๑๐๐ ปีชาตกาล ของผู้เปิดตำนาน "โก๋หลังวัง" เซียวก๊ก - บัณฑูร องค์วิศิษฐ์


วังบูรพาภิรมย์ เป็นวังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์สุดท้องในสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี เมื่อ พ.ศ. 2418


หนังสืองานพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จวังบูรพา


ภาพ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เมื่อชันษา 17 จากหนังสือพระราชทานเพลิงพระศพ

วังบูรพามีเนื้อที่วังประมาณ 10 ไร่ เมื่อสมเด็จวังบูรพาเสด็จทิวงคต วังบูรพาก็ตกเป็นของทายาท และได้ขายไปเป็นเงิน 12 ล้าน 2 หมื่นบาท ในปีพุทธศักราช 2495 ซึ่งเหตุการณ์ในการขายวังนี้ มีบันทึกไว้ในหนังสือ "ชีวิตเหมือนฝัน" เขียนโดย คุณหญิงมณี สิริวรสาร ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับมรดกของทายาทโดยตรงของสมเด็จวังบูรพา ซึ่งบอกว่าขายไปในราคาถูกมาก หากจะคิดเป็นค่าเงินในปัจจุบัน โดยคิดตามราคาทองคำในปีดังกล่าวซึ่งทองคำน้ำหนัก 1 บาทราคาประมาณ 400 บาท ปัจจุบันราคาประมาณ 20,000 บาท ซึ่งแตกต่างกัน 50 เท่า ก็จะประมาณได้ว่าขายวังไปในราคาประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งในวันนี้ที่ดินย่านวังบูรพาราคาพุ่งสูงถึงตารางวาละ 900,000 บาท ที่ดิน 10 ไร่นั้นจะมีราคาในปัจจุบันเท่ากับ 3,600,000,000 หรือกว่า สามพันล้านบาท

ในหนังสือของคุณหญิงมณีเล่าว่า เมื่อมีการรื้อวัง ชิ้นส่วนของวังก็สามารถขายทำเงินได้มากกว่าราคาที่ดินซึ่งขายไป เฉพาะเสาเข็มของวังซึ่งเป็นซุงไม้สักทั้งต้นจำนวนมาก ตอกปูพรมเป็นแพตามวิธีการก่อสร้างโบราณ เมื่อขุดขึ้นมาขายก็มีมูลค่ามหาศาลแล้ว

หน้าวังบูรพานั้นเดิมมีสิงห์โตหินอ่อนตั้งประดับอยู่คู่หนึ่ง เมื่อรื้อวังได้ถูกขายไปให้พ่อค้าของเก่า ซึ่งคุณหญิงมณีเล่าว่าได้ไปขอซื้อคืนมาด้วยราคาสูง และมอบให้กับรัฐบาลไป ปัจจุบันสิงห์โตคู่นี้ตั้งอยู่ที่หน้ากระทรวงการคลัง มีเรื่องเล่ากันว่าครั้งหนึ่งสิงห์โตคู่นี้เกือบจะถูกย้ายออกจากหน้ากระทรวง เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่มาจากการเมืองท่านหนึ่ง เห็นว่าขัดกับฮวงจุ้ยส่วนตัวของท่าน เนื่องจากท่านมีฉายาเป็นมังกร แต่ที่ทำงานมีสิงห์โตซึ่งเป็นสัตว์ที่มีบารมีข่มกับมังกรมาตั้งอยู่ แต่โชคดีที่ในที่สุดสิงห์โตคู่นี้ก็ยังคงอยู่ที่หน้ากระทรวงการคลังมาโดยตลอด ส่วนมังกรท่านนั้นก็จากไปแล้วในวันนี้

เมื่อมีการสร้างศูนย์การค้าวังบูรพา นักธุรกิจฉายา เซียวก๊ก หรือ บัณฑูร องค์วิศิษฐ์ ก็ได้เข้าซื้อที่ดินต่อจากผู้ซื้อวังบูรพา และทำการสร้างโรงภาพยนต์ คิงส์ และ ควีน ขึ้น ซึ่งโรงภาพยนต์ควีน เปิดทำการในวันที่ 30 มกราคม พุทธศักราช 2497 และนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของโรงหนังหลังวังบูรพา หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าโรงหนังด้านหลังวังบูรพา อันเป็นต้นกำเนิดของ "โก๋หลังวัง" ซึ่งเป็นฉายาของกลุ่มวัยรุ่นที่นิยมชมภาพยนตร์เพลง ซึ่งฉายในโรงภาพยนต์ทั้งสองโรงนี้


บัณฑูร องค์วิศิษฐ์ ยังเป็นผู้สร้างโรงภาพยนตร์ เอ็มไพร์ เฉลิมไทย และ กรุงไทยที่บางแคอีกด้วย

ในปีพุทธศักราช 2560 ปีนี้ จะครบ 100 ปีชาตกาล ของ บัณฑูร องค์วิศิษฐ์ ผู้สร้างโรงภาพยนต์ที่เป็นการเปิดตำนาน "โก๋หลังวัง" จึงได้นำบางส่วนของประวัติจากหนังสือในงานฌาปนกิจศพของท่าน มาลงไว้เพื่อให้ตำนานเรื่องนี้ไม่สูญหายไปตามกาลเวลา

เนื่องจากหนังสือนี้มีความหนาหลายร้อยหน้า จึงได้นำมาลงเฉพาะประวัติส่วนตัวบางส่วน และประวัติที่เกี่ยวข้องกับวงการภาพยนตร์ และคำไว้อาลัยของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภานุพันธ์ยุคล หรือ เสด็จองค์ชายใหญ่ เจ้าของ อัศวินภาพยนตร์ และ คำไว้อาลัยของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ หรือ เสด็จองค์ชายเล็ก เจ้าของ ละโว้ภาพยนตร์ ซึ่งทั้งสองท่านเป็นทายาทของสมเด็จวังบูรพาด้วย ซึ่งในคำไว้อาลัยทั้งสองนี้ มีประวัติบางส่วนของวงการภาพยนตร์ที่ควรอนุรักษ์ไว้

--------------------

กระทู้เรื่องเก่าของ อิสิ

สมุด เทอดธรรม
https://ppantip.com/topic/32250934

สูจิบัตรของโรงภาพยนต์กรุงเกษม เมื่อครั้งเปิดกิจการ
https://ppantip.com/topic/31251819

100 ปีชาตกาล ฑัต เอกฑัต
https://ppantip.com/topic/31473906

ใครเกิดทัน ..... หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ ๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๐๗
https://ppantip.com/topic/36575697

ใครเกิดทัน ..... ทองคำแท่ง บาทละ 425 บาท
https://ppantip.com/topic/36595821
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่