Nissan Pulsar DIG Turbo ปี 2014 / ออกรถ ปี 2017
เลขไมล์ 47,XXX กม.
- รถคันนี้อยู่กับผมมา 4 ปีละ เฉลี่ยใช้ปีละ 10,000 กม. เช็คระยะปีละครั้ง เป็นรถคันแรก และ คันเดียว ของครอบครัว ที่ไม่เข้าศูนย์บริการ ด้วยเหตุผล ที่เคยเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้ไปละ
- รอบนี้ เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ ...
ต้นเดือนธันวา .. ขับไปจ่ายตลาด ซื้อของเสร็จกลับมาที่รถ กดสตาร์ท ปรากฎว่า เสียงไดหมุน แต่ไม่ติด เลยกดดับ แล้วสตาร์ทใหม่ .. ตอนนั้น คิดว่า เป็นที่แบต เพราะครบ 2 ปีพอดี ก็เลยเปลี่ยนแบตใหม่ซะ
แต่ .. ก่อนหน้านี้ มันก็มีอาการ จอดติดไฟแดง แล้วรอบสวิงด้วย
จริงๆ ขับไปลำพูนอีกสักรอบ ก็ลงเลขกลมๆ 50,000 กม. ละ แต่เอะใจยังไงไม่รู้ เอาเช็คระยะดีกว่า พอดี เช็คความชื้นน้ำมันเบรค มันเกินแล้วด้วย จะวิ่งทางไกลอีกก็เกรงใจ จอดก่อนละกัน และไหนๆว่าง ก็เอาเช็คระยะก่อนละกัน น้ำมันเบรค ค่อยหาจังหวะไปไล่อีกที ที่ พี่เสว กิจเจริญชัย
น้ำมันเครื่อง Voltronic 5W-30 + กรอง Nismo
น้ำมันเกียร์ Liqui Moly ATF 1400
พวกนี้หิ้วไปเอง นอกนั้นใช้ของอู่ คำสั่งผมคือ
1. ถ่ายน้ำมันเครื่อง
2. ถ่ายน้ำมันเกียร์ + กรองเกียร์
3. เปลี่ยนปั๊มติ๊ก (รำคาญเกจ์น้ำมันตกไว ครึ่งถัง วิ่งได้ 220 กม.เอง พวก sylphy น่าจะเจอทุกคัน เป็น defect ลูกลอย แต่ไม่แยกขายลูกลอยนะ ยกทั้งปั๊มติ๊ก รวมถึง กรองเบนซิน ถ้าจะเปลี่ยนก็ยกปั๊มติ๊กนะ)
..............
อู่ประจำผม ก็ N.T. Service (ช่างหวาน) แถวๆ เลียบทางรถไฟสายเก่า
แน่นอน ไปถึงคันแรกอยู่ละ ... วันนี้รถเพียบเลย ทีแรกบอกช่างว่า ไม่ต้องเปลี่ยนกรองเกียร์หรอก รถคันนี้มันรื้อยากมาก (warmer มันอยู่ระหว่างแซสซีส์) แต่ช่างบอกว่า ไหนๆทำแล้ว เปลี่ยนไปเลยเพ่ .. อ่ะ จัดไป
หันไปอีกที .. อ้าว เปิดอ่างให้เลยแฮะ
- เห็นสีน้ำมัน แล้วก็ยิ้มออก ใสแจ๋ว อย่างกะน้ำมันใหม่ .. จะบอกว่า ใสกว่า น้ำมันเกียร์ของ CRV 20,000 กม. อีก (น้ำมันเกียร์ Pulsar รอบนี้ ใช้มา 20,000 กม. กับเวลา 2 ปี)
- ดูแม่เหล็ก (ก้อนกลมๆ 2 ก้อน) ก็ยังผ่าน ไม่มีโลหะเกาะ (ถ้ามี ก็เตรียม OH เกียร์ได้เลย)
- ช่างเอาไปล้างเรียบร้อย รวมถึง กรองเกียร์ตัวใน ด้วยครับ
ประกอบกลับเรียบร้อย ไม่มีอะไรน่าห่วง
...................
"ช่างๆ อย่าลืม ปั๊มติ๊กผมด้วยนะ"
- ให้ดูว่า น้ำมันเกือบเต็มถัง (เพราะเพิ่งเติมเต็มจาก ปราจีน วิ่งมา กทม ก็ 130 - 140 กม. แต่เกจ์หน้ารถ เหลือครึ่งถังนะ (ปั๊มติ๊กเดิม)
- อันนี้ หน้าตาปั๊มติ๊กเดิม
- จากนั้น เอาตัวใหม่ ประกอบกลับ เกจ์ดีดขึ้นมา เกือบเต็มถังละ (แปลกนะ ปัญหา part แต่ไม่เคยมีการเรียกเคลมเลย หุหุ) แล้วก็สตาร์ทเครื่อง .. โอเค ติดปกติ ก็ปล่อยเดินเบาไป เพราะต้องไล่อากาศจากการถ่ายน้ำหม้อน้ำด้วย
แต่ ....
- อยู่ดีๆ เครื่องดับ !!! ... สงสัย น้ำมันยังเข้าไม่เต็ม มีอากาศมั้ง ... อ่ะ สตาร์ทใหม่ ... เฮ้ยยยย เสียงไดหมุน แต่ไม่ติด จนช่างบอกให้กด off เดี๋ยวปั๊มแรงดันสูงพัง !!! แล้วก็ลองสตาร์ทอีกหลายรอบ ไม่ติด .. ช่างทดสอบแล้ว ปั๊มติ๊กทำงาน มีน้ำมันมารอที่ปั๊มแรงดันสูง
ซวยละ ....
- ช่างเอาคอมมาจับ ปรากฎว่า มันฟ้องว่า ปั๊มแรงดันสูงมีปัญหา (อยู่ในห้องเครื่อง ทำหน้าที่ส่งน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง)
ซวยกว่า คือ ... ไม่มีของ เพราะเป็นวันอาทิตย์ ร้านปิด !!!
ทำไงล่ะ ? ตอนนั้น บ่ายโมงกว่า / นั่งรถกลับปราจีน ได้นะ แต่พรุ่งนี้เลิกงาน ผมจะมาเอารถยังไงล่ะนั่น กว่าจะเลิกงาน กว่าจะนั่งรถตู้เข้ามา ต่อรถมาอู่อีก
ถามช่างว่า มีรถ O/H เกียร์ ในอู่ไหม ? ขอสลับอะไหล่ให้ผมวิ่งกลับปราจีนได้ก่อน พรุ่งนี้อะไหล่จริงมา ผมมาสลับคืน แต่ช่างแจ้งว่า พวก 1.6 จะไม่มีตัวนี้ เป็นอะไหล่ที่มีใน X-Trail T32 2.0
X-Trail ... นึกออกละ !!! ช่างเบิร์ด ไง อู่ เบิร์ด นิสสัน เซอร์วิส เพราะกลุ่ม X-Trail ชอบไปซ่อมที่นั่น (ผมก็เอารถเพื่อนผมไปเข้าที่นั่น) ลองโทร.หาช่างเบิร์ด ปรากฎว่า มีของ !!! เหลือเชื่อ คือ จะบอกว่า อะไหล่ตัวนี้ ต่อให้ศูนย์ ผมก็มั่นใจว่า ไม่มีศูนย์ไหนเก็บ เพราะตัวละ 2 หมื่นครับ !!!
- จัดการโอนเงิน 20,000 บาท ให้ช่างเบิร์ด แล้วให้อู่ช่างหวาน เรียก Grab ไปรับของให้หน่อย (ผมดันปักหมุดผิดอีก เห็นขึ้น เบิร์ด เซอร์วิส ... อู่ถามผมแล้วนะผมบอก โอเค แต่ดันลืมดูที่อยู่ เสียเวลา พี่ grab เค้าอีก)
- ได้ของมา บ่ายสามกว่าครับ ประกอบแป้บนึง อะไหล่นี่ Made in USA ซะด้วย
เบ็ดเสร็จ ได้ออกจากอู่ราวๆ 16.30 น. ครับ มาคันแรก กลับ คันสุดท้าย หุหุ
................
ประเด็นคือ รถ 50,000 กม. มันควรพังไหมนะ ? หันดูคันอื่น
1. Jazz GE 310,000 กม. ไม่เห็นมีอะไร เต็มที่ ก็ หัวฉีด / คอยล์ ชุดละหมื่น โดนไปตอน 3 แสนกม. สิบกว่าปี ผมรับได้
2. CRV G3 160,000 กม. 10 ปี หนักสุดก็แร็คพวงมาลัย โดนตอนปีที่ 9 40,000 บาท ผมก็ว่า ผมรับได้
3. Civic FC Turbo รถปี 17 ไมล์เกินแสนกม.แล้ว รถน้องเขย ออกปีเดียวกับ Pulsar ก็ยังนิ่งๆ
บอกพ่อ ... "แก มี City แล้ว ก็ขายมันทิ้งสิ จะเก็บไว้ทำไม ?"
บอกแม่ ... "แก ก็รู้ว่า รถมันมีปัญหา แกยังดื้อจะซื้อมาอีก รถยี่ห้อนี้"
บ่นไปหน่อย โดนกระหน่ำมาเลย .. แต่ไม่ขายหรอก เก็บไว้ขับเล่นแบบนี้แหละ วิ่งปีละหมื่นกม.พอละ ใช้โหด ไปใช้ CRV กับ City ดีกว่า ชัวร์กว่าเยอะ ยังไงก็ไม่จุกจิก
ฝากไว้ ให้คิด .. ผมว่า อันนี้ก็สาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้คนหนีหายจากยี่ห้อนี้นะ .. ระดับอู่เบิร์ด เก็บอะไหล่ แปลว่า พวก X-Trail มีพังแน่ๆ
ปล.1 เปลี่ยนปั๊มแล้ว รถเหยียบมันส์ขึ้นอีกเป็นกอง แถมประหยัดขึ้นด้วยครับ
ปล.2 ค่าใช้จ่าย รอบนี้ ครับ
[CR] * * * Pulsar DIG เล่นผมอีกละ .. เช็ค 50,000 กม. โดนไป 3 หมื่นบาท !!! * * *
เลขไมล์ 47,XXX กม.
- รถคันนี้อยู่กับผมมา 4 ปีละ เฉลี่ยใช้ปีละ 10,000 กม. เช็คระยะปีละครั้ง เป็นรถคันแรก และ คันเดียว ของครอบครัว ที่ไม่เข้าศูนย์บริการ ด้วยเหตุผล ที่เคยเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้ไปละ
- รอบนี้ เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ ...
ต้นเดือนธันวา .. ขับไปจ่ายตลาด ซื้อของเสร็จกลับมาที่รถ กดสตาร์ท ปรากฎว่า เสียงไดหมุน แต่ไม่ติด เลยกดดับ แล้วสตาร์ทใหม่ .. ตอนนั้น คิดว่า เป็นที่แบต เพราะครบ 2 ปีพอดี ก็เลยเปลี่ยนแบตใหม่ซะ
แต่ .. ก่อนหน้านี้ มันก็มีอาการ จอดติดไฟแดง แล้วรอบสวิงด้วย
จริงๆ ขับไปลำพูนอีกสักรอบ ก็ลงเลขกลมๆ 50,000 กม. ละ แต่เอะใจยังไงไม่รู้ เอาเช็คระยะดีกว่า พอดี เช็คความชื้นน้ำมันเบรค มันเกินแล้วด้วย จะวิ่งทางไกลอีกก็เกรงใจ จอดก่อนละกัน และไหนๆว่าง ก็เอาเช็คระยะก่อนละกัน น้ำมันเบรค ค่อยหาจังหวะไปไล่อีกที ที่ พี่เสว กิจเจริญชัย
น้ำมันเครื่อง Voltronic 5W-30 + กรอง Nismo
น้ำมันเกียร์ Liqui Moly ATF 1400
พวกนี้หิ้วไปเอง นอกนั้นใช้ของอู่ คำสั่งผมคือ
1. ถ่ายน้ำมันเครื่อง
2. ถ่ายน้ำมันเกียร์ + กรองเกียร์
3. เปลี่ยนปั๊มติ๊ก (รำคาญเกจ์น้ำมันตกไว ครึ่งถัง วิ่งได้ 220 กม.เอง พวก sylphy น่าจะเจอทุกคัน เป็น defect ลูกลอย แต่ไม่แยกขายลูกลอยนะ ยกทั้งปั๊มติ๊ก รวมถึง กรองเบนซิน ถ้าจะเปลี่ยนก็ยกปั๊มติ๊กนะ)
..............
อู่ประจำผม ก็ N.T. Service (ช่างหวาน) แถวๆ เลียบทางรถไฟสายเก่า
แน่นอน ไปถึงคันแรกอยู่ละ ... วันนี้รถเพียบเลย ทีแรกบอกช่างว่า ไม่ต้องเปลี่ยนกรองเกียร์หรอก รถคันนี้มันรื้อยากมาก (warmer มันอยู่ระหว่างแซสซีส์) แต่ช่างบอกว่า ไหนๆทำแล้ว เปลี่ยนไปเลยเพ่ .. อ่ะ จัดไป
หันไปอีกที .. อ้าว เปิดอ่างให้เลยแฮะ
- เห็นสีน้ำมัน แล้วก็ยิ้มออก ใสแจ๋ว อย่างกะน้ำมันใหม่ .. จะบอกว่า ใสกว่า น้ำมันเกียร์ของ CRV 20,000 กม. อีก (น้ำมันเกียร์ Pulsar รอบนี้ ใช้มา 20,000 กม. กับเวลา 2 ปี)
- ดูแม่เหล็ก (ก้อนกลมๆ 2 ก้อน) ก็ยังผ่าน ไม่มีโลหะเกาะ (ถ้ามี ก็เตรียม OH เกียร์ได้เลย)
- ช่างเอาไปล้างเรียบร้อย รวมถึง กรองเกียร์ตัวใน ด้วยครับ
ประกอบกลับเรียบร้อย ไม่มีอะไรน่าห่วง
...................
"ช่างๆ อย่าลืม ปั๊มติ๊กผมด้วยนะ"
- ให้ดูว่า น้ำมันเกือบเต็มถัง (เพราะเพิ่งเติมเต็มจาก ปราจีน วิ่งมา กทม ก็ 130 - 140 กม. แต่เกจ์หน้ารถ เหลือครึ่งถังนะ (ปั๊มติ๊กเดิม)
- อันนี้ หน้าตาปั๊มติ๊กเดิม
- จากนั้น เอาตัวใหม่ ประกอบกลับ เกจ์ดีดขึ้นมา เกือบเต็มถังละ (แปลกนะ ปัญหา part แต่ไม่เคยมีการเรียกเคลมเลย หุหุ) แล้วก็สตาร์ทเครื่อง .. โอเค ติดปกติ ก็ปล่อยเดินเบาไป เพราะต้องไล่อากาศจากการถ่ายน้ำหม้อน้ำด้วย
แต่ ....
- อยู่ดีๆ เครื่องดับ !!! ... สงสัย น้ำมันยังเข้าไม่เต็ม มีอากาศมั้ง ... อ่ะ สตาร์ทใหม่ ... เฮ้ยยยย เสียงไดหมุน แต่ไม่ติด จนช่างบอกให้กด off เดี๋ยวปั๊มแรงดันสูงพัง !!! แล้วก็ลองสตาร์ทอีกหลายรอบ ไม่ติด .. ช่างทดสอบแล้ว ปั๊มติ๊กทำงาน มีน้ำมันมารอที่ปั๊มแรงดันสูง
ซวยละ ....
- ช่างเอาคอมมาจับ ปรากฎว่า มันฟ้องว่า ปั๊มแรงดันสูงมีปัญหา (อยู่ในห้องเครื่อง ทำหน้าที่ส่งน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง)
ซวยกว่า คือ ... ไม่มีของ เพราะเป็นวันอาทิตย์ ร้านปิด !!!
ทำไงล่ะ ? ตอนนั้น บ่ายโมงกว่า / นั่งรถกลับปราจีน ได้นะ แต่พรุ่งนี้เลิกงาน ผมจะมาเอารถยังไงล่ะนั่น กว่าจะเลิกงาน กว่าจะนั่งรถตู้เข้ามา ต่อรถมาอู่อีก
ถามช่างว่า มีรถ O/H เกียร์ ในอู่ไหม ? ขอสลับอะไหล่ให้ผมวิ่งกลับปราจีนได้ก่อน พรุ่งนี้อะไหล่จริงมา ผมมาสลับคืน แต่ช่างแจ้งว่า พวก 1.6 จะไม่มีตัวนี้ เป็นอะไหล่ที่มีใน X-Trail T32 2.0
X-Trail ... นึกออกละ !!! ช่างเบิร์ด ไง อู่ เบิร์ด นิสสัน เซอร์วิส เพราะกลุ่ม X-Trail ชอบไปซ่อมที่นั่น (ผมก็เอารถเพื่อนผมไปเข้าที่นั่น) ลองโทร.หาช่างเบิร์ด ปรากฎว่า มีของ !!! เหลือเชื่อ คือ จะบอกว่า อะไหล่ตัวนี้ ต่อให้ศูนย์ ผมก็มั่นใจว่า ไม่มีศูนย์ไหนเก็บ เพราะตัวละ 2 หมื่นครับ !!!
- จัดการโอนเงิน 20,000 บาท ให้ช่างเบิร์ด แล้วให้อู่ช่างหวาน เรียก Grab ไปรับของให้หน่อย (ผมดันปักหมุดผิดอีก เห็นขึ้น เบิร์ด เซอร์วิส ... อู่ถามผมแล้วนะผมบอก โอเค แต่ดันลืมดูที่อยู่ เสียเวลา พี่ grab เค้าอีก)
- ได้ของมา บ่ายสามกว่าครับ ประกอบแป้บนึง อะไหล่นี่ Made in USA ซะด้วย
เบ็ดเสร็จ ได้ออกจากอู่ราวๆ 16.30 น. ครับ มาคันแรก กลับ คันสุดท้าย หุหุ
................
ประเด็นคือ รถ 50,000 กม. มันควรพังไหมนะ ? หันดูคันอื่น
1. Jazz GE 310,000 กม. ไม่เห็นมีอะไร เต็มที่ ก็ หัวฉีด / คอยล์ ชุดละหมื่น โดนไปตอน 3 แสนกม. สิบกว่าปี ผมรับได้
2. CRV G3 160,000 กม. 10 ปี หนักสุดก็แร็คพวงมาลัย โดนตอนปีที่ 9 40,000 บาท ผมก็ว่า ผมรับได้
3. Civic FC Turbo รถปี 17 ไมล์เกินแสนกม.แล้ว รถน้องเขย ออกปีเดียวกับ Pulsar ก็ยังนิ่งๆ
บอกพ่อ ... "แก มี City แล้ว ก็ขายมันทิ้งสิ จะเก็บไว้ทำไม ?"
บอกแม่ ... "แก ก็รู้ว่า รถมันมีปัญหา แกยังดื้อจะซื้อมาอีก รถยี่ห้อนี้"
บ่นไปหน่อย โดนกระหน่ำมาเลย .. แต่ไม่ขายหรอก เก็บไว้ขับเล่นแบบนี้แหละ วิ่งปีละหมื่นกม.พอละ ใช้โหด ไปใช้ CRV กับ City ดีกว่า ชัวร์กว่าเยอะ ยังไงก็ไม่จุกจิก
ฝากไว้ ให้คิด .. ผมว่า อันนี้ก็สาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้คนหนีหายจากยี่ห้อนี้นะ .. ระดับอู่เบิร์ด เก็บอะไหล่ แปลว่า พวก X-Trail มีพังแน่ๆ
ปล.1 เปลี่ยนปั๊มแล้ว รถเหยียบมันส์ขึ้นอีกเป็นกอง แถมประหยัดขึ้นด้วยครับ
ปล.2 ค่าใช้จ่าย รอบนี้ ครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้