พื้นฐานของเรา พ่อกับแม่แยกทางตั้งแต่เด็กๆ เราโตมากับยาย
โดยที่พ่อไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดู ส่วนแม่ก้อเริ่มมารับผิดชอบเราในเรื่องค่าเทอมการเรียนตอนที่เราอยู่ ม ปลาย (เฉพาะค่าเทอม) และรับผิดชอบทั้งหมดค่าเทอมค่ากินค่าอยู่ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย แต่ค่อนข้างต้องกระเบียดกระเสียนเลยทีเดียว
ตั้งแต่แม่หย่าร้างกับพ่อ แม่เรามีสามีใหม่ ที่เราพอจำได้น่าจะไม่ต่ำกว่าสามคน แม่เราเป็นสายเปย์ (เฉพาะกับสามี) และอดีตชอบเล่นการพนัน แต่ปัจจุบันเราไม่รู้ว่าแม่เราเลิกแล้วยัง
ปัจจุบันเราให้แม่ทุกเดือน เดือนละหมื่นกว่าบาท ไม่เคยขาดตกบกพร่อง แต่เหมือนแม่เราจะไม่เคยพอในเรื่องของเงิน
อาทิตย์ที่แล้ว มาขอยืมเงินเราสามหมื่น โดยที่บอกเราว่าห้ามถามว่าจะเอาไปทำอะไร เราก้อไม่ถาม โอนเงินให้ภายในหนึ่งชั่วโมง
เมื่อวานไปสร้างหนี้ยืมเงินจากญาติจำนวนหลักแสน (ไม่แน่ใจว่าหนึ่งแสนหรือสองแสน) เรารู้ เราก้อไม่พอใจ แต่ก้อไม่ได้พูดอะไร
ก่อนหน้าเคยไปยืมญาติมาแสนนึงเหมือนกัน ท้ายสุดเราก้อต้องตามไปจ่ายหนี้แทนให้
ในความทรงจำของเราตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ แทบจะนับเรื่องดีๆที่เรามีกับแม่ไม่ถึงสามเรื่อง
แม่เราเป็นคนหน้าใหญ่ ต้องแสดงให้คนอื่นรู้ว่าชั้นมี แต่จริงๆ แล้วแม่เราไม่มีอะไรเลย ยกเว้นหนี้ และไม่เคยเก็บเงิน
เมื่อวานแม่เราพูดว่า ในกระเป๋าตังค์เหลือเงินพันกว่า แต่เราเพิ่งจะให้รายเดือนไปเมื่อสองวันก่อนหน้า
ปกติเวลาไปเดินชอปปิ้งซื้อของ แม่เราจะแสดงว่าอยากได้ของ เราก้อจะให้เพิ่มสามพัน ห้าพัน แต่พอได้เงินไป แม่เราก้อไม่เคยจะซื้ออะไร
สิ่งที่เราคิดได้ตอนนี้คือ เราก้อคงให้ค่าใช้จ่ายรายเดือนต่อไป และเทศกาลพิเศษเช่น ปีใหม่ วันเกิด วันแม่ เท่านั้น
เราคงไม่ให้อะไรนอกเหนือจากนี้อีกแล้ว
เพราะท้ายสุดเวลาแม่เราแก่ตัวไป ก้อคงเป็นเราที่ต้องคอยดูแลอยู่ดี
ญาติเรามักจะพูดว่า แม่เรามีบุญที่มีลูกอย่างเรา แต่ในใจเรามักจะแย้งเสมอว่า เพราะเรามันมีกรรม
เราไม่รู้ตัวเองว่าเรารักแม่บ้างมั๊ย รู้แต่ว่าทุกวันนี้ทำตามหน้าที่ของลูกก้อเท่านั้น
เรารู้ว่าคนที่คิดไม่ดีกับพ่อกับแม่ จะไม่มีทางเจริญ แต่เราก้ออดคิดไม่ได้ว่า มันก้อไม่แฟร์กับเราในฐานะคนเป็นลูกเหมือนกัน
เราเบื่อกับการเป็นตัวเอง บางครั้งก้ออดคิดไม่ได้ว่าต่อไปเราจะเป็นโรคซึมเศร้ามั๊ย ทุกวันนี้พยายามเอาอ่านพวกธรรมะ และคิดเรื่องแต่อะไรที่เป็นบวกๆ
เราอดคิดไม่ได้ว่า บางทีเราก้ออิจฉาคนที่ไม่มีแม่นะ เราคงบาปมากเลยใช่มั๊ยคะ
คิดอคติกับแม่ตัวเอง บาปมากใช่มั๊ยคะ
โดยที่พ่อไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดู ส่วนแม่ก้อเริ่มมารับผิดชอบเราในเรื่องค่าเทอมการเรียนตอนที่เราอยู่ ม ปลาย (เฉพาะค่าเทอม) และรับผิดชอบทั้งหมดค่าเทอมค่ากินค่าอยู่ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย แต่ค่อนข้างต้องกระเบียดกระเสียนเลยทีเดียว
ตั้งแต่แม่หย่าร้างกับพ่อ แม่เรามีสามีใหม่ ที่เราพอจำได้น่าจะไม่ต่ำกว่าสามคน แม่เราเป็นสายเปย์ (เฉพาะกับสามี) และอดีตชอบเล่นการพนัน แต่ปัจจุบันเราไม่รู้ว่าแม่เราเลิกแล้วยัง
ปัจจุบันเราให้แม่ทุกเดือน เดือนละหมื่นกว่าบาท ไม่เคยขาดตกบกพร่อง แต่เหมือนแม่เราจะไม่เคยพอในเรื่องของเงิน
อาทิตย์ที่แล้ว มาขอยืมเงินเราสามหมื่น โดยที่บอกเราว่าห้ามถามว่าจะเอาไปทำอะไร เราก้อไม่ถาม โอนเงินให้ภายในหนึ่งชั่วโมง
เมื่อวานไปสร้างหนี้ยืมเงินจากญาติจำนวนหลักแสน (ไม่แน่ใจว่าหนึ่งแสนหรือสองแสน) เรารู้ เราก้อไม่พอใจ แต่ก้อไม่ได้พูดอะไร
ก่อนหน้าเคยไปยืมญาติมาแสนนึงเหมือนกัน ท้ายสุดเราก้อต้องตามไปจ่ายหนี้แทนให้
ในความทรงจำของเราตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ แทบจะนับเรื่องดีๆที่เรามีกับแม่ไม่ถึงสามเรื่อง
แม่เราเป็นคนหน้าใหญ่ ต้องแสดงให้คนอื่นรู้ว่าชั้นมี แต่จริงๆ แล้วแม่เราไม่มีอะไรเลย ยกเว้นหนี้ และไม่เคยเก็บเงิน
เมื่อวานแม่เราพูดว่า ในกระเป๋าตังค์เหลือเงินพันกว่า แต่เราเพิ่งจะให้รายเดือนไปเมื่อสองวันก่อนหน้า
ปกติเวลาไปเดินชอปปิ้งซื้อของ แม่เราจะแสดงว่าอยากได้ของ เราก้อจะให้เพิ่มสามพัน ห้าพัน แต่พอได้เงินไป แม่เราก้อไม่เคยจะซื้ออะไร
สิ่งที่เราคิดได้ตอนนี้คือ เราก้อคงให้ค่าใช้จ่ายรายเดือนต่อไป และเทศกาลพิเศษเช่น ปีใหม่ วันเกิด วันแม่ เท่านั้น
เราคงไม่ให้อะไรนอกเหนือจากนี้อีกแล้ว
เพราะท้ายสุดเวลาแม่เราแก่ตัวไป ก้อคงเป็นเราที่ต้องคอยดูแลอยู่ดี
ญาติเรามักจะพูดว่า แม่เรามีบุญที่มีลูกอย่างเรา แต่ในใจเรามักจะแย้งเสมอว่า เพราะเรามันมีกรรม
เราไม่รู้ตัวเองว่าเรารักแม่บ้างมั๊ย รู้แต่ว่าทุกวันนี้ทำตามหน้าที่ของลูกก้อเท่านั้น
เรารู้ว่าคนที่คิดไม่ดีกับพ่อกับแม่ จะไม่มีทางเจริญ แต่เราก้ออดคิดไม่ได้ว่า มันก้อไม่แฟร์กับเราในฐานะคนเป็นลูกเหมือนกัน
เราเบื่อกับการเป็นตัวเอง บางครั้งก้ออดคิดไม่ได้ว่าต่อไปเราจะเป็นโรคซึมเศร้ามั๊ย ทุกวันนี้พยายามเอาอ่านพวกธรรมะ และคิดเรื่องแต่อะไรที่เป็นบวกๆ
เราอดคิดไม่ได้ว่า บางทีเราก้ออิจฉาคนที่ไม่มีแม่นะ เราคงบาปมากเลยใช่มั๊ยคะ