Pulsar SSS (1.6 DIG Turbo) เพิ่งวางจำหน่ายในปีที่แล้ว และได้รับคะแนนและคำชื่นชมจากสำนักรีวิวต่างๆ
มากมาย เนื่องจากพละกำลังของเครื่อง เกียร์ที่ยอดเยี่ยม ช่วงล่างที่ปรับปรุงให้หนึบแน่นใหม่หมดแบบ Hot Hatch
โดย Pulsar SSS อยู่ในกลุ่มรถ Warm Hatch ซึ่งเป็นกลุ่มที่เพิ่งมีไม่นานมานี้ เนื่องจากเป็นรถที่แรงกำลังพอดี แต่สะดวก
สบายในการใช้งานในชีวิตประจำวัน และไม่แรงเท่ากับกลุ่ม Golf GTi ดังนั้น Pulsar SSS จึงมีรูปโฉมเหมือนกับรถบ้านๆ
ธรรมดาทั่วไปนั่งเอง แต่มีราคาที่สามารถจับต้องได้ ไม่แพงจนจำกัดกลุ่มเฉพาะเศรษฐีเท่านั้น

ในตารางที่หนึ่ง จัดลำดับความแรงของ แรงบิด รถที่ขายในออสเตรเลีย จะเห็นได้ว่ากำลังเครื่องยนต์ 1.6 DIG Turbo
มีความแรงเท่าๆ กับรถยนต์นั่งขนาดกลาง 2.5 ลิตร แต่ในตารางที่สอง ความแรงจะแรงสุดในตลาดรถบ้านเมืองไทย
ที่ตัดรถสปอร์ต รถหรูออกไปจากลิสท์ทั้งหมดแล้ว และตัดรถ Camry 3.5 ลิตรออก เพราะเลิกจำหน่ายไปแล้ว  
Pulsar 1.6 Turbo จะแรงกว่า รถยนต์ D segment 2.5 ลิตรทั้งหมดและแรงกว่ารถ Hybrid 2.5 ลิตร และความเร็วใกล้ๆ
กับ Camry 3.5 ลิตรเก่า


ด้านอัตราสิ้นเปลือง ในตารางที่หนึ่ง Pulsar 1.6 Turbo มีอัตราสิ้นเปลืองสูงขนาด 13 กม./ลิตร มากกว่ารถกลุ่ม C segment
ด้วยกัน ที่ไม่ใช่ระดับอัดอากาศ อยู่ประมาณ 2 กม./ลิตร ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเมื่อเทียบกับ Performance ที่ได้ Ford Focus ST
Golf GTI  Hyundai Veloster, โดยเฉพาะกลุ่มของ Mini Cooper S, Polo GTI, Fiesta ST สามารถทำผลงานออกมาได้ดีกว่ามาก
(ได้แรงม้าคุ้มค่ากับเชื้อเพลิงที่เสียไป เนื่องจากยิ่งเล็กยิ่งเบายิ่งประหยัดน้ำมัน)

สรุป
เป็นรถที่แรงเป็นอันดับท๊อป ที่ Nissan กล้ายอมเอามาขายในเมืองไทย เกียร์ CVT ที่ว่าเอื่อยเฉื่อยในรถเล็ก
แต่พิสูจน์ออกมาแล้วว่า เมื่อ CVT อยู่ในรถที่แรงและเร็ว อัตราต่อเนื่องที่ไหลมาไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้มีอัตราเร่งที่น่ากลัว
จากที่หลายๆ คนได้ประทับใจกับ Teana, Corolla Altis มาแล้ว และนอกจากนั้น CVT รุ่นใหม่ ยังมีแนวโน้มที่ประหยัดกว่า
เกียร์ธรรมดาอีกด้วย

Pulsar SSS หรือ 1.6 Turbo เป็นรุ่นที่สื่อนักทดสอบขับรถในออสเตรเลียชื่นชอบ และได้คะแนนเป็นอันดับที่หนึ่งในกลุ่มของ
Warm Hatch ทั้งหมด ซึ่งเป็นคนละกลุ่มกับ Hot Hatch แต่สื่อออสเตรเลียก็ให้ Pulsar SSS มีความใกล้เคียงกับความเป็น Hot Hatch มากที่สุด
ดังนั้นด้านการขับขี่และสมรรถนะคงเยี่ยมแน่นอน (รถที่ได้รับคำชมในออสเตรเลีย ต้องมีการขับขี่ที่ดีเท่านั้น และเป็นฐานเซ็ตอัพในเรื่องช่วงล่างของ
แบรนด์ต่างๆ)

คนชั้นกลางสามารถสัมผัสได้ในราคาไม่เกิน 1.1 ล้าน แม้จะยังไม่มีการยืนยัน แต่ผู้สื่อข่าวจากวงในบอกว่ามีแนวโน้มว่าไม่เกินนี้แน่นอน
สำหรับอัตราสิ้นเปลือง อาจจะดูไม่เป็นมิตรนัก เมื่อเทียบกับรถ C segment ไร้ระบบอัดอากาศที่ขายอยู่ทั่วไป แต่ถ้าพูดว่า กินน้ำมันเท่าๆ
Mazda 3 2.0 ลิตรรุ่นปัจจุบัน จะรับได้หรือไม่ เป็นเรื่องของแต่ละคน  

Pulsar คงจะไม่ได้รับความนิยมขึ้นไปกว่าปัจจุบันจวบจนอายุตลาดของมัน
ตัวรถไม่ได้ห่วยแน่นอน แต่ส่วนตัวคิดว่า Nissan ยังไม่สามารถดึงจุดเด่นของมันออกมาได้
มันเป็นรถ Hatchback ที่เหมาะสมสำหรับครอบครัวเริ่มต้น และตลาดกลุ่มนี้ก็แตกต่างจาก Mazda 3/Focus
อย่างชัดเจน และผมเชื่อว่าตลาดกลุ่มนี้น่าจะมีอยู่เยอะพอสมควร แต่เค้ายังไม่ได้รู้จัก Pulsar กันเท่าไหร่เลย
ที่ศูนย์ Nissan ก็ไม่เคยมี Pulsar โชว์ เป็นรถที่ Nissan เองก็ดูจะไม่ค่อยสนับสนุนเท่าไหร่
ที่จริงนี่ก็เป็นตลาดใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครเปิดตลาดได้สำเร็จมาก่อน
และเสียดายที่ Pulsar จะมาตายตั้งแต่เริ่มตั้งต้นแบบนี้...

อย่างที่กระทู้ก่อนหน้าวิพากษ์วิจารณ์กัน 350 คันนี้ คงจะเป็นของคนที่เป็นแฟนตัวยง Nissan
กับคนที่อาจจะรู้เกียรติศัพท์จากออสเตรเลียมาเป็นอย่างดี เป็นผู้ใหญ่ที่รู้เรื่องรถพอสมควร และ
เปิดใจรับ CVT หรือเคยใช้ CVT มาแล้วประทับใจ และถ้ามันขายดีอย่างรวดเร็ว ไม่แน่
การ localize เครื่องยนต์ 1.6 DIG Turbo (ที่ไม่ใช่การนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งดุ้น) แล้วนำมาใส่ในรุ่นอื่นๆ
ก็น่าจะเป็นไปได้มาก และ Nissan ก็จะได้เป็นเจ้าแรกอีกครั้ง เพราะคู่แข่งยังไม่มีใครลงเครื่อง 1.6 Turbo
กันเลย