สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา หลังจากตามอ่านพันทิปมานาน และมีความว่าง เลยมีเรื่องที่อยากจะแชร์ค่ะ เมื่อหลายเดือนก่อนบริษัทเรามีให้ตรวจสุขภาพเราก็ตรวจตามปกติ แล้วก็มีสอนวิธีการวัดค่า BMI หรือดัชนีมวลกาย และของเรามันยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่มันแตะปลายๆของเกณฑ์แล้ว ซึ่งเราก็ไม่ได้วอรี่ขั้นหนักอะไรยังงั้น แต่มันก็รู้สึกว่า เห้ยเริ่มท้วมขึ้นนะ กางเกงก็แน่นๆทำอะไรก็เหนื่อยง่าย เริ่มเข้าใจถึงคำว่าอายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญก็จะค่อยๆเสื่อมลง ป่วยบ่อยแบบออดๆแอดๆ และมันก็จริงนะเมื่อก่อนอยากกินต้องได้กิน กินเท่าไหร่ก็มั่นว่าเพรียว แต่พออายุมากขึ้นกินเท่าเดิม พุงก็มาค่ะ ชุด Oversize เลยเป็นข้ออ้างของแฟชั่นช่วงหลังๆ ค่ะ 5 5 5 +
ปกติก็เป็นคนขี้เกียจมากกก ถึงมากที่สุด กินจุบกินจิบทั้งวัน ก่อนหน้านี้หนัก 50 กิโล มั่นใจว่าไม่ได้อ้วนแค่ซ่อนรูป ถ้าวันไหนกินเยอะ พุงก็หลามออกมา ป่องเหมือนกินอิ่มตลอดเวลา
แถมช่วงที่ผ่านมา พองานเยอะ ก็กินเยอะ ขึ้นตาชั่งที เหวอไปเลย น้ำหนักชั้นบวกมาเกือบ 5 โล อื้อหือ! นอกจากจะกินเยอะ ก็ยังขี้เกียจออกกำลังกายไปอี้ก เอาจริงๆ แต่ก็นั่นแหละค่ะ เมืองไทยหากินได้ทั้งวี่ทั้งวัน ทุกตรอกซอกซอย หมูปิ้ง ชาบู หมูกะทะ ชาไข่มุก แค่เดินผ่านก็จะดูไม่ให้เกียรติอาหารพวกนี้เลยต้องทำตัวเป็นแม่ช้อยนางรำ แวะตำไปทุกร้าน! (ฮา)
ทีนี้ไม่ได้มีแค่ตัวเราที่รู้สึกว่า สภาพร่างของชั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง บุคคลภายนอกก็เริ่มทักเรื่อยๆ ก็เริ่มเสียเซลฟ์ จากนั้นก็เริ่มหาวิธีต่างๆ เพื่อจะ Come back กลับไปเป็น สาวที่ทนทานกับทุกสภาพอากาศ เดินขึ้นบันได 5 ชั้นได้โดยไม่หอบ ที่สำคัญชั้นจะต้องลดพุงให้ได้ กางเกงที่ซื้อมาคือใส่ไม่ได้แล้วต้องซื้อใหม่ แต่จะให้ไปวิ่ง ไปซิตอัพ เข้าฟิตเนส ก็ไม่ไหวจริงๆ (ความเยอะของดิชั้น) แถมทำงานก็ไม่ค่อยมีเวลา (อินเนอร์ : ขี้เกียจล้วน) เราเลยหาวิธีลดพุงภายใต้เงื่อนไข 3 ข้อ
1. ออกกำลังกายง่ายๆ ทำได้ที่บ้าน ที่ทำงาน
2. ประหยัดเวลา (ออกวันละ 3-4 ชั่วโมงงี้ไม่ไหว นานไปหน่อยแฮ่ะๆ)
3. ไม่มีค่าใช้จ่าย (ทุกวันนี้ภาระเยอะ ค่าฟิตเนสเพิ่มอีกเดือนละ 2-3000 ไม่ไหววว)
คิดๆ แล้ววิธีที่ง่ายที่สุดคือการ ทานอาหารคลีน ทำเองสิคะ แต่ไม่ใช่คลีน 100% นะ คลีนบางส่วน ปรุงน้อยลง ใช้น้ำมันน้อยลง ทานผักมากขึ้น เนื้อสัตว์ก็เน้นเนื้อไก่ กับปลาค่ะ จากการเป็นคนขี้เกียจอย่างเราทำแบบนี้อยู่ 2 สัปดาห์ รู้สึกตัวเบาอยู่นะ 555
ต่อมาก็ way แห่งการออกแรงค่ะ ลองเปิด Youtube ทำ T25 ตาม ทำไปได้สองเซ็ต สรุป สลบ เหนื่อยมากคร่า เกือบตายยย เลยหันไปลองวิถีแห่งโยคะ รู้สึกดีอยู่นะ เหมือนร่างกายยืดหยุ่นมากขึ้น แต่โยคะต้องการพื้นที่ แล้วทำที่บ้านไง วันไหนกลับดึกก็อด เลยมาลองทำท่าปั่นจักรยานกลางอากาศแทน ทำแป๊บเดียวก็รู้สึกได้ว่าเกร็งหน้าท้อง เลยคิดว่า ดี ท่านี้ดี ทดเก็บไว้ ^^
คุยกับเพื่อนที่ออฟฟิศ เพื่อนก็บอกว่า อยู่ออฟฟิศก็หาท่าออกกำลังกายได้แบบ Easy นะแกรรรร มีทำสควอชตอนว่างๆก็ได้ (แต่ท่านี้ เราไม่กล้าทำที่ทำงานนะ เขิล 55 ทดเก็บไว้ก่อน) แล้วก็แกว่งแขวน ที่เค้าบอกว่าลดพุง เราเห็นว่าน่าสนใจเหมาะกับ Lifestyle คนชิลๆอย่างเรา แบบ เปลี่ยนเรื่องยาก ให้เป็นเรื่องง่ายดีอ่ะ เลยลองไปหาคลิปมาทำตาม คลิปสอนแกว่งแขน ลดพุง ลดโรค จาก สสส. นี่แหละ
พอดูคลิปจบเอามือทา บอก พร้อมบอกตัวเองเบาๆ นี่แหละเฟร้ย วิถีของชั้น #คนขี้เกียจ2017 ลองทำตามก็โอเค มีเหงื่อบ้าง แต่ไม่เหนื่อยจัดมาก แกว่งแขนนี่แหละชั้นเลือกนาย Gotcha!!
ทำแบบนี้ แกว่งวนไป..
หลังจากหาวิธีตั่งต่างได้แล้ว ก็บอกกับตัวเองว่า ถึงเวลาที่ชั้นจะทวงคืนร่างกายในวัยแรกรุ่น และนี่เป็นตารางที่เราคิดเอง เอาที่เราว่าเราไหวไม่ได้ทรมานเกินไป ไม่ซีเรียสมาก วันไหนงานยุ่งก็ทำเท่าที่ได้
ทำประมาณ 2 เดือน เราเริ่มรู้สึกว่าร่างกายมันทนทานต่อการออกกำลังกายมากขึ้น จากเคยปั่นจักรยานกลางอากาศแค่ 60 วินาทีก็เมื่อยขาแล้วมันก็ทำได้นานขึ้น แถมพุงลดลงแบบชิวๆ บางวันที่ไม่ได้ทำตามนี้ก็จะแกว่งแขนบ้าง (อาหารงดขนมและของทอดนะ) มันได้ผลในระดับที่น่าพอใจนะ พุงยุบไปเลยกรี๊ดดดดดดดดด //วิ่งไปซื้อไก่ทอดหน้าเซเว่น
( เคยอ่านเจอว่า ผู้ริเริ่มท่าออกกำลังกายนี้จริงๆ มาจากเหล่าอาม่า อากง จากประเทศจีน/ไต้หวัน เพราะทำง่ายปลอดภัย จึงมีคนนำมาทำต่อๆกัน )
นอกจากแกว่งแขนเพื่อลดพุง + ท่าอื่นๆแล้ว เรากิกินอาหารคลีนต่อเนื่องด้วย (แต่ไม่ทุกมื้อนะ ทานเท่าที่สะดวก) ถ้าวันไหนเลิกงานเร็วก็จะแว้บไปวิ่ง สวนลุม บ้าง อาทิตย์ละครั้ง หรือ 2 อาทิตย์ครั้ง แต่ที่ทำทุกวันก็คือการแกว่งแขนนี่ละค่ะ ง่ายสะดวก สบายใจ
มื้อคลีนๆ ซื้อแถวออฟฟิศบ้าง ทำเองบ้าง
ถ้าใครมีเคล็ดลับลดน้ำหนัก ดีๆ เห็นผลจริงก็ร่วมแชร์ได้นะคะ อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของเราเอง ผลที่ได้ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนะ
แต่ทริคง่ายๆ ที่คนอยากลดจริงๆ ควรทำเลยก็คือ
1. งดมัน ลดแป้ง ลดหวานจัด เค็มจัด เน้นโปรตีน ผักผลไม้มากขึ้น
2. จะกินอะไรท่องไว้ หนักเช้าเบาเย็น
3. หาเวลาขยับร่างกายให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ตอนนั้นจากน้ำหนัก 48 ขึ้นมาเป็น 53 กิโล ใช้เวลาเริ่มลด 3 เดือน น้ำหนักก็ลงมาเท่าเดิม ตอนนี้ก็กินเยอะบ้าง แต่ก็ออกกำลังกายหนักขึ้นนิดนึง เพราะอยากให้หุ่นเฟิร์มขึ้นด้วย
สุดท้ายจะบอกว่า การลดพุง หรือ ลดน้ำหนัก วิธีที่ดีที่สุดก็คือการออกกำลังกาย แล้วยังลดโรคได้อีกตั้งมากมาย รู้สึกสุขภาพแข็งแรงขึ้น ร่างกายฟิตขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย ไม่ป่วยง่ายเหมือนแต่ก่อน แถมยังมีอีกหลายวิธีอีกด้วยที่ไม่ใช่แค่แกว่งแขน เช่น เพิ่มปริมาณการกินผักผลไม้มากขึ้น การลดพวกหวาน มัน เค็ม ของอาหารที่ยังได้ทั้งสุขภาพ และลดอาการบวมน้ำได้อีกด้วย ดีกว่าไปอดอาหารหรือทานยาลดความอ้วน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับวินัยของเราล้วนๆ สู้!
*** ขอขอบคุณมิตรสหายทั้งหลายที่ช่วยให้คำแนะนำ และไม่ชวนไปกินชาบู หมูกระทะในช่วงนั้น ขอบคุณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ให้เราหาข้อมูลการออกกำลังกาย การคุมอาหาร ลดหวานมันเค็มนู่นนี่ ไม่ต้องไปเข้ายิม จ้างเทรนเนอร์ให้ยุ่งยาก ขอบคุณข้อแนะนำวิธีลดพุง ลดโรค ด้วยเทคนิคแกว่งแขนง่ายๆ ให้คนขี้เกียจอย่างเรา หาวิธีแบบนี้มาอีกเยอะๆนะคะ และขอบคุณมวลไขมันในร่างกายที่อยู่กันมาอย่างหนาแน่น แต่วันนี้ต้องบอกลากันแล้วก็ขอให้เธอไปอย่าได้กังวล ไปอยู่กับคนอ่านกระทู้คนอื่นๆบ้างก็ได้ ไว้มีเคล็ดลับดีๆ จะเข้ามาแชร์อีกนะคะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบค่า
__/l\__ //ย่อไหว้รอบทิศแบบไม่แบมือ
[CR] แกว่งไปอย่าได้หยุด! ร่วมพิสูจน์วิธีลดพุงลดโรคแบบคนขี้เกียจ เห็นผลยังไง มาดูกัน
ปกติก็เป็นคนขี้เกียจมากกก ถึงมากที่สุด กินจุบกินจิบทั้งวัน ก่อนหน้านี้หนัก 50 กิโล มั่นใจว่าไม่ได้อ้วนแค่ซ่อนรูป ถ้าวันไหนกินเยอะ พุงก็หลามออกมา ป่องเหมือนกินอิ่มตลอดเวลา
แถมช่วงที่ผ่านมา พองานเยอะ ก็กินเยอะ ขึ้นตาชั่งที เหวอไปเลย น้ำหนักชั้นบวกมาเกือบ 5 โล อื้อหือ! นอกจากจะกินเยอะ ก็ยังขี้เกียจออกกำลังกายไปอี้ก เอาจริงๆ แต่ก็นั่นแหละค่ะ เมืองไทยหากินได้ทั้งวี่ทั้งวัน ทุกตรอกซอกซอย หมูปิ้ง ชาบู หมูกะทะ ชาไข่มุก แค่เดินผ่านก็จะดูไม่ให้เกียรติอาหารพวกนี้เลยต้องทำตัวเป็นแม่ช้อยนางรำ แวะตำไปทุกร้าน! (ฮา)
ทีนี้ไม่ได้มีแค่ตัวเราที่รู้สึกว่า สภาพร่างของชั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง บุคคลภายนอกก็เริ่มทักเรื่อยๆ ก็เริ่มเสียเซลฟ์ จากนั้นก็เริ่มหาวิธีต่างๆ เพื่อจะ Come back กลับไปเป็น สาวที่ทนทานกับทุกสภาพอากาศ เดินขึ้นบันได 5 ชั้นได้โดยไม่หอบ ที่สำคัญชั้นจะต้องลดพุงให้ได้ กางเกงที่ซื้อมาคือใส่ไม่ได้แล้วต้องซื้อใหม่ แต่จะให้ไปวิ่ง ไปซิตอัพ เข้าฟิตเนส ก็ไม่ไหวจริงๆ (ความเยอะของดิชั้น) แถมทำงานก็ไม่ค่อยมีเวลา (อินเนอร์ : ขี้เกียจล้วน) เราเลยหาวิธีลดพุงภายใต้เงื่อนไข 3 ข้อ
1. ออกกำลังกายง่ายๆ ทำได้ที่บ้าน ที่ทำงาน
2. ประหยัดเวลา (ออกวันละ 3-4 ชั่วโมงงี้ไม่ไหว นานไปหน่อยแฮ่ะๆ)
3. ไม่มีค่าใช้จ่าย (ทุกวันนี้ภาระเยอะ ค่าฟิตเนสเพิ่มอีกเดือนละ 2-3000 ไม่ไหววว)
คิดๆ แล้ววิธีที่ง่ายที่สุดคือการ ทานอาหารคลีน ทำเองสิคะ แต่ไม่ใช่คลีน 100% นะ คลีนบางส่วน ปรุงน้อยลง ใช้น้ำมันน้อยลง ทานผักมากขึ้น เนื้อสัตว์ก็เน้นเนื้อไก่ กับปลาค่ะ จากการเป็นคนขี้เกียจอย่างเราทำแบบนี้อยู่ 2 สัปดาห์ รู้สึกตัวเบาอยู่นะ 555
ต่อมาก็ way แห่งการออกแรงค่ะ ลองเปิด Youtube ทำ T25 ตาม ทำไปได้สองเซ็ต สรุป สลบ เหนื่อยมากคร่า เกือบตายยย เลยหันไปลองวิถีแห่งโยคะ รู้สึกดีอยู่นะ เหมือนร่างกายยืดหยุ่นมากขึ้น แต่โยคะต้องการพื้นที่ แล้วทำที่บ้านไง วันไหนกลับดึกก็อด เลยมาลองทำท่าปั่นจักรยานกลางอากาศแทน ทำแป๊บเดียวก็รู้สึกได้ว่าเกร็งหน้าท้อง เลยคิดว่า ดี ท่านี้ดี ทดเก็บไว้ ^^
คุยกับเพื่อนที่ออฟฟิศ เพื่อนก็บอกว่า อยู่ออฟฟิศก็หาท่าออกกำลังกายได้แบบ Easy นะแกรรรร มีทำสควอชตอนว่างๆก็ได้ (แต่ท่านี้ เราไม่กล้าทำที่ทำงานนะ เขิล 55 ทดเก็บไว้ก่อน) แล้วก็แกว่งแขวน ที่เค้าบอกว่าลดพุง เราเห็นว่าน่าสนใจเหมาะกับ Lifestyle คนชิลๆอย่างเรา แบบ เปลี่ยนเรื่องยาก ให้เป็นเรื่องง่ายดีอ่ะ เลยลองไปหาคลิปมาทำตาม คลิปสอนแกว่งแขน ลดพุง ลดโรค จาก สสส. นี่แหละ
พอดูคลิปจบเอามือทา บอก พร้อมบอกตัวเองเบาๆ นี่แหละเฟร้ย วิถีของชั้น #คนขี้เกียจ2017 ลองทำตามก็โอเค มีเหงื่อบ้าง แต่ไม่เหนื่อยจัดมาก แกว่งแขนนี่แหละชั้นเลือกนาย Gotcha!!
ทำแบบนี้ แกว่งวนไป..
หลังจากหาวิธีตั่งต่างได้แล้ว ก็บอกกับตัวเองว่า ถึงเวลาที่ชั้นจะทวงคืนร่างกายในวัยแรกรุ่น และนี่เป็นตารางที่เราคิดเอง เอาที่เราว่าเราไหวไม่ได้ทรมานเกินไป ไม่ซีเรียสมาก วันไหนงานยุ่งก็ทำเท่าที่ได้
ทำประมาณ 2 เดือน เราเริ่มรู้สึกว่าร่างกายมันทนทานต่อการออกกำลังกายมากขึ้น จากเคยปั่นจักรยานกลางอากาศแค่ 60 วินาทีก็เมื่อยขาแล้วมันก็ทำได้นานขึ้น แถมพุงลดลงแบบชิวๆ บางวันที่ไม่ได้ทำตามนี้ก็จะแกว่งแขนบ้าง (อาหารงดขนมและของทอดนะ) มันได้ผลในระดับที่น่าพอใจนะ พุงยุบไปเลยกรี๊ดดดดดดดดด //วิ่งไปซื้อไก่ทอดหน้าเซเว่น
( เคยอ่านเจอว่า ผู้ริเริ่มท่าออกกำลังกายนี้จริงๆ มาจากเหล่าอาม่า อากง จากประเทศจีน/ไต้หวัน เพราะทำง่ายปลอดภัย จึงมีคนนำมาทำต่อๆกัน )
นอกจากแกว่งแขนเพื่อลดพุง + ท่าอื่นๆแล้ว เรากิกินอาหารคลีนต่อเนื่องด้วย (แต่ไม่ทุกมื้อนะ ทานเท่าที่สะดวก) ถ้าวันไหนเลิกงานเร็วก็จะแว้บไปวิ่ง สวนลุม บ้าง อาทิตย์ละครั้ง หรือ 2 อาทิตย์ครั้ง แต่ที่ทำทุกวันก็คือการแกว่งแขนนี่ละค่ะ ง่ายสะดวก สบายใจ
มื้อคลีนๆ ซื้อแถวออฟฟิศบ้าง ทำเองบ้าง
ถ้าใครมีเคล็ดลับลดน้ำหนัก ดีๆ เห็นผลจริงก็ร่วมแชร์ได้นะคะ อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของเราเอง ผลที่ได้ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนะ แต่ทริคง่ายๆ ที่คนอยากลดจริงๆ ควรทำเลยก็คือ
1. งดมัน ลดแป้ง ลดหวานจัด เค็มจัด เน้นโปรตีน ผักผลไม้มากขึ้น
2. จะกินอะไรท่องไว้ หนักเช้าเบาเย็น
3. หาเวลาขยับร่างกายให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ตอนนั้นจากน้ำหนัก 48 ขึ้นมาเป็น 53 กิโล ใช้เวลาเริ่มลด 3 เดือน น้ำหนักก็ลงมาเท่าเดิม ตอนนี้ก็กินเยอะบ้าง แต่ก็ออกกำลังกายหนักขึ้นนิดนึง เพราะอยากให้หุ่นเฟิร์มขึ้นด้วย
สุดท้ายจะบอกว่า การลดพุง หรือ ลดน้ำหนัก วิธีที่ดีที่สุดก็คือการออกกำลังกาย แล้วยังลดโรคได้อีกตั้งมากมาย รู้สึกสุขภาพแข็งแรงขึ้น ร่างกายฟิตขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย ไม่ป่วยง่ายเหมือนแต่ก่อน แถมยังมีอีกหลายวิธีอีกด้วยที่ไม่ใช่แค่แกว่งแขน เช่น เพิ่มปริมาณการกินผักผลไม้มากขึ้น การลดพวกหวาน มัน เค็ม ของอาหารที่ยังได้ทั้งสุขภาพ และลดอาการบวมน้ำได้อีกด้วย ดีกว่าไปอดอาหารหรือทานยาลดความอ้วน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับวินัยของเราล้วนๆ สู้!
*** ขอขอบคุณมิตรสหายทั้งหลายที่ช่วยให้คำแนะนำ และไม่ชวนไปกินชาบู หมูกระทะในช่วงนั้น ขอบคุณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ให้เราหาข้อมูลการออกกำลังกาย การคุมอาหาร ลดหวานมันเค็มนู่นนี่ ไม่ต้องไปเข้ายิม จ้างเทรนเนอร์ให้ยุ่งยาก ขอบคุณข้อแนะนำวิธีลดพุง ลดโรค ด้วยเทคนิคแกว่งแขนง่ายๆ ให้คนขี้เกียจอย่างเรา หาวิธีแบบนี้มาอีกเยอะๆนะคะ และขอบคุณมวลไขมันในร่างกายที่อยู่กันมาอย่างหนาแน่น แต่วันนี้ต้องบอกลากันแล้วก็ขอให้เธอไปอย่าได้กังวล ไปอยู่กับคนอ่านกระทู้คนอื่นๆบ้างก็ได้ ไว้มีเคล็ดลับดีๆ จะเข้ามาแชร์อีกนะคะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบค่า
__/l\__ //ย่อไหว้รอบทิศแบบไม่แบมือ