ขอแชร์มุมมองทางเทคนิคในภาพใหญ่(ปรกติในระดับวีค เป็นภาพที่สะท้อนทางเทคนิคได้เด่นชัดและเชื่อถือได้ที่สุดอันหนึ่ง) ผมเองรู้สึกแปลกใจกับภาพทางเทคนิคปัจจุบันของ SQ มาก เพราะพลิกตำราหายาก ผมต้องไล่ดูหุ้นหลากหลาย เพราะหน้าตาแบบนี้หายากมาก เพราะไม่ได้เป็นคลื่น Impulse มักจะเกิดจากข่าวร้ายที่มากระทบรุนแรงแบบกะทันหัน ซึ่งเกิดกับหุ้นขาขึ้นมาก่อนในภาพใหญ่ระดับวีค ซึ่งโดยส่วนใหญ่การพลิกจากแพทเทิร์นขาขึ้นเป็นขาลงแบบรุนแรงทันที ราคาหุ้นหลุดแนวรับทุกเส้นในวันเดียวและลงต่ำกว่ายอดคลื่น1  ทำให้เกิดแท่งเทียนแดงยาวเป็นหน้าผาชัน 90 องศา ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย แม้แต่ข่าวร้ายในเรื่องงบการเงินที่ผิดหวังก็ไม่สามารถทำให้เกิดภาพนี้ได้ ยังไงก็ยังฟอร์มตัวเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปเสมอ แต่ภาพแบบนี้มักเกิดกับหุ้นที่มีข่าวร้ายระดับรุนแรงสูงสุดเช่นไฟไหม้โรงงาน(เคยเกิดขึ้นมาในหุ้น SVI) หรือข่าวอะไรก็ตามที่กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนอย่างรุนแรง และเมื่อปรากฏภาพแบบนี้จะเป็นอย่างไรต่อ ในภาพใหญ่นี้ตามทฤษฎีการลงที่แรงสุดท้ายก็จะเกิดการรีบาวด์แรงตามมา ผมลองใช้เส้นฟีโบเป็นแนวรองรับเพื่อหาแนวรีบาวด์ ซึ่งการรีบาวด์ตามหลักฟีโบแนชชี่ สามารถไปได้ในระดับ 50% และ 61.8% จากจุดต่ำสุด ในระยะเวลาใกล้เคียงกับคลื่น X ที่ฟอร์มตัวซึ่งกรอบเวลาที่นับได้คือ 3 เดือน นั่นหมายความว่าหากจบคลื่น C เมื่อไหร่นับไปอีก 3 เดือน และการลงแบบนี้จะจบขา ABC ได้เร็วกว่าคลื่น X ซึ่งหากนับจากวันที่ 8 ลงมา คาดว่าจบคลื่น C ประมาณต้นปีจากนั้นอีก 2-3 เดือนจะได้เห็นการรีบาวด์ชุดใหญ่ ทำยอดคลื่นที่ 6.8-7.1 ลองดูภาพข้างล่างซึ่งผมลองเอา SVI มาเทียบดูก็จบคล้ายกัน


ส่วนที่มีบางคนพยายามปั่นข่าวร้ายกระทืบซ้ำว่าจะเป็นแบบ EARTH ผมบอกได้เลยว่าไม่มีทาง ให้มาวัดกันอีก 3-4 เดือนข้างหน้าแล้วเซฟกระทู้เก็บไว้ได้เลยครับ การฟอร์มตัวของ EARTH ต่างกันมาก เพราะเป็นการไซเวย์ดาวน์มาเป็นปีๆ ก่อนจะลงแรง ตามรูป



สติคือสิ่งที่ท่านต้องมีหากอยากพ้นคำว่าวงจรแมงเม่า กับข่าวรายใหญ่ขาย ผมมองว่าเป็นผลกระทบระยะสั้นที่ไม่ได้มีผลกับผลประกอบการอะไรเลย ขอให้คิดหลายๆรอบก่อนจะขาย ผมเชื่อว่า 90% ที่ถือหุ้นตัวนี้ติดกันหมด ถ้าคุณขายไปแล้วใครจะซื้อครับ ตามทฤษฎีผลประโยชน์