-- ตอนที่หาข้อมูลเรื่อง NISSAN PULSAR ปัญหาหนึ่งที่เคลมจนเป็นปกติก็คือ เกียร์พัง ซึ่งวิธีแก้ปัญหา ของคนที่เคลมเกียร์มาแล้ว และหมด warranty แล้ว ก็คือ การติด Oil Cooler ระบายความร้อนน้ำมันเกียร์ สำหรับพวกรุ่น 1.6 และ 1.8 ครับ รวมถึง การใช้น้ำมันเกียร์นอกศูนย์ ที่ราคาถูกกว่า แต่คุณภาพดีกว่าครับ
-- พอมารุ่น Turbo ทีแรกก็ดีใจว่า มีการติดตั้ง Oil Cooler ระะบายความร้อนน้ำมันเกียร์ มาให้แล้ว แต่เอาเข้าจริงข้อมูลยืนยันจากผู้ใช้ ที่ใช้เจ้าตัว ELM327 ต่อสัญญาณจาก OBD2 เข้ามือถือ(ทาง BT) แจ้งยืนยันว่า อุณหภูมิน้ำมันเกียร์ในขณะรถติด กับ ตอนซัดเกิน 120 กม./ช.ม.นั้น ขึ้นไป 98 ถึง 100 กว่าองศา ซึ่งเกิน Limit ของน้ำมันแล้วล่ะครับ
-- ความตั้งใจจริงๆของผม ก็คือ อยากจะแค่ Flushing น้ำมันเกียร์ศูนย์ทิ้ง ใช้ของที่ดีกว่า / เปลี่ยนกรองเกียร์ (เพราะมันแช่ในน้ำมันเกียร์มา 3 ปีนะ .. ตามประสารถค้างสต็อค) แต่พอใกล้วันนัดกับทางอู่ ก็เจอใน FB ว่า มี Sylphy Turbo ไปย้ายตำแหน่ง และ เปลี่ยนแผงออยล์ให้ใหญ่ขึ้น เห็นแล้วก็สนใจ เพราะไหนๆจะทำแล้ว ก็ทีเดียวจบไปเลย ไม่ต้องเปลืองน้ำมันเกียร์
แต่ตามประสา”คนคิดเยอะ” อย่างผม นั่นก็คือ
เอา Warmer เดิมไว้
-- ชุดของทางร้าน จะทำการตัดระบบน้ำหล่อเย็น ที่วนมาอุ่นน้ำมันเกียร์ (Warmer) ออก ซึ่งข้อมูลจากหลายคันที่ทำแบบนี้ก็คือ ต้องวอร์มเครื่องนานหน่อย 5 – 10 นาที จึงจะวิ่งได้ปกติ ไม่งั้นจะอืด ซึ่งเดิมๆ สตาร์ทแล้วถอยออกจากบ้านเลย Pulsar ผมก็เจออาการนี้แล้วนะ คือ ถอยออกจากบ้าน พอตั้งลำได้ ก็ดึงมา D เพื่อหลบมาจอดหน้าบ้าน จังหวะเข้า D เนี่ย รู้เลยว่า เกียร์มันเข้าช้า ซึ่งพอร้อนอาการนี้ก็หายไป
-- ดังนั้น เลยบอกร้านว่า ผมไม่เอา Warmer เดิมออกนะ ท่ามกลางเสียงคัดค้านของหลายคน แต่ผมมีเหตุผลนะ ...
1. รถคันนี้ งานหลัก คือ วิ่งสั้นๆ ไม่กี่กม. ก็จอดแล้ว กว่า 80% ดังนั้น ผมต้องการให้น้ำมันเกียร์ถึงอุณหภูมิทำงานเร็วที่สุดเป็นหลัก (แต่ที่ทำไว้ เพราะเผื่อซัด เผื่ออัดไงครับ)
2. แผง Oil Cooler ที่ใหญ่ขึ้น / ตำแหน่งรับลมได้ดีขึ้น / แถมน้ำมันเกียร์เกรดดีขึ้นด้วย ยังไงอุณหภูมิก็ลง จริงไหมครับ ? รวมถึง ข้อมูลยืนยันจากเพื่อนที่คิดแบบผม ลองเปลี่ยนแต่แผงออยล์ ลองจับอุณหภูมิ และ ค่อยไปเปลี่ยน warmer ออก ผลคือ อุณหภูมิลงไม่เกิน 3 องศาครับ (หลังตัด warmer ออก)
เลือกขนาดแผงออยล์คูลเลอร์
-- แผงเดิมจากโรงงานเป็นแบบ 19 ชั้น หนา แต่สั้น ติดตั้งในตำแหน่ง หลังไฟตัดหมอกหน้าซ้าย
-- ในขณะที่ของร้าน มีแบบ 13 ชั้น 20 ชั้น (ตามภาพ) ครั้นจะใช้ 13 ชั้น แม้มันจะยาวกว่าเดิม ก็ไม่มั่นใจว่า จะระบายความร้อนดีกว่าเดิมไหม เลยเลือกแบบ 20 ชั้นไปครับ ยังไงให้มันระบายดีกว่าเดิม
เลือกน้ำมันเกียร์
-- น้ำมันเกียร์ ร้านมี 3 แบรนด์ให้เลือก Valvoline / Liqui Moly / Amsoil
1. Valvoline ดู Data Sheet แล้ว หนืดสุด พอๆกับ NS-2 เลย แต่ราคาเบาสุด 3 พันกว่าบาท (8 ลิตร) ตัวนี้ ที่เคยลอง ATF Max Life ใน HONDA มันจะออกตัวหนืดๆหน่อย
2. Liqui Moly ใสสุด แต่ยังหนืดกว่า NS-3 เพื่อนใช้ ยืนยันว่า อุณหภูมิลงเร็ว ขึ้นช้า ใส่แล้ววิ่งดีขึ้น 6 พันกลาง (8ลิตร)
3. Amsoil ยี่ห้อที่ผมร้องยี้ เพราะเข็ดกับน้ำมันเครื่อง ยี่ห้อแรก และ ยี่ห้อเดียวที่ 5 พันกม. ทนไม่ไหว ถ่ายทิ้งเลย ดังนั้น น้ำมันเกียร์ตัดทิ้งแน่นอน แถมราคาแพงสุดด้วย 8 พันกว่า (8 ลิตร)
จริงๆไม่คิดมาก Valvoline ก็ได้ จบง่ายดี ถ่ายทุก 2 หมื่นกม. แต่พอดีอยากลองของเยอรมัน เลยจัด Liqui Moly เพราะยังไง ก็ถ่ายทุก 2 หมื่นกม. หรือปีละครั้ง อยู่แล้วครับ
ใส่ค้ำโช้ค Ultra racing
-- ค้ำโช้ค หงุดหงิดกับพวงมาลัยรถคันนี้เหลือเกิน ดูมาหลายยี่ห้อ แต่สุดท้ายมาตายรัง Ultra racing เพราะถามในเพจคนนำเข้าแล้ว เค้าบอกว่า ติดแล้ว สามารถเปิดกรองอากาศได้ (หลายยี่ห้อ ติดแล้ว ถ้าจะถอดกรองอากาศ ต้องถอดค้ำโช้ค)
-- ส่วนสาเหตุที่เลือกแบรนด์นี้ ก็ไม่มีอะไรมาก นั่นคือ คุณภาพงานใช้ได้ มีมาตรฐาน และ ราคารับได้ครับ
-- Pulsar / Sylphy ใช้ค้ำอันเดียวกันนะครับ
เริ่มติดตั้ง
Oil Cooler ระบายความร้อนน้ำมันเกียร์
-- ผมเคยติดให้กับ Civic FD ไปแล้ว ตอนนั้นใช้ของ Hayden ด้วย ก็ 3 พันกว่าบาท ติดไม่นาน ไม่เกิน 1 ช.ม.ก็เสร็จ รอบนี้ Warmer ก็ไม่ต้องเปลี่ยน โอ๊ยยย งานหมูๆ
เอาเข้าจริงไม่หมูแฮะ งานช้างเลยล่ะ
1. กรองเกียร์ ของรุ่น Turbo อยู่ใน Warmer ต้องถอด Warmer ออกก่อน (ตัวครีบๆในรูป) ซึ่ง Warmer รุ่นนี้ถอดยากมาก ไม่เหมือน March / Almera หรือ Pulsar 1.6 – 1.8 ที่กรองจะอยู่ข้างนอก แต่ Turbo จะเหมือน Teana J32 ใช้กรองเบอร์เดียวกัน และไม่ต้องใช้โอริง
หน้าตาไส้กรองน้ำมันเกียร์
ทำไมขนเยอะ !!
2. ไม่มีขายึดออยล์เกียร์ด้านหน้ารังผึ้งแอร์ มาให้แบบรุ่น 1.6 – 1.8 ก็ต้องตัดเหล็กทำขากันใหม่ / ย้ายตำแหน่งแตรใหม่ เพราะติดท่อของ Oil Cooler
ก่อนติด
หลังติด
งานติดตั้ง ช่างทำได้เรียบร้อยดี มีมาตรฐานครับ ท่อทางเดินน้ำมัน ใช้ Parker ทั้งหมด รวมถึง สวมทับด้วยท่อหุ้มด้านนอกอีกชั้น งานติดตั้งทำตั้งแต่ 11 โมงเช้า เสร็จสักเกือบ 4 โมงเย็น
Flush น้ำมันเกียร์กัน
สีน้ำมันเกียร์ของเก่ายังไม่ดำครับ ก็ 2 พันกม.เองหนิ จะคล้ำบ้างก็ไม่ว่ากัน เพราะซัด 200 มาแล้ว
ดูอีกที
[CR] * * * เริ่มเข้าโหมดแต่งรถ Pulsar DIG Turbo / ค้ำโช้ค / Gear Oil Cooler / กล่องคันเร่ง * * *
-- ตอนที่หาข้อมูลเรื่อง NISSAN PULSAR ปัญหาหนึ่งที่เคลมจนเป็นปกติก็คือ เกียร์พัง ซึ่งวิธีแก้ปัญหา ของคนที่เคลมเกียร์มาแล้ว และหมด warranty แล้ว ก็คือ การติด Oil Cooler ระบายความร้อนน้ำมันเกียร์ สำหรับพวกรุ่น 1.6 และ 1.8 ครับ รวมถึง การใช้น้ำมันเกียร์นอกศูนย์ ที่ราคาถูกกว่า แต่คุณภาพดีกว่าครับ
-- พอมารุ่น Turbo ทีแรกก็ดีใจว่า มีการติดตั้ง Oil Cooler ระะบายความร้อนน้ำมันเกียร์ มาให้แล้ว แต่เอาเข้าจริงข้อมูลยืนยันจากผู้ใช้ ที่ใช้เจ้าตัว ELM327 ต่อสัญญาณจาก OBD2 เข้ามือถือ(ทาง BT) แจ้งยืนยันว่า อุณหภูมิน้ำมันเกียร์ในขณะรถติด กับ ตอนซัดเกิน 120 กม./ช.ม.นั้น ขึ้นไป 98 ถึง 100 กว่าองศา ซึ่งเกิน Limit ของน้ำมันแล้วล่ะครับ
-- ความตั้งใจจริงๆของผม ก็คือ อยากจะแค่ Flushing น้ำมันเกียร์ศูนย์ทิ้ง ใช้ของที่ดีกว่า / เปลี่ยนกรองเกียร์ (เพราะมันแช่ในน้ำมันเกียร์มา 3 ปีนะ .. ตามประสารถค้างสต็อค) แต่พอใกล้วันนัดกับทางอู่ ก็เจอใน FB ว่า มี Sylphy Turbo ไปย้ายตำแหน่ง และ เปลี่ยนแผงออยล์ให้ใหญ่ขึ้น เห็นแล้วก็สนใจ เพราะไหนๆจะทำแล้ว ก็ทีเดียวจบไปเลย ไม่ต้องเปลืองน้ำมันเกียร์
แต่ตามประสา”คนคิดเยอะ” อย่างผม นั่นก็คือ
เอา Warmer เดิมไว้
-- ชุดของทางร้าน จะทำการตัดระบบน้ำหล่อเย็น ที่วนมาอุ่นน้ำมันเกียร์ (Warmer) ออก ซึ่งข้อมูลจากหลายคันที่ทำแบบนี้ก็คือ ต้องวอร์มเครื่องนานหน่อย 5 – 10 นาที จึงจะวิ่งได้ปกติ ไม่งั้นจะอืด ซึ่งเดิมๆ สตาร์ทแล้วถอยออกจากบ้านเลย Pulsar ผมก็เจออาการนี้แล้วนะ คือ ถอยออกจากบ้าน พอตั้งลำได้ ก็ดึงมา D เพื่อหลบมาจอดหน้าบ้าน จังหวะเข้า D เนี่ย รู้เลยว่า เกียร์มันเข้าช้า ซึ่งพอร้อนอาการนี้ก็หายไป
-- ดังนั้น เลยบอกร้านว่า ผมไม่เอา Warmer เดิมออกนะ ท่ามกลางเสียงคัดค้านของหลายคน แต่ผมมีเหตุผลนะ ...
1. รถคันนี้ งานหลัก คือ วิ่งสั้นๆ ไม่กี่กม. ก็จอดแล้ว กว่า 80% ดังนั้น ผมต้องการให้น้ำมันเกียร์ถึงอุณหภูมิทำงานเร็วที่สุดเป็นหลัก (แต่ที่ทำไว้ เพราะเผื่อซัด เผื่ออัดไงครับ)
2. แผง Oil Cooler ที่ใหญ่ขึ้น / ตำแหน่งรับลมได้ดีขึ้น / แถมน้ำมันเกียร์เกรดดีขึ้นด้วย ยังไงอุณหภูมิก็ลง จริงไหมครับ ? รวมถึง ข้อมูลยืนยันจากเพื่อนที่คิดแบบผม ลองเปลี่ยนแต่แผงออยล์ ลองจับอุณหภูมิ และ ค่อยไปเปลี่ยน warmer ออก ผลคือ อุณหภูมิลงไม่เกิน 3 องศาครับ (หลังตัด warmer ออก)
เลือกขนาดแผงออยล์คูลเลอร์
-- แผงเดิมจากโรงงานเป็นแบบ 19 ชั้น หนา แต่สั้น ติดตั้งในตำแหน่ง หลังไฟตัดหมอกหน้าซ้าย
-- ในขณะที่ของร้าน มีแบบ 13 ชั้น 20 ชั้น (ตามภาพ) ครั้นจะใช้ 13 ชั้น แม้มันจะยาวกว่าเดิม ก็ไม่มั่นใจว่า จะระบายความร้อนดีกว่าเดิมไหม เลยเลือกแบบ 20 ชั้นไปครับ ยังไงให้มันระบายดีกว่าเดิม
เลือกน้ำมันเกียร์
-- น้ำมันเกียร์ ร้านมี 3 แบรนด์ให้เลือก Valvoline / Liqui Moly / Amsoil
1. Valvoline ดู Data Sheet แล้ว หนืดสุด พอๆกับ NS-2 เลย แต่ราคาเบาสุด 3 พันกว่าบาท (8 ลิตร) ตัวนี้ ที่เคยลอง ATF Max Life ใน HONDA มันจะออกตัวหนืดๆหน่อย
2. Liqui Moly ใสสุด แต่ยังหนืดกว่า NS-3 เพื่อนใช้ ยืนยันว่า อุณหภูมิลงเร็ว ขึ้นช้า ใส่แล้ววิ่งดีขึ้น 6 พันกลาง (8ลิตร)
3. Amsoil ยี่ห้อที่ผมร้องยี้ เพราะเข็ดกับน้ำมันเครื่อง ยี่ห้อแรก และ ยี่ห้อเดียวที่ 5 พันกม. ทนไม่ไหว ถ่ายทิ้งเลย ดังนั้น น้ำมันเกียร์ตัดทิ้งแน่นอน แถมราคาแพงสุดด้วย 8 พันกว่า (8 ลิตร)
จริงๆไม่คิดมาก Valvoline ก็ได้ จบง่ายดี ถ่ายทุก 2 หมื่นกม. แต่พอดีอยากลองของเยอรมัน เลยจัด Liqui Moly เพราะยังไง ก็ถ่ายทุก 2 หมื่นกม. หรือปีละครั้ง อยู่แล้วครับ
ใส่ค้ำโช้ค Ultra racing
-- ค้ำโช้ค หงุดหงิดกับพวงมาลัยรถคันนี้เหลือเกิน ดูมาหลายยี่ห้อ แต่สุดท้ายมาตายรัง Ultra racing เพราะถามในเพจคนนำเข้าแล้ว เค้าบอกว่า ติดแล้ว สามารถเปิดกรองอากาศได้ (หลายยี่ห้อ ติดแล้ว ถ้าจะถอดกรองอากาศ ต้องถอดค้ำโช้ค)
-- ส่วนสาเหตุที่เลือกแบรนด์นี้ ก็ไม่มีอะไรมาก นั่นคือ คุณภาพงานใช้ได้ มีมาตรฐาน และ ราคารับได้ครับ
-- Pulsar / Sylphy ใช้ค้ำอันเดียวกันนะครับ
เริ่มติดตั้ง
Oil Cooler ระบายความร้อนน้ำมันเกียร์
-- ผมเคยติดให้กับ Civic FD ไปแล้ว ตอนนั้นใช้ของ Hayden ด้วย ก็ 3 พันกว่าบาท ติดไม่นาน ไม่เกิน 1 ช.ม.ก็เสร็จ รอบนี้ Warmer ก็ไม่ต้องเปลี่ยน โอ๊ยยย งานหมูๆ
เอาเข้าจริงไม่หมูแฮะ งานช้างเลยล่ะ
1. กรองเกียร์ ของรุ่น Turbo อยู่ใน Warmer ต้องถอด Warmer ออกก่อน (ตัวครีบๆในรูป) ซึ่ง Warmer รุ่นนี้ถอดยากมาก ไม่เหมือน March / Almera หรือ Pulsar 1.6 – 1.8 ที่กรองจะอยู่ข้างนอก แต่ Turbo จะเหมือน Teana J32 ใช้กรองเบอร์เดียวกัน และไม่ต้องใช้โอริง
หน้าตาไส้กรองน้ำมันเกียร์
ทำไมขนเยอะ !!
2. ไม่มีขายึดออยล์เกียร์ด้านหน้ารังผึ้งแอร์ มาให้แบบรุ่น 1.6 – 1.8 ก็ต้องตัดเหล็กทำขากันใหม่ / ย้ายตำแหน่งแตรใหม่ เพราะติดท่อของ Oil Cooler
ก่อนติด
หลังติด
งานติดตั้ง ช่างทำได้เรียบร้อยดี มีมาตรฐานครับ ท่อทางเดินน้ำมัน ใช้ Parker ทั้งหมด รวมถึง สวมทับด้วยท่อหุ้มด้านนอกอีกชั้น งานติดตั้งทำตั้งแต่ 11 โมงเช้า เสร็จสักเกือบ 4 โมงเย็น
Flush น้ำมันเกียร์กัน
สีน้ำมันเกียร์ของเก่ายังไม่ดำครับ ก็ 2 พันกม.เองหนิ จะคล้ำบ้างก็ไม่ว่ากัน เพราะซัด 200 มาแล้ว
ดูอีกที