หากรถผมมีทะเบียนคล้ายกับทะเบียนรถคันที่ไปชนคนตาย มีลักษณะรถคล้ายกันอีก แต่ไม่เคยไปชนใคร
ผมจะขอความเมตตา ให้พิจารณาวิถีการชน และยืนยันว่า ผลการตรวจสภาพรถของผมว่าไม่ได้ชนคนที่ตายได้หรือไม่?
เพราะการยืนยันว่า วิถีการชน ในวัน ในสถานที่เกิดเหตุ ผมไม่ได้อยู่ที่นั้น รถของผมก็ไม่ได้ไปที่นั้น แต่ผมกลับถูกหางเลขไปกับความไม่ชัดเจนในการหาผู้กระทำความผิด ผมควรทำอย่างไร?
หรือต้องยินยอม เพียงเพราะ หาคนที่กระทำความผิดตัวจริงไม่ได้
ผมเองเป็นคนไทยคนหนึ่ง กลัวกับการเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับผมมากๆ
คำถามอีกข้อหนึ่ง
แต่หากวันที่ผมถูกจับ ไม่มีเจ้าหน้าที่แนะนำวิธีในการนำเสนอต่อศาล ให้ท่านเห็นถึงข้อเท็จจริง จนผมยินยอมรับโทษ เพราะไม่สามารถหาเหตุผลมาหักล้างได้ ไม่สามารถค้นหาผู้กระทำความผิดตัวจริงมารับโทษได้ ผมควรรับกรรมที่ผมไม่ได้ก่อ แล้วเมื่อพ้นโทษ ก็ควรอยู่กับครอบครัวอย่างสงบ ไม่เรียกร้องสิ่งใดอย่างนั้นหรือ หรือเรียกร้องได้ แต่ผลที่ได้อาจทำให้เดือนร้อนมากกว่าการอยู่นิ่งๆ ผมไม่ควรต่อสู้หาความชอบธรรมหลังรับโทษที่ไม่ได้ก่อ
แต่หากมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ต่อจากตำรวจ และทำงานควบคู่กับศาล เช่น การให้อำนาจอัยการ ที่มุ่งมั่นในการช่วยเหลือ หรืออย่างน้อยๆ ก็มอบหายให้สภาทนายความที่มีอุดมการณ์ ในการให้ความรู้ และ ส่งต่อหน้าที่ในการตรวจสอบหาความจริงผ่านสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้รับรองวิถีการชน รวมถึงการตรวจสภาพรถของผม ก่อนที่ศาลจะตัดสิน เพื่อป้องกันการที่ประชาชนที่ไม่ได้กระทำความผิด กลายเป็นเพาะ และพอพ้นโทษ ก็กลายเป็นเพาะซ้อนแพะ โทษฐานอื่นๆ จากใคร หรือเหตุการณ์ใด ที่จะซ่ำเติมเคราะห์กรรมเช่นนี้อีก
ซึ่งผมรู้สึกว่า เหตุการณ์เช่นนี้ ไม่เป็นธรรมต่อประชาชนคนไทยอย่างผม
หากมีมาตราการณ์ที่รัดกุมในการร่วมกันสืบหาความจริง ในกรณีที่เกิดเหตุจากอุบัติเหตุ อุบัติภัยต่างๆ อย่างแท้จริง มีคุณภาพ การพดุงความเป็นธรรม จะเป็นเครื่องมือการบำบัดทุกข์บำรุงสุขขั้นพื้นฐานให้กับประชาชนอย่างพวกผม
ซึ่งน้นก็คงทำให้ประชาชนอย่างพวกผม คงไม่ต้องกลัวหากเหตุการณ์ที่ผมนำมากล่าวเช่นนี้ ว่าจะเกิดแพะซ้อนแพะขึ้นอีกในสังคมไทย
แต่หากไม่มีการพิจารณาถึงกลไกในการพดุงความเป็นธรรมและสืบหาข้อเท็จจริง แต่ยังมุ่งให้ประชาชนหาเหตุผลหักล้างกันเอง ผ่านทนาย โดยที่รัฐทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการตัดสิน แต่ไม่มีกลไกหรือหน่วยงานที่สืบค้นหาข้อเท็จจริง ก่อนที่ศาลจะใช้อำนาจในการพิจารณา เหตุการณ์เช่นตัวอย่างที่ผมนำมากล่าว ก็คงเป็นเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอีกได้เป็นแน่ และไม่แน่คนเป็นแพะรายต่อไปอาจเป็นผม
หากรถผมไม่เคยผ่านการชนใคร แต่ผมต้องรับโทษ ข้อหา ขับรถชนคนตาย ผมควรทำอย่างไร?
ผมจะขอความเมตตา ให้พิจารณาวิถีการชน และยืนยันว่า ผลการตรวจสภาพรถของผมว่าไม่ได้ชนคนที่ตายได้หรือไม่?
เพราะการยืนยันว่า วิถีการชน ในวัน ในสถานที่เกิดเหตุ ผมไม่ได้อยู่ที่นั้น รถของผมก็ไม่ได้ไปที่นั้น แต่ผมกลับถูกหางเลขไปกับความไม่ชัดเจนในการหาผู้กระทำความผิด ผมควรทำอย่างไร?
หรือต้องยินยอม เพียงเพราะ หาคนที่กระทำความผิดตัวจริงไม่ได้
ผมเองเป็นคนไทยคนหนึ่ง กลัวกับการเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับผมมากๆ
คำถามอีกข้อหนึ่ง
แต่หากวันที่ผมถูกจับ ไม่มีเจ้าหน้าที่แนะนำวิธีในการนำเสนอต่อศาล ให้ท่านเห็นถึงข้อเท็จจริง จนผมยินยอมรับโทษ เพราะไม่สามารถหาเหตุผลมาหักล้างได้ ไม่สามารถค้นหาผู้กระทำความผิดตัวจริงมารับโทษได้ ผมควรรับกรรมที่ผมไม่ได้ก่อ แล้วเมื่อพ้นโทษ ก็ควรอยู่กับครอบครัวอย่างสงบ ไม่เรียกร้องสิ่งใดอย่างนั้นหรือ หรือเรียกร้องได้ แต่ผลที่ได้อาจทำให้เดือนร้อนมากกว่าการอยู่นิ่งๆ ผมไม่ควรต่อสู้หาความชอบธรรมหลังรับโทษที่ไม่ได้ก่อ
แต่หากมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ต่อจากตำรวจ และทำงานควบคู่กับศาล เช่น การให้อำนาจอัยการ ที่มุ่งมั่นในการช่วยเหลือ หรืออย่างน้อยๆ ก็มอบหายให้สภาทนายความที่มีอุดมการณ์ ในการให้ความรู้ และ ส่งต่อหน้าที่ในการตรวจสอบหาความจริงผ่านสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้รับรองวิถีการชน รวมถึงการตรวจสภาพรถของผม ก่อนที่ศาลจะตัดสิน เพื่อป้องกันการที่ประชาชนที่ไม่ได้กระทำความผิด กลายเป็นเพาะ และพอพ้นโทษ ก็กลายเป็นเพาะซ้อนแพะ โทษฐานอื่นๆ จากใคร หรือเหตุการณ์ใด ที่จะซ่ำเติมเคราะห์กรรมเช่นนี้อีก
ซึ่งผมรู้สึกว่า เหตุการณ์เช่นนี้ ไม่เป็นธรรมต่อประชาชนคนไทยอย่างผม
หากมีมาตราการณ์ที่รัดกุมในการร่วมกันสืบหาความจริง ในกรณีที่เกิดเหตุจากอุบัติเหตุ อุบัติภัยต่างๆ อย่างแท้จริง มีคุณภาพ การพดุงความเป็นธรรม จะเป็นเครื่องมือการบำบัดทุกข์บำรุงสุขขั้นพื้นฐานให้กับประชาชนอย่างพวกผม
ซึ่งน้นก็คงทำให้ประชาชนอย่างพวกผม คงไม่ต้องกลัวหากเหตุการณ์ที่ผมนำมากล่าวเช่นนี้ ว่าจะเกิดแพะซ้อนแพะขึ้นอีกในสังคมไทย
แต่หากไม่มีการพิจารณาถึงกลไกในการพดุงความเป็นธรรมและสืบหาข้อเท็จจริง แต่ยังมุ่งให้ประชาชนหาเหตุผลหักล้างกันเอง ผ่านทนาย โดยที่รัฐทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการตัดสิน แต่ไม่มีกลไกหรือหน่วยงานที่สืบค้นหาข้อเท็จจริง ก่อนที่ศาลจะใช้อำนาจในการพิจารณา เหตุการณ์เช่นตัวอย่างที่ผมนำมากล่าว ก็คงเป็นเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอีกได้เป็นแน่ และไม่แน่คนเป็นแพะรายต่อไปอาจเป็นผม