JP Trip D1 < Nagoya > ข้าวหน้าปลาไหลสูตรพิเศษที่ Atsuta Houraiken กับงานแสดงไฟ Nabana no Sato Winter Illumination :
https://ppantip.com/topic/37192573
JP Trip D2 < Takayama > หมู่บ้านอารยธรรม Hida Folk Village และ Hida Beef อร่อย นุ่ม ชุ่มลิ้น :
https://ppantip.com/topic/37195818
JP Trip D4 < Takayama > Shin-Hotaka Ropeway และอาหารร้อนๆ ท่ามกลางพายุหิมะ :
https://ppantip.com/topic/37212842
JP Trip D5-D6 <Osaka> กินจุ๊บจิ๊บ กินจุ๊บจิ๊บ Shinsaibashi Dotonbori Namba :
https://ppantip.com/topic/37220305
JP Trip D7 < Osaka > Endo Sushi ซูชิเจ้าดังแห่ง Osaka (มีสาขาในกรุงเทพด้วยนะเออ = w =) :
https://ppantip.com/topic/37229134
JP Trip Day3 : Shirakawago ดินแดนมรดกท่ามกลางหิมะสีขาว กับ Hida Beef Challenge ร้านต่อปายยยย
วันนี้เราจะออกไปเที่ยว Shirakawago หมู่บ้านมรดกโลกชื่อดังกันแต่เช้า โดยใช้ Nouhi Bus นะครับ
ก่อนอื่นก็ใช้ Takayama Hokuriku Area Tourist Pass มาแสดง พร้อม Passport เพื่อขอรับตั๋วครับ
ปล. เคสของผม คือโทรจองที่นั่งรถ Nouhi Bus ตั้งแต่ที่ไทยแล้ว พอบอกเค้า เค้าจะให้แจ้ง code ตัวเลข 10 ตัวที่เจ้าหน้าที่เคยแจ้งไว้ครับ แต่ถ้าไม่ได้มาช่วงเทศกาล ไม่จำเป็นต้องโทรจองก็ได้ มาจองตอนวันแรกที่มาถึงทาคายาม่าหรือซื้อสดที่สถานีเลยก็ยังได้ครับ คนไม่ได้แน่นขนาดนั้น (แต่การโทรจองก็ทำได้ไม่ยากเช่นกัน พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้อยู่ แต่สิ่งที่ควรเตรียมข้อมูลไว้คือ จะจองกี่คน ไปวันไหน ขาไปกี่โมง ขากลับกี่โมง)
ดูข้อมูลเกี่ยวกับ Nouhi Bus ได้ที่ลิงก์นี้ครับ :
https://www.nouhibus.co.jp/english/
อันนี้รอบรถครับ ดูเงื่อนไขและเวลาดีๆ นะครับ :
https://www.nouhibus.co.jp/route_bus/takayama-shirakawago-line-en/
ถ้าถามว่าควรอยู่ที่ Shirakawago นานแค่ไหน ถ้าไปกลับในวันเดียวกัน ตอนก่อนผมไป ผมก็มีคำถามนี้ในใจ ผมว่าแล้วแต่คนมากกว่า บางคนอยากดูวิวนานๆ ชอบถ่ายรูปเยอะๆ ก็อาจจะซัก 5-6 ชั่วโมง แต่ถ้ากรณีมีผู้ใหญ่ไปด้วย ซึ่งอาจจะให้เดินเยอะๆ แบบวัยรุ่นก็คงไม่ไหว สัก 4 ชั่วโมงก็เหลือเฟือแล้วครับ เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้กว้างอะไรมากมาย แต่คนส่วนใหญ่จะใช้เวลาถ่ายรูป ดูวิว ซื้อของฝากมากกว่า ซึ่งร้านของฝากที่นี่ก็มีของสวยๆ แปลกๆ เยอะเหมือนกันนะครับ
ก่อนไปก็ตุนขนมซะหน่อย ระหว่างรอรถบัสที่สถานีครับ ผมได้ไดฟุกุสตรอเบอร์รี่มาก้อนนึง จำราคาไม่ได้แต่ไม่แพงเลยครับ
พอใกล้เวลาแล้วก็ออกมารอที่ช่องจอดรถหมายเลข 4 Shirakawago Line โลดดดด
รถมาแล้วก่อนขึ้นรถก็เตรียมตั๋วให้เจ้าหน้าที่ตรวจให้พร้อมนะครับ เค้าจะฉีกตั๋วส่วน "ขาไป" ออก
วิวสองข้างทางระหว่างที่มุ่งหน้าไป Shirakawago สวยพอสมควรเลยนะครับ โดยเฉพาะหน้าหนาว หิมะนี่ขาวโพลนเลย แต่ทางลอดอุโมงก์ก็เยอะเหมือนกันเพราะถนนต้องตัดทะลุภูเขาเข้าไป แต่ละอุโมงก์ก็สั้นยาวต่างกันไป อุโมงก์ที่ยาวที่สุดลึก 11 กิโลเมตรได้
ใช้เวลาประมาณ 50 นาที เราก็จะมาถึงที่ที่จอดรถบัส Shirakawago ครับ
ตรงนั้นจะมี Information Center สามารถเข้าไปสอบถามเส้นทาง หรือข้ออมูลได้ครับ มีแผนที่แจกให้ด้วย
หน้าตาก็จะประมาณนี้ครับ (แบบภาษาไทยก็มีนะ แต่ไม่ได้ถ่ายติดมา)
ถ้าลายตาดูอันนี้ประกอบก็ได้ Bus terminal คือจุดที่เราอยู่ครับ ค่อยๆ เดินชมวิวชิวๆ ครับ
มาถึงตอนสายๆ แดดจ้ามากครับ แต่ขอโทษ 2 องศาเซลเซียสจ้า บรึ๋ยๆๆ
ถ้างงหรือกลัวหลงก็เดินตามฝูงชนไปครับ มีเพื่อนเดินเพียบทั้ง ญี่ปุ่น จีน ไทย ฝรั่ง มาครบ
บ้านที่เป็นร้านขายของฝากเองก็มีเยอะ ของแต่ละร้านก็มีมากมาย ต้องมาลองดูเองครับ ทั้งเสื้อ ขนม ของทำมือ ไม้แกะสลัก ผ้าม่าน บลา บลา บลา
ขนม ของกิน เครื่องดื่มก็มีให้ซื้อทานได้ (ยืนกินหน้าร้านนะเออ อย่าเดินกิน) แนะนำ เนื้อฮิดะย่างเสียบไม้กับโคร็อกเกะสอดไส้เนื้อฮิดะ อ้อเต้าหู้ปลาอีกอย่างครับ ผู้ใหญ่ที่ไปด้วยกันบอกว่าอร่อยเลยแหละ
ที่นี่บ้านบางหลังเปิดให้เข้าชม โดยคงเอกลักษณ์การดำเนินชีวิตแบบเดิมๆ ไว้ แต่ต้องเสียเงินนะเออ
ขาวโพลนไปหมด ใครชอบวิวแบบไหน เลือกมุมถ่ายรูปตามอัตภาพเลย
หนาวๆ แบบนี้ ต้องกินซอฟท์ครีมท้าลมหนาวครับ มีทั้งของ Cremia ที่เนื้อครีมเนียน หอมรสนม หวานอร่อยกลมกล่อม กับ อีกแบบเป็น ซอฟท์ครีมรสมาซูกุเมล่อนที่หวานแบบผลไม้ เนื้อนุ่ม เลือกเอาตามอัธยาศัยเลย
หลังถ่ายวิวจนสบายใจแล้วก็มายืนต่อคิวรอตรงนี้ เพื่อรอขึ้นรถบัสไปจุดชมวิวครับ
ต้องท้าวความก่อนว่าจมชมวิวบนเชา หรือ Shiroyama Sightseeing Point ในฤดูหนาวนักท่องเที่ยวจะเดินขึ้นมาเองไม่ได้ครับ ต้องเดินทางด้วยรถบัสเล็ก สนนราคาเที่ยวละ 200 YEN ทั้งขาขึ้นและขาลง
หน้าตารถก็จะประมาณนี้ครับ ถ้านักท่องเที่ยวมารอคิวเยอะๆ ก็จะอัดกันพอสมควรเลยแหละ
อันนี้เป็นคลิปที่ผมถ่ายตอนนั่งรถตู้ขาขึ้นครับ บังเอิญนั่งหน้าพอดี เลยรัดเข็มขัด แล้วเอามือถือแนบพุง ทางลาดชันนิดนึง แถมลื่นเพราะหิมะละลายด้วย ใช้เวลา 3-4 นาทีก็ถึง
พอขึ้นมาถึงด้านบนก็จะเจอลานจอดรถ มีหลายช่องอยู่ครับ หน้าเทศกาลน่าจะคนมาใช้บริการเยอะแน่ๆ
นักท่องเที่ยวพรึบ ตรงนี้สามารถให้เจ้าหน้าที่ถ่ายรูปกลุ่มเรากับป้ายให้แล้วรอรับได้เลยด้วยนะครับ ราคา 1,500 YEN เค้าจะใส่เป็นกรอบกระดาษให้ หรืออยากจะถ่ายเองก็ฟรี ตามอัธยาศัยเลยครับ
ข้างบนก็มีร้านของฝากเช่นกัน
เสร็จธุระข้างบนแล้ว ก็มารอรถขาลงตรงจุดเดิมที่เราลงนั่นแล พอลงมาแล้ว เราก็เตรียมมาหามื้อกลางวันกัน
ร้านนี้ไม่ได้หาข้อมูลเตรียมมาล่วงหน้า แต่เดินแรมด้อมเข้าไปทานเลยครับ
ชื่อร้าน : Irori (いろり)
เวลาทำการ : 10.00-14.00 น.
ราคา : ประมาณ 2,000 - 3,000 YEN
เมนูแนะนำ : เนื้อฮิดะเสียบไม้ หม้อไฟทั้งหลายน่ากินมาก
Tabelog Link :
https://tabelog.com/en/gifu/A2104/A210404/21003222/
Tripadvisor :
https://th.tripadvisor.com/Restaurant_Review-g1119912-d5036818-Reviews-Irori-Shirakawa_mura_Ono_gun_Gifu_Prefecture_Chubu.html
ขอสารภาพว่าลืมถ่ายเมนูครับ เพราะมัวแต่เช็ครูปในมือถือ
อันนี้เป็นเนื้อฮิดะย่างโฮบะมิโสะ เมนูโปรดผมเอง ราคาเซ็ตนี้ 1,800 เยน เหมือนจะถูกกว่าที่ Takayama แต่ปริมาณเนื้อก็น้อยกว่า แถมผมรู้สึกชอบเครื่องเคียงร้านที่ Takayama มากกว่าด้วย (หมายถึงร้าน Hidatakuma ในกระทู้ก่อนครับ)
อีกเมนูเป็นของผู้ใหญ่ที่มาด้วยกัน
เอาจริงๆ ก็อิ่มอยู่นะครับ แต่มันไม่จุใจอะ XD เลยสั่งเนื้อฮิดะเสียบไม้ย่างกับทามาโกะยากิราดมิโสะมาเพิ่ม
เอาให้เต็มที่ ก่อนกลับ
พอเริ่มเข้าช่วงบ่าย นักท่องเที่ยวยิ่งเยอะครับ
ถ่ายรูปจนพอใจแล้วก็เตรียมจรลีกลับครับ
Bye Bye Shirakawago แล้วเจอกันใหม่โอกาสหน้านะ ; D
[CR] JP Trip D3 < Takayama > Shirakawago ดินแดนมรดกโลกสีขาวในหน้าหนาว กับ Hida Beef อีกครั้ง
JP Trip D2 < Takayama > หมู่บ้านอารยธรรม Hida Folk Village และ Hida Beef อร่อย นุ่ม ชุ่มลิ้น : https://ppantip.com/topic/37195818
JP Trip D4 < Takayama > Shin-Hotaka Ropeway และอาหารร้อนๆ ท่ามกลางพายุหิมะ : https://ppantip.com/topic/37212842
JP Trip D5-D6 <Osaka> กินจุ๊บจิ๊บ กินจุ๊บจิ๊บ Shinsaibashi Dotonbori Namba : https://ppantip.com/topic/37220305
JP Trip D7 < Osaka > Endo Sushi ซูชิเจ้าดังแห่ง Osaka (มีสาขาในกรุงเทพด้วยนะเออ = w =) : https://ppantip.com/topic/37229134
JP Trip Day3 : Shirakawago ดินแดนมรดกท่ามกลางหิมะสีขาว กับ Hida Beef Challenge ร้านต่อปายยยย
วันนี้เราจะออกไปเที่ยว Shirakawago หมู่บ้านมรดกโลกชื่อดังกันแต่เช้า โดยใช้ Nouhi Bus นะครับ
ก่อนอื่นก็ใช้ Takayama Hokuriku Area Tourist Pass มาแสดง พร้อม Passport เพื่อขอรับตั๋วครับ
ปล. เคสของผม คือโทรจองที่นั่งรถ Nouhi Bus ตั้งแต่ที่ไทยแล้ว พอบอกเค้า เค้าจะให้แจ้ง code ตัวเลข 10 ตัวที่เจ้าหน้าที่เคยแจ้งไว้ครับ แต่ถ้าไม่ได้มาช่วงเทศกาล ไม่จำเป็นต้องโทรจองก็ได้ มาจองตอนวันแรกที่มาถึงทาคายาม่าหรือซื้อสดที่สถานีเลยก็ยังได้ครับ คนไม่ได้แน่นขนาดนั้น (แต่การโทรจองก็ทำได้ไม่ยากเช่นกัน พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้อยู่ แต่สิ่งที่ควรเตรียมข้อมูลไว้คือ จะจองกี่คน ไปวันไหน ขาไปกี่โมง ขากลับกี่โมง)
ดูข้อมูลเกี่ยวกับ Nouhi Bus ได้ที่ลิงก์นี้ครับ : https://www.nouhibus.co.jp/english/
อันนี้รอบรถครับ ดูเงื่อนไขและเวลาดีๆ นะครับ : https://www.nouhibus.co.jp/route_bus/takayama-shirakawago-line-en/
ถ้าถามว่าควรอยู่ที่ Shirakawago นานแค่ไหน ถ้าไปกลับในวันเดียวกัน ตอนก่อนผมไป ผมก็มีคำถามนี้ในใจ ผมว่าแล้วแต่คนมากกว่า บางคนอยากดูวิวนานๆ ชอบถ่ายรูปเยอะๆ ก็อาจจะซัก 5-6 ชั่วโมง แต่ถ้ากรณีมีผู้ใหญ่ไปด้วย ซึ่งอาจจะให้เดินเยอะๆ แบบวัยรุ่นก็คงไม่ไหว สัก 4 ชั่วโมงก็เหลือเฟือแล้วครับ เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้กว้างอะไรมากมาย แต่คนส่วนใหญ่จะใช้เวลาถ่ายรูป ดูวิว ซื้อของฝากมากกว่า ซึ่งร้านของฝากที่นี่ก็มีของสวยๆ แปลกๆ เยอะเหมือนกันนะครับ
ก่อนไปก็ตุนขนมซะหน่อย ระหว่างรอรถบัสที่สถานีครับ ผมได้ไดฟุกุสตรอเบอร์รี่มาก้อนนึง จำราคาไม่ได้แต่ไม่แพงเลยครับ
พอใกล้เวลาแล้วก็ออกมารอที่ช่องจอดรถหมายเลข 4 Shirakawago Line โลดดดด
รถมาแล้วก่อนขึ้นรถก็เตรียมตั๋วให้เจ้าหน้าที่ตรวจให้พร้อมนะครับ เค้าจะฉีกตั๋วส่วน "ขาไป" ออก
วิวสองข้างทางระหว่างที่มุ่งหน้าไป Shirakawago สวยพอสมควรเลยนะครับ โดยเฉพาะหน้าหนาว หิมะนี่ขาวโพลนเลย แต่ทางลอดอุโมงก์ก็เยอะเหมือนกันเพราะถนนต้องตัดทะลุภูเขาเข้าไป แต่ละอุโมงก์ก็สั้นยาวต่างกันไป อุโมงก์ที่ยาวที่สุดลึก 11 กิโลเมตรได้
ใช้เวลาประมาณ 50 นาที เราก็จะมาถึงที่ที่จอดรถบัส Shirakawago ครับ
ตรงนั้นจะมี Information Center สามารถเข้าไปสอบถามเส้นทาง หรือข้ออมูลได้ครับ มีแผนที่แจกให้ด้วย
หน้าตาก็จะประมาณนี้ครับ (แบบภาษาไทยก็มีนะ แต่ไม่ได้ถ่ายติดมา)
ถ้าลายตาดูอันนี้ประกอบก็ได้ Bus terminal คือจุดที่เราอยู่ครับ ค่อยๆ เดินชมวิวชิวๆ ครับ
มาถึงตอนสายๆ แดดจ้ามากครับ แต่ขอโทษ 2 องศาเซลเซียสจ้า บรึ๋ยๆๆ
ถ้างงหรือกลัวหลงก็เดินตามฝูงชนไปครับ มีเพื่อนเดินเพียบทั้ง ญี่ปุ่น จีน ไทย ฝรั่ง มาครบ
บ้านที่เป็นร้านขายของฝากเองก็มีเยอะ ของแต่ละร้านก็มีมากมาย ต้องมาลองดูเองครับ ทั้งเสื้อ ขนม ของทำมือ ไม้แกะสลัก ผ้าม่าน บลา บลา บลา
ขนม ของกิน เครื่องดื่มก็มีให้ซื้อทานได้ (ยืนกินหน้าร้านนะเออ อย่าเดินกิน) แนะนำ เนื้อฮิดะย่างเสียบไม้กับโคร็อกเกะสอดไส้เนื้อฮิดะ อ้อเต้าหู้ปลาอีกอย่างครับ ผู้ใหญ่ที่ไปด้วยกันบอกว่าอร่อยเลยแหละ
ที่นี่บ้านบางหลังเปิดให้เข้าชม โดยคงเอกลักษณ์การดำเนินชีวิตแบบเดิมๆ ไว้ แต่ต้องเสียเงินนะเออ
ขาวโพลนไปหมด ใครชอบวิวแบบไหน เลือกมุมถ่ายรูปตามอัตภาพเลย
หนาวๆ แบบนี้ ต้องกินซอฟท์ครีมท้าลมหนาวครับ มีทั้งของ Cremia ที่เนื้อครีมเนียน หอมรสนม หวานอร่อยกลมกล่อม กับ อีกแบบเป็น ซอฟท์ครีมรสมาซูกุเมล่อนที่หวานแบบผลไม้ เนื้อนุ่ม เลือกเอาตามอัธยาศัยเลย
หลังถ่ายวิวจนสบายใจแล้วก็มายืนต่อคิวรอตรงนี้ เพื่อรอขึ้นรถบัสไปจุดชมวิวครับ
ต้องท้าวความก่อนว่าจมชมวิวบนเชา หรือ Shiroyama Sightseeing Point ในฤดูหนาวนักท่องเที่ยวจะเดินขึ้นมาเองไม่ได้ครับ ต้องเดินทางด้วยรถบัสเล็ก สนนราคาเที่ยวละ 200 YEN ทั้งขาขึ้นและขาลง
หน้าตารถก็จะประมาณนี้ครับ ถ้านักท่องเที่ยวมารอคิวเยอะๆ ก็จะอัดกันพอสมควรเลยแหละ
อันนี้เป็นคลิปที่ผมถ่ายตอนนั่งรถตู้ขาขึ้นครับ บังเอิญนั่งหน้าพอดี เลยรัดเข็มขัด แล้วเอามือถือแนบพุง ทางลาดชันนิดนึง แถมลื่นเพราะหิมะละลายด้วย ใช้เวลา 3-4 นาทีก็ถึง
พอขึ้นมาถึงด้านบนก็จะเจอลานจอดรถ มีหลายช่องอยู่ครับ หน้าเทศกาลน่าจะคนมาใช้บริการเยอะแน่ๆ
นักท่องเที่ยวพรึบ ตรงนี้สามารถให้เจ้าหน้าที่ถ่ายรูปกลุ่มเรากับป้ายให้แล้วรอรับได้เลยด้วยนะครับ ราคา 1,500 YEN เค้าจะใส่เป็นกรอบกระดาษให้ หรืออยากจะถ่ายเองก็ฟรี ตามอัธยาศัยเลยครับ
ข้างบนก็มีร้านของฝากเช่นกัน
เสร็จธุระข้างบนแล้ว ก็มารอรถขาลงตรงจุดเดิมที่เราลงนั่นแล พอลงมาแล้ว เราก็เตรียมมาหามื้อกลางวันกัน
ร้านนี้ไม่ได้หาข้อมูลเตรียมมาล่วงหน้า แต่เดินแรมด้อมเข้าไปทานเลยครับ
ชื่อร้าน : Irori (いろり)
เวลาทำการ : 10.00-14.00 น.
ราคา : ประมาณ 2,000 - 3,000 YEN
เมนูแนะนำ : เนื้อฮิดะเสียบไม้ หม้อไฟทั้งหลายน่ากินมาก
Tabelog Link : https://tabelog.com/en/gifu/A2104/A210404/21003222/
Tripadvisor : https://th.tripadvisor.com/Restaurant_Review-g1119912-d5036818-Reviews-Irori-Shirakawa_mura_Ono_gun_Gifu_Prefecture_Chubu.html
ขอสารภาพว่าลืมถ่ายเมนูครับ เพราะมัวแต่เช็ครูปในมือถือ
อันนี้เป็นเนื้อฮิดะย่างโฮบะมิโสะ เมนูโปรดผมเอง ราคาเซ็ตนี้ 1,800 เยน เหมือนจะถูกกว่าที่ Takayama แต่ปริมาณเนื้อก็น้อยกว่า แถมผมรู้สึกชอบเครื่องเคียงร้านที่ Takayama มากกว่าด้วย (หมายถึงร้าน Hidatakuma ในกระทู้ก่อนครับ)
อีกเมนูเป็นของผู้ใหญ่ที่มาด้วยกัน
เอาจริงๆ ก็อิ่มอยู่นะครับ แต่มันไม่จุใจอะ XD เลยสั่งเนื้อฮิดะเสียบไม้ย่างกับทามาโกะยากิราดมิโสะมาเพิ่ม
เอาให้เต็มที่ ก่อนกลับ
พอเริ่มเข้าช่วงบ่าย นักท่องเที่ยวยิ่งเยอะครับ
ถ่ายรูปจนพอใจแล้วก็เตรียมจรลีกลับครับ
Bye Bye Shirakawago แล้วเจอกันใหม่โอกาสหน้านะ ; D
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น