เก็บเงินเกษียณ ไม่ยากอย่างที่คิด


เชื่อว่าหลายคนที่ทำงานไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือคนที่มีอาชีพอื่นๆ ก็คงอยากมีเงินเก็บให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เราและคนที่เราห่วงใยสามารถใช้เงินได้อย่างสบายในวันที่เกษียณอายุ หรือทำงานไม่ไหว แต่หลายคนก็มักจะพบกับปัญหาว่า แล้วต้องมีเงินเท่าไหร่เพื่อให้เกษียณแล้วอยู่ได้อย่างสบายๆ และจะเริ่มต้นคิดจากอะไรดี ควรจะออมที่เดือนละเท่าไหร่

วันนี้ K-Expert จะมาแนะนำวิธีวางแผนสำหรับเงินที่ต้องใช้เพื่อการเกษียณกัน

เริ่มแรกคือการคำนวณเงินที่ต้องใช้หลังเกษียณ ในการจะคำนวณเงินว่าเราต้องใช้ในยามเกษียณเท่าไหร่นั้นจะประกอบด้วย 2 เรื่องสำคัญคือ ค่าใช้จ่ายที่เราต้องการต่อเดือนหลังเกษียณจำนวนเท่าไหร่ และระยะเวลาที่เราคิดว่าจะอยู่บนโลกใบนี้หลังเกษียณจำนวนกี่ปี เอามาคำนวณเพื่อให้ได้เงินก้อนที่เราต้องมีในวันที่เราเกษียณ

ค่าใช้จ่าย ที่เอามาคำนวณก็ให้ลองคิดว่าในวัยเกษียณเรายังมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง โดยค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นมักจะน้อยกว่าช่วงที่เราทำงาน เช่น ค่าเดินทางหรือค่าเสื้อผ้า แต่ที่สำคัญคือต้องไม่ลืมที่จะคำนวณเงินเฟ้อเฉลี่ย 3% เข้าไปด้วยเพราะราคาสิ่งของในวันนี้ในอีกปีข้างหน้ามักจะมีราคาแพงขึ้นโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3% หรือก็คือจาก 100 ในปีหน้าจะเป็น 103 บาทนั้นเอง โดย K-Expert  ได้มีการสำรวจว่าค่าใช้จ่ายหลังเกษียณของคนส่วนใหญ่ที่ต้องการจะอยู่ที่ประมาณ 15,500 บาทต่อเดือน หากตอนนี้อายุ 35 ปีและต้องการเกษียณที่อายุ 60 ปี นั่นแปลว่าเงิน 15,500 บาทที่เราต้องการในอีก 25 ปีข้างหน้าจะกลายเป็น 32,500 บาทนั่นเอง

ระยะเวลา ที่คาดว่าน่าจะมีชีวิตอยู่หลังเกษียณ ยกตัวอย่างเช่นหลังจากเกษียณเมื่ออายุ 60 ปีเราคิดว่าจะมีอายุจนถึง 85 ปี นั่นแปลว่า เราจำเป็นต้องมีเงินใช้จ่ายต่อเดือนที่ 32,500 บาทในอีก 25 ปีหลังเกษียณ
เมื่อเราได้ทั้งจำนวนเงิน และ ระยะเวลาแล้ว ก็นำมาคำนวณได้เลยจากตัวอย่างคือ เงินต่อเดือนที่เราต้องการคือ 32,500 บาทคูณ 12 เดือนจะได้เท่ากับเราต้องมีจำนวนเงิน 390,000 บาทต่อปีและเมื่อไปคำนวณกับจำนวนปีที่เราคิดว่าเราต้องมีชีวิตอยู่คือ 25 ปีแสดงว่าก่อนการเกษียณเราต้องมีจำนวนเงินทั้งหมดประมาณ 9.7 ล้านบาทนั่นเอง
  
เรื่องต่อมาคือจำนวนเงินที่ต้องออมต่อเดือนเพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย ในการที่เราจะรู้ว่าเราจะต้องออมต่อเดือนเท่าไหร่นั้น นอกจากปัจจัยสำคัญคือ เงินในกระเป๋าที่เราสามารถออมได้ต่อเดือน และจำนวนเงินที่เราต้องการตอนเกษียณแล้ว ยังขึ้นอยู่กับอายุในการเริ่มออม และผลตอบแทนจากการออมด้วย เพราะเรายิ่งเริ่มต้นออมได้เร็วเท่าไหร่หากลงทุนที่ได้ผลตอบแทนเท่ากันจำนวนเงินที่ต้องออมก็จะน้อยลง โดยในส่วนผลตอบแทนนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้แค่ไหนด้วยนะ โดยที่จะคำนวณจากเริ่มเกษียณในอายุ 60 ปี เบื้องต้นสามารถดูยอดออมต่อเดือนที่ตารางด้านล่างได้เลย

ทั้งนี้ในการเลือกออมเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนดังที่ต้องการนั้น หากนำเงินออมที่มีไปลงทุนในตราสารหนี้ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ จะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3% ต่อปี ส่วนใครที่รับความเสี่ยงได้บ้าง แต่ก็ไม่อยากนำเงินไปลงทุนในหุ้นทั้งหมด ก็สามารถลงทุนแบบผสม โดยมีทั้งหุ้นและตราสารหนี้ ผลตอบแทนประมาณ 5-7% ต่อปี และใครที่รับความเสี่ยงได้สูงนำเงินไปลงทุนในหุ้นหรือกองทุนหุ้น คาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี ทั้งนี้การลงทุนในแต่ละแบบก็มีความเสี่ยงควรศึกษาก่อนตัดสินใจกันด้วยนะ จากนั้นก็ขึ้นกับวินัยของการออมของแต่ละคนกันแล้วนะครับ

K-Expert ขอแนะนำอีกนิดหากเราเลือกที่จะออมและเรายังมีรายได้ที่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีแล้วเราสามารถเลือกลงทุนผ่าน กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เป็นกองทุนที่เปิดโอกาสให้เราออมเงินเพื่อใช้ในวัยเกษียณ อีกทั้งยังสามารถนำยอดเงินลงทุนไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของเงินได้ที่เสียภาษี โดยในแต่ละปีเมื่อนำไปรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และเบี้ยประกันบำนาญจะต้องไม่เกิน 5 แสนบาท เงื่อนไขสำคัญในการลงทุนกองทุน RMF คือ ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปีไปจนถึงอายุ 55 ปี (เว้นได้อย่างมาก 1 ปี) และเงินลงทุนก้อนแรกต้องลงทุนมาแล้วอย่างน้อย 5 ปี จึงจะสามารถขายกองทุนได้โดยไม่ผิดเงื่อนไข การลงทุนในกองทุน RMF จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้แผนเกษียณของเราเป็นไปตามเป้าหมายได้

เพื่อนๆ สามารถนำเทคนิคนี้ไปใช้กันได้ ลำบากวันนี้แต่สบายในวันหน้า ยิ่งเราเริ่มต้นออมได้เร็วโอกาสที่จะสำเร็จดังที่ตั้งเป้าหมายไว้ก็มีโอกาสสูงขึ้นเช่นกัน ใครมีเทคนิคอื่นๆก็ร่วมแชร์กันได้เลยนะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่