หมอเฉลย ที่มา "กลิ่นแก่" เริ่มมีตอนอายุเท่าไหร่ แนะเครื่องดื่มช่วยลดกลิ่น คนไทยหาดื่มง่าย
อายุ 40 ปี เริ่มมีกลิ่นตัวเหมือนผู้สูงอายุ อาบน้ำอย่างไรก็ไม่หาย หมอเผยสาเหตุ พร้อมแนะเครื่องดื่มช่วยลดกลิ่นได้ ที่ไทยหาดื่มง่ายมาก!
คุณเคยได้กลิ่น "กลิ่นคนแก่" จากผู้สูงวัยบ้างไหม?
นายแพทย์หลี่ ซือเซียน แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนัก อธิบายในเพจเฟซบุ๊กว่า "กลิ่นคนแก่" ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน แต่จะพบในบางคนเท่านั้น มีกลิ่นเฉพาะตัวที่คล้ายกับกลิ่นน้ำมันที่เริ่มเก่า
เขาอธิบายว่าผิวหนังมนุษย์ตามธรรมชาติจะหลั่งไขมันเพื่อปกป้องผิวจากอันตรายภายนอก โดยปกติไขมันเหล่านี้จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน แต่ร่างกายจะสร้างสารต้านอนุมูลอิสระขึ้นมาต่อสู้และรักษาสมดุล
อย่างไรก็ตาม เมื่ออายุมากขึ้น การสร้างสารต้านอนุมูลอิสระจะลดลง อีกทั้งองค์ประกอบของไขมันในผิวหนังก็เปลี่ยนไป จึงทำให้กลิ่นนี้เริ่มปรากฏขึ้นเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป
นายแพทย์หลี่ ซือเซียน อธิบายว่า "กลิ่นคนแก่" มักเกิดในบริเวณที่มีการหลั่งไขมันมากและทำความสะอาดได้ยาก เช่น หนังศีรษะ หลังใบหู รักแร้ หน้าอก หลัง และต้นคอ เนื่องจากบริเวณเหล่านี้มีต่อมไขมันหนาแน่นและหลั่งกรดไขมันในปริมาณมาก ทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันได้ง่าย
บางคนอาจคิดว่า "มีกลิ่นคนแก่ก็แค่เพิ่มการอาบน้ำ ใช้สบู่ล้างให้สะอาดก็พอแล้ว" แต่นายแพทย์หลี่ ซือเซียน ส่ายหน้าพลางชี้แจงว่า สาร 2-Nonenal เป็นสารละลายในไขมัน ซึ่งน้ำธรรมดาไม่สามารถชะล้างออกได้ และแม้ใช้สบู่ก็อาจไม่สามารถกำจัดได้หมด หากทำความสะอาดอย่างรุนแรงเกินไป อาจทำให้ผิวแห้งและทำลายเกราะป้องกันผิว ส่งผลให้เกิดปัญหาอื่นตามมาได้
จะกำจัด "กลิ่นคนแก่" ได้อย่างไร?
นายแพทย์หลี่ ซือเซียน อธิบายว่า แม้กลิ่นนี้จะเกี่ยวข้องกับความชราภาพ แต่สามารถลดการเกิดได้ด้วยการเสริมสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินดี โพลีฟีนอล และกรดไลโปอิก ซึ่งช่วยชะลอการออกซิเดชันของกรดไขมัน เขาแนะนำว่า การดื่ม "ชาเขียว" ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพียงดื่มวันละแก้ว ก็ช่วยเพิ่มความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของร่างกายได้
อ่านเต็มๆได้ที่นี่
https://www.sanook.com/news/9651714/
กลิ่นแก่ ใครรู้จักบ้าง มาดูสาเหตุ และการช่วยลดกลิ่นที่นี่
อายุ 40 ปี เริ่มมีกลิ่นตัวเหมือนผู้สูงอายุ อาบน้ำอย่างไรก็ไม่หาย หมอเผยสาเหตุ พร้อมแนะเครื่องดื่มช่วยลดกลิ่นได้ ที่ไทยหาดื่มง่ายมาก!
คุณเคยได้กลิ่น "กลิ่นคนแก่" จากผู้สูงวัยบ้างไหม?
นายแพทย์หลี่ ซือเซียน แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนัก อธิบายในเพจเฟซบุ๊กว่า "กลิ่นคนแก่" ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน แต่จะพบในบางคนเท่านั้น มีกลิ่นเฉพาะตัวที่คล้ายกับกลิ่นน้ำมันที่เริ่มเก่า
เขาอธิบายว่าผิวหนังมนุษย์ตามธรรมชาติจะหลั่งไขมันเพื่อปกป้องผิวจากอันตรายภายนอก โดยปกติไขมันเหล่านี้จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน แต่ร่างกายจะสร้างสารต้านอนุมูลอิสระขึ้นมาต่อสู้และรักษาสมดุล
อย่างไรก็ตาม เมื่ออายุมากขึ้น การสร้างสารต้านอนุมูลอิสระจะลดลง อีกทั้งองค์ประกอบของไขมันในผิวหนังก็เปลี่ยนไป จึงทำให้กลิ่นนี้เริ่มปรากฏขึ้นเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป
นายแพทย์หลี่ ซือเซียน อธิบายว่า "กลิ่นคนแก่" มักเกิดในบริเวณที่มีการหลั่งไขมันมากและทำความสะอาดได้ยาก เช่น หนังศีรษะ หลังใบหู รักแร้ หน้าอก หลัง และต้นคอ เนื่องจากบริเวณเหล่านี้มีต่อมไขมันหนาแน่นและหลั่งกรดไขมันในปริมาณมาก ทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันได้ง่าย
บางคนอาจคิดว่า "มีกลิ่นคนแก่ก็แค่เพิ่มการอาบน้ำ ใช้สบู่ล้างให้สะอาดก็พอแล้ว" แต่นายแพทย์หลี่ ซือเซียน ส่ายหน้าพลางชี้แจงว่า สาร 2-Nonenal เป็นสารละลายในไขมัน ซึ่งน้ำธรรมดาไม่สามารถชะล้างออกได้ และแม้ใช้สบู่ก็อาจไม่สามารถกำจัดได้หมด หากทำความสะอาดอย่างรุนแรงเกินไป อาจทำให้ผิวแห้งและทำลายเกราะป้องกันผิว ส่งผลให้เกิดปัญหาอื่นตามมาได้
จะกำจัด "กลิ่นคนแก่" ได้อย่างไร?
นายแพทย์หลี่ ซือเซียน อธิบายว่า แม้กลิ่นนี้จะเกี่ยวข้องกับความชราภาพ แต่สามารถลดการเกิดได้ด้วยการเสริมสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินดี โพลีฟีนอล และกรดไลโปอิก ซึ่งช่วยชะลอการออกซิเดชันของกรดไขมัน เขาแนะนำว่า การดื่ม "ชาเขียว" ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพียงดื่มวันละแก้ว ก็ช่วยเพิ่มความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของร่างกายได้
อ่านเต็มๆได้ที่นี่ https://www.sanook.com/news/9651714/