เมื่อปี 2554 ผมได้จองและทำสัญญาจะซื้อจะขาย (ตามแบบ อช.22) คอนโดไว้ที่หนึ่ง ห้องขนาด 32 ตร.ม. ในราคา 800,000 บาท
และได้ชำระเงินดาวน์ตลอดอย่างสม่ำเสมอจนครบกำหนดการโอนคือ ตุลาคม ปี 56
เมื่อถึงกำหนดวันโอน ทางเจ้าของโครงไม่สามารถโอนได้เนื่องจากโครงการไม่เสร็จตามกำหนด
และได้เลื่อนวันโอนออกมาเรื่อยๆ ซึ่งในระหว่างนั้นทางเจ้าของโครงการได้ ขายหุ้นบริษัทให้คณะบริหารชุดใหม่
เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทน และมีการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ แต่เลขทะเบียนนิติบุคคล ยังเหมือนเดิม
หลังจากนั้นทางเจ้าของโครงการผู้ถือหุ้นใหญ่ได้นำห้องชุดทั้งหมดมาทำการขายใหม่
โดยที่เค้าได้แจ้งยกเลิกสัญญากับผมโดยการส่งมาทางไปรษณีย์ (คือเคสนี้ผมไม่ได้ผิดสัญญาอะไรเลย)
หลังจากนั้นทางโครงการก็นำห้องชุดห้องที่ผมมีสัญญาจองอยู่ไปตั้งราคาขายใหม่ในราคา 2,600,000 บาท
ณ ปัจจุบัน ห้องนี้ก็ถูกขายไปเรียบร้อยแล้ว (โอนกรรมสิทธิ์แล้ว)
ผมอยากทราบว่าในกรณีนี้ บทสรุปของข้อพิพาทจะเป็นอย่างไรครับ
ปล.ตอนนี้อยู่ในกระบวนการสืบพยานของศาลครับ
ตอนแรกผมร้องเรียน สคบ. ไป แต่ไกล่เกลี่ยกันไม่ได้
ผมเลยตั้งทนายมาฟ้องศาลแทนครับ
ขอบคุณครับ
ขอคำแนะนำครับ ผมโดนเจ้าของโครงการคอนโดเล่นซะแล้ว!!!
และได้ชำระเงินดาวน์ตลอดอย่างสม่ำเสมอจนครบกำหนดการโอนคือ ตุลาคม ปี 56
เมื่อถึงกำหนดวันโอน ทางเจ้าของโครงไม่สามารถโอนได้เนื่องจากโครงการไม่เสร็จตามกำหนด
และได้เลื่อนวันโอนออกมาเรื่อยๆ ซึ่งในระหว่างนั้นทางเจ้าของโครงการได้ ขายหุ้นบริษัทให้คณะบริหารชุดใหม่
เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทน และมีการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ แต่เลขทะเบียนนิติบุคคล ยังเหมือนเดิม
หลังจากนั้นทางเจ้าของโครงการผู้ถือหุ้นใหญ่ได้นำห้องชุดทั้งหมดมาทำการขายใหม่
โดยที่เค้าได้แจ้งยกเลิกสัญญากับผมโดยการส่งมาทางไปรษณีย์ (คือเคสนี้ผมไม่ได้ผิดสัญญาอะไรเลย)
หลังจากนั้นทางโครงการก็นำห้องชุดห้องที่ผมมีสัญญาจองอยู่ไปตั้งราคาขายใหม่ในราคา 2,600,000 บาท
ณ ปัจจุบัน ห้องนี้ก็ถูกขายไปเรียบร้อยแล้ว (โอนกรรมสิทธิ์แล้ว)
ผมอยากทราบว่าในกรณีนี้ บทสรุปของข้อพิพาทจะเป็นอย่างไรครับ
ปล.ตอนนี้อยู่ในกระบวนการสืบพยานของศาลครับ
ตอนแรกผมร้องเรียน สคบ. ไป แต่ไกล่เกลี่ยกันไม่ได้
ผมเลยตั้งทนายมาฟ้องศาลแทนครับ
ขอบคุณครับ