ใครเกิดทัน .... Bovril Postum เครื่องดื่มของนักเขียนรุ่นคุณปู่
อาจินต์ ปัญจพรรค์ เขียนเล่าเรื่องไว้ในหนังสืออนุสรณ์ "พรานบูรพ์" อันเป็นหนังสือที่แจกในงานฌาปนกิจศพ นายจวงจันทน์ จันทร์คณา นักเขียน นักแต่งเพลง ผู้กำกับภาพยนต์ และเจ้าของและผู้กำกับละครร้องคณะ จันทโรภาส เกี่ยวกับเครื่องดื่มสองอย่างที่ "พรานบูรพ์" โปรด
โบวรีล เป็นเครื่องดื่มสำหรับชง มีรสคล้ายซุปเนื้อ ซึ่งเรียกว่าคอนซูเม่ (consomme) ลักษณะเป็นของเหลวข้นเหนียวสีดำ เมื่อจะรับประทานจะต้องตักออกมาแล้วละลายในน้ำร้อน เพียงคนให้เข้ากันก็จะได้ซุปเนื้อหอมกรุ่น เครื่องดื่มชนิดนี้ผู้เขียนเคยได้ลิ้มรสของมันในสมัยที่ยังเป็นเด็ก แต่ก่อนนี้โบวรีลมีขายตามร้านที่เรียกว่าโกรเซอรี่ หรือขายของที่มาจากต่างประเทศทั่วๆไป แต่ในปัจจุบันไม่เคยเห็นวางขายที่ใดเลย แต่ค้นหาในอินเตอร์เนตก็จะพบว่ายังมีขายอยู่
ขวดของโบวรีลแต่เดิมฝาปิดนั้นจะไม่มีเกลียว (ขวดซ้ายในภาพ) ลักษณะปากขวดจะเหมือนขวดของซุปไก่ยี่ห้อดังในสมัยก่อน ฝาปิดก็มีลักษณะคล้ายกัน คือเป็นอลูมิเนียมมียางกันรั่ว และคาดฝากับปากขวดด้วยแถบโลหะรัดไว้ ส่วนขวดรุ่นใหม่เป็นพลาสติกมีเกลียวเหมือนขวดทั่วไป
ในปัจจุบันหากต้องการลิ้มรสของโบวรีล ถ้าไม่ไปซื้อหาจากต่างประเทศก็คงจะต้องลองชิมผลิตภัณฑ์คล้ายๆกันอีกสองยี่ห้อ ที่พอเห็นจะมีวางขายอยู่ในบ้านเรา ตามภาพข้างบน รสชาตินั้นก็คล้ายๆกัน พอให้คนรุ่นหลังได้รสชาติเครื่องดื่มโปรดของ "พรานบูรพ์" ได้
โปสตั้ม เป็นเครื่องดื่มสำหรับชง มีรสคล้ายโอวเลี้ยง เครื่องดื่มชนิดนี้ผู้เขียนไม่เคยได้มีโอกาสชิมเลย เคยได้ยินแต่ชื่อเท่านั้น แต่ค้นหาในอินเตอร์เนตก็จะพบว่ายังมีขายอยู่เช่นกัน และในบ้านเราไม่แน่ใจว่าจะมีขายหรือไม่
ชื่อของเครื่องดื่มทั้งสองชนิดนี้ มีในหนังสือเก่าๆที่ผู้เขียนเคยอ่านอีกหลายเล่ม มันเป็นเครื่องดื่มจากต่างประเทศที่ค่อนข้างจะหรูหราสำหรับสังคม เรียกว่าถ้ามีสตางค์ก็เป็นต้องลองลิ้มชิมรสกัน
ยังมีเครื่องดื่มอีกหลายชนิดที่เป็นที่นิยมในสมัยก่อน เช่นซุปไก่ขวดยี่ห้อดังซึ่งปัจจุบันยังมีจำหน่ายอยู่ แต่มันไม่เหมือนของในอดีตที่ผู้เขียนเคยพบ ซุปไก่ยี่ห้อนี้แต่เดิมหากนำไปแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาไม่ใช่ช่องแช่แข็ง มันจะกลายเป็นวุ้นหรือคล้ายเยลลี่เหมือนกับเวลาเราเอาน้ำขาหมูพะโล้ไปแช่ตู้เย็น เวลาจะกินจะต้องนำมาอุ่นเสียก่อน โดยต้มน้ำให้เดือด แล้วแช่ซุปไก่นี้ลงไปทั้งขวด รอให้วุ้นละลายและร้อนพอเหมาะ จึงจะนำมาเปิดฝา ซึ่งเปิดยากเย็นพอประมาณ ใครที่เคยเปิดฝาขวดซุปไก่นี้ในรุ่นเก่าจะรู้ดี ต้องมีเทคนิคเฉพาะในการเปิดขวดโดยไม่ให้มันกระฉอกหกเสียหาย
ฝาขวดซุปไก่ยี่ห้อนี้แบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นฝาแบบเดียวกับโบวรีล
อาจินต์ ปัญจพรรค์ เล่าเรื่องไว้ในหนังสือหอเกียรติยศ เขียนถึง ส.อาสนจินดา (สมชาย) พระเอกนักประพันธ์ ที่ชอบดื่มซุปไก่ยี่ห้อนี้ และดื่มเป็นอาหารกันเลยทีเดียว
เครื่องดื่มอีกอย่างหนึ่งก็คือ นม ในสมัยก่อนนั้นไม่มีนมสดบรรจุขวดขายแบบปัจจุบัน นมสดนั้นจะต้องซื้อจากอาบังที่เลี้ยงวัว ซึ่งมีเรื่องเล่ากันว่านมสดที่ขายกันนั้นจะผสมน้ำเปล่าเข้าไปด้วยเสมอๆ และคุณภาพของนมนั้นก็ไม่คงที่ เพราะขาดวิทยาการในการผลิตแบบทุกวันนี้ คนจึงนิยมดื่มนมผงชงละลายน้ำกันมากกว่า และนมผงยี่ห้อดังที่สุดก็เป็นตราหมี ซึ่งอยู่ในกระป๋องอลูมิเนียมทรงสูงมีลอนที่ข้างกระป๋อง
กระป๋องนมตราหมีแบบนี้หลังจากนมหมดแล้ว ถูกนำไปใช้งานอื่นๆอีกมากมาย เช่น ทำกระปุกออมสิน โดยเจาะช่องที่ฝาบน ใช้ไส่เงิน เศษเหรียญ ใส่อาหารอื่นๆ และถูกดัดแปลงใส่หูหิ้วและมีปุ่มสำหรับเปิดฝาได้ง่าย ใช้ใส่อาหารที่เป็นของเหลวๆ แทนปิ่นโต ในยุคที่ถุงพลาสติกยังไม่มีใช้กัน แต่อาหารที่จะใส่ในกระป๋องนมตราหมีที่ดัดแปลงแล้ว มักจะเป็นอาหารที่มีราคาแพง เช่น รังนก หูฉลาม ซึ่งถ้าซื้อแถวเยาวราชในสมัยก่อน จะใส่กระป๋องแบบนี้แทบทั้งนั้น ถ้าเป็นของราคาถูกเช่น ข้าวต้ม โอวยั๊วะ หรือ กาแฟร้อน จะใส่ในกระป๋องนมข้นหวานที่ใช้แล้ว และร้อยรูฝากระป๋องให้หิ้วได้ด้วยเชือกกล้วย เชือกกล้วยนั้นเป็นของที่หาง่ายและราคาถูก พอๆกับใบตองที่ใช้ห่ออาหารในสมัยก่อน
มีเกร็ดเกี่ยวกับของใช้สมัยก่อนเรื่องหนึ่งที่อยากเล่าไว้คือ เรื่องของหลอดกาแฟหรือหลอดดูดน้ำหวาน ก่อนหน้าที่พลาสติกจะเข้ามาครองโลก หลอดกาแฟในสมัยก่อนทำด้วยกระดาษอาบไข ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า paper straw
มันจะมีลักษณะเป็นกระดาษแถบยาวๆ นำมาม้วนซ้อนกันจนเป็นรูปหลอด แล้วชุบไขหรือพาราฟีน เพื่อกันน้ำซึมเข้ากระดาษ หลอดกระดาษนี้ไม่ค่อยจะคงทนนัก ไม่สามารถใช้คนเครื่องดื่มได้เหมือนหลอดพลาสติกที่เราใช้กันอยู่ มันหักและขาดรั่วได้ง่าย ดังนั้นผู้ใช้จึงต้องระมัดระวังสักหน่อย และมันมีราคาแพงเมื่อเทียบตามมาตรฐานค่าของเงินในสมัยก่อน คนขายกาแฟจึงหวงและไม่แจกให้พร่ำเพรื่อ หากทำหลอดดูดหักแล้วขอใหม่ คนขายมักจะอิดเอื้อนไม่ค่อยยอมให้กันทีเดียว
หลอดกระดาษนี้ เมื่อใช้งานแล้วเขามักจะรวมรวมไว้ทำเชื้อฟืน เพราะมันติดไฟง่ายเนื่องจากเป็นกระดาษแล้วมีเทียนไขเคลือบอยู่ คนสมัยก่อนใช้เตาถ่าน เวลาจะติดไฟก็ต้องมีขี้ไต้ ซึ่งมันก็คือเศษไม้คลุกน้ำมันยาง ติดไฟง่าย แต่ขี้ไต้มีราคาต้องซื้อหา หลอดกระดาษนี้ใช้ทำแทนได้ดีและหาได้ฟรี
มีภาพยนต์ย้อนยุคเรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนดูแล้วขัดใจ เนื้อเรื่องเป็นฉากตอนที่เหล่าจิ๊กโก๋รุ่นอันธพาลครองเมือง นั่งสนทนากันที่ร้านกาแฟ และมีการนำหลอดกาแฟพลาสติกมาเคี้ยวหรือคาบติดไว้คาปาก ในยุคดังกล่าวตามร้านกาแฟแบบนั้น ไม่มีหลอดพลาสติกแบบที่ในภาพยนต์ใช้เลย หลอดกาแฟจะเป็นหลอดกระดาษทั้งนั้น หลอดพลาสติกมาแพร่หลายเอาก็หลังปีพุทธศักราช 2510 แล้ว ฉากดังกล่าวดูแล้วจึงขัดหูขัดตาเป็นอันมาก
มีเครื่องดื่มอีกสองชนิดที่ดังมากคือ กูโรมอนต์ guromont และ กูรอนซาน guronsan ชนิดแรก กูโรมอนต์ นั้นมีลักษณะเหมือนเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดัง ลิโพ รสชาติก็คล้ายๆกัน ผู้เขียนเคยได้ลองจิบมันสมัยเด็กๆ ซึ่งเขาไม่ให้เด็กกินหรอกนะ แต่ด้วยความทะลึ่งจึงได้ขอผู้ใหญ่เขาลอง ซึ่งก็ได้แค่ป้ายๆลิ้นให้รู้รส กูโรมอนต์นี้ดังมาก และใช้ดารากังฟูดัง บรุซลี เป็นพรีเซนเตอร์เลยทีเดียว
Bruce Lee "New Guromont" japanese drink commercial
ส่วนกูรอนซานนั้นเป็นเหมือนวิตามิน ซึ่งบมันบรรจุอยู่ในหลอดเหมือนยาฉีดในสมัยก่อน เป็นขวดสีชา เวลาจะกินต้องใช้ตะไบที่มีรูปร่างเหมือนปิกกีต้าร์ ตะไบที่คอขวด แล้วจะมีจุกพลาสติกหรือยางที่แถมมา สวมปลายขวดแล้วหักคอมัน วิธีตะไบและหักคอขวดถือเป็นศิลปะทีเดียว เพราะต้องระวังไม่ให้เศษแก้วหล่นลงไปในขวด หรือติดปากขวด หาไม่จะต้องกินเศษแก้วเข้าไปด้วย กูรอนซานนี้นิยมเปิดแล้วเทผสมลงไปในกูโรมอนต์ เรียกว่าต้องกินคู่กัน เครื่องดื่มสองชนิดนี้มีอายุความนิยมสั้นมาก เพียงไม่กี่ปีที่เห็นมัน มันก็หายไปจากตลาดบ้านเรา หลังจากนั้นไม่กี่ปีก็จึงเป็นยุคของลิโพที่เข้ามาครองตลาด
เรื่องเก่าๆเหล่านี้ อาจจะหาข้อมูลประกอบได้ไม่ครบ ภาพบางภาพก็ใช้ภาพที่คล้ายๆกันแทนเพื่อให้เข้าใจ ท่านใดมีข้อมูลหรือภาพประกอบจะช่วยแปะไว้เพื่อให้ความรู้ก็จะยินดีมาก เรื่องเก่าๆเหล่านี้นับวันจะสูญหาย จึงอยากรวบรวมไว้ครับ
กระทู้เรื่องเก่าของอิสิ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สมุด เทอดธรรม
https://ppantip.com/topic/32250934
สูจิบัตรของโรงภาพยนต์กรุงเกษม เมื่อครั้งเปิดกิจการ
https://ppantip.com/topic/31251819
100 ปีชาตกาล ฑัต เอกฑัต
https://ppantip.com/topic/31473906
๑๐๐ ปีชาตกาล ของผู้เปิดตำนาน "โก๋หลังวัง" เซียวก๊ก - บัณฑูร องค์วิศิษฐ์
https://ppantip.com/topic/36613249
ใครเกิดทัน ..... หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ ๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๐๗
https://ppantip.com/topic/36575697
ใครเกิดทัน ..... ทองคำแท่ง บาทละ 425 บาท
https://ppantip.com/topic/36595821
ใครเกิดทัน ..... พิมพ์ไทย หนังสือพิมพ์รายวันเช้า ฉบับแรกของไทย
https://ppantip.com/topic/36631299
ใครเกิดทัน ..... อาภัสรา หงสกุล ได้เป็นนางสาวไทย
https://ppantip.com/topic/36655193
ใครเกิดทัน ..... สี่ผู้บุกเบิก จตุรเทพแห่งวงการยานยนต์ไทย The Four Pioneers
https://ppantip.com/topic/36678220
ใครเกิดทัน ..... แดนดารา นิตยสารบันเทิง แมวเก้าชีวิตแห่งวงการ
https://ppantip.com/topic/36723087
ใครเกิดทัน ..... วันเฉลิมพระชนม์พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เมื่อกว่า 50 ปีมาแล้ว
https://ppantip.com/topic/36756777
ใครเกิดทัน ..... การแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 (SEAP GAMES) ในปี พุทธศักราช 2510
https://ppantip.com/topic/36797872
ใครเกิดทัน .....กระดึงทอง นิตยสารโดย ดร.สาทิส ต้นตำรับ “ชีวจิต” เมื่อ ๖๐ กว่าปีมาแล้ว
https://ppantip.com/topic/36842098
ใครเกิดทัน ..... เสด็จพระราชทานเพลิงศพ วีรชน 14 ตุลา
https://ppantip.com/topic/36886182
ใครเกิดทัน.... อาชญากรรม หนังสือของอัศวินแหวนเพชร กว่า 60 ปีมาแล้ว
https://ppantip.com/topic/37063620
ใครเกิดทัน .... Bovril Postum เครื่องดื่มของนักเขียนรุ่นคุณปู่
อาจินต์ ปัญจพรรค์ เขียนเล่าเรื่องไว้ในหนังสืออนุสรณ์ "พรานบูรพ์" อันเป็นหนังสือที่แจกในงานฌาปนกิจศพ นายจวงจันทน์ จันทร์คณา นักเขียน นักแต่งเพลง ผู้กำกับภาพยนต์ และเจ้าของและผู้กำกับละครร้องคณะ จันทโรภาส เกี่ยวกับเครื่องดื่มสองอย่างที่ "พรานบูรพ์" โปรด
โบวรีล เป็นเครื่องดื่มสำหรับชง มีรสคล้ายซุปเนื้อ ซึ่งเรียกว่าคอนซูเม่ (consomme) ลักษณะเป็นของเหลวข้นเหนียวสีดำ เมื่อจะรับประทานจะต้องตักออกมาแล้วละลายในน้ำร้อน เพียงคนให้เข้ากันก็จะได้ซุปเนื้อหอมกรุ่น เครื่องดื่มชนิดนี้ผู้เขียนเคยได้ลิ้มรสของมันในสมัยที่ยังเป็นเด็ก แต่ก่อนนี้โบวรีลมีขายตามร้านที่เรียกว่าโกรเซอรี่ หรือขายของที่มาจากต่างประเทศทั่วๆไป แต่ในปัจจุบันไม่เคยเห็นวางขายที่ใดเลย แต่ค้นหาในอินเตอร์เนตก็จะพบว่ายังมีขายอยู่
ขวดของโบวรีลแต่เดิมฝาปิดนั้นจะไม่มีเกลียว (ขวดซ้ายในภาพ) ลักษณะปากขวดจะเหมือนขวดของซุปไก่ยี่ห้อดังในสมัยก่อน ฝาปิดก็มีลักษณะคล้ายกัน คือเป็นอลูมิเนียมมียางกันรั่ว และคาดฝากับปากขวดด้วยแถบโลหะรัดไว้ ส่วนขวดรุ่นใหม่เป็นพลาสติกมีเกลียวเหมือนขวดทั่วไป
ในปัจจุบันหากต้องการลิ้มรสของโบวรีล ถ้าไม่ไปซื้อหาจากต่างประเทศก็คงจะต้องลองชิมผลิตภัณฑ์คล้ายๆกันอีกสองยี่ห้อ ที่พอเห็นจะมีวางขายอยู่ในบ้านเรา ตามภาพข้างบน รสชาตินั้นก็คล้ายๆกัน พอให้คนรุ่นหลังได้รสชาติเครื่องดื่มโปรดของ "พรานบูรพ์" ได้
โปสตั้ม เป็นเครื่องดื่มสำหรับชง มีรสคล้ายโอวเลี้ยง เครื่องดื่มชนิดนี้ผู้เขียนไม่เคยได้มีโอกาสชิมเลย เคยได้ยินแต่ชื่อเท่านั้น แต่ค้นหาในอินเตอร์เนตก็จะพบว่ายังมีขายอยู่เช่นกัน และในบ้านเราไม่แน่ใจว่าจะมีขายหรือไม่
ชื่อของเครื่องดื่มทั้งสองชนิดนี้ มีในหนังสือเก่าๆที่ผู้เขียนเคยอ่านอีกหลายเล่ม มันเป็นเครื่องดื่มจากต่างประเทศที่ค่อนข้างจะหรูหราสำหรับสังคม เรียกว่าถ้ามีสตางค์ก็เป็นต้องลองลิ้มชิมรสกัน
ยังมีเครื่องดื่มอีกหลายชนิดที่เป็นที่นิยมในสมัยก่อน เช่นซุปไก่ขวดยี่ห้อดังซึ่งปัจจุบันยังมีจำหน่ายอยู่ แต่มันไม่เหมือนของในอดีตที่ผู้เขียนเคยพบ ซุปไก่ยี่ห้อนี้แต่เดิมหากนำไปแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาไม่ใช่ช่องแช่แข็ง มันจะกลายเป็นวุ้นหรือคล้ายเยลลี่เหมือนกับเวลาเราเอาน้ำขาหมูพะโล้ไปแช่ตู้เย็น เวลาจะกินจะต้องนำมาอุ่นเสียก่อน โดยต้มน้ำให้เดือด แล้วแช่ซุปไก่นี้ลงไปทั้งขวด รอให้วุ้นละลายและร้อนพอเหมาะ จึงจะนำมาเปิดฝา ซึ่งเปิดยากเย็นพอประมาณ ใครที่เคยเปิดฝาขวดซุปไก่นี้ในรุ่นเก่าจะรู้ดี ต้องมีเทคนิคเฉพาะในการเปิดขวดโดยไม่ให้มันกระฉอกหกเสียหาย
ฝาขวดซุปไก่ยี่ห้อนี้แบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นฝาแบบเดียวกับโบวรีล
อาจินต์ ปัญจพรรค์ เล่าเรื่องไว้ในหนังสือหอเกียรติยศ เขียนถึง ส.อาสนจินดา (สมชาย) พระเอกนักประพันธ์ ที่ชอบดื่มซุปไก่ยี่ห้อนี้ และดื่มเป็นอาหารกันเลยทีเดียว
เครื่องดื่มอีกอย่างหนึ่งก็คือ นม ในสมัยก่อนนั้นไม่มีนมสดบรรจุขวดขายแบบปัจจุบัน นมสดนั้นจะต้องซื้อจากอาบังที่เลี้ยงวัว ซึ่งมีเรื่องเล่ากันว่านมสดที่ขายกันนั้นจะผสมน้ำเปล่าเข้าไปด้วยเสมอๆ และคุณภาพของนมนั้นก็ไม่คงที่ เพราะขาดวิทยาการในการผลิตแบบทุกวันนี้ คนจึงนิยมดื่มนมผงชงละลายน้ำกันมากกว่า และนมผงยี่ห้อดังที่สุดก็เป็นตราหมี ซึ่งอยู่ในกระป๋องอลูมิเนียมทรงสูงมีลอนที่ข้างกระป๋อง
กระป๋องนมตราหมีแบบนี้หลังจากนมหมดแล้ว ถูกนำไปใช้งานอื่นๆอีกมากมาย เช่น ทำกระปุกออมสิน โดยเจาะช่องที่ฝาบน ใช้ไส่เงิน เศษเหรียญ ใส่อาหารอื่นๆ และถูกดัดแปลงใส่หูหิ้วและมีปุ่มสำหรับเปิดฝาได้ง่าย ใช้ใส่อาหารที่เป็นของเหลวๆ แทนปิ่นโต ในยุคที่ถุงพลาสติกยังไม่มีใช้กัน แต่อาหารที่จะใส่ในกระป๋องนมตราหมีที่ดัดแปลงแล้ว มักจะเป็นอาหารที่มีราคาแพง เช่น รังนก หูฉลาม ซึ่งถ้าซื้อแถวเยาวราชในสมัยก่อน จะใส่กระป๋องแบบนี้แทบทั้งนั้น ถ้าเป็นของราคาถูกเช่น ข้าวต้ม โอวยั๊วะ หรือ กาแฟร้อน จะใส่ในกระป๋องนมข้นหวานที่ใช้แล้ว และร้อยรูฝากระป๋องให้หิ้วได้ด้วยเชือกกล้วย เชือกกล้วยนั้นเป็นของที่หาง่ายและราคาถูก พอๆกับใบตองที่ใช้ห่ออาหารในสมัยก่อน
มีเกร็ดเกี่ยวกับของใช้สมัยก่อนเรื่องหนึ่งที่อยากเล่าไว้คือ เรื่องของหลอดกาแฟหรือหลอดดูดน้ำหวาน ก่อนหน้าที่พลาสติกจะเข้ามาครองโลก หลอดกาแฟในสมัยก่อนทำด้วยกระดาษอาบไข ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า paper straw
มันจะมีลักษณะเป็นกระดาษแถบยาวๆ นำมาม้วนซ้อนกันจนเป็นรูปหลอด แล้วชุบไขหรือพาราฟีน เพื่อกันน้ำซึมเข้ากระดาษ หลอดกระดาษนี้ไม่ค่อยจะคงทนนัก ไม่สามารถใช้คนเครื่องดื่มได้เหมือนหลอดพลาสติกที่เราใช้กันอยู่ มันหักและขาดรั่วได้ง่าย ดังนั้นผู้ใช้จึงต้องระมัดระวังสักหน่อย และมันมีราคาแพงเมื่อเทียบตามมาตรฐานค่าของเงินในสมัยก่อน คนขายกาแฟจึงหวงและไม่แจกให้พร่ำเพรื่อ หากทำหลอดดูดหักแล้วขอใหม่ คนขายมักจะอิดเอื้อนไม่ค่อยยอมให้กันทีเดียว
หลอดกระดาษนี้ เมื่อใช้งานแล้วเขามักจะรวมรวมไว้ทำเชื้อฟืน เพราะมันติดไฟง่ายเนื่องจากเป็นกระดาษแล้วมีเทียนไขเคลือบอยู่ คนสมัยก่อนใช้เตาถ่าน เวลาจะติดไฟก็ต้องมีขี้ไต้ ซึ่งมันก็คือเศษไม้คลุกน้ำมันยาง ติดไฟง่าย แต่ขี้ไต้มีราคาต้องซื้อหา หลอดกระดาษนี้ใช้ทำแทนได้ดีและหาได้ฟรี
มีภาพยนต์ย้อนยุคเรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนดูแล้วขัดใจ เนื้อเรื่องเป็นฉากตอนที่เหล่าจิ๊กโก๋รุ่นอันธพาลครองเมือง นั่งสนทนากันที่ร้านกาแฟ และมีการนำหลอดกาแฟพลาสติกมาเคี้ยวหรือคาบติดไว้คาปาก ในยุคดังกล่าวตามร้านกาแฟแบบนั้น ไม่มีหลอดพลาสติกแบบที่ในภาพยนต์ใช้เลย หลอดกาแฟจะเป็นหลอดกระดาษทั้งนั้น หลอดพลาสติกมาแพร่หลายเอาก็หลังปีพุทธศักราช 2510 แล้ว ฉากดังกล่าวดูแล้วจึงขัดหูขัดตาเป็นอันมาก
มีเครื่องดื่มอีกสองชนิดที่ดังมากคือ กูโรมอนต์ guromont และ กูรอนซาน guronsan ชนิดแรก กูโรมอนต์ นั้นมีลักษณะเหมือนเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดัง ลิโพ รสชาติก็คล้ายๆกัน ผู้เขียนเคยได้ลองจิบมันสมัยเด็กๆ ซึ่งเขาไม่ให้เด็กกินหรอกนะ แต่ด้วยความทะลึ่งจึงได้ขอผู้ใหญ่เขาลอง ซึ่งก็ได้แค่ป้ายๆลิ้นให้รู้รส กูโรมอนต์นี้ดังมาก และใช้ดารากังฟูดัง บรุซลี เป็นพรีเซนเตอร์เลยทีเดียว
Bruce Lee "New Guromont" japanese drink commercial
ส่วนกูรอนซานนั้นเป็นเหมือนวิตามิน ซึ่งบมันบรรจุอยู่ในหลอดเหมือนยาฉีดในสมัยก่อน เป็นขวดสีชา เวลาจะกินต้องใช้ตะไบที่มีรูปร่างเหมือนปิกกีต้าร์ ตะไบที่คอขวด แล้วจะมีจุกพลาสติกหรือยางที่แถมมา สวมปลายขวดแล้วหักคอมัน วิธีตะไบและหักคอขวดถือเป็นศิลปะทีเดียว เพราะต้องระวังไม่ให้เศษแก้วหล่นลงไปในขวด หรือติดปากขวด หาไม่จะต้องกินเศษแก้วเข้าไปด้วย กูรอนซานนี้นิยมเปิดแล้วเทผสมลงไปในกูโรมอนต์ เรียกว่าต้องกินคู่กัน เครื่องดื่มสองชนิดนี้มีอายุความนิยมสั้นมาก เพียงไม่กี่ปีที่เห็นมัน มันก็หายไปจากตลาดบ้านเรา หลังจากนั้นไม่กี่ปีก็จึงเป็นยุคของลิโพที่เข้ามาครองตลาด
เรื่องเก่าๆเหล่านี้ อาจจะหาข้อมูลประกอบได้ไม่ครบ ภาพบางภาพก็ใช้ภาพที่คล้ายๆกันแทนเพื่อให้เข้าใจ ท่านใดมีข้อมูลหรือภาพประกอบจะช่วยแปะไว้เพื่อให้ความรู้ก็จะยินดีมาก เรื่องเก่าๆเหล่านี้นับวันจะสูญหาย จึงอยากรวบรวมไว้ครับ
กระทู้เรื่องเก่าของอิสิ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้