เหตุการณ์มันเริ่มจาก ช่วงหลังปีใหม่มา รู้สึกว่า Pulsar มันหนืดๆ อืดๆ ยังไงชอบกล ทั้งที่
1. น้ำมันก็ V-Power นะ (น้ำมันฟรี บริษัทน่ะ)
2. น้ำมันเครื่อง อายุ 5 เดือน หมดสภาพ ? (ไม่นะ เพราะ CRV เปลี่ยนไล่ๆกัน รายนั้นก็ยังวิ่งปกติ)
3. ลมยางก็เช็คแล้ว
4. เลขไมล์ 15,XXX กม.เอง ลองกระทืบดู การไต่ความเร็วรอบสูงๆ มันก็ปกติ แต่ขับในเมือง มันไม่คล่องตัว ตื้อๆ ชอบกล
ว่าแล้ว .. นึกอะไรออก ก็เลย ถอดท่อรับอากาศเข้าเครื่องออก แล้วส่องดู .. ซึ่งก็พบว่า กรองอากาศ ค่อนข้างดำ ทีเดียว (รถผม ติดค้ำโช้ค การถอดกรองอากาศ เป็นเรื่องวุ่นวายมาก เพราะต้องถอดเหล็กรัดแบต แล้วขยับแบต เพื่อดึงฝาครอบกรองออกมา)
อันที่จริง กรองแท้ของ Pulsar / Sylphy (เบอร์เดียวกัน ทุกเครื่องยนต์) ราคามันแค่ 300 กว่าบาทเอง (เป็นแบบชุบน้ำมัน เป่าไม่ได้) แต่ด้วยความอยากลองไง อยากลองกรองแต่งสักหน่อย ซึ่งผมโฟกัสไปที่ Inter Brand ก็จะมีอยู่ 3 - 4 ค่าย คือ
1. HKS .. กรองฟองน้ำ นี่ก็เปลี่ยนทิ้งอย่างเดียว ราคาโหดเอาเรื่อง แต่ตามสเปคกรองฝุ่นได้ดีสุดนะ
2. Greddy .. กรองแค่พันกว่าบาท ถูกสุด แต่แปลกตรงที่ ล้างได้เลย ล้างน้ำสะอาด ไม่ต้องลงน้ำยา ก็ง่ายดี แต่จะกรองฝุ่นได้แค่ไหนล่ะ ? ฝุ่นทรายเข้าเครื่อง แกนเทอร์โบสึก ค่าเทอร์โบ คงหลายบาท
3. K&N .. ยี่ห้อเก๋า เห็นตั้งแต่หัดอ่านหนังสือรถสักเกือบ 30 ปีก่อนมั้ง ราคา 2 พันกว่าบาท ล้างได้ มีหลายรีวิวละ ดีบ้าง งั้นๆบ้าง
4. BMC .. ผลิตจากอิตาลี เป็นอุปกรณ์ติดรถสปอร์ตราคาแพงๆ แถมคุยว่า กรองฝุ่นได้ถึง 0.7 ไมโครเมตร เลยนะ แต่ราคาโหดสุดคือ ร่วม 3 พันบาท
แน่นอนครับ นิสัยผม อะไรที่คิดว่า "น่าจะดี" ผมก็ลุยเลย
เทียบกรองเดิมครับ
ติดตั้ง
ปัญหาแรกที่เจอ .. กรองเหมือนจะใหญ่ไปนิด ใส่แล้วชอบหลุดจากเปลือกกรองออกมา อันนี้ไม่เป็นไร ข่มขืนมันหน่อยก็ยัดลงละ
ปัญหาที่สองที่เจอ .. ขอบยางมันหนาครับ พอหนาแล้ว เวลาปิดฝากรอง มันจะไม่สนิท / พอไม่สนิท ก็ต้องง้างคลิปล็อคเยอะ แล้วที่ตามมาก็คือ ขาล็อคพลาสติค ที่เปลือกกรองหัก ซึ่งเป็นเรื่องที่เจอกันปกติ ของ Sylphy / Pulsar เลยล่ะ
เห็นไหม เปลือกกรอง มันไม่ชิดสนิทกัน เพราะขอบยางของกรองหนา นี่แหละ
ซึ่งสาเหตุ ก็มาจาก กรองอากาศตัวนี้ เป็นเบอร์ของ March / Almera ครับ (K&N ก็เหมือนกัน มีเบอร์เดียว ใช้ร่วมกันหมด) ซึ่งต่อให้คุณใช้ของศูนย์ แต่ไม่เบิกตรงรุ่น ไปเบิกของ March มาใส่ ก็ปัญหานี้แหละ (กรอง March มัน 220 บาทเองมั้ง)
การแก้ไข .. ผมไม่ห่วงฝุ่นเข้านะ เพราะขอบยางมันกันอยู่แล้วล่ะ แต่ผมห่วงขาพลาสติค ที่เปลือกกรองหัก ซึ่งมองแล้ว แก้ง่ายๆ ด้วยคีมปากจิ้งจก ดัดขาล็อค ให้มันง้างออกมากขึ้น แค่นั้นแหละ จบ !!! ในรูป มีตัวนึง ผมให้เค้าดัดขาออก ตั้งแต่ตอนใส่ค้ำละ ไม่งั้นมันจะติดค้ำ ... แล้วพอผมใช้คีมจับเพื่อดัดอีก ปลายมันก็หัก !!! แต่ลองวิ่งแล้ว ขาไม่เด้งหลุด ก็เป็นอันจบ ไม่ต้องเสียตังค์ซื้อเปลือกกรองใหม่ครับ
ผลการใช้งาน
ออกตัวก่อนว่า .. เป็นความเห็นส่วนตัว อาจจะผิด หรือ ถูก ก็ได้ ไม่ได้วัดด้วยการขึ้นไดโน่ นะครับ
1. การออกตัว .. อันนี้โอเค เท้าสัมผัสคันเร่งแล้วพุ่งเหมือนออกรถใหม่ๆละ อาการกดแล้วตื้อ กดแล้วนิ่งไม่มีละ ข้อนี้สอบผ่าน
2. ช่วงรอบต่ำ .. ในระดับไม่เกิน 2500 รอบ ผมว่า มันเฉื่อยกว่าเดิม ขับมาเรื่อยๆแล้วต้องการแซง แล้วกดคันเร่งเร็วหน่อย ในช่วงนี้ เหมือนรถมันรอรอบครับ อันนี้ ของเดิม มันขึ้นตามเท้าเลย
3. ช่วงรอบสูง .. อันนี้ชัดเจน ขึ้นไวกว่าเดิม ดึงกว่าเดิมครับ แต่นั่นคือ เกิน 3000 รอบขึ้นไปนะครับ
สรุปว่า ..
1. ถ้าขับเรื่อยๆ .. หวังใส่แล้วพุ่ง ม้าเพิ่ม บอกเลยว่า คิดผิด มันไม่ช่วยอะไร แถมแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ
2. ถ้าเท้าหนัก ขับเร็ว ใช้รอบสูง หรือ มีทำเครื่อง ทำท่อเพิ่ม .. เจ้านี่ ไม่ผิดหวังครับ
3. ถ้ามองในมุมประหยัด เพราะมันล้างได้ อันนี้ ถ้าใช้ยาวระดับแสนกว่ากม.ขึ้นไป คิดแล้ว ค่าใช้จ่ายถูกกว่าของศูนย์ครับ
......................
คร่าวๆประมาณนี้ ลองเปิดดูรีวิว ของ K&N ความเห็นก็ออกมาแนวเดียวกันครับ
ฝากไว้เป็นข้อมูลละกัน (ทีแรก ว่าจะเอา K&N มาใส่ CRV .. งั้นพับโครงการดีกว่า เจ้านี่ ต้นอืดอยู่แล้ว เดี๋ยวจะยิ่งอืดไปใหญ่)
[CR] * * * รีวิวกรองอากาศ BMC for Nissan Pulsar DIG turbo * * *
1. น้ำมันก็ V-Power นะ (น้ำมันฟรี บริษัทน่ะ)
2. น้ำมันเครื่อง อายุ 5 เดือน หมดสภาพ ? (ไม่นะ เพราะ CRV เปลี่ยนไล่ๆกัน รายนั้นก็ยังวิ่งปกติ)
3. ลมยางก็เช็คแล้ว
4. เลขไมล์ 15,XXX กม.เอง ลองกระทืบดู การไต่ความเร็วรอบสูงๆ มันก็ปกติ แต่ขับในเมือง มันไม่คล่องตัว ตื้อๆ ชอบกล
ว่าแล้ว .. นึกอะไรออก ก็เลย ถอดท่อรับอากาศเข้าเครื่องออก แล้วส่องดู .. ซึ่งก็พบว่า กรองอากาศ ค่อนข้างดำ ทีเดียว (รถผม ติดค้ำโช้ค การถอดกรองอากาศ เป็นเรื่องวุ่นวายมาก เพราะต้องถอดเหล็กรัดแบต แล้วขยับแบต เพื่อดึงฝาครอบกรองออกมา)
อันที่จริง กรองแท้ของ Pulsar / Sylphy (เบอร์เดียวกัน ทุกเครื่องยนต์) ราคามันแค่ 300 กว่าบาทเอง (เป็นแบบชุบน้ำมัน เป่าไม่ได้) แต่ด้วยความอยากลองไง อยากลองกรองแต่งสักหน่อย ซึ่งผมโฟกัสไปที่ Inter Brand ก็จะมีอยู่ 3 - 4 ค่าย คือ
1. HKS .. กรองฟองน้ำ นี่ก็เปลี่ยนทิ้งอย่างเดียว ราคาโหดเอาเรื่อง แต่ตามสเปคกรองฝุ่นได้ดีสุดนะ
2. Greddy .. กรองแค่พันกว่าบาท ถูกสุด แต่แปลกตรงที่ ล้างได้เลย ล้างน้ำสะอาด ไม่ต้องลงน้ำยา ก็ง่ายดี แต่จะกรองฝุ่นได้แค่ไหนล่ะ ? ฝุ่นทรายเข้าเครื่อง แกนเทอร์โบสึก ค่าเทอร์โบ คงหลายบาท
3. K&N .. ยี่ห้อเก๋า เห็นตั้งแต่หัดอ่านหนังสือรถสักเกือบ 30 ปีก่อนมั้ง ราคา 2 พันกว่าบาท ล้างได้ มีหลายรีวิวละ ดีบ้าง งั้นๆบ้าง
4. BMC .. ผลิตจากอิตาลี เป็นอุปกรณ์ติดรถสปอร์ตราคาแพงๆ แถมคุยว่า กรองฝุ่นได้ถึง 0.7 ไมโครเมตร เลยนะ แต่ราคาโหดสุดคือ ร่วม 3 พันบาท
แน่นอนครับ นิสัยผม อะไรที่คิดว่า "น่าจะดี" ผมก็ลุยเลย
เทียบกรองเดิมครับ
ติดตั้ง
ปัญหาแรกที่เจอ .. กรองเหมือนจะใหญ่ไปนิด ใส่แล้วชอบหลุดจากเปลือกกรองออกมา อันนี้ไม่เป็นไร ข่มขืนมันหน่อยก็ยัดลงละ
ปัญหาที่สองที่เจอ .. ขอบยางมันหนาครับ พอหนาแล้ว เวลาปิดฝากรอง มันจะไม่สนิท / พอไม่สนิท ก็ต้องง้างคลิปล็อคเยอะ แล้วที่ตามมาก็คือ ขาล็อคพลาสติค ที่เปลือกกรองหัก ซึ่งเป็นเรื่องที่เจอกันปกติ ของ Sylphy / Pulsar เลยล่ะ
เห็นไหม เปลือกกรอง มันไม่ชิดสนิทกัน เพราะขอบยางของกรองหนา นี่แหละ
ซึ่งสาเหตุ ก็มาจาก กรองอากาศตัวนี้ เป็นเบอร์ของ March / Almera ครับ (K&N ก็เหมือนกัน มีเบอร์เดียว ใช้ร่วมกันหมด) ซึ่งต่อให้คุณใช้ของศูนย์ แต่ไม่เบิกตรงรุ่น ไปเบิกของ March มาใส่ ก็ปัญหานี้แหละ (กรอง March มัน 220 บาทเองมั้ง)
การแก้ไข .. ผมไม่ห่วงฝุ่นเข้านะ เพราะขอบยางมันกันอยู่แล้วล่ะ แต่ผมห่วงขาพลาสติค ที่เปลือกกรองหัก ซึ่งมองแล้ว แก้ง่ายๆ ด้วยคีมปากจิ้งจก ดัดขาล็อค ให้มันง้างออกมากขึ้น แค่นั้นแหละ จบ !!! ในรูป มีตัวนึง ผมให้เค้าดัดขาออก ตั้งแต่ตอนใส่ค้ำละ ไม่งั้นมันจะติดค้ำ ... แล้วพอผมใช้คีมจับเพื่อดัดอีก ปลายมันก็หัก !!! แต่ลองวิ่งแล้ว ขาไม่เด้งหลุด ก็เป็นอันจบ ไม่ต้องเสียตังค์ซื้อเปลือกกรองใหม่ครับ
ผลการใช้งาน
ออกตัวก่อนว่า .. เป็นความเห็นส่วนตัว อาจจะผิด หรือ ถูก ก็ได้ ไม่ได้วัดด้วยการขึ้นไดโน่ นะครับ
1. การออกตัว .. อันนี้โอเค เท้าสัมผัสคันเร่งแล้วพุ่งเหมือนออกรถใหม่ๆละ อาการกดแล้วตื้อ กดแล้วนิ่งไม่มีละ ข้อนี้สอบผ่าน
2. ช่วงรอบต่ำ .. ในระดับไม่เกิน 2500 รอบ ผมว่า มันเฉื่อยกว่าเดิม ขับมาเรื่อยๆแล้วต้องการแซง แล้วกดคันเร่งเร็วหน่อย ในช่วงนี้ เหมือนรถมันรอรอบครับ อันนี้ ของเดิม มันขึ้นตามเท้าเลย
3. ช่วงรอบสูง .. อันนี้ชัดเจน ขึ้นไวกว่าเดิม ดึงกว่าเดิมครับ แต่นั่นคือ เกิน 3000 รอบขึ้นไปนะครับ
สรุปว่า ..
1. ถ้าขับเรื่อยๆ .. หวังใส่แล้วพุ่ง ม้าเพิ่ม บอกเลยว่า คิดผิด มันไม่ช่วยอะไร แถมแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ
2. ถ้าเท้าหนัก ขับเร็ว ใช้รอบสูง หรือ มีทำเครื่อง ทำท่อเพิ่ม .. เจ้านี่ ไม่ผิดหวังครับ
3. ถ้ามองในมุมประหยัด เพราะมันล้างได้ อันนี้ ถ้าใช้ยาวระดับแสนกว่ากม.ขึ้นไป คิดแล้ว ค่าใช้จ่ายถูกกว่าของศูนย์ครับ
......................
คร่าวๆประมาณนี้ ลองเปิดดูรีวิว ของ K&N ความเห็นก็ออกมาแนวเดียวกันครับ
ฝากไว้เป็นข้อมูลละกัน (ทีแรก ว่าจะเอา K&N มาใส่ CRV .. งั้นพับโครงการดีกว่า เจ้านี่ ต้นอืดอยู่แล้ว เดี๋ยวจะยิ่งอืดไปใหญ่)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้