อันนี้เป็นกระทู้ในพันทิปครั้งแรกในชีวิต เวลาใครมีปัญหาเรื่องอะไรก็สามารถหาคำตอบได้จากที่นี่ เราเองก้อพยายามหาคำตอบให้ตัวเองมานานแล้ว แต่ไม่ได้คำตอบสักทีไม่รู้เป็นเพราะอะไร จะเล่าให้ใครฟังก็ไม่ได้เพราะเป็นเรื่องครอบครัว เลยลองมาตั้งกระทู้ในนี้ดูเพื่อดูหลายๆความคิดเห็นนะค่ะ เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะค่ะ เราเองก้อเป็นผู้หญิงต่างจังหวัดคนนึงที่มีความฝันมาตั้งแต่เด็กๆแล้วว่าจะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศให้ได้ เพราะตัวเองเป็นคนชอบภาษา แม้ม.ปลายจะเรียนสายวิทย์มาก้อตาม พอเรียนป.ตรีก้อเข้าเรียนสถาบันเฉพาะทาง เพราะชอบภาษา พ่อแม่ก้อตามใจให้เรียนเพราะเห็นว่าเราชอบ แม้ว่าค่าเทอมจะแพงก้อตาม ตอนแรกไม่รู้ว่าครอบครัวจะส่งไหวไหม เพราะพ่อแม่เป็นข้าราชการที่เป็นหนี้สิน
ตอนเด็กๆเราก้อเจอแต่ความเป็นหนี้ รู้ว่าที่บ้านเป็นหนี้มาตลอดแต่เล็ก ยิ่งตอนช่วงปี 2540 ไม่มีเงินขนาดไม่มีตังค์จ่ายค่าไฟโดนไฟฟ้าตัด จะอ่านหนังสือสอบต้องจุดเทียนอ่านนะค่ะ ตอนนั้นเรียนโรงเรียนคริสต์ของจังหวัดค่าเทอมก้อแพงแต่พ่อแม่อยากให้เรียนที่ดีๆเพราะเห็นเราชอบภาษาตั้งแต่เด็กๆ เรียกได้ว่าครอบครัวเป็นหนี้สินมาตลอดจนถึงทุกวันนี้ ข้าราชาการก้อมีแต่กู้ๆ เพราะไม่มีรายได้อื่น แต่ที่บ้านพยายามทำหลายอย่างที่จะหารายได้เสริมทั้งทำขนมขาย ทำน้ำขาย ทำรังนกขาย แต่ก้อไม่พอแถมเหนื่อยสุดๆเพราะหลังจากเลิกงานต้องมานั่งทำพวกนี้อีก จากนั้นก้อกู้เงินเพื่อที่จะไปปล่อยเงินกู้ออกดอกเพราะอยากมีรายได้เข้ามาบ้าง สรุปโดนโกงหมดเพราะญาติพี่น้องเอาไปปล่อยแล้วเอาเอง ก้อเจ๊งอีก แล้วก้อทำหลายๆอย่างมาก ทั้งเปิดร้านค้าต่างๆ ทำกิจการรถบรรทุกขาดทุนไปเป็นล้าน โดนยึดรถ และเคยโดนฟ้องยึดทรัพย์ เอาเป็นว่าขอย่อๆเลยนะค่ะ ตอนนี้ที่บ้านเป็นหนี้เป็นสิบล้านจากการกู้ๆๆๆ รวมถึงตัวเราเองด้วย
ตอนที่เราเรียนจบแล้วก้อมาทำงานที่บ้านไม่ได้ทำงานที่ตัวเองเรียนมาเพราะคิดว่ากลับมาอยู่บ้านแล้วน่าจะสบายมีเงินเก็บไม่ต้องเสียค่าเช่า แต่เปล่าเลยมาอยู่ที่บ้านก้อมากู้หนี้เพื่อโป๊ะหนี้อีก แล้วยังเป็นหนี้บัตรอีก เงินเดือนตัวเองติดลบทุกเดือน ปีที่ผ่านเครียดมากกก จนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แต่ยังมีสติว่า "คนเราได้รับบทเรียนของชีวิตไม่เท่ากันหากเราผ่านไปได้ มันยิ่งทำให้เราแกร่ง เราไม่อยากเรียนบทเรียนซ้ำๆซากๆอีกแล้ว" เราเองก้อคิดแบบนี้จนตั้งสติได้ว่ายังไงมันต้องผ่านไปได้ เราก้อผ่านมาได้อย่างหวุดหวิดทุกเดือนนะค่ะ เพราะโชคดีที่มีมิตรดีนะค่ะ
จากการที่บ้านเป็นหนี้สินเยอะขนาดนี้ เราเองก้อมีความคิดว่ายังไงเราก้อต้องหาทางปลดหนี้ที่บ้านให้ได้ ลืมบอกไปค่ะว่าตัวเองเป็นลูกคนเดียว เพราะฉะนั้นเราต้องรับผิดชอบคนเดียว เราก้ออยากปลดหนี้ให้กับทางบ้านเพราะพ่อแม่แก่แล้วใกล้เกษียณแล้วค่ะ จะให้ท่านไปทำงานอะไรก้อคงลำบาก เราเองก้อเลยจะตัดสินใจลาออกมาช่วยครอบครัว ทั้งๆที่งานที่ทำอยู่เงินเดือนก้อเกือบ 20,000 บาทแล้วนะอยู่หน่วยงานราชการด้วย แต่ก้อไม่พอหรอกค่ะ ติดลบทุกเดือนค่ะ อยากออกมาทำธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะคิดว่าถ้าไม่ทำธุรกิจคงไม่มีทางปลดหนี้ได้แน่นอน แต่ยังไม่รู้จะทำธุรกิจอะไรเลยค่ะ
ตอนนี้เรากำลังเรียนป.โทอยู่ด้วยใกล้จบแล้ว ที่เรียนป.โทนี้ก้อต้องกู้เงินมาเรียนเหมือนกันค่ะ เพราะต้องเรียนภาคพิเศษ ไม่มีเงินเก็บเลย อยากตามความฝันอยากเป็นดร.ค่ะอยากได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ สมมติว่าถ้าได้ทุนจริงๆ ก้ออดห่วงที่บ้านไม่ได้หรอกค่ะ ว่าเขาจะเอาเงินที่ไหนใช้หนี้หลายเดือน เคยคิดจะขอคุณแม่ไปเรียนภาษาต่อที่ต่างประเทศตอนจบป.ตรี แต่ก้อไปไม่ได้เพราะที่บ้านไม่มีเงินค่ะ อีกทั้งต้องดู statement เงินเดือนพ่อแม่คงไปไม่ได้อย่างแน่นอน เราก้อเข้าใจนะค่ะ ชีวิตเรามีเงื่อนไขมากมายจริงเลยนะ จะบอกว่าจะเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาใครก้อไม่ได้นะค่ะ มันเป็นเรื่องในใจที่เก็บไว้มานานแล้ว วันนี้เลยตัดสินใจว่ายอมกล้าที่จะมาถามในนี้แหละค่ะ
เล่าประวัติชีวิตมาอย่างย่อๆนะค่ะ เพราะถ้าเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมดคงต้องเป็นหนังไตรมาสแน่ค่ะ ที่นี้มาถึงคำถามที่ตั้งกระทู้อยากปรึกษาผู้ที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตหรือมีความเห็นต่างๆหน่อยนะค่ะ ช่วยตอบคำถามดิฉันหน่อยนะค่ะ อยากได้หลายๆความคิดเห็น
1. ควรจะลาออกเพื่อมาทำธุรกิจเพื่อปลดหนี้ครอบครัวดีหรือไม่ค่ะ เพราะไม่รู้จะหาเงินมาจากไหน หากลาออกมาตัวเองก้อเงินเดือนติดลบเดือนละเป็นหมื่น หากไม่ลาออกก้อต้องติดลบเหมือนกัน
2. หากทำธุรกิจจะทำธุรกิจอะไรดี ตอนนี้น้าได้ที่ขายของข้างโรงงานที่มีแรงงานพม่ากับกัมพูชา หากลาออกจะไปขายของกับน้านะค่ะ น้าจองล็อคไว้ให้นะค่ะ จะขายอะไรดีให้ได้กำไรดีๆ
3. อยากเดินตามความฝันยังไงดี ในเมื่อที่บ้านเป็นหนี้ เราควรสละความฝันไหม แล้วใช้หนี้ให้หมดซึ่งไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ค่ะ อาจต้องทิ้งฝันไหมนะ ?
ขอบคุณนะค่ะ ที่เข้ามาอ่านชีวิตน้อยๆของดิฉัน ยังไงดิฉันก้อต้องต่อสู้ต่อไป แม้ยังไม่รู้โชคชะตาตัวเอง แต่จะไม่ยอมแพ้กับโชคชะตาแน่นอน จะสู้ให้ถึงที่สุดค่ะ เพราะชีวิตคือบทเรียน ยังไงผ่านบทเรียนนี้ไปก้อต้องมีบทเรียนหน้าให้เผชิญอีก ที่สำคัญอย่าสอบตกบทเรียนนั้นอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่านะค่ะ ไม่อยากต้องเจอเหตุการณ์แบบนั้นอีกนะค่ะ
หากชีวิตต้องเลือกตามความฝันหรือความจริงที่ต้องเผชิญ
ตอนเด็กๆเราก้อเจอแต่ความเป็นหนี้ รู้ว่าที่บ้านเป็นหนี้มาตลอดแต่เล็ก ยิ่งตอนช่วงปี 2540 ไม่มีเงินขนาดไม่มีตังค์จ่ายค่าไฟโดนไฟฟ้าตัด จะอ่านหนังสือสอบต้องจุดเทียนอ่านนะค่ะ ตอนนั้นเรียนโรงเรียนคริสต์ของจังหวัดค่าเทอมก้อแพงแต่พ่อแม่อยากให้เรียนที่ดีๆเพราะเห็นเราชอบภาษาตั้งแต่เด็กๆ เรียกได้ว่าครอบครัวเป็นหนี้สินมาตลอดจนถึงทุกวันนี้ ข้าราชาการก้อมีแต่กู้ๆ เพราะไม่มีรายได้อื่น แต่ที่บ้านพยายามทำหลายอย่างที่จะหารายได้เสริมทั้งทำขนมขาย ทำน้ำขาย ทำรังนกขาย แต่ก้อไม่พอแถมเหนื่อยสุดๆเพราะหลังจากเลิกงานต้องมานั่งทำพวกนี้อีก จากนั้นก้อกู้เงินเพื่อที่จะไปปล่อยเงินกู้ออกดอกเพราะอยากมีรายได้เข้ามาบ้าง สรุปโดนโกงหมดเพราะญาติพี่น้องเอาไปปล่อยแล้วเอาเอง ก้อเจ๊งอีก แล้วก้อทำหลายๆอย่างมาก ทั้งเปิดร้านค้าต่างๆ ทำกิจการรถบรรทุกขาดทุนไปเป็นล้าน โดนยึดรถ และเคยโดนฟ้องยึดทรัพย์ เอาเป็นว่าขอย่อๆเลยนะค่ะ ตอนนี้ที่บ้านเป็นหนี้เป็นสิบล้านจากการกู้ๆๆๆ รวมถึงตัวเราเองด้วย
ตอนที่เราเรียนจบแล้วก้อมาทำงานที่บ้านไม่ได้ทำงานที่ตัวเองเรียนมาเพราะคิดว่ากลับมาอยู่บ้านแล้วน่าจะสบายมีเงินเก็บไม่ต้องเสียค่าเช่า แต่เปล่าเลยมาอยู่ที่บ้านก้อมากู้หนี้เพื่อโป๊ะหนี้อีก แล้วยังเป็นหนี้บัตรอีก เงินเดือนตัวเองติดลบทุกเดือน ปีที่ผ่านเครียดมากกก จนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แต่ยังมีสติว่า "คนเราได้รับบทเรียนของชีวิตไม่เท่ากันหากเราผ่านไปได้ มันยิ่งทำให้เราแกร่ง เราไม่อยากเรียนบทเรียนซ้ำๆซากๆอีกแล้ว" เราเองก้อคิดแบบนี้จนตั้งสติได้ว่ายังไงมันต้องผ่านไปได้ เราก้อผ่านมาได้อย่างหวุดหวิดทุกเดือนนะค่ะ เพราะโชคดีที่มีมิตรดีนะค่ะ
จากการที่บ้านเป็นหนี้สินเยอะขนาดนี้ เราเองก้อมีความคิดว่ายังไงเราก้อต้องหาทางปลดหนี้ที่บ้านให้ได้ ลืมบอกไปค่ะว่าตัวเองเป็นลูกคนเดียว เพราะฉะนั้นเราต้องรับผิดชอบคนเดียว เราก้ออยากปลดหนี้ให้กับทางบ้านเพราะพ่อแม่แก่แล้วใกล้เกษียณแล้วค่ะ จะให้ท่านไปทำงานอะไรก้อคงลำบาก เราเองก้อเลยจะตัดสินใจลาออกมาช่วยครอบครัว ทั้งๆที่งานที่ทำอยู่เงินเดือนก้อเกือบ 20,000 บาทแล้วนะอยู่หน่วยงานราชการด้วย แต่ก้อไม่พอหรอกค่ะ ติดลบทุกเดือนค่ะ อยากออกมาทำธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะคิดว่าถ้าไม่ทำธุรกิจคงไม่มีทางปลดหนี้ได้แน่นอน แต่ยังไม่รู้จะทำธุรกิจอะไรเลยค่ะ
ตอนนี้เรากำลังเรียนป.โทอยู่ด้วยใกล้จบแล้ว ที่เรียนป.โทนี้ก้อต้องกู้เงินมาเรียนเหมือนกันค่ะ เพราะต้องเรียนภาคพิเศษ ไม่มีเงินเก็บเลย อยากตามความฝันอยากเป็นดร.ค่ะอยากได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ สมมติว่าถ้าได้ทุนจริงๆ ก้ออดห่วงที่บ้านไม่ได้หรอกค่ะ ว่าเขาจะเอาเงินที่ไหนใช้หนี้หลายเดือน เคยคิดจะขอคุณแม่ไปเรียนภาษาต่อที่ต่างประเทศตอนจบป.ตรี แต่ก้อไปไม่ได้เพราะที่บ้านไม่มีเงินค่ะ อีกทั้งต้องดู statement เงินเดือนพ่อแม่คงไปไม่ได้อย่างแน่นอน เราก้อเข้าใจนะค่ะ ชีวิตเรามีเงื่อนไขมากมายจริงเลยนะ จะบอกว่าจะเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาใครก้อไม่ได้นะค่ะ มันเป็นเรื่องในใจที่เก็บไว้มานานแล้ว วันนี้เลยตัดสินใจว่ายอมกล้าที่จะมาถามในนี้แหละค่ะ
เล่าประวัติชีวิตมาอย่างย่อๆนะค่ะ เพราะถ้าเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมดคงต้องเป็นหนังไตรมาสแน่ค่ะ ที่นี้มาถึงคำถามที่ตั้งกระทู้อยากปรึกษาผู้ที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตหรือมีความเห็นต่างๆหน่อยนะค่ะ ช่วยตอบคำถามดิฉันหน่อยนะค่ะ อยากได้หลายๆความคิดเห็น
1. ควรจะลาออกเพื่อมาทำธุรกิจเพื่อปลดหนี้ครอบครัวดีหรือไม่ค่ะ เพราะไม่รู้จะหาเงินมาจากไหน หากลาออกมาตัวเองก้อเงินเดือนติดลบเดือนละเป็นหมื่น หากไม่ลาออกก้อต้องติดลบเหมือนกัน
2. หากทำธุรกิจจะทำธุรกิจอะไรดี ตอนนี้น้าได้ที่ขายของข้างโรงงานที่มีแรงงานพม่ากับกัมพูชา หากลาออกจะไปขายของกับน้านะค่ะ น้าจองล็อคไว้ให้นะค่ะ จะขายอะไรดีให้ได้กำไรดีๆ
3. อยากเดินตามความฝันยังไงดี ในเมื่อที่บ้านเป็นหนี้ เราควรสละความฝันไหม แล้วใช้หนี้ให้หมดซึ่งไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ค่ะ อาจต้องทิ้งฝันไหมนะ ?
ขอบคุณนะค่ะ ที่เข้ามาอ่านชีวิตน้อยๆของดิฉัน ยังไงดิฉันก้อต้องต่อสู้ต่อไป แม้ยังไม่รู้โชคชะตาตัวเอง แต่จะไม่ยอมแพ้กับโชคชะตาแน่นอน จะสู้ให้ถึงที่สุดค่ะ เพราะชีวิตคือบทเรียน ยังไงผ่านบทเรียนนี้ไปก้อต้องมีบทเรียนหน้าให้เผชิญอีก ที่สำคัญอย่าสอบตกบทเรียนนั้นอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่านะค่ะ ไม่อยากต้องเจอเหตุการณ์แบบนั้นอีกนะค่ะ