๆ สถานที่แข่งขันเต็มหมด เราจึงได้ค้นหารายชื่อที่พัก โรงแรม ต่าง ๆ ในอำเภอใกล้ๆ สถานที่แข่งขัน ปรากฏว่าเหลืออยู่ที่หนึ่งที่คิดว่าน่าจะปลอดภัยและสะดวกในการเดินทางที่สุด ใช่ค่ะ! เราเลือกจังหวัดชัยภูมิ อำเภอแก้งคร้อนั่นเอง ที่พักที่เราเลือกเขาได้มีการโฆษณาไว้ในอินเทอร์เน็ตว่า
..........." บริการ ห้องพักหรู บรรยากาศดีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์สีจอแบน (LED) เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้เย็น โต๊ะและเตียงนอนที่ได้มาตรฐาน โต๊ะทำงาน Free WiFi ปลอดภัยด้วยระบบคีย์การ์ดและกล้องวงจรปิด".... นั่นหล่ะค่ะ ที่ทำให้เราเลือกที่นี่
....แต่นั่นมันคือความคาดหวังก่อนได้รับบริการ เมื่อเราเข้าใช้บริการที่พักดังกล่าว เรื่องราวต่าง ๆ จึงเกิดขึ้นดังต่อไปนี้
1. เริ่มจากการติดต่อที่พัก โทรติดต่อจองห้องพัก ได้มีการตกลงเรื่องการเข้าพัก ได้ขอเพิ่มจำนวนคนที่เข้าพักเนื่องจากจำนวนห้องที่มีน้อยกว่าจำนวนคน โดยทางที่พักได้ตกลงกับผู้เช่าว่า ถ้าจะเพิ่มคนจะต้องเพิ่มรายหัวอีกหัวละ 50 บาท แต่ไม่มีผ้าห่ม หมอน ที่นอนเพิ่มเข้ามาให้ (อันนี้เข้าใจค่ะว่าทางที่พักอาจจะมีให้ไม่เพียงพอ) ผู้เช่าตกลง ผู้ให้เช่าโอเค มีการจ่ายเงินค่ามัดล่วงหน้าเกินกึ่งหนึ่งของเงินทั้งหมด ผู้เช่าโอนเงินทันทีที่ตกลง
2. ขณะเดินทางไปยังที่พักดังกล่าว เจ้าของที่พักโทรติดตามตลอด(เราเข้าใจท่านอาจจะเป็นห่วงว่าเราอาจจะเดินทางมาไม่ถูก) เมื่อถึงที่พักเจ้าของที่พักเดินเข้ามาถามว่าใครเป็นคนดูแล พร้อมยังไม่ได้ให้ขึ้นนะคะตอนนี้เพราะเจ้าของที่พักยังไม่ได้ให้กุญแจ (เรายกมือ) เจ้าของที่พักจึงให้กุญแจเรา เราจัดแจงให้ทุกคนเข้าที่พักห้องละ 4 คนเรียบร้อย เมื่อเข้าห้องไปแล้วไม่ถึง 5 นาที เจ้าของที่พักได้เดินมาเคาะห้องแล้วถามว่า "ขอพบคนดูแลค่ะ อยากทราบว่าเงินที่เหลือจะจ่ายเลยไหม" เรางง! อ้าว! เช็คอินที่อื่น ตอนเช็คเอาท์ค่อยจ่ายเงินไม่ใช่หรอ? เราก็บอก ค่ะ เดี๋ยวตามลงไปนะคะ เมื่อลงไปป้าแกโวยวายยกใหญ่ว่า เนี่ย! โรงเรียนเนี้ย จองแล้วยกเลิก ทำไมทำแบบนี้ @@#^$#&%^@&^%*% เราก็อ้าว! โวยตรูทำไมวะ ในเมื่อตรูไม่ได้เป็นโรงเรียนที่แกกล่าวถึงสักหน่อย ตรูมาครบ เราเลยลองถามลองคุยเพื่อให้ป้าแกใจอ่อน(ใช้จิตวิทยานิดนึง) สอบถามได้ความว่า "โรงเรียนนั้นโทรมาจองที่หลังหนูสองอาทิตย์ไม่ได้มัดจำด้วยซ้ำ โทรมายกเลิกว่าจะไม่เอา ทำให้เสียสิทธิ์คนอื่นที่มาจอง" เราเลยถามต่อว่า "ป้าคะแล้วเค้าไม่ได้มัดจำหรือคะ" ป้าแกตอบยังไงรู้ไหมคะ "ลูกสาวป้าเป็นคนรับ ป้าไม่ได้รับเอง" แต่อ้าวทีทำไมของเราให้มัดจำ แถมมัดจำมากกว่าครึ่งนึงอีก สองมาตรฐานนี่หว่า ที่คุยไปคุยมาเนี่ยผู้เขียนไม่ได้ถือเงินไงคะ เลยยังไม่ได้จ่าย เพราะพี่อีกคนที่ทำหน้าที่ดูแลค่าใช้จ่ายและเป็นคนจัดการส่วนนี้ยังมาไม่ถึง เลยต้องรอให้พี่ ๆ มาก่อน (เราอยู่ด่านหน้าไง) พี่อีกคนที่มาด้วยกันเห็นเราหายลงมานานเลยมาตามเรา สุดท้ายได้นั่งคุยกัน ฟังป้าแกบ่น ๆ เรื่องลูกค้าอีกกลุ่มนึง แกก็บ่น(ก่นด่า)เสียมากมาย จนสุดท้ายพี่ ๆ อีกกลุ่มที่ตามมาทีหลังกำลังจะมาถึงแต่มาไม่ถูกโทรถามทางกับเรา เราเลยออกไปคุยข้างนอกหน้าที่พักเพื่อบอกทาง ป้าแกก็วิ่งมาบอก "เอาโทรศัพท์มาเดี๋ยวป้าคุยเอง" เราเลยบอกว่า "ไม่เป็นไรค่ะ หนูบอกทางถูก หนูจำได้" เราเดินหนีไปอีกทาง ก็นั่งข้างหน้า แถมเป็นคนเปิด GPS อีก สมองก็ยังดี ยังจำได้ค่ะว่ามายังไง เมื่อพี่ ๆ กลุ่มสุดท้ายมาถึงเราเลยให้ผู้ใหญ่จัดการ บอกตรง ๆ เลยว่าในความคิดเราทำไม ป้าวุ่นวายจัง แต่คิดไปคิดมาเรื่องของธุรกิจมันก็ต้องเป็นแบบนี้เนอะ เราเลยขึ้นไปดูแลนักเรียนต่อ ไม่ได้สนใจอะไร
3. ตอนเช้าวันที่ 1 หลังจากจัดการเด็ก ๆ เรียบร้อยแล้วทางเราได้บอกกับทางที่พักว่า "ไม่ต้องเข้าไปทำความสะอาดนะคะ" (ย้ำหลายรอบมาก!!!) ตอนเย็นพี่คนที่ 1 ได้พาเด็กๆ ส่วนหนึ่งที่แข่งเสร็จแล้วต้องกลับก่อนกลุ่มที่สองมาเก็บของที่ห้องพัก ปรากฏว่า "พาวเวอร์แบงค์หนูหาย!!!" ซักถามเด็กว่าหาทั่วหรือยัง ก็หาจนทั่วแต่ไม่เจอ เมื่อเช้าวางไว้ที่เตียงค่ะ ไม่ได้เอาไปไหน ก่อนออกไปพี่เราก็ได้ถามเด็กแล้วว่า "ไม่เอาได้วยหรือลูก" เด็กบอกไม่เป็นไรเอาไว้นี่แหละค่ะ และพี่สาวเป็นคนเดินจากห้องเป็นคนสุดท้ายและปิดประตู แต่ทำไมกลับมาตอนเย็นแล้วหายไป พี่เรามั่นใจว่า เด็กไม่ได้เอาไปวางไว้บนเตียง! เมื่อลงไปคุยกับป้า บอกว่าไม่รู้ไม่ชี้ แต่พูดว่าอันที่มันอยู่บนนั้นบนนี้ พูดเหมือนรู้ว่ามีอะไรบ้าง อ้าว!!! บอกไม่ให้เข้าไป ทำไมรู้ว่ามีอะไรอยู่ในห้องบ้าง
4. พี่คนที่ 2 กลับไปพักที่ห้องก่อนลืมกุญแจห้องไว้กับน้องอีกคน เมื่อเปิดประตูเข้าไปพบกระเป๋าไม่รู้ของใครวางไว้พร้อมทั้งเสื้อชั้นใน (ยกทรง) สีม่วงลูกไม้สายใหญ่ วางอยู่ พี่คนที่ 2 ตกใจว่าของใคร เพราะไม่ใช่ของแกแน่นอน!!! ใครเข้ามาในห้อง พี่คนที่ 2 ลงไปคุยกะป้า แล้วป้ายังบอกว่า ผ้าเช็ดตัวหาย!!! เอ้า ด ก ท ง ก็เค้ายังไม่กลับยังไม่เช็คเอาท์เลย แถมไม่ได้ให้เข้าไปในห้อง!!! ทำไมรู้ว่า ผ้าเช็ดตัวหาย คำตอบเดิม "ป้าไม่รู้"
5. ตอนเย็นพาเด็ก ๆ ทั้งหมดไปกินข้าวก่อนส่งเด็กกลุ่มที่ 1 กลับก่อน (เหลือกลุ่มที่ 2อยู่ต่อ) พี่คนที่ 2 เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ถามเด็ก ๆ ว่ามีกระเป๋าใครไหม มีของใครไหม เด็กตอบ "ไม่มี!!!" เมื่อกลับไปถึงห้องได้บอกให้เด็กๆ เช็คข้าวของให้ดี ๆ เพราะเมื่อเย็นตอนพาน้องมาเก็บของ ของน้องหาย!!!
หลังจากนั้นก็ได้ประชุมกับพี่ๆ ทุกคนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามันเป็นใคร!!! กุญแจห้องอยู่กับผู้เข้าพัก กับเจ้าของที่พักเท่านั้น สรุปตอนเช้าค่อยไปคุยกับเจ้าของที่พัก ป้าคะ!!!
6. ตอนเช้าวันที่ 2 เด็กอีกคนมาบอกว่า "โทรศัพท์หายครับ ผมชาร์จแบตไว้ไม่ได้เอาไปด้วย หาทั้งคืนแล้วไม่เจอ เมื่อเช้าหาอีกก็ไม่เจอ โทรหาไม่ได้ครับเพราะไม่มีซิม ผมเอาไว้เล่นเฉย ๆ "เก็บของ! เตรียมไปแข่ง"
7. เวลาประมาณ 7.00น. คุยกับป้าเพื่อเช็คเอาท์ เมื่อเคลียร์ค่ามัดจำกุญแจเสร็จ (ค่าห้องจ่ายทั้งหมดก่อนเข้าเรียบร้อย ถ้าไม่จ่ายคงไม่ได้นอน คืนนี้ไม่ได้นอนเลย) ลองคุยเรื่องของหาย
- พาวเวอร์แบงค์กับโทรศัพท์เด็กหายค่ะ ป้าตอบ "ฉันไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เด็กเยอะแยะ เด็กอาจจะขโมยของกันก็ได้ ไปค้นกระเป๋าสิ แต่ยังไงก็ไม่รับผิดชอบ" ทำไมต้องกล่าวหาว่าเด็กขโมยของ พ่อแม่เขาสอน ครูก็สอน (ขโมยของไม่ดี อย่าทำ!!!) เด็กที่พักด้วยกันเด็กเขาสนิทกัน เพื่อนกัน เขาจะขโมยของกันทำไม คุณคิดจะขโมยของเพื่อนไหม? ทั้ง ๆ ที่คุณเองก็มี
- แต่เมื่อวานไม่มีใครเข้าห้องเพราะออกไปแข่งขันกัน เพิ่งกลับมาแล้วมันจะหายไปได้ยังไง และก็บอกแล้วว่า "ไม่ต้องเข้าไปทำความสะอาดนะคะ" ป้าตอบ
"ก็ที่นี่มันของฉัน ฉันมีสิทธิ์จะเข้า ส่วนของที่หายไปฉันไม่เกี่ยว ไม่ได้ขโมย ฉันจะไปเอาทำไมกับของราคาไม่กี่ร้อย ฉันทำธุรกิจราคาหลักล้าน" อ้าว!! กล่าวหาคนรวยซะงั้น "ไม่มีคำไหนว่าคุณขโมย เราเพียงมาแจ้งที่พักว่า ของหายทางที่พักจะรับผิดชอบอะไรไหมคะ เราไม่ได้บอกว่าขโมย เรามาถามหา
กล้องวงจรปิด เพราะในโฆษณาบอกว่า ที่นี่ปลอดภัย!!!" คำตอบ ที่นี่ไม่มี!!!
เราไม่ได้ต้องการให้คุณมารับผิดของที่หายไป ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้บอกว่า "ไม่ต้องเข้าไปทำความสะอาดนะคะ" เราเท่านั้นมีกุญแจ คุณเท่านั้นมีกุญแจ ใครเข้าห้อง ใครขโมยของ ไม่มีใครรู้ เราต้องการแค่คำว่า ขอโทษซักคำก็ยังดี การแสดงความเห็นใจต่อเพื่อนร่วมโลก และถ้าคุณไม่รู้จักคำว่า "ข อ โ ท ษ" เราก็จะคิดเสียว่า เกิดมาชาตินี้คุณหาดีไม่ได้
-การบริการที่ดีของคุณคือ ป้าคะ ห้องน้ำล็อคไม่ได้ คุณตอบ "ล็อคไม่ได้ก็ไม่ต้องล็อค"
สุดท้ายเรื่องราวที่จะจบลง เหตุการณ์คล้าย ๆ นี้ หลายท่านคงเคยพบกันบ่อย ๆ นั่นคือ การก่อสงครามน้ำลาย @#%@#^^$*%)^*(%$Q%$%
เราแก้ปัญหาโดยการไปแจ้งความว่าของหายที่ "ที่พักแห่งนี้" เราได้ชดเชยค่าเสียหายให้แก่เด็ก อย่างน้อยส่วนหนึ่งเราดูแลเด็กไม่ดีเอง และอยากจะเตือนทุกคนที่หาที่พักว่า สถานที่ดังกล่าว มีจริง อยู่ที่หลังโรงเรียนประจำอำเภอแก้งคร้อ เป็น APARTMENT โดยย่อเป็นภาษาอังกฤษ สองตัว ข้าง ๆ วีวันอพาร์ตเม้นต์ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านกระทู้จนจบ หวังว่าจะเป็นข้อคิดให้กับทุกคนนะคะ สวัสดีค่ะ
[CR] ใครเข้ามาในห้อง:มนุษย์ป้าตัวร้ายกับของใช้ที่หายไป @แก้งคร้อชัยภูมิ
เนื่องจากเราได้แข่งขันช้ากว่าจังหวัดอื่น ๆ สถานที่พักใกล้ ๆ สถานที่แข่งขันเต็มหมด เราจึงได้ค้นหารายชื่อที่พัก โรงแรม ต่าง ๆ ในอำเภอใกล้ๆ สถานที่แข่งขัน ปรากฏว่าเหลืออยู่ที่หนึ่งที่คิดว่าน่าจะปลอดภัยและสะดวกในการเดินทางที่สุด ใช่ค่ะ! เราเลือกจังหวัดชัยภูมิ อำเภอแก้งคร้อนั่นเอง ที่พักที่เราเลือกเขาได้มีการโฆษณาไว้ในอินเทอร์เน็ตว่า
..........." บริการ ห้องพักหรู บรรยากาศดีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์สีจอแบน (LED) เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้เย็น โต๊ะและเตียงนอนที่ได้มาตรฐาน โต๊ะทำงาน Free WiFi ปลอดภัยด้วยระบบคีย์การ์ดและกล้องวงจรปิด".... นั่นหล่ะค่ะ ที่ทำให้เราเลือกที่นี่
....แต่นั่นมันคือความคาดหวังก่อนได้รับบริการ เมื่อเราเข้าใช้บริการที่พักดังกล่าว เรื่องราวต่าง ๆ จึงเกิดขึ้นดังต่อไปนี้
1. เริ่มจากการติดต่อที่พัก โทรติดต่อจองห้องพัก ได้มีการตกลงเรื่องการเข้าพัก ได้ขอเพิ่มจำนวนคนที่เข้าพักเนื่องจากจำนวนห้องที่มีน้อยกว่าจำนวนคน โดยทางที่พักได้ตกลงกับผู้เช่าว่า ถ้าจะเพิ่มคนจะต้องเพิ่มรายหัวอีกหัวละ 50 บาท แต่ไม่มีผ้าห่ม หมอน ที่นอนเพิ่มเข้ามาให้ (อันนี้เข้าใจค่ะว่าทางที่พักอาจจะมีให้ไม่เพียงพอ) ผู้เช่าตกลง ผู้ให้เช่าโอเค มีการจ่ายเงินค่ามัดล่วงหน้าเกินกึ่งหนึ่งของเงินทั้งหมด ผู้เช่าโอนเงินทันทีที่ตกลง
2. ขณะเดินทางไปยังที่พักดังกล่าว เจ้าของที่พักโทรติดตามตลอด(เราเข้าใจท่านอาจจะเป็นห่วงว่าเราอาจจะเดินทางมาไม่ถูก) เมื่อถึงที่พักเจ้าของที่พักเดินเข้ามาถามว่าใครเป็นคนดูแล พร้อมยังไม่ได้ให้ขึ้นนะคะตอนนี้เพราะเจ้าของที่พักยังไม่ได้ให้กุญแจ (เรายกมือ) เจ้าของที่พักจึงให้กุญแจเรา เราจัดแจงให้ทุกคนเข้าที่พักห้องละ 4 คนเรียบร้อย เมื่อเข้าห้องไปแล้วไม่ถึง 5 นาที เจ้าของที่พักได้เดินมาเคาะห้องแล้วถามว่า "ขอพบคนดูแลค่ะ อยากทราบว่าเงินที่เหลือจะจ่ายเลยไหม" เรางง! อ้าว! เช็คอินที่อื่น ตอนเช็คเอาท์ค่อยจ่ายเงินไม่ใช่หรอ? เราก็บอก ค่ะ เดี๋ยวตามลงไปนะคะ เมื่อลงไปป้าแกโวยวายยกใหญ่ว่า เนี่ย! โรงเรียนเนี้ย จองแล้วยกเลิก ทำไมทำแบบนี้ @@#^$#&%^@&^%*% เราก็อ้าว! โวยตรูทำไมวะ ในเมื่อตรูไม่ได้เป็นโรงเรียนที่แกกล่าวถึงสักหน่อย ตรูมาครบ เราเลยลองถามลองคุยเพื่อให้ป้าแกใจอ่อน(ใช้จิตวิทยานิดนึง) สอบถามได้ความว่า "โรงเรียนนั้นโทรมาจองที่หลังหนูสองอาทิตย์ไม่ได้มัดจำด้วยซ้ำ โทรมายกเลิกว่าจะไม่เอา ทำให้เสียสิทธิ์คนอื่นที่มาจอง" เราเลยถามต่อว่า "ป้าคะแล้วเค้าไม่ได้มัดจำหรือคะ" ป้าแกตอบยังไงรู้ไหมคะ "ลูกสาวป้าเป็นคนรับ ป้าไม่ได้รับเอง" แต่อ้าวทีทำไมของเราให้มัดจำ แถมมัดจำมากกว่าครึ่งนึงอีก สองมาตรฐานนี่หว่า ที่คุยไปคุยมาเนี่ยผู้เขียนไม่ได้ถือเงินไงคะ เลยยังไม่ได้จ่าย เพราะพี่อีกคนที่ทำหน้าที่ดูแลค่าใช้จ่ายและเป็นคนจัดการส่วนนี้ยังมาไม่ถึง เลยต้องรอให้พี่ ๆ มาก่อน (เราอยู่ด่านหน้าไง) พี่อีกคนที่มาด้วยกันเห็นเราหายลงมานานเลยมาตามเรา สุดท้ายได้นั่งคุยกัน ฟังป้าแกบ่น ๆ เรื่องลูกค้าอีกกลุ่มนึง แกก็บ่น(ก่นด่า)เสียมากมาย จนสุดท้ายพี่ ๆ อีกกลุ่มที่ตามมาทีหลังกำลังจะมาถึงแต่มาไม่ถูกโทรถามทางกับเรา เราเลยออกไปคุยข้างนอกหน้าที่พักเพื่อบอกทาง ป้าแกก็วิ่งมาบอก "เอาโทรศัพท์มาเดี๋ยวป้าคุยเอง" เราเลยบอกว่า "ไม่เป็นไรค่ะ หนูบอกทางถูก หนูจำได้" เราเดินหนีไปอีกทาง ก็นั่งข้างหน้า แถมเป็นคนเปิด GPS อีก สมองก็ยังดี ยังจำได้ค่ะว่ามายังไง เมื่อพี่ ๆ กลุ่มสุดท้ายมาถึงเราเลยให้ผู้ใหญ่จัดการ บอกตรง ๆ เลยว่าในความคิดเราทำไม ป้าวุ่นวายจัง แต่คิดไปคิดมาเรื่องของธุรกิจมันก็ต้องเป็นแบบนี้เนอะ เราเลยขึ้นไปดูแลนักเรียนต่อ ไม่ได้สนใจอะไร
3. ตอนเช้าวันที่ 1 หลังจากจัดการเด็ก ๆ เรียบร้อยแล้วทางเราได้บอกกับทางที่พักว่า "ไม่ต้องเข้าไปทำความสะอาดนะคะ" (ย้ำหลายรอบมาก!!!) ตอนเย็นพี่คนที่ 1 ได้พาเด็กๆ ส่วนหนึ่งที่แข่งเสร็จแล้วต้องกลับก่อนกลุ่มที่สองมาเก็บของที่ห้องพัก ปรากฏว่า "พาวเวอร์แบงค์หนูหาย!!!" ซักถามเด็กว่าหาทั่วหรือยัง ก็หาจนทั่วแต่ไม่เจอ เมื่อเช้าวางไว้ที่เตียงค่ะ ไม่ได้เอาไปไหน ก่อนออกไปพี่เราก็ได้ถามเด็กแล้วว่า "ไม่เอาได้วยหรือลูก" เด็กบอกไม่เป็นไรเอาไว้นี่แหละค่ะ และพี่สาวเป็นคนเดินจากห้องเป็นคนสุดท้ายและปิดประตู แต่ทำไมกลับมาตอนเย็นแล้วหายไป พี่เรามั่นใจว่า เด็กไม่ได้เอาไปวางไว้บนเตียง! เมื่อลงไปคุยกับป้า บอกว่าไม่รู้ไม่ชี้ แต่พูดว่าอันที่มันอยู่บนนั้นบนนี้ พูดเหมือนรู้ว่ามีอะไรบ้าง อ้าว!!! บอกไม่ให้เข้าไป ทำไมรู้ว่ามีอะไรอยู่ในห้องบ้าง
4. พี่คนที่ 2 กลับไปพักที่ห้องก่อนลืมกุญแจห้องไว้กับน้องอีกคน เมื่อเปิดประตูเข้าไปพบกระเป๋าไม่รู้ของใครวางไว้พร้อมทั้งเสื้อชั้นใน (ยกทรง) สีม่วงลูกไม้สายใหญ่ วางอยู่ พี่คนที่ 2 ตกใจว่าของใคร เพราะไม่ใช่ของแกแน่นอน!!! ใครเข้ามาในห้อง พี่คนที่ 2 ลงไปคุยกะป้า แล้วป้ายังบอกว่า ผ้าเช็ดตัวหาย!!! เอ้า ด ก ท ง ก็เค้ายังไม่กลับยังไม่เช็คเอาท์เลย แถมไม่ได้ให้เข้าไปในห้อง!!! ทำไมรู้ว่า ผ้าเช็ดตัวหาย คำตอบเดิม "ป้าไม่รู้"
5. ตอนเย็นพาเด็ก ๆ ทั้งหมดไปกินข้าวก่อนส่งเด็กกลุ่มที่ 1 กลับก่อน (เหลือกลุ่มที่ 2อยู่ต่อ) พี่คนที่ 2 เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ถามเด็ก ๆ ว่ามีกระเป๋าใครไหม มีของใครไหม เด็กตอบ "ไม่มี!!!" เมื่อกลับไปถึงห้องได้บอกให้เด็กๆ เช็คข้าวของให้ดี ๆ เพราะเมื่อเย็นตอนพาน้องมาเก็บของ ของน้องหาย!!!
หลังจากนั้นก็ได้ประชุมกับพี่ๆ ทุกคนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามันเป็นใคร!!! กุญแจห้องอยู่กับผู้เข้าพัก กับเจ้าของที่พักเท่านั้น สรุปตอนเช้าค่อยไปคุยกับเจ้าของที่พัก ป้าคะ!!!
6. ตอนเช้าวันที่ 2 เด็กอีกคนมาบอกว่า "โทรศัพท์หายครับ ผมชาร์จแบตไว้ไม่ได้เอาไปด้วย หาทั้งคืนแล้วไม่เจอ เมื่อเช้าหาอีกก็ไม่เจอ โทรหาไม่ได้ครับเพราะไม่มีซิม ผมเอาไว้เล่นเฉย ๆ "เก็บของ! เตรียมไปแข่ง"
7. เวลาประมาณ 7.00น. คุยกับป้าเพื่อเช็คเอาท์ เมื่อเคลียร์ค่ามัดจำกุญแจเสร็จ (ค่าห้องจ่ายทั้งหมดก่อนเข้าเรียบร้อย ถ้าไม่จ่ายคงไม่ได้นอน คืนนี้ไม่ได้นอนเลย) ลองคุยเรื่องของหาย
- พาวเวอร์แบงค์กับโทรศัพท์เด็กหายค่ะ ป้าตอบ "ฉันไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เด็กเยอะแยะ เด็กอาจจะขโมยของกันก็ได้ ไปค้นกระเป๋าสิ แต่ยังไงก็ไม่รับผิดชอบ" ทำไมต้องกล่าวหาว่าเด็กขโมยของ พ่อแม่เขาสอน ครูก็สอน (ขโมยของไม่ดี อย่าทำ!!!) เด็กที่พักด้วยกันเด็กเขาสนิทกัน เพื่อนกัน เขาจะขโมยของกันทำไม คุณคิดจะขโมยของเพื่อนไหม? ทั้ง ๆ ที่คุณเองก็มี
- แต่เมื่อวานไม่มีใครเข้าห้องเพราะออกไปแข่งขันกัน เพิ่งกลับมาแล้วมันจะหายไปได้ยังไง และก็บอกแล้วว่า "ไม่ต้องเข้าไปทำความสะอาดนะคะ" ป้าตอบ
"ก็ที่นี่มันของฉัน ฉันมีสิทธิ์จะเข้า ส่วนของที่หายไปฉันไม่เกี่ยว ไม่ได้ขโมย ฉันจะไปเอาทำไมกับของราคาไม่กี่ร้อย ฉันทำธุรกิจราคาหลักล้าน" อ้าว!! กล่าวหาคนรวยซะงั้น "ไม่มีคำไหนว่าคุณขโมย เราเพียงมาแจ้งที่พักว่า ของหายทางที่พักจะรับผิดชอบอะไรไหมคะ เราไม่ได้บอกว่าขโมย เรามาถามหา
กล้องวงจรปิด เพราะในโฆษณาบอกว่า ที่นี่ปลอดภัย!!!" คำตอบ ที่นี่ไม่มี!!!
เราไม่ได้ต้องการให้คุณมารับผิดของที่หายไป ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้บอกว่า "ไม่ต้องเข้าไปทำความสะอาดนะคะ" เราเท่านั้นมีกุญแจ คุณเท่านั้นมีกุญแจ ใครเข้าห้อง ใครขโมยของ ไม่มีใครรู้ เราต้องการแค่คำว่า ขอโทษซักคำก็ยังดี การแสดงความเห็นใจต่อเพื่อนร่วมโลก และถ้าคุณไม่รู้จักคำว่า "ข อ โ ท ษ" เราก็จะคิดเสียว่า เกิดมาชาตินี้คุณหาดีไม่ได้
-การบริการที่ดีของคุณคือ ป้าคะ ห้องน้ำล็อคไม่ได้ คุณตอบ "ล็อคไม่ได้ก็ไม่ต้องล็อค"
สุดท้ายเรื่องราวที่จะจบลง เหตุการณ์คล้าย ๆ นี้ หลายท่านคงเคยพบกันบ่อย ๆ นั่นคือ การก่อสงครามน้ำลาย @#%@#^^$*%)^*(%$Q%$%
เราแก้ปัญหาโดยการไปแจ้งความว่าของหายที่ "ที่พักแห่งนี้" เราได้ชดเชยค่าเสียหายให้แก่เด็ก อย่างน้อยส่วนหนึ่งเราดูแลเด็กไม่ดีเอง และอยากจะเตือนทุกคนที่หาที่พักว่า สถานที่ดังกล่าว มีจริง อยู่ที่หลังโรงเรียนประจำอำเภอแก้งคร้อ เป็น APARTMENT โดยย่อเป็นภาษาอังกฤษ สองตัว ข้าง ๆ วีวันอพาร์ตเม้นต์ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านกระทู้จนจบ หวังว่าจะเป็นข้อคิดให้กับทุกคนนะคะ สวัสดีค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น