10 หนัง“จบไม่ลงคนมีแผล(ใจ)”แห่งศตวรรษที่ 21


ลิสต์นี้พูดถึงหนังที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักโดยโฟกัสไปยังช่วงเวลาแห่งความทุกข์ ความเจ็บปวด ความเศร้าโศกและการเรียนรู้ที่จะข้ามผ่านหลังจากต้องพบกับการสูญเสีย การเลิกรา หรือการถูกทอดทิ้ง…

สำหรับสมาชิกท่านใดที่มีหนังเรื่องไหนอยากจะแนะนำเพิ่มเติมก็มาคอมเม้นท์แสดงความคิดเห็นกันได้นะครับ…
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

10. Demolition (2015)

เป็นหนังที่มีเนื้อหา coming of age ที่ถูกเล่าในรูปแบบหนังตลกร้าย โดยพูดถึงชายหนุ่มที่สูญเสียคนรักจากอุบัติเหตุรถยนต์ นั่นทำให้เขาต้องพบกับจุดพลิกผันสำคัญและต้องเรียนรู้ที่จะข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆที่ถาโถมเข้ามา ซึ่งจุดน่าสนใจของหนังคือ เบื้องหลังของความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ตัวเอกที่สูญเสียคนรักแต่กลับดูนิ่งเฉย ไม่เคยแสดงอาการที่บ่งบอกถึงความโศกเศร้าเสียใจออกมาภายนอก มันไม่ใช่เพราะเขาไม่รักภรรยา แต่ทุกอย่างรวดเร็วมากจนไม่มีเวลาตั้งตัว ชีวิตทั้งหมดได้พังทลายลงไปต่อหน้า เขาจึงต้องกลับมาสำรวจความสัมพันธ์และทบทวนตัวเองอีกครั้ง เพื่อมองหาปัญหา และแก้ไขมันเพื่อให้ชีวิตก้าวเดินต่อไปได้








9. The Notebook (2004)

เชื่อว่าทุกๆคนต้องเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับความรัก โดยเฉพาะช่วงวัยเรียน ประถม มัธยม หรือมหาลัยที่มีโอกาสได้พบเจอคนมากมาย และอาจได้ใกล้ชิด ผูกพันกับใครสักคนจนก่อเกิดเป็นความรักแบบคนหนุ่มสาว แม้ท้ายที่สุดจะเป็นความรักที่ไม่สมหวัง อาจด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่มันจะเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่จำฝังใจไปตลอดชั่วชีวิต ซึ่งนั่นก็เป็นความรักในแบบที่ The Notebook แสดงให้เห็น กับพล็อตที่ว่าด้วยความรักของชายหนุ่มธรรมดาๆกับลูกสาวเศรษฐี และท้ายที่สุดความรักก็ต้องยุติลง เนื่องจากถูกครอบครัวฝ่ายหญิงกีดกัน และด้วยสัญญารัก ความทรงจำดีๆทำให้ฝ่ายชายยังยึดติด ผูกพัน จนไม่สามารถเริ่มต้นรักครั้งใหม่กับใครได้








8. Lars and the Real Girl (2007)

ใครสักคนเมื่อผ่านประสบการณ์เลวร้าย หรืออาจถูกกระทำย่ำยีเกี่ยวกับความรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันก็ไม่แปลกที่คนเหล่านั้นจะเกิดการปิดกั้น ไม่ศรัทธา และไม่เชื่อเรื่องการมีอยู่ของรักแท้ ซึ่งก็คล้ายคลึงกับกรณีของตัวเอกในเรื่องนี้ ที่เป็นชายหนุ่มที่มีบุคลิกสุภาพเรียบร้อย แต่กลับปิดกั้นตัวเองจากสังคม ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับคนรอบข้าง อีกทั้งเมื่อได้เปิดเผยว่าคนรักของตนเป็นหุ่นตุ๊กตายาง ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของเขาในสายตาคนทั่วไปดูผิดแปลกมากยิ่งขึ้น โดยเมื่อลงลึกในรายละเอียด หนังก็สื่อให้เห็นว่าชายคนนี้ได้มีปมเบื้องหลังไม่ดีเกี่ยวกับความรัก และนั่นเป็นการตอบคำถามว่าทำไมเขาถึงเลือกสานความสัมพันธ์กับหุ่นตุ๊กตา ที่เปรียบเสมือนตัวแทนของความรักที่มั่นคงและยืนยาว








7. A Single Man (2009)

มักจะมีคำถามเกี่ยวกับความรักของเพศทางเลือกหรือเพศที่สาม ว่าความรักนั้นเป็นของจริงแท้แค่ไหน มันเป็นความรักที่ยั่งยืนหรือไม่ หรือแท้จริงเป็นเพียงความรู้สึกดีๆแค่เพียงชั่ววูบ ซึ่งหนังเรื่องนี้จะแสดงให้เห็นนิยามของคำว่ารักแท้ ที่เกิดขึ้นระหว่างชายสองคน ที่คนหนึ่งจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้อีกคนต้องจมอยู่กับความโศกเศร้า ความเจ็บปวด ไม่สามารถกลับใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปได้ และอีกส่วนสำคัญนอกจากประเด็นหนังคือ การถ่ายทำ งานโปรดักชั่นต่างๆที่ดูสวยงาม หรูหราเหมาะกับภาพลักษณ์ของ Tom Ford เป็นอย่างมาก








6. A Ghost Story (2017)

ช่วงต้นยุค 90s มีหนังรักในตำนานอย่าง Ghost ที่พูดถึงชายที่ตายไปแล้ว แต่ยังรู้สึกผูกพัน อาลัยอาวรณ์ และคอยเฝ้ามอง คอยใกล้ชิดคนรักในรูปแบบของวิญญาณ ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็มีคอนเซ็ปต์ พล็อตเรื่องที่คล้ายคลึงกันมาก แต่โทนเรื่องที่เล่าออกมาค่อนข้างขึงขัง จริงใจ ไม่ดูฟูมฟาย อีกทั้งมีการต่อยอดไอเดียซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจมาก เมื่อหนังพาไปสำรวจและแสดงให้เห็นถึงความผูกพันต่อวัตถุ สถานที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ก่อร่างและสร้างเรื่องราวดีๆขึ้นมาในช่วงชีวิต จนทำให้วิญญาณของคนๆหนึ่งไม่สามารถหลุดจากบ่วงแห่งความทรงจำได้








5. Sideways (2004)

เชื่อว่าหลายๆคนคงได้ยินคำพูดที่ว่า เวลาอกหักหรือเสียใจอะไรมากๆ ให้ออกไปเที่ยว พบปะผู้คน ดีกว่าหมกตัว คิดเรื่องฟุ้งซ่านอยู่คนเดียว ซึ่งนั่นก็เป็นประเด็นที่เชื่อมโยงกับหนังเรื่องนี้ ที่พูดถึงชายคนหนึ่งที่ล้มเหลวในหน้าที่การงาน อีกทั้งต้องแยกทางกับคนรัก ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาเกิดไอเดียที่จะชวนเพื่อนสนิท ออกเดินทางเที่ยวชิมไวน์ตามแหล่งชนบท แน่นอนว่าหนังใช้การดำเนินเรื่องเหมือน road movie ทั่วไปๆที่ระหว่างทางตัวละครจะได้เรียนรู้ ค้นพบสิ่งสำคัญบางอย่างของชีวิต แต่จุดที่โดดเด่นของเรื่องนี้คือความเป็นธรรมชาติและความสมจริง ทั้งจากวิธีการดำเนินเรื่อง และตัวบทที่การันตีคุณภาพโดยบทดัดแปลงยอดเยี่ยมจากออสการ์








4. Eternal Sunshine of the Spotless Mind (2004)

บทหนังจาก Charlie Kaufman เรียกได้ว่าเป็นความพิเศษที่สุดอย่างหนึ่งของหนัง กับการเล่นกลไกของความทรงจำที่มีต่อความรักในรูปแบบที่สดใหม่ เมื่อทุกคนต่างรู้ดีว่าความรักและการเลิกราเป็นของคู่กัน และเมื่อความรักยุติลงสิ่งที่ตามและเกิดขึ้นกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคือความรู้สึกเจ็บปวด ความโศกเศร้า ความเกลียดชังที่อยากจะลบมันออกไป แต่ท้ายที่สุดกลับพบว่าสิ่งที่อยากลบ มันกลับมีเรื่องราว มุมมองดีๆบางอย่างและกลายเป็นสิ่งที่อยากจดจำมากที่สุด ซึ่งนั่นคือคอนเซ็ปต์หลักของหนังเรื่องนี้ที่เล่นพล็อตเกี่ยวกับชายหนุ่มที่พบว่าความรักของตนกำลังจะสิ้นสุดลง และพยายามหาวิธีที่จะลบความทรงจำเกี่ยวกับคนรัก เพื่อให้ชีวิตได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง








3. Her (2013)

เป็นหนังรักที่เซ็ทภาพโลกอนาคตที่ดูสะอาด งดงาม แต่กลับอบอวนด้วยบรรยากาศและอารมณ์เหงาๆ ซึ่งก็ไม่ง่ายเลยหากใครสักคนจะใช้ชีวิตโดดเดี่ยวในโลกแบบนี้ ยิ่งหากคนๆนั้นเพิ่งพบเจอกับความเจ็บปวด ความเศร้าโศกของการจากลา มันก็ยิ่งแทบเป็นไปไม่ได้เลย ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอกของเรื่อง และหลังจากเลิกรากับคนรัก เขาก็ได้มาเจอกับปัญญาประดิษฐ์ที่มีเสียงโต้ตอบเป็นผู้หญิง มีความคิด การเรียนรู้ วิวัฒนาการที่ไม่ต่างอะไรไปจากมนุษย์ มาคอยรับฟัง ให้คำแนะนำต่างๆ ซึ่งนั่นก็ช่วยให้ความเจ็บปวดและความเหงาค่อยๆเสื่อมคลายลง จนเกิดเป็นความรักที่อยู่เหนือข้อจำกัดของความเป็นมนุษย์








2. Half Nelson (2006)

บางคนอาจเคยผ่านประสบการณ์ความรักที่ไม่สมหวัง การอกหัก การถูกทอดทิ้ง ที่ทำให้สภาพจิตใจ ความคิด และตัวตนดั้งเดิมที่เคยเป็นอยู่เปลี่ยนแปลงไป จนส่งผลกระทบต่อเรื่องการเรียน หน้าที่การงาน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอกของเรื่องแต่ไม่ใช่ทั้งหมด โดยเขาเป็นครูหนุ่มที่สอนวิชาประวัติศาสตร์ ที่อยู่ๆก็ต้องแยกทางกลับคนรัก นั่นทำให้เขาต้องจมอยู่กับความทุกข์ ความโศกเศร้า และต้องกลายเป็นเหยื่อของยาเสพติดชนิดโงหัวไม่ขึ้น เรียกได้ว่าชีวิตส่วนตัวพังยับเยินไม่เป็นท่า แต่ทว่าในเรื่องการงาน บทบาทของความเป็นครู เขาก็ยังพยายามทำหน้าที่ให้อย่างดีที่สุด ทั้งการสั่งสอนด้านวิชาการ ความรู้นอกห้องเรียน แนวคิดการใช้ชีวิตต่างๆเพื่อหวังให้ลูกศิษย์ของเขามีอนาคตที่ดี ต่างไปจากเบื้องหลังชีวิตแย่ๆที่เขากำลังเผชิญอยู่








1. Manchester by the Sea (2016)

เป็นเรื่องราวที่เรียบง่าย แต่ถูกถ่ายทอดออกมาได้สมจริงอย่างมากที่สุด เท่าที่หนังสักเรื่องจะทำได้กับการอธิบายเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่พบกับโศกนาฏกรรมและต้องแยกทางกับคนรัก โดยหนังจะพาคนดูไปสำรวจชีวิตของชายคนนี้หลังผ่านมรสุมชีวิตด้วยจังหวะการเล่าช้าๆที่ดูพิถีพิถัน เพื่อให้คนดูค่อยๆซึมซับและทำความเข้าใจต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น จนเป็นที่มาของตัวตนที่แปลกแยก ตัดขาดออกจากสังคม ไม่สุงสิงกับใคร พร้อมทั้งการแสดงอันยอดเยี่ยมทั้งจากสีหน้า ท่าทางของ Casey Affleck กับบุคลิกอันเข้มขรึม ใบหน้าที่ดูอมทุกข์เสมือนคนที่ผ่านเรื่องราวในชีวิตมามากมาย ก็ยิ่งทำให้คนดูอินและเข้าใจถึงความเจ็บปวดของตัวละครนี้ได้ดี
.
.
.
.
.
.
.
ตัวอย่างลิสต์ที่เคยเขียนไว้
https://ppantip.com/profile/672088

10 หนังไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่องแห่งศตวรรษที่ 21
10 หนังระทึกขวัญแห่งการ “สอดรู้สอดเห็น” ยอดเยี่ยมตลอดกาล
10 หนัง"ผมไม่ใช่ฆาตกร?" (Primal Fear style) ที่คุณไม่ควรพลาด
10 หนังตลกร้ายยอดเยี่ยมตลอดกาล
10 หนังที่จบสะเทือนใจคนดูมากที่สุดในศตวรรษที่ 20
10 หนังอีโรติกทริลเลอร์ยอดเยี่ยมตลอดกาล
10 หนังระทึกขวัญ(ลูปเวลา)แห่งศตวรรษที่ 21
10 หนังรักต้องห้ามยอดเยี่ยมตลอดกาล
10 หนังไซไฟ-ไซเบอร์พังก์ยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษที่ 21
10 หนังระทึกขวัญเเห่งการนอกใจ
10 หนังสยองขวัญเชิงจิตวิทยา ยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษที่ 21
10 หนังที่เข้าถึงบทบาทของความบ้าคลั่ง แห่งศตวรรษที่ 21
10+(1) หนังมือสังหารยอดเยี่ยมเเห่งศตวรรษที่ 21
10 หนังที่หักมุมทำร้ายจิตใจคนดูได้มากที่สุดในศตวรรษที่ 21
10 หนังสืบสวนที่การันตีคุณภาพ ด้วยการเข้าชิงออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
10 หนังทริลเลอร์เชิงจิตวิทยาแห่งปี 2017 ที่คุณไม่ควรพลาด
10 หนังแห่งความซับซ้อน ชวนให้ครุ่นคิด
10 หนังสืบสวนไซไฟยอดเยี่ยม
10 หนังอาชญากรรมสมบูรณ์เเบบ
20 หนังทริลเลอร์จิตวิทยายอดเยี่ยมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2012 - 2016)
20 หนังจิตวิตก (Mindbender) ยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษที่ 21
20 หนังทริลเลอร์จิตวิทยาแห่งศตวรรษที่ 21 ที่คุณไม่ควรพลาด
50 หนังหักมุมยอดเยี่ยมตลอดกาล
50 หนังสืบสวนยอดเยี่ยมเเห่งศตวรรษที่ 21
50 หนังเเนวลึกลับที่คุณไม่ควรพลาด




ทวิตเตอร์เพจ @Review_Me_ พูดคุยหนังเเละซีรีส์



ขออนุญาตฝากเพจนะครับ

https://www.facebook.com/Criticalme



เเละขออนุญาตฝากไอจีเพจด้วยนะครับ @puneak_b
เป็นพื้นที่สำหรับรีวิวหนังสือนิยายต่างๆโดยเฉพาะแนวสืบสวน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่