เรื่องที่ 4 นี้ ชื่อเรื่องสั้นๆว่า "เวียนวน"
อะไรเวียนวน เป็นเรื่องแนวไหน ?
มาหาคำตอบกันครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
"นี่...คือที่ๆเราเคยเข้ามาแล้ว ใช่ไหม ?"
แดง หันไปถามเพื่อนอีกสองคนซึ่งก้าวตามเข้ามาติดๆ หลังจากที่ตัวเองเดินเข้ามาภายในถ้ำซึ่งดูคุ้นตา แต่นึกไม่ออกว่าเคยมาตั้งแต่เมื่อไร
"ดูเหมือนจะใช่นะ แต่เรามากันเมื่อไรวะ ?"
เพื่อนคนแรกตอบและถามต่อด้วยความรู้สึกมึนงง แล้วสะกิดเพื่อนอีกคน
"นายล่ะแก้ว จำได้หรือเปล่า ?"
"โน..." เขาส่ายหน้า "แต่รู้สึกเหมือนกันว่ามันคุ้นๆว่ะเฮ้ย"
"ครั้งสุดท้าย เกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา ก่อนจะเข้ามาที่นี่ ?" แดงถามเพื่อนทั้งสองด้วยคำถามใหม่
"พวกเรา วิ่งฝ่าหมอกควันสีขาว แล้วก็มาเจอปากถ้ำนี้ไง" เพื่อนคนที่สามตอบ
"แล้วก่อนหน้านั้นล่ะ โจ ?" แก้วถาม
"จำไม่ได้แล้ว...นายจำได้บ้างไหมแดง ?"
"ไม่ได้เหมือนกันว่ะ" แดงเบ้ปาก "มันเหมือนกับว่า พอผ่านพ้นกลุ่มหมอกนั่นเข้ามาในถ้ำนี้แล้ว ความจำก่อนหน้านั้นหายไปเสียดื้อๆ"
"สรุปแล้ว ไม่มีใครจำอะไรได้สักคน เฮ้อ..."
แดงกล่าวแล้วถอนใจ ทรุดตัวลงนั่ง ปลดเป้สะพายหลังออกวางไว้บนพื้นดิน และอีกสองคนก็ทำตาม
"เป้ ?" โจเอะใจพูดขึ้นมา มองเป้ของตัวเองและของเพื่อน "พวกเราสะพายเป้มากันทุกคน มาทำไมกัน ? เที่ยวป่าเหรอ ?"
"งั้นมั้ง" แดงตอบแบบเดาส่ง "ไม่งั้นจะพากันแบกเป้มาทำไม ?"
"เปิดเป้ดูดีกว่า ว่าเราเอาอะไรมากันบ้าง" แก้วกล่าวแล้วยกเป้มาวางไว้ข้างหน้า เปิดสำรวจดูของข้างใน
แดงกับโจ้เห็นเเพื่อนทำอย่างนั้นก็เปิดดูของตัวเองบ้าง
"มีมีดพับ อาหารกระป๋อง ไฟฉาย ไฟแช็ค ช้อน...อุปกรณ์ยังชีพนี่หว่า" โจ้ค้นดูจนทั่ว
"เฮ้ย แต่เรามีแผนที่ด้วยว่ะ" แดงชูแผ่นกระดาษซึ่งพับซ้อนๆกันปึกหนึ่งให้เพื่อนทั้งสองดู
"ไหนดูซิ" แก้วยื่นมือขอ แดงส่งให้แล้วคลี่ออกดู
"แผนที่นี้เขียนด้วยมือ บอกว่าเป็นป่าคำชะโนด...นี่เรา เข้ามาในป่าลึกแล้วมั้งนี่"
"แล้วถ้ำนี้ อยู่ตรงไหนในแผนที่ ไม่เห็นมีบอกไว้" โจพยายามอ่านแผนที่ ทำคิ้วขมวด
"เดี๋ยวนะ มีเครื่องหมายกากบาดอยู่บนเนินเขา ตรงนี้" แดงชี้มือไปที่เครื่องหมายกากบาดบนแผนที่ ทางทิศตะวันออก
"มีเข็มทิศไหม ?" แก้วถาม
"ในเป้น่าจะมีนะ หรือไม่ก็ในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงของพวกเรา ลองหาดู"
แดงตอบเพื่อนแล้วควานหาเข็มทิศ และพบว่ามันอยู่ในกระเป๋ากางเกง "นี่ไง" เขาล้วงมันออกมา แล้วเปิดฝาครอบ มองเข็มทิศแล้วชี้ไปทางทิศตะวันออก
"ทางโน้นแน่ะ"
"เฮ้ย นายมีปืนมาด้วย" โจร้องบอกและชี้ไปที่เอวของแดง ซึ่งมีปืนพกอยู่ในซองคาดเอว
"นายสองคนก็มีเหมือนกันนี่" แดงตอบพลางมองดูที่เอวของเพื่อนทั้งสองซึ่งก้มดูทันทีที่เขาบอก
"แปลว่าเราต้องตั้งใจมาทำอะไรกันสักอย่าง ไม่ใช่แค่มาเที่ยวชมป่าเขาลำเนาไพรอย่างเดียวแน่" โจกล่าวพลางหยิบปืนจากซองขึ้นมาสำรวจดู
"มีการยิงเกิดขึ้นด้วย กระสุนไม่เต็ม"
"ช่างมันก่อน นึกไปก็นึกไม่ออกหรอก เราไปตามทางที่แผนที่บอกกันไหม อาจจะเจอทางออกจากถ้ำนี้อีกทางก็ได้" แก้วถามความเห็นจากเพื่อนทั้งสอง
"ไม่คิดจะกลับออกไปทางเดิมที่เราเข้ามาเหรอ ?" โจถามแย้งด้วยความไม่แน่ใจ
"เราว่าไม่ดีแน่ๆว่ะ" แก้วส่ายหน้า "เพราะการที่เราพากันฝ่ากลุ่มหมอกเข้ามาในถ้ำนี้ เราอาจจะหนีจากอะไรบางอย่างมา เพียงแต่เราจำไม่ได้หลังจากพ้นกลุ่มหมอกนั่นเข้ามาแล้ว"
"หนีจากอะไรวะ ?"
"ไม่รู้สิแดง ไม่งั้นเราจะมากันทำไมล่ะ ?"
แดงอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็ลุกขึ้นยืน ยกเป้ขึ้นสะพายหลัง
"เอาวะ ไปก็ไป อยู่ที่นี่ต่อก็ไม่มีอะไร ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ที่สำคัญเราอยากกลับบ้านแล้ว"
พูดจบเขาก็ก้าวเดินนำหน้า โจกับแก้วรีบเดินตามมา
พักใหญ่ๆ ทุกคนจึงพบปากถ้ำอีกแห่งข้างหน้า จึงรีบพากันก้าวออกจากถ้ำ
ข้างนอกถ้ำนั้น เป็นป่าดงดิบ มองเห็นเนินเขาสูงไกลออกไปราวห้าร้อยเมตร ได้ยินเสียงน้ำตกดังมาแต่ไกล
"มีน้ำตกด้วย คงอยู่บนเขานั่น" แดงชี้ขึ้นไปแล้วชวนเพื่อนทั้งสอง "เราขึ้นไปบนนั้นกันเถอะ"
ทั้งสามคนค่อยๆพากันเดินขึ้นไปสู่บนเนินเขาซึ่งมีต้นไม้นานาพันธ์ปกคลุมไปทั่ว
พอขึ้นมาถึงข้างบน ทุกคนก็ได้สัมผัสกับบรรยากาศอันสดชื่นน่ารื่นรมณ์ สายลมโชยพัดเย็นสบาย สายน้ำตกหลั่งไหลจากเนินเบื้องสูงลงสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ ได้ยินเสียงนกการ้องขณะะบินว่อนไปมา แสนจะไพเราะเสนาะหู และะกลิ่นหอมจากมวลดอกไม้น้อยใหญ่
"แม่เจ้าโว้ย...นี่มันสวรรรค์ชัดๆ" แก้วอุทาน "เฮ้เพื่อนๆ เราอยู่พักกันตรงนี้นานๆหน่อยเหอะ"
"ไปที่น้ำตกโน่นดีกว่า อยากอาบน้ำเลยว่ะตอนนี้" แดงพยักเพยิดไปทางธารน้ำตก
"โอเค ไปกัน"
สามสหายเดินไปยังโขดหินซึ่งมีมากมายกระจัดกระจายริมแอ่งน้ำนั้น
โจ้ทรุดตัวลงนั่งยองๆ ก้มดูน้ำ
"น้ำใสแจ๋วเลยว่ะเพื่อน น่าจะสะอาดพอดื่มได้" ว่าแล้วก็เอาสองมือกอบน้ำขึ้นมาดื่ม
"อา...สดชื่นยิ่งกว่าน้ำดื่มสิงห์จากขวดแช่เย็นอีก"
แดงกับแก้วลองกอบน้ำขึ้นมาดื่มดูบ้าง และพยักหน้าเห็นด้วยกับโจ
"อาบน้ำกันเถอะพวกเรา" แก้วเอ่ยชวนแล้วถอดเสื้อผ้าเป็นคนแรก ลงไปก่อนเป็นคนแรก
"อย่าไปห่างนักนะเว้ย มันจะลึกขนาดไหนก็ไม่รู้ถ้าไปไกลๆ" แดงร้องเตือน
"โอเคๆ อยู่ใกล้ๆฝั่งนี่แหละ" แก้วตอบ แล้วทำท่าสั่นสะท้าน "หูยย...ลงมาแล้ว โคตรเย็นเลยเพื่อน แต่ก็ทำให้สดชื่นสบายตัว ลงมาสิ"
ทั้งแดงและโจถอดเสื้อผ้าลงน้ำตามลงไปบ้าง แล้วแดงก็ซู๊ดปาก
""อูยย...เย็นจริงๆว่ะ"
"แบบนี้อาบนานไม่ได้ เอาแค่พอรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวก็พอแล้วนะ ซักห้านาที" โจกล่าว
ทั้งสามอาบน้ำเล่นน้ำกันอยู่ประมาณห้านาทีตามคำของโจ แล้วแดงก็ขึ้นจากน้ำเป็นคนแรก ตามด้วยโจ และแก้วเป็นคนสุดท้าย
ขณะที่แดงและโจกำลังสวมเสื้อผ้าและแก้วกำลังก้าวขึ้นมาจากน้ำ ทุกคนก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรใหญ่ๆ โผล่และดำลงไปในน้ำ ห่างออกไปบริเวณกลางแอ่งน้ำซ่งคาดวาน่าจะเป็นที่น้ำลึก
"ซู่......บุ๋มม..."
"เฮ้ย อะไรวะ ?" แก้วหันกลับไปมองขณะที่ขาข้างหนึ่งยังอยู่ในน้ำ อีกข้างหนึ่งเหยียบแผ่นหินบนบก
แดงกับโจหันกลับไปมองเหมือนกัน แล้วโจก็รีบร้องสั่งเพื่อนด้วยเสียงอันดัง
"แก้ว รีบขึ้นมาก่อนเร็ว"
แก้วกระโจนขึ้นมาทันที รีบคว้าเสื้อและกางเกงมาสวมใส่อย่างเร่งร้อนพลางมองดูที่กลางแอ่งน้ำซึ่งมีร่องรอยของอะไรบางอย่างดำน้ำหายไป ทำให้น้ำตรงนั้นเป็นวงๆกระจาย
"ปลามั้ง ? ปลาบึกหรือเปล่าหว่า มันต้องใหญ่มากเลยนะนั่น" เขาทำท่าทางตื่นเต้น "ถ้าเป็นปลาบึก เราช่วยกันจับมาย่างกินกันดีกว่า"
แดงแลโจ้จ้องมองกลางแอ่งน้ำและบริเวณรอบๆ แล้วก็เบิกตากว้าง
"ไม่ใช่ปลา...ไอ้แก้ว..มัน.." โจ้ปากคอสั่น ขณะที่แดงตกตะลึงอยู่
แก้วหันมามองหน้าเพื่อน แล้วหันกลับไปดูอีกที แล้วก็แทบช็อคต่อภาพที่เห็น
สิ่งนั้น โผล่ขึ้นมาจากน้ำอีกครั้ง ห่างจากจุดเดิมเล็กน้อย ด้วยสรีระของมนุษย์...ผู้หญิง...ผมยาวเลยกลางหลังจนถึงสะเอว สองมือแหวกว่ายน้ำ แต่ท่อนล่างมิใช่ขาสองข้างอย่างที่ควรจะะเป็น แต่เป็นท่อนครึ่งล่างของปลา ยาวสักสองวาเห็นจะได้!
"นางเงือก!" แก้วร้องครางจากลำคอ และขนลุกซู่...
"เฮ้ย...หลบหลังโขดหิน อย่าให้เธอเห็นเรา" แดงกระซิบหนักๆ ก้มลงแอบหลังโขดหินใหญ่ อีกสองคนรีบทำตามทันที
"นายมีกล้องมาหรือเปล่าวะ แดง? โจ้ ?"
"กล้องไม่มี แต่มือถือคงใช้ได้มั้ง" โจ้กระซิบตอบพลางล้วงมือถือไอโฟนออกมาจากกระะเป๋าเสื้อ เปิดกล้องแล้วโผล่หน้าออกไปนิดหนึ่ง กดโหมดวีดิโอแล้วซูมถ่ายคลิปวีดิโอสดๆ...เงือกสาวยังคงดำผุดดำว่ายอยู่ พลางเหลียวมองซ้ายมองขวา
"ดูท่าทาง สวยด้วยนะ" โจ้กระซิบบอกกับเพื่อนทั้งสองซึ่งกำลังซุ่มดูอยู่อย่างเงียบกริบ
เงือกสาวเล่นน้ำอยู่ครู่หนึ่ง มองซ้าย มองขวา แล้วมองมาทางบนฝั่งที่สามสหายซุ่มอยู่
และจากภาพบนจอมือถือซึ่งซูมเข้าไปใกล้ ทั้งสามเห็นเธอค่อยๆยิ้ม ซึ่งมองดูทีแรกเหมือนจะน่ารัก แต่แล้วฉับพลันก็กลับกลายเป็นยิ้มแสยะ แล้วเปิดริมฝีปากทั้งสอง เผยให้เห็นเขี้ยวแหลมๆเต็มหมดทั้งปาก พร้อมกับสายตาที่กระหายเลือด!
"เฮ้ยย...Ship หายแล้ว เผ่นเร็ว!"
แดงร้องตะโกนและลุกพรวดขึ้นทันที อีกสองคนก็ไม่รอช้า ต่างคนต่างคว้าเป้ขึ้นสะพายหลังแล้วโกยอ้าวไปจากริมน้ำตรงนั้น ไปทางทิศตะวันออก วิ่งไปเรื่อยๆจนไม่รู้ว่าไกลเท่าไร ก่อนจะมาหยุดหอบหายใจกันริมหน้าผา
พอเริ่มหายเหนื่อยบ้างแล้ว แดงจึงถามเพื่อนผู้ซึ่งเพิ่งได้ถ่ายคลิปนางเงือกสาวมาสดๆร้อนๆในโอกาสที่ไม่คาดฝันว่าจะได้เจอในชีวิตนี้
"เฮ้ยโจ เปิดดูคลิปวีดิโอซิ ถ่ายได้ชัดไหม ?"
โจมือไม้สั่น หยิบมือถือยื่นให้เพื่อน
แดงรับมือถือโจ้มาเปิดดูคลิป แล้วทำท่าขนลุกขนพอง
"เราเคยดูวีดิโอนางเงือกในยูทูป ไม่เคยเชื่อเลยว่ะ แต่ที่นายถ่ายได้เนี่ย ถือว่าเป็นคลิปที่ชัดที่สุด และน่ากลัวที่สุดด้วย"
"ถ้ากลับถึงบ้าน แล้วอัพขึ้นยูทูป ต้องมีคนเข้าไปดูกันถล่มทลายแน่" แก้วคาดเดา
"เอาไว้กลับถึงบ้านกันแล้วก่อนเหอะ นี่จะมืดค่ำแล้ว เราคงได้นอนในป่ากันแน่คืนนี้" แดงกล่าว แล้วหยิบแผนที่มากางดูอีกที
"เราน่าจะอยู่ใกล้จุดที่มีเครื่องหมายกากบาดในแผนที่นี้แล้วหละ สังเกตดูภูมิประเทศบริเวณนี้สิ"
แก้วและโจเข้ามาดูแผนที่ด้วยกัน
"เออ...จริงด้วย ลักษณะเป็นริมเหวคล้ายกับที่เราอยู่กันตอนนี้ และมีถ้ำเล็กถ้ำหนึ่ง อยู่ใต้เครื่องหมายกาบาดนี่" โจชี้ไปที่ภาพวาดซึ่งดูเหมือนถ้ำใต้กากบาดบนแผนที่ "ลองช่วยกันมองหาดู"
"บางที นี่อาจเป็นจุดประสงค์ของการมาของเราก็ได้ แต่แผนที่นี่มาได้ยังไงก็ไม่รู้" แดงกล่าวด้วยคิ้วที่ขมวด
"ต้องมีใครสักคนมอบให้นาย ไม่ก็นาย...เอามาจากใครสักคน" โจกล่าวสันนิษฐาน
"แต่เราไม่เคยขโมยหรือแย่งชิงอะไรของใครนะเว้ย"
"อืม...นั่นสิ" แก้วเห็นด้วย "มีแต่ปริศนาทั้งนั้นเลยตอนนี้ ช่างมันก่อน ช่วยกันหาถ้ำนี่ก่อน หาเจอแล้วไปดูกัน ถึงตอนนั้นอาจจะได้คำตอบ"
ตะวันเริ่มคล้อยต่ำลงทุกที ในขณะที่สามสหายช่วยกันมองหาถ้ำปริศนาตามแผนที่ในอาณาบริเวณนั้น
และในที่สุดก็พบถ้ำเล็กนั้น ห่างจากจุดเดิมที่คนทั้งสามวิ่งหนีนางเงือกมาหยุดพักเกือบ 1 กิโลเมตร มันอยู่ต่ำกว่าริมหน้าผาลงมาราวสี่ห้าวา
ภายในถ้ำนั้นมืดสนิท และบริเวณรอบๆตัวทุกคนก็เงียบสงัดวังเวง
"ห้าโมงกว่าจะหกโมงแล้วเพื่อน บางทีเราอาจนอนค้างคืนกันในถ้ำนี้ได้" แก้วกล่าวแล้วทำท่าจะเดินเข้าไป แต่แดงฉุดมือรั้งไว้
"เดี๋ยวแก้ว....อย่ารีบเข้าไป ฉายไฟเข้าไปดูก่อน"
พูดจบ แดงก็ปลดเป้ลงจากหลัง เปิดเป้ล้วงเอาไฟฉายขนาดใหญ่ออกมา เลื่อนปุ่มเปิด แสงไฟจากหลอดไฟแอลอีดีขนาดเล็กหลายสิบดวงรวมกันสว่างไสวพุ่งเป็นลำใหญ่...เขาฉายแสงส่องเข้าไปในถ้ำ
มีแสงสว่าง...จากวัตถุบางอย่าง หลายชิ้น แวววาว สะท้อนกลับ!
ทุกคนเพ่งมองเข้าไป แล้วก็ต้องตะลึง!
"เฮ้ย...กองสมบัติ...สายสร้อย แหวน กำไล ทอง ทองทั้งนั้นเลยเว้ย!" โจแหกปากตะโกนอย่างตื่นเต้นสุดๆ
"นี่สินะ คือจุดประสงค์ที่พวกเรามา!" แดงร้องคราง แล้วหยิบแผนที่มาส่องไฟฉายดูอีกที
"พวกเราอย่าเพ่งเข้าไปนะ" เขาร้องบอก หลังจากเห็นข้อความหนึ่งข้างล่างแผนที่
"ทำไมวะ แดง ?" โจ้ถาม
"มันมีปริศนา...ห้ามมิให้เราเข้าไป จนกว่าจะแก้ปริศนานี้ได้เสียก่อน"
"ปริศนา...อะไร ?"
"คนที่เขียนแผนที่นี้ บอกว่า
'จงนอบน้อมถ่อมตนอย่างถึงที่สุด ต่อหน้าขุมทรัพย์นี้ และจะต้องไม่มีใครอื่นได้พบเห็น สุดท้ายแล้วแต่วาสนา' และข้อความก็จบแค่นี้เอง"
"หมายความว่ายังไง ?" โจ้และแก้วถามแทบจะพร้อมกัน
แดงนิ่งคิด...ครู่หนึ่ง ก็คุกเข่าลง และบอกเพื่อน
"คุกเข่าลงก่อน เร็ว!"
ทั้งสองทำหน้างงๆ แต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี
แดงกล่าวต่อไป
"ทำตามเรานะเพื่อน....พนมมือ อัญชลี"
ทั้งสองพนมมือที่หน้าอกตามแดงซึ่งพนมมือไว้ก่อนแล้ว
แดงกล่าวคำที่สอง "วันทา" แล้วยกสองมือที่พนมอยู่ขึ้นที่หน้าผาก เพื่อนทั้งสองก็ทำตาม
แดงกล่าวคำที่สาม "อภิวาท" แล้วก้มลงกราบ และบอกกับเพื่อน "กราบนิ่งอยู่ก่อน...อย่าเพิ่งผงกหัวขึ้นมานะ"
(มีต่อครับ)
💐🌟🌕 [ถุงมือนักเขียน - FINAL] เรื่องที่ 4 "เวียนวน" โดย "ถุงมือเมจิก" ครับ 🌕🌟💐
เรื่องที่ 4 นี้ ชื่อเรื่องสั้นๆว่า "เวียนวน"
อะไรเวียนวน เป็นเรื่องแนวไหน ?
มาหาคำตอบกันครับ
"นี่...คือที่ๆเราเคยเข้ามาแล้ว ใช่ไหม ?"
แดง หันไปถามเพื่อนอีกสองคนซึ่งก้าวตามเข้ามาติดๆ หลังจากที่ตัวเองเดินเข้ามาภายในถ้ำซึ่งดูคุ้นตา แต่นึกไม่ออกว่าเคยมาตั้งแต่เมื่อไร
"ดูเหมือนจะใช่นะ แต่เรามากันเมื่อไรวะ ?"
เพื่อนคนแรกตอบและถามต่อด้วยความรู้สึกมึนงง แล้วสะกิดเพื่อนอีกคน
"นายล่ะแก้ว จำได้หรือเปล่า ?"
"โน..." เขาส่ายหน้า "แต่รู้สึกเหมือนกันว่ามันคุ้นๆว่ะเฮ้ย"
"ครั้งสุดท้าย เกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา ก่อนจะเข้ามาที่นี่ ?" แดงถามเพื่อนทั้งสองด้วยคำถามใหม่
"พวกเรา วิ่งฝ่าหมอกควันสีขาว แล้วก็มาเจอปากถ้ำนี้ไง" เพื่อนคนที่สามตอบ
"แล้วก่อนหน้านั้นล่ะ โจ ?" แก้วถาม
"จำไม่ได้แล้ว...นายจำได้บ้างไหมแดง ?"
"ไม่ได้เหมือนกันว่ะ" แดงเบ้ปาก "มันเหมือนกับว่า พอผ่านพ้นกลุ่มหมอกนั่นเข้ามาในถ้ำนี้แล้ว ความจำก่อนหน้านั้นหายไปเสียดื้อๆ"
"สรุปแล้ว ไม่มีใครจำอะไรได้สักคน เฮ้อ..."
แดงกล่าวแล้วถอนใจ ทรุดตัวลงนั่ง ปลดเป้สะพายหลังออกวางไว้บนพื้นดิน และอีกสองคนก็ทำตาม
"เป้ ?" โจเอะใจพูดขึ้นมา มองเป้ของตัวเองและของเพื่อน "พวกเราสะพายเป้มากันทุกคน มาทำไมกัน ? เที่ยวป่าเหรอ ?"
"งั้นมั้ง" แดงตอบแบบเดาส่ง "ไม่งั้นจะพากันแบกเป้มาทำไม ?"
"เปิดเป้ดูดีกว่า ว่าเราเอาอะไรมากันบ้าง" แก้วกล่าวแล้วยกเป้มาวางไว้ข้างหน้า เปิดสำรวจดูของข้างใน
แดงกับโจ้เห็นเเพื่อนทำอย่างนั้นก็เปิดดูของตัวเองบ้าง
"มีมีดพับ อาหารกระป๋อง ไฟฉาย ไฟแช็ค ช้อน...อุปกรณ์ยังชีพนี่หว่า" โจ้ค้นดูจนทั่ว
"เฮ้ย แต่เรามีแผนที่ด้วยว่ะ" แดงชูแผ่นกระดาษซึ่งพับซ้อนๆกันปึกหนึ่งให้เพื่อนทั้งสองดู
"ไหนดูซิ" แก้วยื่นมือขอ แดงส่งให้แล้วคลี่ออกดู
"แผนที่นี้เขียนด้วยมือ บอกว่าเป็นป่าคำชะโนด...นี่เรา เข้ามาในป่าลึกแล้วมั้งนี่"
"แล้วถ้ำนี้ อยู่ตรงไหนในแผนที่ ไม่เห็นมีบอกไว้" โจพยายามอ่านแผนที่ ทำคิ้วขมวด
"เดี๋ยวนะ มีเครื่องหมายกากบาดอยู่บนเนินเขา ตรงนี้" แดงชี้มือไปที่เครื่องหมายกากบาดบนแผนที่ ทางทิศตะวันออก
"มีเข็มทิศไหม ?" แก้วถาม
"ในเป้น่าจะมีนะ หรือไม่ก็ในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงของพวกเรา ลองหาดู"
แดงตอบเพื่อนแล้วควานหาเข็มทิศ และพบว่ามันอยู่ในกระเป๋ากางเกง "นี่ไง" เขาล้วงมันออกมา แล้วเปิดฝาครอบ มองเข็มทิศแล้วชี้ไปทางทิศตะวันออก
"ทางโน้นแน่ะ"
"เฮ้ย นายมีปืนมาด้วย" โจร้องบอกและชี้ไปที่เอวของแดง ซึ่งมีปืนพกอยู่ในซองคาดเอว
"นายสองคนก็มีเหมือนกันนี่" แดงตอบพลางมองดูที่เอวของเพื่อนทั้งสองซึ่งก้มดูทันทีที่เขาบอก
"แปลว่าเราต้องตั้งใจมาทำอะไรกันสักอย่าง ไม่ใช่แค่มาเที่ยวชมป่าเขาลำเนาไพรอย่างเดียวแน่" โจกล่าวพลางหยิบปืนจากซองขึ้นมาสำรวจดู
"มีการยิงเกิดขึ้นด้วย กระสุนไม่เต็ม"
"ช่างมันก่อน นึกไปก็นึกไม่ออกหรอก เราไปตามทางที่แผนที่บอกกันไหม อาจจะเจอทางออกจากถ้ำนี้อีกทางก็ได้" แก้วถามความเห็นจากเพื่อนทั้งสอง
"ไม่คิดจะกลับออกไปทางเดิมที่เราเข้ามาเหรอ ?" โจถามแย้งด้วยความไม่แน่ใจ
"เราว่าไม่ดีแน่ๆว่ะ" แก้วส่ายหน้า "เพราะการที่เราพากันฝ่ากลุ่มหมอกเข้ามาในถ้ำนี้ เราอาจจะหนีจากอะไรบางอย่างมา เพียงแต่เราจำไม่ได้หลังจากพ้นกลุ่มหมอกนั่นเข้ามาแล้ว"
"หนีจากอะไรวะ ?"
"ไม่รู้สิแดง ไม่งั้นเราจะมากันทำไมล่ะ ?"
แดงอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็ลุกขึ้นยืน ยกเป้ขึ้นสะพายหลัง
"เอาวะ ไปก็ไป อยู่ที่นี่ต่อก็ไม่มีอะไร ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ที่สำคัญเราอยากกลับบ้านแล้ว"
พูดจบเขาก็ก้าวเดินนำหน้า โจกับแก้วรีบเดินตามมา
พักใหญ่ๆ ทุกคนจึงพบปากถ้ำอีกแห่งข้างหน้า จึงรีบพากันก้าวออกจากถ้ำ
ข้างนอกถ้ำนั้น เป็นป่าดงดิบ มองเห็นเนินเขาสูงไกลออกไปราวห้าร้อยเมตร ได้ยินเสียงน้ำตกดังมาแต่ไกล
"มีน้ำตกด้วย คงอยู่บนเขานั่น" แดงชี้ขึ้นไปแล้วชวนเพื่อนทั้งสอง "เราขึ้นไปบนนั้นกันเถอะ"
ทั้งสามคนค่อยๆพากันเดินขึ้นไปสู่บนเนินเขาซึ่งมีต้นไม้นานาพันธ์ปกคลุมไปทั่ว
พอขึ้นมาถึงข้างบน ทุกคนก็ได้สัมผัสกับบรรยากาศอันสดชื่นน่ารื่นรมณ์ สายลมโชยพัดเย็นสบาย สายน้ำตกหลั่งไหลจากเนินเบื้องสูงลงสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ ได้ยินเสียงนกการ้องขณะะบินว่อนไปมา แสนจะไพเราะเสนาะหู และะกลิ่นหอมจากมวลดอกไม้น้อยใหญ่
"แม่เจ้าโว้ย...นี่มันสวรรรค์ชัดๆ" แก้วอุทาน "เฮ้เพื่อนๆ เราอยู่พักกันตรงนี้นานๆหน่อยเหอะ"
"ไปที่น้ำตกโน่นดีกว่า อยากอาบน้ำเลยว่ะตอนนี้" แดงพยักเพยิดไปทางธารน้ำตก
"โอเค ไปกัน"
สามสหายเดินไปยังโขดหินซึ่งมีมากมายกระจัดกระจายริมแอ่งน้ำนั้น
โจ้ทรุดตัวลงนั่งยองๆ ก้มดูน้ำ
"น้ำใสแจ๋วเลยว่ะเพื่อน น่าจะสะอาดพอดื่มได้" ว่าแล้วก็เอาสองมือกอบน้ำขึ้นมาดื่ม
"อา...สดชื่นยิ่งกว่าน้ำดื่มสิงห์จากขวดแช่เย็นอีก"
แดงกับแก้วลองกอบน้ำขึ้นมาดื่มดูบ้าง และพยักหน้าเห็นด้วยกับโจ
"อาบน้ำกันเถอะพวกเรา" แก้วเอ่ยชวนแล้วถอดเสื้อผ้าเป็นคนแรก ลงไปก่อนเป็นคนแรก
"อย่าไปห่างนักนะเว้ย มันจะลึกขนาดไหนก็ไม่รู้ถ้าไปไกลๆ" แดงร้องเตือน
"โอเคๆ อยู่ใกล้ๆฝั่งนี่แหละ" แก้วตอบ แล้วทำท่าสั่นสะท้าน "หูยย...ลงมาแล้ว โคตรเย็นเลยเพื่อน แต่ก็ทำให้สดชื่นสบายตัว ลงมาสิ"
ทั้งแดงและโจถอดเสื้อผ้าลงน้ำตามลงไปบ้าง แล้วแดงก็ซู๊ดปาก
""อูยย...เย็นจริงๆว่ะ"
"แบบนี้อาบนานไม่ได้ เอาแค่พอรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวก็พอแล้วนะ ซักห้านาที" โจกล่าว
ทั้งสามอาบน้ำเล่นน้ำกันอยู่ประมาณห้านาทีตามคำของโจ แล้วแดงก็ขึ้นจากน้ำเป็นคนแรก ตามด้วยโจ และแก้วเป็นคนสุดท้าย
ขณะที่แดงและโจกำลังสวมเสื้อผ้าและแก้วกำลังก้าวขึ้นมาจากน้ำ ทุกคนก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรใหญ่ๆ โผล่และดำลงไปในน้ำ ห่างออกไปบริเวณกลางแอ่งน้ำซ่งคาดวาน่าจะเป็นที่น้ำลึก
"ซู่......บุ๋มม..."
"เฮ้ย อะไรวะ ?" แก้วหันกลับไปมองขณะที่ขาข้างหนึ่งยังอยู่ในน้ำ อีกข้างหนึ่งเหยียบแผ่นหินบนบก
แดงกับโจหันกลับไปมองเหมือนกัน แล้วโจก็รีบร้องสั่งเพื่อนด้วยเสียงอันดัง
"แก้ว รีบขึ้นมาก่อนเร็ว"
แก้วกระโจนขึ้นมาทันที รีบคว้าเสื้อและกางเกงมาสวมใส่อย่างเร่งร้อนพลางมองดูที่กลางแอ่งน้ำซึ่งมีร่องรอยของอะไรบางอย่างดำน้ำหายไป ทำให้น้ำตรงนั้นเป็นวงๆกระจาย
"ปลามั้ง ? ปลาบึกหรือเปล่าหว่า มันต้องใหญ่มากเลยนะนั่น" เขาทำท่าทางตื่นเต้น "ถ้าเป็นปลาบึก เราช่วยกันจับมาย่างกินกันดีกว่า"
แดงแลโจ้จ้องมองกลางแอ่งน้ำและบริเวณรอบๆ แล้วก็เบิกตากว้าง
"ไม่ใช่ปลา...ไอ้แก้ว..มัน.." โจ้ปากคอสั่น ขณะที่แดงตกตะลึงอยู่
แก้วหันมามองหน้าเพื่อน แล้วหันกลับไปดูอีกที แล้วก็แทบช็อคต่อภาพที่เห็น
สิ่งนั้น โผล่ขึ้นมาจากน้ำอีกครั้ง ห่างจากจุดเดิมเล็กน้อย ด้วยสรีระของมนุษย์...ผู้หญิง...ผมยาวเลยกลางหลังจนถึงสะเอว สองมือแหวกว่ายน้ำ แต่ท่อนล่างมิใช่ขาสองข้างอย่างที่ควรจะะเป็น แต่เป็นท่อนครึ่งล่างของปลา ยาวสักสองวาเห็นจะได้!
"นางเงือก!" แก้วร้องครางจากลำคอ และขนลุกซู่...
"เฮ้ย...หลบหลังโขดหิน อย่าให้เธอเห็นเรา" แดงกระซิบหนักๆ ก้มลงแอบหลังโขดหินใหญ่ อีกสองคนรีบทำตามทันที
"นายมีกล้องมาหรือเปล่าวะ แดง? โจ้ ?"
"กล้องไม่มี แต่มือถือคงใช้ได้มั้ง" โจ้กระซิบตอบพลางล้วงมือถือไอโฟนออกมาจากกระะเป๋าเสื้อ เปิดกล้องแล้วโผล่หน้าออกไปนิดหนึ่ง กดโหมดวีดิโอแล้วซูมถ่ายคลิปวีดิโอสดๆ...เงือกสาวยังคงดำผุดดำว่ายอยู่ พลางเหลียวมองซ้ายมองขวา
"ดูท่าทาง สวยด้วยนะ" โจ้กระซิบบอกกับเพื่อนทั้งสองซึ่งกำลังซุ่มดูอยู่อย่างเงียบกริบ
เงือกสาวเล่นน้ำอยู่ครู่หนึ่ง มองซ้าย มองขวา แล้วมองมาทางบนฝั่งที่สามสหายซุ่มอยู่
และจากภาพบนจอมือถือซึ่งซูมเข้าไปใกล้ ทั้งสามเห็นเธอค่อยๆยิ้ม ซึ่งมองดูทีแรกเหมือนจะน่ารัก แต่แล้วฉับพลันก็กลับกลายเป็นยิ้มแสยะ แล้วเปิดริมฝีปากทั้งสอง เผยให้เห็นเขี้ยวแหลมๆเต็มหมดทั้งปาก พร้อมกับสายตาที่กระหายเลือด!
"เฮ้ยย...Ship หายแล้ว เผ่นเร็ว!"
แดงร้องตะโกนและลุกพรวดขึ้นทันที อีกสองคนก็ไม่รอช้า ต่างคนต่างคว้าเป้ขึ้นสะพายหลังแล้วโกยอ้าวไปจากริมน้ำตรงนั้น ไปทางทิศตะวันออก วิ่งไปเรื่อยๆจนไม่รู้ว่าไกลเท่าไร ก่อนจะมาหยุดหอบหายใจกันริมหน้าผา
พอเริ่มหายเหนื่อยบ้างแล้ว แดงจึงถามเพื่อนผู้ซึ่งเพิ่งได้ถ่ายคลิปนางเงือกสาวมาสดๆร้อนๆในโอกาสที่ไม่คาดฝันว่าจะได้เจอในชีวิตนี้
"เฮ้ยโจ เปิดดูคลิปวีดิโอซิ ถ่ายได้ชัดไหม ?"
โจมือไม้สั่น หยิบมือถือยื่นให้เพื่อน
แดงรับมือถือโจ้มาเปิดดูคลิป แล้วทำท่าขนลุกขนพอง
"เราเคยดูวีดิโอนางเงือกในยูทูป ไม่เคยเชื่อเลยว่ะ แต่ที่นายถ่ายได้เนี่ย ถือว่าเป็นคลิปที่ชัดที่สุด และน่ากลัวที่สุดด้วย"
"ถ้ากลับถึงบ้าน แล้วอัพขึ้นยูทูป ต้องมีคนเข้าไปดูกันถล่มทลายแน่" แก้วคาดเดา
"เอาไว้กลับถึงบ้านกันแล้วก่อนเหอะ นี่จะมืดค่ำแล้ว เราคงได้นอนในป่ากันแน่คืนนี้" แดงกล่าว แล้วหยิบแผนที่มากางดูอีกที
"เราน่าจะอยู่ใกล้จุดที่มีเครื่องหมายกากบาดในแผนที่นี้แล้วหละ สังเกตดูภูมิประเทศบริเวณนี้สิ"
แก้วและโจเข้ามาดูแผนที่ด้วยกัน
"เออ...จริงด้วย ลักษณะเป็นริมเหวคล้ายกับที่เราอยู่กันตอนนี้ และมีถ้ำเล็กถ้ำหนึ่ง อยู่ใต้เครื่องหมายกาบาดนี่" โจชี้ไปที่ภาพวาดซึ่งดูเหมือนถ้ำใต้กากบาดบนแผนที่ "ลองช่วยกันมองหาดู"
"บางที นี่อาจเป็นจุดประสงค์ของการมาของเราก็ได้ แต่แผนที่นี่มาได้ยังไงก็ไม่รู้" แดงกล่าวด้วยคิ้วที่ขมวด
"ต้องมีใครสักคนมอบให้นาย ไม่ก็นาย...เอามาจากใครสักคน" โจกล่าวสันนิษฐาน
"แต่เราไม่เคยขโมยหรือแย่งชิงอะไรของใครนะเว้ย"
"อืม...นั่นสิ" แก้วเห็นด้วย "มีแต่ปริศนาทั้งนั้นเลยตอนนี้ ช่างมันก่อน ช่วยกันหาถ้ำนี่ก่อน หาเจอแล้วไปดูกัน ถึงตอนนั้นอาจจะได้คำตอบ"
ตะวันเริ่มคล้อยต่ำลงทุกที ในขณะที่สามสหายช่วยกันมองหาถ้ำปริศนาตามแผนที่ในอาณาบริเวณนั้น
และในที่สุดก็พบถ้ำเล็กนั้น ห่างจากจุดเดิมที่คนทั้งสามวิ่งหนีนางเงือกมาหยุดพักเกือบ 1 กิโลเมตร มันอยู่ต่ำกว่าริมหน้าผาลงมาราวสี่ห้าวา
ภายในถ้ำนั้นมืดสนิท และบริเวณรอบๆตัวทุกคนก็เงียบสงัดวังเวง
"ห้าโมงกว่าจะหกโมงแล้วเพื่อน บางทีเราอาจนอนค้างคืนกันในถ้ำนี้ได้" แก้วกล่าวแล้วทำท่าจะเดินเข้าไป แต่แดงฉุดมือรั้งไว้
"เดี๋ยวแก้ว....อย่ารีบเข้าไป ฉายไฟเข้าไปดูก่อน"
พูดจบ แดงก็ปลดเป้ลงจากหลัง เปิดเป้ล้วงเอาไฟฉายขนาดใหญ่ออกมา เลื่อนปุ่มเปิด แสงไฟจากหลอดไฟแอลอีดีขนาดเล็กหลายสิบดวงรวมกันสว่างไสวพุ่งเป็นลำใหญ่...เขาฉายแสงส่องเข้าไปในถ้ำ
มีแสงสว่าง...จากวัตถุบางอย่าง หลายชิ้น แวววาว สะท้อนกลับ!
ทุกคนเพ่งมองเข้าไป แล้วก็ต้องตะลึง!
"เฮ้ย...กองสมบัติ...สายสร้อย แหวน กำไล ทอง ทองทั้งนั้นเลยเว้ย!" โจแหกปากตะโกนอย่างตื่นเต้นสุดๆ
"นี่สินะ คือจุดประสงค์ที่พวกเรามา!" แดงร้องคราง แล้วหยิบแผนที่มาส่องไฟฉายดูอีกที
"พวกเราอย่าเพ่งเข้าไปนะ" เขาร้องบอก หลังจากเห็นข้อความหนึ่งข้างล่างแผนที่
"ทำไมวะ แดง ?" โจ้ถาม
"มันมีปริศนา...ห้ามมิให้เราเข้าไป จนกว่าจะแก้ปริศนานี้ได้เสียก่อน"
"ปริศนา...อะไร ?"
"คนที่เขียนแผนที่นี้ บอกว่า 'จงนอบน้อมถ่อมตนอย่างถึงที่สุด ต่อหน้าขุมทรัพย์นี้ และจะต้องไม่มีใครอื่นได้พบเห็น สุดท้ายแล้วแต่วาสนา' และข้อความก็จบแค่นี้เอง"
"หมายความว่ายังไง ?" โจ้และแก้วถามแทบจะพร้อมกัน
แดงนิ่งคิด...ครู่หนึ่ง ก็คุกเข่าลง และบอกเพื่อน
"คุกเข่าลงก่อน เร็ว!"
ทั้งสองทำหน้างงๆ แต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี
แดงกล่าวต่อไป
"ทำตามเรานะเพื่อน....พนมมือ อัญชลี"
ทั้งสองพนมมือที่หน้าอกตามแดงซึ่งพนมมือไว้ก่อนแล้ว
แดงกล่าวคำที่สอง "วันทา" แล้วยกสองมือที่พนมอยู่ขึ้นที่หน้าผาก เพื่อนทั้งสองก็ทำตาม
แดงกล่าวคำที่สาม "อภิวาท" แล้วก้มลงกราบ และบอกกับเพื่อน "กราบนิ่งอยู่ก่อน...อย่าเพิ่งผงกหัวขึ้นมานะ"
(มีต่อครับ)