จากกระทู้นี้ค่ะ
https://ppantip.com/topic/36924543
หลังจากวันนั้น ชีวิตเราดีขึ้นค่ะ หมายถึงเรื่องความสบายใจ วันแรกที่แยกกันเป็นวันที่เรานอนหลับสนิทที่สุด ก็แปลกใจเหมือนกัน มันรู้สึกเหมือนปิดสวิตช์เรื่องของเค้าทั้งหมดที่เกี่ยวกับเค้า ทั้งๆที่เราก็ยังอยู่ที่เดิม บ้านหลังเดิม อะไรเดิมๆ แต่ไม่ได้นึกถึงเค้าเลย มีแต่เค้าที่แม่เค้ามาเล่าให้ฟังว่าแม่นอนไม่หลับเลยเพราะเค้ากินเหล้าหนัก กลับบ้านดึกแทบทุกคืน บอกอะไรก็ไม่ฟัง น้องสาวเค้าบอกว่าเค้าชอบที่ไม่มีใครมาบ่นมาว่าเรื่องกินเหล้า จะทำอะไรก็ได้
พอผ่านไปได้สักพัก ประมาณต้นเดือนพ.ย.แม่เค้าโทรมาบอกว่าให้โทรหาลูกชายเค้าให้หน่อยเห็นบอกว่าอยู่กรุงเทพเมืาอคืนก็ไม่กลับบ้าน เค้าจะโทรถามว่าไปทำไมแต่ไม่กล้ากลัวลูกเค้าจะโกรธเลยให้เราถามให้ เราเลยโทรไป ตอนนั้นเราขายของอยู่ค่ะ เค้าบอกว่าอยู่กรุงเทพจริงแต่ไม่ได้ไปคนเดียว เราเลยถามว่ามีอะไร เล่าให้ฟังได้มั๊ยแม่เป็นห่วง เค้าเล่าให้ฟังว่า ตอนนี้กำลังจะโดนออกจากงานเพราะเรื่องชู้สาว (ผู้หญิงคนนั้นจากที่ได้ยินมาจากสามีเก่าด้วยจากคนอื่นด้วยว่าเค้าเป็นหนี้เยอะมาก ใช้เงินเก่งแต่เป็นหนี้แล้วไม่จ่าย มาทวงก็ไม่จ่ายบอกไม่มี แล้วอ่อยสามีคนอื่นในที่ทำงานเกือบทุกคนที่เรารู้จักแต่ไม่มีใครเล่นด้วยเพราะเค้ารู้นิสัยว่าเป็นยังไง มีแต่เรื่องเงินมาเกี่ยวประมาณว่าหลอกยืมเงิน โดยสามีของผู้กญิงคนนั้นก็รู้เห็นด้วย แต่เรื่องนี้จริงแค่ไหนเราก็ไม่ทราบค่ะ)
กลับมาเข้าเรื่องต่อ เค้าเล่าว่า ต้องหนีออกมาก่อนเพราะสามีของผู้หญิงเค้าไม่ยอม จะเอาเรื่อง เค้าเล่าต่อว่าคืนเกิดเหตุการณ์ เค้าก็ไปกินเหล้าปกติ แต่พอเพื่อนเค้าหลับเค้าได้มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น(ก่อนหน้านั้นเค้ามีอะไรกันมาก่อนแต่เพื่อนเค้าไม่รู้ สามีเก่าเราเป็นคนเล่าให้ฟังเอง แล้วก็เพื่อนที่ทำงานเค้าเล่าให้ฟังว่าทำอะไรกันเปิดเผยจนไม่กลัว เค้ารู้กันหมดว่ามีอะไรกัน) ลูกของเพื่อนเค้าเห็นเลยไปบอกพ่อจึงมีเรื่องชกต่อยกัน เลยต้องพากันหนีมานอนข้างนอกแล้วเช้าก็ไปกรุงเทพไปหาญาติเพื่อของความช่วยเหลือเรื่องที่พัก
พอเราได้ฟัง เราเหมือนล้มทั้งยืน มันอึนไปหมด น้ำตาไหล ฟังต่อไม่ได้ จนต้องบอกเค้าว่าขอวางสายก่อนแล้วจะโทรไปใหม่ ตอนนั้นเราขายของอยู่ ขายไปน้ำตาไหลไป อยากกลับเข้าบ้านแต่เข้าไม่ได้เพราะกลัวลูกไม่มีตังกินเลยต้องทนขายจนปิดร้าน
มันไม่ได้เสียใจแบบนั้นแต่มันเหมือนผิดหวังในตัวเค้าว่าทำไมทำอะไรไม่คิด เป็นชู้กับเมียเพื่อนจนเสียงาน งานเค้าดีมาก มีสวัสดิการเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ ลูกเรียนฟรีถึงป.ตรี แต่เค้าไม่สนอะไรเลย ทำตามใจตัวเอง แต่เราพอรู้คร่าวๆว่าเค้ามีคนอื่นตั้งแต่ก่อนแยกกัน คือตอนที่ออกรถมาได้เดือนกว่าๆ เพราะพฤติกรรมเค้าเปลี่ยนไป แต่ไม่คิดว่าจะเป็นผู้หญิงคนนี้ คนที่เราเคยยกมือไหว้ ผู้หญิงคนนี้เค้าอายุ38 เป็นคนที่ทำงานเดียวกัน และเป็นคนที่เค้าเคยว่าให้ฟังว่าเป็นคนไม่ดี ในใจก็เสียใจ อีกใจก็ห่วงว่าจะโดนหลอกเอาเงิน แล้วก็จริงๆ เค้าเอารถมอ'ไซค์ไปเข้าไปแนนซ์มา20,000เอาไปให้ผู้หญิงคนนั้น รถคันนี้พึ่งส่งหมด อดทนส่งกันมาพึ่งหมดได้ไม่กี่เดือน แล้วคนรู้จักและญาติเค้าก็เล่าให้ฟังว่าไปยืมเงินแต่ไม่มีใครให้เค้าเลยเอาพระไปจำนำไว้10,000นึง
กลับมาตอนที่เราโทรกลับไปนะคะ พอทำใจได้ประมาณเกือบชม.เราก็โทรกลับไป ถามเค้าว่าจะเอาไงต่อ เค้าบอกคงต้องหางานทำที่กรุงเทพให้ญาติหาให้ เค้าบอกไม่ต้องห่วง แล้วบอกว่าตอนนี้ให้เราหาเงินให้ลูกไปก่อน(ก่อนนี้ตกลงกันไว้ว่าขอให้ช่วยส่งให้ลูกเดือนละ3,000 แต่เค้าส่งได้สองเดือนเพราะเค้าออกงาน) เพราะเค้ายังไม่มี เค้าก็ขอโทษ เราเลยบอกไปว่ามีอะไรให้ช่วยก็บอก แต่เรื่องเงินคงช่วยไม่ได้ เรามารู้ทีหลังว่าเค้าไปยืมเงินน้องสาวเค้าอีก2,000
ตอนนั้นที่พูดแบบนั้นไปเพราะรู้สึกห่วงจริงๆ คงไม่ได้รักเค้าแล้วเลยไม่ได้โกรธอะไร แต่พอผ่านเรื่องนี้มา นน.เราจาก45 ลดลงเหลือ 40 ภายในเวลาไม่ถึงเดือน เราคงเครียดเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะเราต้องรับผิดชอบหมด กลัวไม่พอ
แต่ตอนนี้ก็เริ่มๆกลับมาทานได้เหมือนเดิม นน.ขึ้นมา2กิโล
พอเริ่มทำใจได้ เค้าดันกลับมา กลับมาปลายเดือนพ.ย. มาขอโอกาสจากเรา บอกว่าตอยนี้เค้าไม่มีใครแล้ว และเค้ารู้แล้วว่าเค้ารักเรา เค้าจะไม่ทำตัวแบบนั้นอีก แต่เราปฏิเสษค่ะ เพราะเราให้โอกาสเค้ามาหลายหนแล้ว เค้าก็ทำไม่ได้
ตอนนี้เค้าไม่มีงานทำ ทำได้ก็ออกบอกไม่ไหว งานหนักเงินก็น้อยไม่พอส่งหนี้ เค้าเลยจะชวนเราไปขายของที่กรุงเทพ บอกเราจะได้ไม่อายคนที่กลับมาคบกับเค้าอีก เพราะตอนนี้เพื่อนที่ทำงานเค้าก็ไม่มีใครแล้ว คงไม่ได้กินเหล้าอีกเหมือนเดิม แต่ก็ขอกินแต่จะเบาลง แล้วจะเอาใจเราให้มากกว่าเดิม ตอนนี้เค้าไม่เหลือใครแล้ว เค้ามีแต่เรา เราก็ยังยืนยันค่ะว่าไม่กลับไปแน่นอน จนแม่เค้ามาพูดกับเราว่ารังเกียจที่ลูกเค้าไม่มีงานทำเหรอ เราเสียใจค่ะมี่เค้าคิดแบบนั้น แต่จะทำยังไงล่ะคะ ลูกก็โตทุกวัน ต้องกินต้องใช้ แล้วจะให้เรากลับไปลำบากกับเค้าอีก เค้าบอกว่าเดี๋ยวก็ทำงาน เค้าก็ส่งหนี้ เรื่องกินคงต้องรบกวนเราไปก่อน อันนี้แม่เค้าบอกนะคะ คือง่ายๆ มาบอกให้เราคืนดีกับลูกเค้า เพราะเค้ากลัวลูกเค้าเตลิด มาของให้เราพูดกับลูกเค้าดีๆเพรากลัวลูกเค้าคิดมาก ในหัวเรานี่มีแต่คำถามว่าแล้วเราล่ะ แล้วเราล่ะ ทำไมไม่มีใครเห็นใจบ้าง ตัวเราเองลำบากไม่เท่าไหร่ แต่จะให้ลูกไปลำบากด้วยเหรอ แต่จริงๆแล้วแม่เค้าดีกับเรามากนะคะ แต่เค้าคงเครียดเรื่องลูกเค้าเลยพูดไปแบบนั้น
ตอนนี้เราก็แย่นะคะ ไปสมัครงานทิ้งไว้หลายที่ ได้ที่นึงที่เรียกไปสอบกับสัมภาษณ์ คือในกองบินค่ะ แต่ไม่รู้จะได้รับเข้างานหรือเปล่าเพราะมีคนได้สอบเยอะมาก แต่รับแค่สองคน แต่ก็ยังดีกว่าเราไม่ทำอะไรเลย ได้ไม่ได้ไม่เป็นไร ถ้าได้ก็จะขายของวันหยุดด้วย มีงานหลักและเสริมยังไงก็ดีขึ้น
ขอบคุณมากๆนะคะที่อ่านจนจบเพราะยาวมากๆ จริงๆมีรายละเอียดมากว่านี้เยอะ แต่คงเล่าไม่หมด ยังไงก็ขอบคุณมากๆสำหรับกำลังที่ผ่านมา ตอนนี้เค้าก็มาง้อทุกวันค่ะแต่เราไม่กลับไปแน่นอน มันก็เหนื่อยบ้างท้อบ้างแต่ยังมีลูกที่เป็นกำลังใจสำคัญอยู่ ตอนแรกแย่เลยค่ะพูดตรงๆอยากมีแฟนมากเพราะรู้สึกเหงา แต่จริงๆแล้วเราแค่อยากมีคนคุยด้วย มีคนปรึกษา ไม่ใช่อยากได้แฟน แต่ผ่านจุดนั้นมาแล้วค่ะ กลายเป็นตอนนี้ไม่อยากมีใคร อยู่แบบนี้สบายใจดีกว่ามากค่ะ ขอบคุณทุกๆคนมากนะคะ เพราะเราไม่รู้จะไปเล่าให้ใครฟังก็มีแต่เพื่อนๆในนี้นี่แหละค่ะ😊
มาอัปเดตหลังจากเคยตั้งกระทู้ผ่านเหตุการณ์เลิกกับสามีมาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ
หลังจากวันนั้น ชีวิตเราดีขึ้นค่ะ หมายถึงเรื่องความสบายใจ วันแรกที่แยกกันเป็นวันที่เรานอนหลับสนิทที่สุด ก็แปลกใจเหมือนกัน มันรู้สึกเหมือนปิดสวิตช์เรื่องของเค้าทั้งหมดที่เกี่ยวกับเค้า ทั้งๆที่เราก็ยังอยู่ที่เดิม บ้านหลังเดิม อะไรเดิมๆ แต่ไม่ได้นึกถึงเค้าเลย มีแต่เค้าที่แม่เค้ามาเล่าให้ฟังว่าแม่นอนไม่หลับเลยเพราะเค้ากินเหล้าหนัก กลับบ้านดึกแทบทุกคืน บอกอะไรก็ไม่ฟัง น้องสาวเค้าบอกว่าเค้าชอบที่ไม่มีใครมาบ่นมาว่าเรื่องกินเหล้า จะทำอะไรก็ได้
พอผ่านไปได้สักพัก ประมาณต้นเดือนพ.ย.แม่เค้าโทรมาบอกว่าให้โทรหาลูกชายเค้าให้หน่อยเห็นบอกว่าอยู่กรุงเทพเมืาอคืนก็ไม่กลับบ้าน เค้าจะโทรถามว่าไปทำไมแต่ไม่กล้ากลัวลูกเค้าจะโกรธเลยให้เราถามให้ เราเลยโทรไป ตอนนั้นเราขายของอยู่ค่ะ เค้าบอกว่าอยู่กรุงเทพจริงแต่ไม่ได้ไปคนเดียว เราเลยถามว่ามีอะไร เล่าให้ฟังได้มั๊ยแม่เป็นห่วง เค้าเล่าให้ฟังว่า ตอนนี้กำลังจะโดนออกจากงานเพราะเรื่องชู้สาว (ผู้หญิงคนนั้นจากที่ได้ยินมาจากสามีเก่าด้วยจากคนอื่นด้วยว่าเค้าเป็นหนี้เยอะมาก ใช้เงินเก่งแต่เป็นหนี้แล้วไม่จ่าย มาทวงก็ไม่จ่ายบอกไม่มี แล้วอ่อยสามีคนอื่นในที่ทำงานเกือบทุกคนที่เรารู้จักแต่ไม่มีใครเล่นด้วยเพราะเค้ารู้นิสัยว่าเป็นยังไง มีแต่เรื่องเงินมาเกี่ยวประมาณว่าหลอกยืมเงิน โดยสามีของผู้กญิงคนนั้นก็รู้เห็นด้วย แต่เรื่องนี้จริงแค่ไหนเราก็ไม่ทราบค่ะ)
กลับมาเข้าเรื่องต่อ เค้าเล่าว่า ต้องหนีออกมาก่อนเพราะสามีของผู้หญิงเค้าไม่ยอม จะเอาเรื่อง เค้าเล่าต่อว่าคืนเกิดเหตุการณ์ เค้าก็ไปกินเหล้าปกติ แต่พอเพื่อนเค้าหลับเค้าได้มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น(ก่อนหน้านั้นเค้ามีอะไรกันมาก่อนแต่เพื่อนเค้าไม่รู้ สามีเก่าเราเป็นคนเล่าให้ฟังเอง แล้วก็เพื่อนที่ทำงานเค้าเล่าให้ฟังว่าทำอะไรกันเปิดเผยจนไม่กลัว เค้ารู้กันหมดว่ามีอะไรกัน) ลูกของเพื่อนเค้าเห็นเลยไปบอกพ่อจึงมีเรื่องชกต่อยกัน เลยต้องพากันหนีมานอนข้างนอกแล้วเช้าก็ไปกรุงเทพไปหาญาติเพื่อของความช่วยเหลือเรื่องที่พัก
พอเราได้ฟัง เราเหมือนล้มทั้งยืน มันอึนไปหมด น้ำตาไหล ฟังต่อไม่ได้ จนต้องบอกเค้าว่าขอวางสายก่อนแล้วจะโทรไปใหม่ ตอนนั้นเราขายของอยู่ ขายไปน้ำตาไหลไป อยากกลับเข้าบ้านแต่เข้าไม่ได้เพราะกลัวลูกไม่มีตังกินเลยต้องทนขายจนปิดร้าน
มันไม่ได้เสียใจแบบนั้นแต่มันเหมือนผิดหวังในตัวเค้าว่าทำไมทำอะไรไม่คิด เป็นชู้กับเมียเพื่อนจนเสียงาน งานเค้าดีมาก มีสวัสดิการเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ ลูกเรียนฟรีถึงป.ตรี แต่เค้าไม่สนอะไรเลย ทำตามใจตัวเอง แต่เราพอรู้คร่าวๆว่าเค้ามีคนอื่นตั้งแต่ก่อนแยกกัน คือตอนที่ออกรถมาได้เดือนกว่าๆ เพราะพฤติกรรมเค้าเปลี่ยนไป แต่ไม่คิดว่าจะเป็นผู้หญิงคนนี้ คนที่เราเคยยกมือไหว้ ผู้หญิงคนนี้เค้าอายุ38 เป็นคนที่ทำงานเดียวกัน และเป็นคนที่เค้าเคยว่าให้ฟังว่าเป็นคนไม่ดี ในใจก็เสียใจ อีกใจก็ห่วงว่าจะโดนหลอกเอาเงิน แล้วก็จริงๆ เค้าเอารถมอ'ไซค์ไปเข้าไปแนนซ์มา20,000เอาไปให้ผู้หญิงคนนั้น รถคันนี้พึ่งส่งหมด อดทนส่งกันมาพึ่งหมดได้ไม่กี่เดือน แล้วคนรู้จักและญาติเค้าก็เล่าให้ฟังว่าไปยืมเงินแต่ไม่มีใครให้เค้าเลยเอาพระไปจำนำไว้10,000นึง
กลับมาตอนที่เราโทรกลับไปนะคะ พอทำใจได้ประมาณเกือบชม.เราก็โทรกลับไป ถามเค้าว่าจะเอาไงต่อ เค้าบอกคงต้องหางานทำที่กรุงเทพให้ญาติหาให้ เค้าบอกไม่ต้องห่วง แล้วบอกว่าตอนนี้ให้เราหาเงินให้ลูกไปก่อน(ก่อนนี้ตกลงกันไว้ว่าขอให้ช่วยส่งให้ลูกเดือนละ3,000 แต่เค้าส่งได้สองเดือนเพราะเค้าออกงาน) เพราะเค้ายังไม่มี เค้าก็ขอโทษ เราเลยบอกไปว่ามีอะไรให้ช่วยก็บอก แต่เรื่องเงินคงช่วยไม่ได้ เรามารู้ทีหลังว่าเค้าไปยืมเงินน้องสาวเค้าอีก2,000
ตอนนั้นที่พูดแบบนั้นไปเพราะรู้สึกห่วงจริงๆ คงไม่ได้รักเค้าแล้วเลยไม่ได้โกรธอะไร แต่พอผ่านเรื่องนี้มา นน.เราจาก45 ลดลงเหลือ 40 ภายในเวลาไม่ถึงเดือน เราคงเครียดเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะเราต้องรับผิดชอบหมด กลัวไม่พอ
แต่ตอนนี้ก็เริ่มๆกลับมาทานได้เหมือนเดิม นน.ขึ้นมา2กิโล
พอเริ่มทำใจได้ เค้าดันกลับมา กลับมาปลายเดือนพ.ย. มาขอโอกาสจากเรา บอกว่าตอยนี้เค้าไม่มีใครแล้ว และเค้ารู้แล้วว่าเค้ารักเรา เค้าจะไม่ทำตัวแบบนั้นอีก แต่เราปฏิเสษค่ะ เพราะเราให้โอกาสเค้ามาหลายหนแล้ว เค้าก็ทำไม่ได้
ตอนนี้เค้าไม่มีงานทำ ทำได้ก็ออกบอกไม่ไหว งานหนักเงินก็น้อยไม่พอส่งหนี้ เค้าเลยจะชวนเราไปขายของที่กรุงเทพ บอกเราจะได้ไม่อายคนที่กลับมาคบกับเค้าอีก เพราะตอนนี้เพื่อนที่ทำงานเค้าก็ไม่มีใครแล้ว คงไม่ได้กินเหล้าอีกเหมือนเดิม แต่ก็ขอกินแต่จะเบาลง แล้วจะเอาใจเราให้มากกว่าเดิม ตอนนี้เค้าไม่เหลือใครแล้ว เค้ามีแต่เรา เราก็ยังยืนยันค่ะว่าไม่กลับไปแน่นอน จนแม่เค้ามาพูดกับเราว่ารังเกียจที่ลูกเค้าไม่มีงานทำเหรอ เราเสียใจค่ะมี่เค้าคิดแบบนั้น แต่จะทำยังไงล่ะคะ ลูกก็โตทุกวัน ต้องกินต้องใช้ แล้วจะให้เรากลับไปลำบากกับเค้าอีก เค้าบอกว่าเดี๋ยวก็ทำงาน เค้าก็ส่งหนี้ เรื่องกินคงต้องรบกวนเราไปก่อน อันนี้แม่เค้าบอกนะคะ คือง่ายๆ มาบอกให้เราคืนดีกับลูกเค้า เพราะเค้ากลัวลูกเค้าเตลิด มาของให้เราพูดกับลูกเค้าดีๆเพรากลัวลูกเค้าคิดมาก ในหัวเรานี่มีแต่คำถามว่าแล้วเราล่ะ แล้วเราล่ะ ทำไมไม่มีใครเห็นใจบ้าง ตัวเราเองลำบากไม่เท่าไหร่ แต่จะให้ลูกไปลำบากด้วยเหรอ แต่จริงๆแล้วแม่เค้าดีกับเรามากนะคะ แต่เค้าคงเครียดเรื่องลูกเค้าเลยพูดไปแบบนั้น
ตอนนี้เราก็แย่นะคะ ไปสมัครงานทิ้งไว้หลายที่ ได้ที่นึงที่เรียกไปสอบกับสัมภาษณ์ คือในกองบินค่ะ แต่ไม่รู้จะได้รับเข้างานหรือเปล่าเพราะมีคนได้สอบเยอะมาก แต่รับแค่สองคน แต่ก็ยังดีกว่าเราไม่ทำอะไรเลย ได้ไม่ได้ไม่เป็นไร ถ้าได้ก็จะขายของวันหยุดด้วย มีงานหลักและเสริมยังไงก็ดีขึ้น
ขอบคุณมากๆนะคะที่อ่านจนจบเพราะยาวมากๆ จริงๆมีรายละเอียดมากว่านี้เยอะ แต่คงเล่าไม่หมด ยังไงก็ขอบคุณมากๆสำหรับกำลังที่ผ่านมา ตอนนี้เค้าก็มาง้อทุกวันค่ะแต่เราไม่กลับไปแน่นอน มันก็เหนื่อยบ้างท้อบ้างแต่ยังมีลูกที่เป็นกำลังใจสำคัญอยู่ ตอนแรกแย่เลยค่ะพูดตรงๆอยากมีแฟนมากเพราะรู้สึกเหงา แต่จริงๆแล้วเราแค่อยากมีคนคุยด้วย มีคนปรึกษา ไม่ใช่อยากได้แฟน แต่ผ่านจุดนั้นมาแล้วค่ะ กลายเป็นตอนนี้ไม่อยากมีใคร อยู่แบบนี้สบายใจดีกว่ามากค่ะ ขอบคุณทุกๆคนมากนะคะ เพราะเราไม่รู้จะไปเล่าให้ใครฟังก็มีแต่เพื่อนๆในนี้นี่แหละค่ะ😊