JP Trip D1 < Nagoya > ข้าวหน้าปลาไหลสูตรพิเศษที่ Atsuta Houraiken กับงานแสดงไฟ Nabana no Sato Winter Illumination : https://ppantip.com/topic/37192573
JP Trip D2 < Takayama > หมู่บ้านอารยธรรม Hida Folk Village และ Hida Beef อร่อย นุ่ม ชุ่มลิ้น : https://ppantip.com/topic/37195818
JP Trip D3 < Takayama > Shirakawago ดินแดนมรดกโลกสีขาวในหน้าหนาว กับ Hida Beef อีกครั้ง : https://ppantip.com/topic/37203155
JP Trip D5-D6 <Osaka> กินจุ๊บจิ๊บ กินจุ๊บจิ๊บ Shinsaibashi Dotonbori Namba : https://ppantip.com/topic/37220305
JP Trip D7 < Osaka > Endo Sushi ซูชิเจ้าดังแห่ง Osaka (มีสาขาในกรุงเทพด้วยนะเออ = w =) : https://ppantip.com/topic/37229134

JP Trip Day4 : Shin-Hotaka Ropeway ฝ่าดงหิมะ ขึ้นสู่ยอดเขา ที่ก็ยังคงเต็มไปด้วยดงหิมะ T^T


มาถึงวันที่สี่ แหกขี้ตาตื่นแต่เช้าเพื่อความคุ้มค่าของการท่องเที่ยวเช่นเคย วันนี้เรามีเป้าหมายในครั้งนี้คือ Shin-Hotaka Ropeway

ท้าวความกันก่อน

1. Shin-Hotaka Ropeway คืออะไรเป็นสถานที่แบบไหน

Shin-Hotaka Ropeway เป็นสถานีกระเช้าสำหรับขึ้นไปด้านบนจุดชมวิวแนวเทือกเขา Japan Alps ซึ่ง ณ จุดชมวิวตรงนั้นสูงถึง 2,156 m จากระดับน้ำทะเล ทิวทัศน์ด้านบนภูเขาก็จะเป็นแนวต้นสนเรียงรายและเทือกเขา Japan Alps ซึ่งตั้งตระหง่านท้าทายสายตานักท่องเที่ยวอย่างเราๆ สุดๆ โดยระหว่างทางขึ้นกระเช้าจะมีการต่อกระเช้า (เคยได้ยินแต่ต่อรถ ต่อเรือ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ต่อกระเช้า 555+) ซึ่งจากกระเช้าแรกไปกระเช้าที่สอง ในช่วงฤดูหนาว เราจะได้เดินเล่นผ่านดงหิมะ และต้นสนเป็นระยะทางสั้นๆ แถมที่จุดชมวิวด้านบนยังสามารถเดินออกมาเล่นหิมะได้ด้วย โดยที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู โดยเฉพาะช่วงใบไม้แดงหรือฤดูหนาว ปล.หิมะนุ่มมากกกกกกกกกกกก

Tripadvisor : https://th.tripadvisor.com/Attraction_Review-g298113-d1407432-Reviews-Shinhotaka_Ropeway-Takayama_Gifu_Prefecture_Chubu.html

2. การเดินทางมาที่ Shin-Hotaka Ropeway

สามารถมาได้จากหลายทาง ทั้งจาก Takayama, Matsumoto หรือจะมาแวะก่อนหรือหลังเที่ยว Kamikoji ก็ยังได้ หรือถ้าใครมาไกลกว่านั้น เช่น จาก Nagoya, Osaka, Nagano อาจจะเหนื่อยกับการเดินทางนิดนึงเพราะนั่งรถนาน แนะนำให้มาพักแถวๆ Takayama หรือ Matsumoto ก่อนน่าจะสบายกว่าครับ โดยในครั้งนี้ผมเดินทางด้วย Nouhi Bus (อีกแล้ว) จาก Takayama มา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 35 นาทีก็ถึง โดยระหว่างทางก็มีวิวภูเขา วิวหิมะมากมายให้ชมไม่ขาดเลย (คล้ายๆ การนั่งรถขึ้นเขาครับ)

ข้อมูลการเดินทางจาก web ของ Shin-Hotaka Ropeway : http://shinhotaka-ropeway.jp.e.uk.hp.transer.com/access/
รอบรถและข้อมูลเพิ่มเติมจาก Nouhi Bus : https://www.nouhibus.co.jp/route_bus/shinhotaka-line-en/

3. ราคาค่าเดินทางและค่าขึ้นกระเช้า พร้อมตั๋วแบบประหยัด

3.1 ค่าเดินทางด้วยรถบัสจาก Takayama (อันนี้ขอให้ข้อมูลเป็น Route จาก Takayama เท่านั้นนะครับ)

อันนี้เป็นราคา ณ เดือนธันวาคม ปี 2017 จาก Takayama - Shin-Hotaka Ropeway เที่ยวละ 2,160 YEN ไป-กลับ 4,320 YEN

เช็คราคาปัจจุบัน : https://www.nouhibus.co.jp/route_bus/shinhotaka-line-en/

3.2 ค่าขึ้นกระเช้าที่ Shin-Hotaka Ropeway เพื่อไปจุดชมวิว


ผู้ใหญ่ ไป-กลับ (ณ เดือนธันวาคม ปี 2017) ราคา 2,900 YEN / คน

เช็คราคาปัจจุบัน : http://shinhotaka-ropeway.jp.e.uk.hp.transer.com/price/

3.3 ตั๋วสุดคุ้ม Okuhida Marugoto Value Ticket 2D


ราคา : 5,150 YEN (ซื้อได้จาก JTB ข้างๆ ร้านขายของฝากระหว่าง JR Takayama Sta. กับ Nouhi Bus Center // ตรงข้าม Family Mart ใหญ่ๆ)
โดยตอนแรก เค้าจะถามเราว่าจะเริ่มใช้บัตรวันไหนดี เราก็เอาวันที่เราจะไปนั่นล่ะครับแจ้งเขา เขาก็จะออกเอกสาร A4 มาให้เรา 3 ใบ เก็บเอาไว้ให้ดี พอถึงวันที่เราจะเดินทาง ก็ให้เอาเอกสารชุดนั้น พร้อม Passport ไปแสดงที่ Nouhi Bus Center เค้าจะให้เป็นตั๋วสีเหลืองๆ แบบด้านบนมาครับ

สิทธิประโยชน์ :
- สามารถเดินทางไป-กลับจาก Takayama <--> Shin-Hotaka Ropeway กี่ครั้งก็ได้ ภายใน 2 วัน นับจากวันที่เปิดใช้ตั๋ว
(คือสามารถค้างคืนที่โรงแรมแถวๆ Shin-Hotaka Ropeway / Hirayu Onsen แล้วกลับวันถัดไปได้)
- สามารถแลกตั๋วขึ้นกระเช้า Shin-Hotaka Ropeway ไป-กลับ ได้ 1 ชุด (แลกตั๋วขึ้นกระเช้าวันไหน ขึ้นได้แค่วันนั้นครั้งเดียวนะเออ)
- ใช้บริการแช่ออนเซ็นที่ Hirayu Onsen ได้ฟรี 1 ครั้ง (600 YEN)


แถมยังสามารถเอาตั๋วไปใช้ลดราคาค่าเข้าที่เที่ยวเช่นพวกฟาร์มหมี ถ้ำหินปูน ได้ด้วย (ลดได้ประมาณ 20%)
ถ้ามีโอกาสไปครั้งหน้าจะศึกษาวิธีใช้ให้คุ้มกว่านี้ แต่เอาจริงๆ แค่ค่ารถ Nouhi Bus กับกระเช้าก็คุ้มสุดพลังแล้วครับ

4. การเตรียมตัว และความปลอดภัย


อันนี้ผู้ใหญ่ที่พาเด็กๆ มาเที่ยวหรือวัยรุ่นที่พาคุณพ่อคุณแม่มาเที่ยว อาจจะสงสัยว่า จะเหนื่อยรึเปล่า จะปลอดภัยไหม
เอาจริงๆ เลยนะครับ มันไม่ได้มีจุดไหนที่ต้องเหนื่อยหรืออันตรายเลย พอเรามาถึงสถานี Shin Hotaka Ropeway ด้านล่างเป็นร้านของฝาก เดินขึ้นบันไดไปก็จะเจอชั้นห้องขายตั๋วและจุดรอกระเช้าตัวแรก พอขึ้นกระเช้าตัวแรก มีเจ้าหน้าที่ดูแลก่อนขึ้นก่อนลงอย่างดี ใช้เวลาแค่ 4 นาทีก็ถึงทางเชื่อม ตรงนี้ถ้ามาหน้าหนาวจะทางเดินให้ผ่านไปสถานีที่สอง ซึ่งเค้าจะปูยางกันลื่นให้เดินเป็นทาง หรือใครอยากเล่นหิมะจะออกไปย่ำทางเดินรอบนอกก็ตามสะดวก พอถึงสถานีที่สองก็มีเตาผิง มีร้านขายเครื่องดื่ม เช่น นมร้อน กาแฟร้อน ก่อนจะขึ้นกระเช้าตัวที่สองไปด้านบน ใช้เวลาอีก 7 นาที ด้านบนจะมีเป็นจุดชมวิว มีรั้วกั้นอย่างดี แถมที่จริง คนพิการก็มาเที่ยวได้นะครับ ในทุกตึกที่มีบันได มีลิฟท์ให้บริการพร้อม เห็นใน website เขียนว่าถ้าแสดงบัตรคนพิการ มีส่วนลดค่าขึ้นกระเช้าให้ 50% ด้วย (แต่ถ้าซื้อ Value Ticket มาแล้วก็อดอยู่ดีนะครับ = w ='')

เอาล่ะ เวิ่นเว้อมานานแล้ว มาเริ่มลุยกันเลย


เอาเอกสารมาแล้วตั๋วให้พร้อม แล้วก็ไปรอรถกันโลด งวดนี้รอที่ป้ายหมายเลข 5 จ้า !!


ยิ่งนั่งรถขึ้นสูงไปเรื่อยๆ วิวข้างทางยิ่งขาวโอโม่ขึ้นเรื่อยๆ พอยิ่งสูงเริ่มเห็นเค้าลาง หิมะตกหนักมากและหมอกด้านบนเริ่มโผล่มารางๆ


ชักเริ่มไม่ราง 555+ พอเริ่มเข้าย่านที่มีบ้านพักและโรงแรมที่มีออนเซ็น บรรยากาศก็เริ่มดูคล้ายๆ ในเมืองมากขึ้นครับจากที่เป็นต้นสนและแม่น้ำมาตลอดทาง ข้างนอกรถหิมะตกหนักมากพอสมควร


แอบอยากเอามือจุ่มอะ อยากรู้ว่าเย็นแค่ไหน (อากาศ ณ ตอนนั้นคือ -4 องศาเซลเซียสครับ)

พอใกล้ถึง Ropeway ก็จะเจอรีสอร์ทและออนเซ็นประปราย มีนักท่องเที่ยวขึ้นรถกลางทางบ้างเหมือนกันครับ ช่วงใกล้ๆ ถึง Ropeway


ถึงแล้วววววว มองขึ้นไปบนเขาแล้วหมอกหนาเวอร์ ก่อนลงให้โชว์ตั๋วส่วนตรงกลาง (ตั๋วรถบัส) หรือจะโชว์ทั้งใบก็ได้ให้พนักงานดูก้ได้ครับ

ปล. ตั๋วรถเก็บไว้ให้ดีนะครับ ห้ามหาย เพราะเรายังต้องใช้ขากลับอีก ถ้าทำหายต้องจ่ายเพิ่มอีก 2,160 YEN เลยนะเออ รักษายิ่งชีพ


ร้านขายของฝากชั้น 1 ครับ ใหญ่พอสมควร ที่นี่มีมาสคอตคือ คุณตุ๊กตาหิมะ ชื่อ "นิชิโฮะคุง"


เดินขึ้นมาก็จะเจอจุดขายตั๋วครับ ให้เรามาแลกตั๋ว Okuhida Marugoto Value Ticket ส่วนที่สาม (ขวาสุด) ให้กลายเป็นตั๋วขึ้นกระเช้าครับ


ได้มาเป็นแบบนี้แล้ว เราก็เดินไปต่อแถวขึ้นกระเช้าโลด ตอนก่อนขึ้นจะมีพนักงานมา stamp ตั๋วให้ครับ อันนี้จะเป็นกระเช้าตัวแรกที่ขึ้นไประยะไม่ไกลเท่าไหร่ ใช้เวลาประมาณ 4 นาที


คนแน่นมากกกกก วิวข้างนอกส่วนใหญ่เป็นต้นไม้ที่ผลัดใบหมดแล้วกับหิมะขาวโพลน


พอมาถึงทางเชื่อมระหว่างกระเช้าตัวที่ 1 และ 2 หรือที่นี่เค้าจะเรียกว่า สถานี Nabedaira Kogen (ตรงนี้สามารถขับรถยนต์ขึ้นมาถึงได้ แต่ไม่รู้ขึ้นมาจากจุดไหนเหมือนกันเพราะไม่เห็นรถเลยครับ เห็นแต่หิมะ หิมะ และหิมะ) ก็ถึงเวลาเดินเล่นชมหิมะขาวๆ สักเล็กน้อย หยิบมาปาให้หนำใจ ลบปมวัยเด็กตอนไปเที่ยวดรีมเวิลด์แล้วได้แต่ไถลบอร์ดครับ T w T แค่ 1-2 นาทีก็ถึงสถานีกระเช้าตัวที่สองละ แต่แถวนี้คนหยุดถ่ายรูปกันพอสมควรเลย


ผมปรึกษากับผู้ใหญ่ที่มาด้วยกันแล้ว เราจะปล่อยให้กรุ๊ปทัวร์ก่อนหน้าเราขึ้นไปก่อนครับ เพราะเราไม่รีบ นั่งจิบนมร้อน จิบกาแฟ แล้วก็เดินชมวิวรอบนอก (กระเช้าจะมาทุกๆ 30 นาทีครับ)


เห็นเตาแบบนี้แล้วอยากปิ้งบาร์บีคิวหรือมาร์ชเมลโล่แบบในการ์ตูนมากกกก 555 จริงๆ สำหรับกองไฟนี้จุดประสงค์เค้าคือแค่ให้ความอบอุ่นครับ


ตรงนี้ก็มีอีกจุดขายตั๋วสำหรับคนที่ขึ้นมาด้วยรถยนต์ครับ