ทำบุญอย่างไร จึงจะสวยและงามแบบนางวิสาขา ผู้หญิงต้นแบบสมัยพุทธกาล
นางวิสาขามีความสวยเป็นกรณีพิเศษ คือ สวยไม่เหมือนชาวบ้านเขา สวยได้สวยดี สวยไม่สร่าง
สวยตั้งแต่เป็นสาวอายุ ๑๖ ปี เมื่อถึงคราวอายุ ๑๖ ปี รูปร่างยอดนารี มีลักษณะเช่นใด
และยังสวยอยู่ต่อไปถึง ๑๒๐ ปี ก็ยังเป็นสาวเหมือนตอนอายุแค่ ๑๖ ปี
http://winne.ws/n20655
ทำบุญอย่างไร จึงจะสวยแบบนางวิสาขา ผู้หญิงต้นแบบสมัยพุทธกาล
นางวิสาขามีความสวยเป็นกรณีพิเศษ คือ สวยไม่เหมือนชาวบ้านเขา สวยได้สวยดี สวยไม่สร่าง สวยตั้งแต่เป็นสาวอายุ ๑๖ ปี เมื่อถึงคราวอายุ ๑๖ ปี รูปร่างยอดนารี มีลักษณะเช่นใด และยังสวยอยู่ต่อไปถึง ๑๒๐ ปี ก็ยังเป็นสาวเหมือนตอนอายุแค่ ๑๖ ปี นั่นเอง ลักษณะความสาวสวยของนางวิสาขา กล่าวว่ามี ๕ อย่างด้วยกัน บาลีเรียกว่า เบญจกัลยาณี เบญจะ คือห้า กัลยาณีคือความงาม
สำหรับลักษณะงาม ๕ ประการ ท่านเจ้าคุณราชเมธี วัดประยุรวงศาวาส กรุงเทพฯ ประพันธ์ไว้เป็นกลอนไว้ดังนี้
งามผมสมพักตร์ลักขณา
โอษฐาจิ้มลิ้มดูพริ้มเพรา
งามทนต์ยลปลั่งดั่งสังข์ขัด
ผิวทัศน์กรรณิการ์งามราศรี
จะคลอดบุตรสักเท่าไรวัยยังดี
หญิงเช่นนี้ใครได้มางามหน้าเอย
นางวิสาขามีความสวย ๕ ประการ ถ้าหากว่า บรรดาสุภาพสตรีในสมัยปัจจุบัน มีความสวยครบ ๕ ประการ อย่างนางวิสาขา คงจะหายากแล้ว เพราะงามแบบนางวิสาขาเป็นความงามชนิดพิเศษที่เกิดขึ้นด้วยบุญจริง ๆ เป็นความงามที่ตัดภาระที่ต้องรักสวยรักงามไม่ต้องกังวลเลยเพราะความงามของนางวิสาขา ตามคำกลอนของ ท่านเจ้าคุณราชเมธี วัดประยุรวงศ์ฯ ท่านแต่งมาจากเนื้อแท้ของบาลีก็จะได้ความดังนี้ว่า
๑. งามผมสมพักตร์ลักขณา ผมของนางวิสาขานี้สลวยอยู่ตลอดเวลา เรียบ ไม่ต้องตัด ไม่ต้องชำระสะสางก็ไม่เหม็นสาบ ผมจะไม่ยาวเกินไป ไม่สั้นเกินไป ไม่เหม็นสาบ ถ้าสมัยไหนเขาต้องการเรียบ ผมของนางก็เรียบ ต้องการหยิก ผมก็หยิก ต้องการเป็นผมลอน ผมก็เป็นลอน หมายถึงว่า ในสมัยใด ต้องการแบบใด ลักษณะผมของนางวิสาขา จะเป็นไปตามสมัย ไม่ต้องดัดแปลง ไม่ต้องแก้ไข ไม่ต้องตกแต่ง ไม่ต้องตัด ไม่ยาวเกินไป ไม่สั้นเกินไป เป็นอันว่า งามผม แบบนี้ก็ไม่ต้องง้อร้านทำผม ร้านเสริมความงามคงไม่รุ่ง
๒. โอษฐาจิ้มลิ้มดูพริ้มเพรา ริมฝีปากของนางวิสาขาไม่มีริ้ว ไม่มีรอย เป็นริมฝีปากสวย มีความแดงระเรื่อ พอสมควร ไม่ต้องไปแตะไปต้องอะไรทั้งหมด ปรากฏว่า สวยอยู่ตลอดเวลา แบบนี้ประหยัดลิปสติกเครื่องสำอางทั้งหลาย
๓. งามทนต์ยลปลั่งดั่งสังข์ขัด ฟันของนางวิสาขาเรียบ และเป็นเงางาม คล้ายมุก ไม่ต้องตกแต่งเหมือนกันอยู่ตลอดเวลา แบบนี้ก็ไม่ต้องเข้าคลินิกทันตกรรม
๔. ผิวทัศน์กรรณิการ์งามราศรี คำว่า ผิว ในที่นี้ ถ้าเขานิยมดำ ก็ดำสวย ถ้าเขานิยมขาว ผิวก็ขาว เขานิยมเหลือง ผิวก็เหลือง เป็นไปตามความนิยม ไม่มีไฝ ไม่มีฝ้า ไม่มีขี้แมลงวัน ถึงแม้ว่าจะไม่อาบน้ำสักเดือนหนึ่ง ผิวของนางวิสาขาก็ไม่เลอะ ไม่สกปรก ไม่เหม็นสาบ ไม่เหม็นสาง แบบนี้ร้านเสริมสวยคงเจ้งแน่นอน
๕. จะคลอดบุตรสักเท่าไรวัยยังดี หมายความว่า หญิงประเภทนี้ ถ้าคลอดบุตรเมื่ออายุเท่าไร มีความงามของทรวดทรงอยู่ในระดังไหน ความงามของทรวดทรงจะอยู่ในระดับนั้น จนกว่าจะถึงวันตาย ไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นางวิสาขามีความงาม ๕ ประการ และคลอดบุตรเมื่ออายุ ๑๖ ปี เมื่อนางแก่ถึงอายุ ๑๒๐ ปี ก็ปรากฏว่า เป็นหญิงเหมือนอายุ ๑๖ ปี นั่นเอง แบบนี้เขาเรียกว่าสวยจริง ไม่ต้องไปดึงหน้า หรือทำหน้าเด้งอย่างเช่นปัจจุบันนี้เลย
นางวิสาขานั่งอยู่ท่ามกลางบรรดาหลานสาว ๆ รุ่น ๆ พระเจ้าปเสนทิโกศล พระราชาแห่งแคว้นโกศลรัฐ ทรงทอดพระเนตรดู ก็ไม่รู้ว่า คนไหนคือ นางวิสาขา จึงถาม ท่านหมอชีวกโกมารภัจ ว่า นางวิสาขาคนไหน ท่านหมอชีวกโกมารภัจก็ชี้ให้ดู บอกว่า นางวิสาขาอยู่ท่ามกลางหลาน พระพุทธเจ้าข้า พระเจ้าปเสนทิโกศล พระบาทท้าวเธอทอดพระเนตร ก็หาทราบไม่ว่า ใครคือนางวิสาขาแน่ เพราะหาคนแก่ไม่ได้ มีแต่เด็กสาวรุ่น ๆ
หมอชีวกโกมารภัจ จึงได้กราบทูลว่า ถ้าพระองค์ไม่ทรงทราบ คอยดูเวลาลุกขึ้นเมื่อเทศน์จบ ตามธรรมดาเด็กหนุ่ม ๆ สาว ๆ ก็มีกำลังมาก เวลาจะลุก เขาก็ลุกขึ้นมาปกติ ถ้าคนแก่ เวลาจะลุกขึ้น จะต้องเอาสองมือยันพื้นก่อน จึงจะลุกขึ้น
ต้นเหตุที่นางวิสาขา ที่ทำไมจึงสวยเช่นนี้ ท่านกล่าวถึงอดีตบุพพกรรมของนางไว้ว่า ถอยหลังไปจากชาตินี้ ในสมัยพระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงอุบัติขึ้นในโลก เวลานั้น นางวิสาขา เป็นสาวชาวบ้านธรรมดา
ในสมัยนั้นนางวิสาขาก็มีความเลื่อมใสในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่าพระพุทธกัสสปะ คือพระพุทธเจ้าองค์ก่อนพระพุทธเจ้าของเรานี้ นางมีความเคารพในพระพุทธเจ้าจริง ๆ เวลาที่เขาจะมีเทศน์ เขาจะทำบุญกันที่ไหน นางวิสาขาไปด้วยความเต็มใจ ไปฟังด้วยความเคารพ และบำเพ็ญกุศลด้วยความเคารพ แต่ว่านางวิสาขา เวลาที่บำเพ็ญกุศล ในจรรยาสัมมาปฏิบัติแล้วไม่เคยอธิษฐาน หลังจากทำบุญในศาสนาขององค์สมเด็จพระกัสสปพระพุทธเจ้าว่า ขอให้ได้เบญจกัลยาณี คือ มีความงาม ๕ ประการ ความจริง นางวิสาขาไม่ได้อธิษฐานอย่างนี้ มีความต้องการอย่างเดียวคือ การบำเพ็ญกุศลในศาสนาขององค์สมเด็จพระกัสสปะพุทธเจ้า นางมีความต้องการเฉพาะ คือ พระนิพพานคือความหลุดพ้นเท่านั้น
การทำบุญ บรรดาท่านพุทธบริษัท เราได้รับผลกันในปัจจุบัน คือ รับความสุขในชาติปัจจุบันนี้ก่อน แล้วต่อไป บุญจึงสะท้อนให้เราเข้าสู่พระนิพพาน เมื่อบุญบารมีเต็มได้ในชาติต่อไป
ครั้งหนึ่งเมื่อนางวิสาขาไปฟังเทศน์ เขาบอกกล่าวกัน บอกว่ามีพระท่านเทศน์ จึงตั้งใจจะไปฟังเทศน์ แต่ในระหว่างทางปรากฏว่า นางวิสาขาไปพบพระพุทธรูปองค์หนึ่ง เขาสร้างไว้ในสถานที่โล่งแจ้งคือ ตากแดด และพระพุทธรูปนั้นมีรอยร้าว เปลือกกระเทาะ ทองก็ล่อนไปหมด ปูนก็กระเทาะจนแหว่ง แลดูไม่สวยสดงดงาม ไม่เจริญตา นางวิสาขาจึงเข้าไปกราบ นมัสการพระพุทธรูป ตั้งใจเจริญใจเป็นพุทธบูชา กล่าวปฏิญาณว่า
เมื่อข้าพเจ้ากลับมาจากฟังพระธรรมเทศนาแล้ว จะให้ช่างมาทำนุบำรุงพระพุทธปฏิมากร รูปแทนขององค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ให้มีความสวยสดงดงาม เมื่อนางไหว้พระพุทธรูป นึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าแล้ว นางก็ไปฟังเทศน์ เมื่อเทศน์จบ คนเขากลับ นางวิสาขาก็กลับ เมื่อกลับมา ผ่านพระพุทธรูปนั้น ก็เข้าไปกราบอีก กล่าวคำปฏิญาณตามนั้น
หลังจากนั้นแล้ว นางวิสาขาเมื่อมาถึงบ้าน จึงได้สั่งให้นายช่างไปจัดการทำนุบำรุงรูปพระปฏิมากร คือ พระพุทธรูป ซ่อมแซมให้เรียบร้อย ให้ดีคงเดิม พอเสร็จแล้วก็ทาสี หรือว่าปิดทอง เสร็จตามความนิยมในสมัยนั้น ตามพระบาลีไม่ได้บอกว่า เขาทาสีหรือปิดทอง ทำตามความนิยมที่เห็นว่าสวยสดงดงาม เป็นที่เจริญตาเจริญใจ หลังจากนั้น นางวิสาขาจึงได้ให้นายช่างปลูกโรง ทำหลังคาคลุมพระพุทธรูป ไม่ยอมให้ตากแดดตากฝนเหมือนเดิม
นี่เองที่เป็นเหตุปัจจัยให้นางวิสาขาได้ เบญจกัลยาณี คือ มีความงาม ๕ ประการ ทั้งนี้ก็เพราะว่า องค์สมเด็จพระบรมศาสดาทรงรับรองเรื่องนี้ว่า การที่นางวิสาขาได้ เบญจกัลยาณี คือ มีความดี ๕ ประการของรูปโฉม ก็เพราะว่านางวิสาขาทำนุบำรุง ซ่อมแซมพระพุทธรูป ที่เก่าคร่ำคร่า มีสภาพไม่ดี ให้กลับมีสภาพสวยสดงดงาม เพราะอานิสงส์ทำความงามให้แก่พระพุทธรูป อานิสงส์นี้จึงสร้างสรรค์ให้ นางวิสาขาได้ เบญจกัลยาณี.
ท่านคมสรณ์-เล่าเรื่องบอกกล่าวสำหรับผู้ที่อยากสวยอยากงาม
จากนครสาวัตถี - อินดีย ๙ สิงหาคม ๒๕๕๔
อ่านเพิ่มได้ที่:
http://oknation.nationtv.tv/blog/mylifeandwork/2011/08/09/entry-3
ทำบุญอย่างไร จึงจะสวยและงามแบบนางวิสาขา ผู้หญิงต้นแบบสมัยพุทธกาล นางวิสาขามีความสวยเป็นกรณีพิเศษ คือ สวยไม่เหมือนชาวบ้าน
นางวิสาขามีความสวยเป็นกรณีพิเศษ คือ สวยไม่เหมือนชาวบ้านเขา สวยได้สวยดี สวยไม่สร่าง
สวยตั้งแต่เป็นสาวอายุ ๑๖ ปี เมื่อถึงคราวอายุ ๑๖ ปี รูปร่างยอดนารี มีลักษณะเช่นใด
และยังสวยอยู่ต่อไปถึง ๑๒๐ ปี ก็ยังเป็นสาวเหมือนตอนอายุแค่ ๑๖ ปี
http://winne.ws/n20655
ทำบุญอย่างไร จึงจะสวยแบบนางวิสาขา ผู้หญิงต้นแบบสมัยพุทธกาล
นางวิสาขามีความสวยเป็นกรณีพิเศษ คือ สวยไม่เหมือนชาวบ้านเขา สวยได้สวยดี สวยไม่สร่าง สวยตั้งแต่เป็นสาวอายุ ๑๖ ปี เมื่อถึงคราวอายุ ๑๖ ปี รูปร่างยอดนารี มีลักษณะเช่นใด และยังสวยอยู่ต่อไปถึง ๑๒๐ ปี ก็ยังเป็นสาวเหมือนตอนอายุแค่ ๑๖ ปี นั่นเอง ลักษณะความสาวสวยของนางวิสาขา กล่าวว่ามี ๕ อย่างด้วยกัน บาลีเรียกว่า เบญจกัลยาณี เบญจะ คือห้า กัลยาณีคือความงาม
สำหรับลักษณะงาม ๕ ประการ ท่านเจ้าคุณราชเมธี วัดประยุรวงศาวาส กรุงเทพฯ ประพันธ์ไว้เป็นกลอนไว้ดังนี้
งามผมสมพักตร์ลักขณา
โอษฐาจิ้มลิ้มดูพริ้มเพรา
งามทนต์ยลปลั่งดั่งสังข์ขัด
ผิวทัศน์กรรณิการ์งามราศรี
จะคลอดบุตรสักเท่าไรวัยยังดี
หญิงเช่นนี้ใครได้มางามหน้าเอย
นางวิสาขามีความสวย ๕ ประการ ถ้าหากว่า บรรดาสุภาพสตรีในสมัยปัจจุบัน มีความสวยครบ ๕ ประการ อย่างนางวิสาขา คงจะหายากแล้ว เพราะงามแบบนางวิสาขาเป็นความงามชนิดพิเศษที่เกิดขึ้นด้วยบุญจริง ๆ เป็นความงามที่ตัดภาระที่ต้องรักสวยรักงามไม่ต้องกังวลเลยเพราะความงามของนางวิสาขา ตามคำกลอนของ ท่านเจ้าคุณราชเมธี วัดประยุรวงศ์ฯ ท่านแต่งมาจากเนื้อแท้ของบาลีก็จะได้ความดังนี้ว่า
๑. งามผมสมพักตร์ลักขณา ผมของนางวิสาขานี้สลวยอยู่ตลอดเวลา เรียบ ไม่ต้องตัด ไม่ต้องชำระสะสางก็ไม่เหม็นสาบ ผมจะไม่ยาวเกินไป ไม่สั้นเกินไป ไม่เหม็นสาบ ถ้าสมัยไหนเขาต้องการเรียบ ผมของนางก็เรียบ ต้องการหยิก ผมก็หยิก ต้องการเป็นผมลอน ผมก็เป็นลอน หมายถึงว่า ในสมัยใด ต้องการแบบใด ลักษณะผมของนางวิสาขา จะเป็นไปตามสมัย ไม่ต้องดัดแปลง ไม่ต้องแก้ไข ไม่ต้องตกแต่ง ไม่ต้องตัด ไม่ยาวเกินไป ไม่สั้นเกินไป เป็นอันว่า งามผม แบบนี้ก็ไม่ต้องง้อร้านทำผม ร้านเสริมความงามคงไม่รุ่ง
๒. โอษฐาจิ้มลิ้มดูพริ้มเพรา ริมฝีปากของนางวิสาขาไม่มีริ้ว ไม่มีรอย เป็นริมฝีปากสวย มีความแดงระเรื่อ พอสมควร ไม่ต้องไปแตะไปต้องอะไรทั้งหมด ปรากฏว่า สวยอยู่ตลอดเวลา แบบนี้ประหยัดลิปสติกเครื่องสำอางทั้งหลาย
๓. งามทนต์ยลปลั่งดั่งสังข์ขัด ฟันของนางวิสาขาเรียบ และเป็นเงางาม คล้ายมุก ไม่ต้องตกแต่งเหมือนกันอยู่ตลอดเวลา แบบนี้ก็ไม่ต้องเข้าคลินิกทันตกรรม
๔. ผิวทัศน์กรรณิการ์งามราศรี คำว่า ผิว ในที่นี้ ถ้าเขานิยมดำ ก็ดำสวย ถ้าเขานิยมขาว ผิวก็ขาว เขานิยมเหลือง ผิวก็เหลือง เป็นไปตามความนิยม ไม่มีไฝ ไม่มีฝ้า ไม่มีขี้แมลงวัน ถึงแม้ว่าจะไม่อาบน้ำสักเดือนหนึ่ง ผิวของนางวิสาขาก็ไม่เลอะ ไม่สกปรก ไม่เหม็นสาบ ไม่เหม็นสาง แบบนี้ร้านเสริมสวยคงเจ้งแน่นอน
๕. จะคลอดบุตรสักเท่าไรวัยยังดี หมายความว่า หญิงประเภทนี้ ถ้าคลอดบุตรเมื่ออายุเท่าไร มีความงามของทรวดทรงอยู่ในระดังไหน ความงามของทรวดทรงจะอยู่ในระดับนั้น จนกว่าจะถึงวันตาย ไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นางวิสาขามีความงาม ๕ ประการ และคลอดบุตรเมื่ออายุ ๑๖ ปี เมื่อนางแก่ถึงอายุ ๑๒๐ ปี ก็ปรากฏว่า เป็นหญิงเหมือนอายุ ๑๖ ปี นั่นเอง แบบนี้เขาเรียกว่าสวยจริง ไม่ต้องไปดึงหน้า หรือทำหน้าเด้งอย่างเช่นปัจจุบันนี้เลย
นางวิสาขานั่งอยู่ท่ามกลางบรรดาหลานสาว ๆ รุ่น ๆ พระเจ้าปเสนทิโกศล พระราชาแห่งแคว้นโกศลรัฐ ทรงทอดพระเนตรดู ก็ไม่รู้ว่า คนไหนคือ นางวิสาขา จึงถาม ท่านหมอชีวกโกมารภัจ ว่า นางวิสาขาคนไหน ท่านหมอชีวกโกมารภัจก็ชี้ให้ดู บอกว่า นางวิสาขาอยู่ท่ามกลางหลาน พระพุทธเจ้าข้า พระเจ้าปเสนทิโกศล พระบาทท้าวเธอทอดพระเนตร ก็หาทราบไม่ว่า ใครคือนางวิสาขาแน่ เพราะหาคนแก่ไม่ได้ มีแต่เด็กสาวรุ่น ๆ
หมอชีวกโกมารภัจ จึงได้กราบทูลว่า ถ้าพระองค์ไม่ทรงทราบ คอยดูเวลาลุกขึ้นเมื่อเทศน์จบ ตามธรรมดาเด็กหนุ่ม ๆ สาว ๆ ก็มีกำลังมาก เวลาจะลุก เขาก็ลุกขึ้นมาปกติ ถ้าคนแก่ เวลาจะลุกขึ้น จะต้องเอาสองมือยันพื้นก่อน จึงจะลุกขึ้น
ต้นเหตุที่นางวิสาขา ที่ทำไมจึงสวยเช่นนี้ ท่านกล่าวถึงอดีตบุพพกรรมของนางไว้ว่า ถอยหลังไปจากชาตินี้ ในสมัยพระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงอุบัติขึ้นในโลก เวลานั้น นางวิสาขา เป็นสาวชาวบ้านธรรมดา
ในสมัยนั้นนางวิสาขาก็มีความเลื่อมใสในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่าพระพุทธกัสสปะ คือพระพุทธเจ้าองค์ก่อนพระพุทธเจ้าของเรานี้ นางมีความเคารพในพระพุทธเจ้าจริง ๆ เวลาที่เขาจะมีเทศน์ เขาจะทำบุญกันที่ไหน นางวิสาขาไปด้วยความเต็มใจ ไปฟังด้วยความเคารพ และบำเพ็ญกุศลด้วยความเคารพ แต่ว่านางวิสาขา เวลาที่บำเพ็ญกุศล ในจรรยาสัมมาปฏิบัติแล้วไม่เคยอธิษฐาน หลังจากทำบุญในศาสนาขององค์สมเด็จพระกัสสปพระพุทธเจ้าว่า ขอให้ได้เบญจกัลยาณี คือ มีความงาม ๕ ประการ ความจริง นางวิสาขาไม่ได้อธิษฐานอย่างนี้ มีความต้องการอย่างเดียวคือ การบำเพ็ญกุศลในศาสนาขององค์สมเด็จพระกัสสปะพุทธเจ้า นางมีความต้องการเฉพาะ คือ พระนิพพานคือความหลุดพ้นเท่านั้น
การทำบุญ บรรดาท่านพุทธบริษัท เราได้รับผลกันในปัจจุบัน คือ รับความสุขในชาติปัจจุบันนี้ก่อน แล้วต่อไป บุญจึงสะท้อนให้เราเข้าสู่พระนิพพาน เมื่อบุญบารมีเต็มได้ในชาติต่อไป
ครั้งหนึ่งเมื่อนางวิสาขาไปฟังเทศน์ เขาบอกกล่าวกัน บอกว่ามีพระท่านเทศน์ จึงตั้งใจจะไปฟังเทศน์ แต่ในระหว่างทางปรากฏว่า นางวิสาขาไปพบพระพุทธรูปองค์หนึ่ง เขาสร้างไว้ในสถานที่โล่งแจ้งคือ ตากแดด และพระพุทธรูปนั้นมีรอยร้าว เปลือกกระเทาะ ทองก็ล่อนไปหมด ปูนก็กระเทาะจนแหว่ง แลดูไม่สวยสดงดงาม ไม่เจริญตา นางวิสาขาจึงเข้าไปกราบ นมัสการพระพุทธรูป ตั้งใจเจริญใจเป็นพุทธบูชา กล่าวปฏิญาณว่า
เมื่อข้าพเจ้ากลับมาจากฟังพระธรรมเทศนาแล้ว จะให้ช่างมาทำนุบำรุงพระพุทธปฏิมากร รูปแทนขององค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ให้มีความสวยสดงดงาม เมื่อนางไหว้พระพุทธรูป นึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าแล้ว นางก็ไปฟังเทศน์ เมื่อเทศน์จบ คนเขากลับ นางวิสาขาก็กลับ เมื่อกลับมา ผ่านพระพุทธรูปนั้น ก็เข้าไปกราบอีก กล่าวคำปฏิญาณตามนั้น
หลังจากนั้นแล้ว นางวิสาขาเมื่อมาถึงบ้าน จึงได้สั่งให้นายช่างไปจัดการทำนุบำรุงรูปพระปฏิมากร คือ พระพุทธรูป ซ่อมแซมให้เรียบร้อย ให้ดีคงเดิม พอเสร็จแล้วก็ทาสี หรือว่าปิดทอง เสร็จตามความนิยมในสมัยนั้น ตามพระบาลีไม่ได้บอกว่า เขาทาสีหรือปิดทอง ทำตามความนิยมที่เห็นว่าสวยสดงดงาม เป็นที่เจริญตาเจริญใจ หลังจากนั้น นางวิสาขาจึงได้ให้นายช่างปลูกโรง ทำหลังคาคลุมพระพุทธรูป ไม่ยอมให้ตากแดดตากฝนเหมือนเดิม
นี่เองที่เป็นเหตุปัจจัยให้นางวิสาขาได้ เบญจกัลยาณี คือ มีความงาม ๕ ประการ ทั้งนี้ก็เพราะว่า องค์สมเด็จพระบรมศาสดาทรงรับรองเรื่องนี้ว่า การที่นางวิสาขาได้ เบญจกัลยาณี คือ มีความดี ๕ ประการของรูปโฉม ก็เพราะว่านางวิสาขาทำนุบำรุง ซ่อมแซมพระพุทธรูป ที่เก่าคร่ำคร่า มีสภาพไม่ดี ให้กลับมีสภาพสวยสดงดงาม เพราะอานิสงส์ทำความงามให้แก่พระพุทธรูป อานิสงส์นี้จึงสร้างสรรค์ให้ นางวิสาขาได้ เบญจกัลยาณี.
ท่านคมสรณ์-เล่าเรื่องบอกกล่าวสำหรับผู้ที่อยากสวยอยากงาม
จากนครสาวัตถี - อินดีย ๙ สิงหาคม ๒๕๕๔
อ่านเพิ่มได้ที่: http://oknation.nationtv.tv/blog/mylifeandwork/2011/08/09/entry-3