สองมหากาฬพญายม (เรื่องของเจค กับทริกเกอร์ น้องหมามาในมาดจอมยุทธ)
ณ โรงเตี๊ยมโนเนมของลุงเจอร์ราร์ด ที่ไม่ใช่สตีเวน จอร์จ เจอร์ราร์ดนักเตะกองกลางของลิเวอร์พูลแต่เป็นสุนัขพันธ์อัลเซเชียนวัยดึกอดีตจอมยุทธกระบี่คู่ที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของโรงเตี๊ยมหลังจากรีไทร์
วันนี้ลูกค้าดูโหรงเหรงผิดตา เพราะวันก่อนมีจอมยุทธต่างถิ่นมาประลองฝีมือในโรงเตี๊ยมส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและตาย และหนึ่งในผู้เสียชีวิตคือเสี่ยวเอ้อหรือเด็กเสิร์ฟชายที่เพิ่งจะเข้ามาแทนเสี่ยวเจี๋ยหรือเด็กเสิร์ฟหญิงที่หนีตามจอมยุทธนิรนามเมื่อไม่นานมานี้ ลุงเจอร์ราร์ดเอาประกาศรับสมัครเสี่ยวเอ้อไปติดไว้หน้าร้านแต่ระหว่างที่ยังหาไม่ได้ก็เลยต้องทำหน้าที่เด็กเสิร์ฟไปพลางๆไปก่อน
ใครจะมาตีมาฆ่ากันในโรงเตี๊ยมลุงเจอร์ราร์ดไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไร เพราะแกเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าโรงเตี๊ยมเป็นห้องอาหาร ผับแอนด์เรสทัวรองท์ เป็นที่ชุมนุมของชาวบ้านในละแวกนั้นรวมทั้งบรรดาจอมยุทธที่เดินทางผ่านมา พวกเขาเข้ามาจิบเหล้าแกล้มถั่วนั่งชิวๆ มองหน้ากันไปมองหน้ากันมาเกิดเขม่นก็ลุกขึ้นฟาดฟัน เพราะเห็นหน้าแล้วชะตาราศีไม่ต้องกัน หรือไม่ก็เปิดศึกชิงนาง
ลุงเจอร์ราร์ดนำน้ำชา กับหมั่นโถวหรือซาลาเปามาเสิร์ฟให้กับลุงจอร์จ อดีตจอมยุทธมีดสั้นวัยไล่เลี่ยกับลุงเจอร์ราร์ดแถมยังสายพันธ์เดียวกันคืออัลเซเชียนเจ้าของกิจการโรงศพที่มีเอี่ยวลับๆกับลุงเจอร์ราร์ด
เมื่อใดที่มีใครมาฆ่ากันตายในโรงเตี๊ยมลุงเจอร์ราร์ดจะเก็บเงินทองหรือสมบัติของคนตายเป็นมัดจำ รอญาติมาติดต่อ หากไม่มีญาติก็ยึดทรัพย์แล้วนำไปฝังที่สุสานอนาถา แต่ถ้ามีญาติมาแสดงตัวก็จะเรียกค่าเสียหายจากญาติที่ผู้ตายมาต่อสู้กันทำให้ร้านรวงโต๊ะเก้าอี้พังยับ ส่วนลุงจอร์จก็เก็บค่าโลงและค่าฌาปนกิจไป
“เถ้าแก่มาบริการด้วยตัวเอง นับเป็นเกียรติยิ่งนัก ” ลุงจอร์จอร์จเย้า
“ด้วยความยินดีอย่างยิ่งท่านจอร์จ หมั่นโถกับชากำลังร้อนๆขอให้ท่านแฮปปี้มีความสุขกับการรับประทาน”กล่าวจบก็เดินกลับไปที่บาร์เพื่อเช็ดตะเกียบกับถ้วยจานที่ค้างไว้ต่อ ลุงจอร์จไม่รอช้าเอาหมั่นโถออกจากจานแล้วพรวดพราดลุกขึ้น ร่อนจานเปล่าไปยังลุงเจอร์ราร์ดเพื่อทดสอบทักษะ
ถ้าเป็นผู้อื่นจานอาจจะกระทบกับหัวจนโนหรือไม่ก็แตก แต่ไม่ใช่กับอดีตจอมยุทธ เสือไม่ทิ้งลายอย่างลุงเจอร์ราร์ด พอเห็นจานลอยละลิ่วมาหาก็เอาสองนิ้วคีบจานไว้เร็วๆ ก่อนจะร่อนกลับไปหาเจ้าของแล้วซัดตะเกียบตามไปรัวๆราวกับห่าฝน
“ไม่ได้กินเราเสียล่ะ” ลุงจอร์จร้องออกมาดังๆเอานิ้วคีบจานวางบนโต๊ะจากนั้นจึงคีบตะเกียบที่พุ่งมาหาตนอย่างว่องไวใส่ลงในที่ใส่ตะเกียบจนเต็ม
“ไม่เลวนะท่านจอร์จ กี่ปีๆฝีมือไม่มีตกจริงๆ” ลุงเจอร์ราร์ดชมเปาะ (ดีใจลุงจอร์จหลงกล โดนตนแอบใช้งาน)
“ท่านเจอร์ราร์ดเองก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันหรอกนะ “
บทสนทนาของทั้งคู่ชะงัก เมื่อบรุษผู้นั้นก้าวผ่านประตูโรงเตี๊ยมเข้ามา
ผิวของเขาเป็นสีน้ำตาลมีสีดำพาดเป็นริ้วดูผาดๆราวกับเสือลายพาดกลอน แต่สำหรับคนรักน้องแมวอาจจะมองเห็นเป็นน้องเหมียวหง่าวๆ
แต่เขาผู้นี้ไม่ได้เป็นทั้งเสือหรือแมวแต่เป็นน้องหมาผู้มีสมญานามในยุทธภพว่า จอมยุทธสามจอก ส่วนชื่อดั้งเดิมที่ปรากฏอยู่ในทะเบียนสำมมะโนครัวของเขาคือ หวัง ฟัน ซื่อ ซื่อ ( พระเอกเจคมาแล้วค่ะ ส่วนสมญานามจำเขามาอีกที )
“ยินดีต้อนรับท่านจอมยุทธ “ ลุงเจอร์ราร์ดร้องบอกกุลีกุจอมาต้อนรับ ในขณะที่ลุงจอร์จลอบสำรวจจอมยุทธแปลกหน้า สมองก็ทำงานอย่างหนัก ว่าความสูงเท่านี้จะต้องใช้ไม้เท่าไหร่เวลาต่อโลง
“ท่านผู้แปลกหน้าพอจะบอกได้มั้ยว่าท่านมีชื่อเสียงเรียงนามอะไร แค่เดินทางผ่านมาทางนี้ หรือว่ามีกิจธุระอื่นๆ” เจ้าของโรงเตี๊ยมถามไถ่ตามอัทธยาศรัยอันดีงาม
“ตัวข้าเองมีสมญานามว่า จอมยุทธสามจอก”
“ทำไมจึงแค่สามจอก ไม่สี่จอก หรือห้าจอกล่ะท่าน ” ผู้ที่ถามคือลุงจอร์จที่ลุกจากโต๊ะตัวเองมาร่วมเสวนา ขานี้มีสโลแกนประจำใจ
” เรื่องของชาวบ้านคืองานของเรา”
“แต่ก่อนนั้นข้าเคยกินเหล้าเป็นไห จนวันหนึ่งข้าเกิดหลับไหลแล้วโดนไอ้โขมยกระจอกโขมยกระบี่คู่ใจข้าไป กว่าข้าจะตามหากระบี่กลับมาได้ข้าต้องดั้นด้นลำบากลำบนเกือบจะตายก็หลายครั้งเพราะเงื้อมมือของอันธพาน พอได้คิดข้าก็เลยลดปริมาณจากที่เคยกินเป็นไหเหลือเพียงสามจอก ส่วนทำไมถึงเป็นสามจอกนั้นก็เพราะข้าเกิดวันที่สามเดือนสาม “
“ไอ ซี “ ลุงเจอราร์ดว่า ก่อนจะถามต่อไปในเรื่องที่ค้างคาใจ”แล้วท่านมาที่นี่ ด้วยเหตุใดมิทราบ”
“ข้ามาตามหาคนชั่วที่ฆ่าพ่อแม่ของข้า” จอมยุทธสามจอกหยุดพูดถอนใจยาว ก่อนจะท้าวความไปถึงเรื่องราวอันขมขื่นแต่หนหลัง
“พ่อแม่ของข้าถูกโจรชั่วฆ่าตายต่อหน้าต่อตาแล้วเผากระท่อมที่เราอาศัย ข้าช่วยอะไรพ่อแม่ข้าไม่ได้เพราะถูกมันจับเปลือยกายมัดกับต้นไม้ขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้ มิหนำซ้ำช่วงนั้นเป็นปลายฝนต้นหนาวข้าเลยหนาวสะท้านไปถึงตับไตไส้พุง
“ฆ่าพ่อกับแม่ข้าตายยังไม่หนำใจ มันยังเอาไก่ต้มที่แม่ข้าทำไว้เป็นอาหารมื้อเย็นสำหรับพวกเรามากินต่อหน้าข้าที่หิวโหย ยามที่มันฉีกไก่ออกเป็นชิ้นกัดกร้วมๆน้ำลายข้าก็หยดติ๋งๆ
ข้าถูกมัดกับต้นไม้อยู่อย่างนั้นถึงสามวัน ก่อนที่ท่านอาจารย์กวยเตี๋ยว แห่งสำนักเกาะดอกบัว จะผ่านมาเจอแล้วช่วยข้าเอาไว้ (สำนักเกาะดอกบัว สาขาย่อยของเกาะดอกท้อ)
ท่านอาจารย์กวยเตี๋ยวไม่เพียงแต่จะช่วยชีวิตข้าไว้แต่ยังประสิทธิ์ประสาทวิชาให้กับข้า พอข้ามีฝีมือแกร่งกล้าก็ร่ำลาอาจารย์เพื่อออกตามหาไอ้โจรร้ายที่ฆ่าพ่อกับแม่ข้า”
“ ท่านมีพิคเจอร์ เอ๊ยรูปถ่ายของมันไหมเผื่อข้าจะช่วยท่านได้” ลุงเจอร์ราร์ดถาม
จอมยุทธสามจอกไม่รอช้า ดึงกระดาษที่ม้วนเสียกลมออกมาจากอกเสื้อ ( ? ) คลี่ลงบนโต๊ะ
“ฮืม“ จอมยุทธผู้เฒ่าทั้งสองทำเสียงนั้นออกมาเมื่อเห็นใบหน้าของผู้ที่อยู่ในรูป หมาพันธ์บูลด็อกหน้าตาโหดร้ายคาบซิการ์ฮาวาน่าหมิ่นๆที่มุมปากด้านซ้าย
“มันชื่อ หวัง ฟัน เจ้า”
“เหอ” จอมยุทธผู้เฒ่าร้องออกมาอย่างแปลกใจ มองหน้ากันไปมา ไม่ได้พูดอะไรออกมาก็จริงหากคิดตรงกัน
เกิดอะไรขึ้น วันนี้ถึงเจอแต่พวกตระกูล หวัง ฟัน
หวัง ฟัน ซื่อ ซื่อ
หวัง ฟัน เจ้า
จอมยุทธสามจอกกล่าวต่อไปช้าๆ
“มันปล้นฆ่าเขาไปทั่วแถมเจอลูกเขาเมียใครก็ข่มขืนแล้วฆ่า เหยื่อรายล่าสุดของมันคือลูกสาวโรงเตี๊ยมแห่งนั้น นามของหล่อนคือ แม่นาง เจ้า อย่า หวัง แต่สุดท้ายก็โดนมันฟันจนได้ (ด้วยมีด)
ก่อนที่ทั้งหมดจะพูดอะไรต่อ บรุษผู้นั้นก็ก้าวพรวดเข้ามาในโรงเตี้ยม ใบหน้าและตัวของเขาดำเมี่ยม ใส่หมวกเจ็กหลุบหน้าพาดกระบี่ไว้กับตัว เขาเดินส่ายอาดๆมายังโต๊ะที่ทั้งหมดยืนอยู่ (ทริกเกอร์นั่นแหละจะมีใคร)
“ใครคือเจ้าของโรงเตี๊ยมนี้ ” ถามห้วนๆ ยื่นขาซ้ายไปยังเก้าอี้ตัวนั้นกะจะเกี่ยวมาตั้งตรงหน้าแล้วยกขาขึ้นวางพาดบนนั้นให้ดูเท่ๆ แต่รีบร้อนไปหน่อยเก้าอี้ดันล้มใส่ขาลุงจอร์จไปถูกเอาตาปลาเข้าให้ ลุงจอร์จกระโดดไปมา ชี้หน้าด่า
“เจ็บนะเว้ย ทำอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือบ้างเลย”
“เท้าของท่านอยากไม่หลบเก้าอี้เอง ช่วยไม่ได้” กล่าวจบก็ยิ้มแสยะ
“ทำขาข้าเจ็บ จะขอโทษสักคำก็ไม่มี ”
“ถึงข้าขอโทษท่าน ก็ใช่ว่าท่านจะหายเจ็บเสียเมื่อไหร่”
“เจ้านี่มันสามหาว เสียจริงๆเลยนะ”
“เอ๊ะ ท่านผู้เฒ่ารู้ได้อย่างไรว่าข้าชื่อนี้”
“ท่านชื่อ สามหาว จริงๆหรือนี่” ลุงเจอร์ราร์ดร้องขึ้นมาดังๆอย่างแปลกใจ
“ใช่แล้วท่านผู้เฒ่า นักฆ่าสามหาวคือชื่อของข้าที่เหล่าบรรดาจอมยุทธพร้อมใจตั้งให้“ พูดจบเชิดหน้านิดๆอย่างภาคภูมิใจ
“ข้าไม่แปลกใจจนนิดทำไมเขาจึงตั้งชื่อให้ท่านอย่างนี้” ลุงจอร์จว่ากัดฟันกรอดๆโดนขยี้ตาปลาเจ็บทั้งเท้าเจ็บทั้งใจ
แต่เอ หรือว่างวดนี้ จะออกเลขสาม สามหาว สามจอก จะแทงบนดิน หรือใต้ดินดีนะเรา ลำพึงในใจไม่ให้ใครได้ยิน เพราะกลัวว่าจะมีใครมาก๊อปปี้ความคิดนี้ไป
“ข้าคือเจ้าของโรงเตี๊ยมแห่งนี้ ท่านถามข้าเป็นเพราะเหตุไร”
“เรามาตามหาบรุษหนึ่ง” นักฆ่าสามหาวร้องบอกทุกคน ก่อนจะดึงกระดาษที่เสียบอยู่ที่ชายพกออกมา เอาเท้าหน้าคลี่ออกเร็วๆ
“นี่มันไอ้ หวัง ฟัน เจ้า นี่นา” จอมยุทธสามจอกร้องออกมาดังๆ ตาทั้งสองแทบจะกระโดดออกมาจากเบ้าเมื่อเห็นใบหน้าของผู้ที่อยู่บนประกาศจับ สองจอมยุทธผู้เฒ่าก็ดูจะแปลกใจไม่น้อยไปกว่ากัน
“เจ้ารู้จักมันด้วยหรือ” นักฆ่าสามหาวถามเสร็จ ก็ส่งเสียงหาวหวอดหลายครั้งติดกัน
“ไม่เพียงแต่รู่จัก แต่ข้ากำลังออกตามหาเพื่อเอาชีวิตมัน มันฆ่าพ่อแม่ข้า เผาคฤหาสน์เอ๊ยกระท่อมข้า กินไก่ต้มที่แม่ข้าทำให้ข้ากับพ่อข้า ส่วนตัวข้าเองก็โดนมันทำร้ายจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด”
“ ข้าเองก็โดนมันย่ำยีหัวใจเช่นท่านเหมือนกัน “
“มันฆ่าพ่อแม่ของเจ้างั้นเหรอ” ลุงเจอร์ราร์ดถาม
“มิได้ท่านพ่อเฒ่า พ่อแม่ข้าตายตั้งแต่ข้ายังเล็กๆ ข้าจึงต้องไปอาศัยวัดอยู่”
“ถ้าอย่างนั้น เจ้าแค้นใจมันเรื่องอะไร” ลุงจอร์จถามบ้าง
“มันฆ่าคู่รักของข้า เรากำลังจะแต่งงานเดือนหน้า และวางแผนกันว่าจะไปล่องเรือยอร์ชในแม่น้ำฮวงโห จากนั้นก็จะไปทัวร์กำแพงเมืองจีนด้วยกัน แต่เธอก็ต้องมาตายเพราะมือมันเสียก่อน “
“ถ้าอย่างนั้น ข้ากับเจ้าจงมาร่วมมือกัน ตามหาไอ้ หวัง ฟัน เจ้า กันเถอะ” จอมยุทธสามจอกเสนอ
“ข้าเห็นดีด้วยกับเจ้า ว่าแต่ เจ้าชื่ออะไรข้ายังไม่รู้จักชื่อท่านเลย” นักฆ่าสามหาวถาม
“ข้าชื่อ จอมยุทธสามจอก”
“ชื่อของท่านกับข้าคล้องจองกันเยี่ยงนี้ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากลิขิตของฟ้า ข้ายินดีรู้จักกับท่าน” นักฆ่าสามหาวกล่าวออกมาอย่างยินดี
“ข้าเอง ก็ยินดีรู้จักกับท่านเช่นกัน”
“”เมื่อจอมยุทธทั้งสองรู้จักกันแล้ว จะสั่งอะไรว่ามา ข้าจะไปจัดการให้” ลุงเจอร์ราร์ดถามทั้งสอง เวลาเป็นเงินเป็นทอง
“ข้าขอเหล้า1ไห เนื้อ 1 ชั่ง หมั่นโถว1จาน ชา1กา แล้วเจ้าล่ะ จอมยุทธสามจอก เจ้าจะสั่งอะไรก็บอกไป มื้อนี้ข้าขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงเจ้าเอง” แม้ปากคอจะสามหาว และท่าทีออกจะยะโส แต่นักฆ่าสามหาวก็ใจกว้างขวางน่าชื่นชมยิ่งนัก
“ข้าขอ เหล้าหนึ่งจอก ไก่ต้มหนึ่งตัว“
“รอเดี๋ยว ข้าจะไปทำมาให้ “ ลุงจอร์จพูดเท่านั้นก็เดินกลับไปยังบาร์เพื่อหาเครื่องดื่มและอาหารตามออเดอร์ ลุงเจอราร์ดเองก็กลับไปที่โต๊ะ พอทรุดตัวลงนั่งก็ลูบตาปลาตัวเองไปพลางเงี่ยหูฟังบทสนทนาของทั้งคู่ งานนี้เห็นเหนาะๆสามศพก็สามโลง
อาหารและเครื่องดื่มที่จอมยุทธทั้งสองสั่งยังมาไม่ถึงโต๊ะ ก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน เมื่อสองสามีภรรยาที่เป็นลูกค้าถูกเหล่ามารที่มากันร่วมสิบไปยื้อยุดฉุดกระชากภรรยาของชายผู้นั้น
จอมยุทธสามจอก กับนักฆ่าสามหาวที่กำลังปรึกษาหารือว่าจะจัดการเจ้าหวังฟันเจ้าอย่างไร จึงต้องหยุดแผนเอาไว้ชั่วคราวแล้วไปจัดการเหล่าวายร้ายตามประผู้ทรงคุณธรรม
“โธ่ ไอ้กระจอก ตัวเท่าลูกหมาสะเออะจะมาต่อกรกับข้า เจ้ายังรู้จักง้าวพิฆาตอย่างข้าน้อยไป” สุนัขพันธ์เกรทเดนที่เป็นหัวหน้าตะคอกเสียงใส่นักฆ่าสามหาวพร้อมกับกวัดแกว่งง้าวในมือไปมาข่มขวัญ ลูกน้องของมันที่ยืนอยู่ข้างกันก็เสริมขึ้นมาดังๆ
“ไอ้นี่ ไม่เห็นโลงไม่หลั่งน้ำตานะนายท่าน”
“ ถ้าไม่เห็นโลง แปลว่าเจ้าไปผิดศาลาเข้าใจเสียใหม่ด้วยนะไอ้ซื่อบื้อ “นักฆ่าสามหาวยังคงสามหาวต่อไปไม่หยุด
“ชิชะ ชะชิ เจ้านี่มันสามหาวอะไรอย่างนี้” จอมง้าวพิฆาตตวาดแว้ด
“นั่นแหละคือชื่อข้า รู้เอาไว้ก่อนตายก็ยังไม่สายเกินไป “ นักฆ่าสามหาวกล่าวจบก็หันไปพยักหน้าให้จอมยุทธสามจอก นาทีต่อมาโรงเตี๊ยมของลุงจอร์จ ก็กลายเป็นลานประลองฝืมือ
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ….
ลุงจอร์จทยอยเก็บศพจอมยุทธง้าวพิฆาตกับลูกน้องที่ตายเกลื่อนออกไปใส่รถม้าที่จอดอยู่ที่หน้าร้านไปยังร้านทำโลงศพของตน
ลุงเจอร์ราร์ดก็ต้อนรับลูกค้าที่มาใหม่
ส่วนจอมยุทธสามจอก กับนักฆ่าสามหาวกำลังวางแผนจัดการกับเจ้า หวัง ฟัน เจ้า
จอมยุทธทั้งสองยื่นจอกเหล้าไปชนกัน ตามองตา สายตามาจ้องมองกันไม่จำเป็นต้องพูดอะไรก็เข้าใจกัน
ยุทธภพกำลังจะนองเลือดอีกครั้งในไม่ช้านี้.
สองมหากาฬพญายม (เรื่องของเจค กับทริกเกอร์ น้องหมามาในมาดจอมยุทธ)
ณ โรงเตี๊ยมโนเนมของลุงเจอร์ราร์ด ที่ไม่ใช่สตีเวน จอร์จ เจอร์ราร์ดนักเตะกองกลางของลิเวอร์พูลแต่เป็นสุนัขพันธ์อัลเซเชียนวัยดึกอดีตจอมยุทธกระบี่คู่ที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของโรงเตี๊ยมหลังจากรีไทร์
วันนี้ลูกค้าดูโหรงเหรงผิดตา เพราะวันก่อนมีจอมยุทธต่างถิ่นมาประลองฝีมือในโรงเตี๊ยมส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและตาย และหนึ่งในผู้เสียชีวิตคือเสี่ยวเอ้อหรือเด็กเสิร์ฟชายที่เพิ่งจะเข้ามาแทนเสี่ยวเจี๋ยหรือเด็กเสิร์ฟหญิงที่หนีตามจอมยุทธนิรนามเมื่อไม่นานมานี้ ลุงเจอร์ราร์ดเอาประกาศรับสมัครเสี่ยวเอ้อไปติดไว้หน้าร้านแต่ระหว่างที่ยังหาไม่ได้ก็เลยต้องทำหน้าที่เด็กเสิร์ฟไปพลางๆไปก่อน
ใครจะมาตีมาฆ่ากันในโรงเตี๊ยมลุงเจอร์ราร์ดไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไร เพราะแกเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าโรงเตี๊ยมเป็นห้องอาหาร ผับแอนด์เรสทัวรองท์ เป็นที่ชุมนุมของชาวบ้านในละแวกนั้นรวมทั้งบรรดาจอมยุทธที่เดินทางผ่านมา พวกเขาเข้ามาจิบเหล้าแกล้มถั่วนั่งชิวๆ มองหน้ากันไปมองหน้ากันมาเกิดเขม่นก็ลุกขึ้นฟาดฟัน เพราะเห็นหน้าแล้วชะตาราศีไม่ต้องกัน หรือไม่ก็เปิดศึกชิงนาง
ลุงเจอร์ราร์ดนำน้ำชา กับหมั่นโถวหรือซาลาเปามาเสิร์ฟให้กับลุงจอร์จ อดีตจอมยุทธมีดสั้นวัยไล่เลี่ยกับลุงเจอร์ราร์ดแถมยังสายพันธ์เดียวกันคืออัลเซเชียนเจ้าของกิจการโรงศพที่มีเอี่ยวลับๆกับลุงเจอร์ราร์ด
เมื่อใดที่มีใครมาฆ่ากันตายในโรงเตี๊ยมลุงเจอร์ราร์ดจะเก็บเงินทองหรือสมบัติของคนตายเป็นมัดจำ รอญาติมาติดต่อ หากไม่มีญาติก็ยึดทรัพย์แล้วนำไปฝังที่สุสานอนาถา แต่ถ้ามีญาติมาแสดงตัวก็จะเรียกค่าเสียหายจากญาติที่ผู้ตายมาต่อสู้กันทำให้ร้านรวงโต๊ะเก้าอี้พังยับ ส่วนลุงจอร์จก็เก็บค่าโลงและค่าฌาปนกิจไป
“เถ้าแก่มาบริการด้วยตัวเอง นับเป็นเกียรติยิ่งนัก ” ลุงจอร์จอร์จเย้า
“ด้วยความยินดีอย่างยิ่งท่านจอร์จ หมั่นโถกับชากำลังร้อนๆขอให้ท่านแฮปปี้มีความสุขกับการรับประทาน”กล่าวจบก็เดินกลับไปที่บาร์เพื่อเช็ดตะเกียบกับถ้วยจานที่ค้างไว้ต่อ ลุงจอร์จไม่รอช้าเอาหมั่นโถออกจากจานแล้วพรวดพราดลุกขึ้น ร่อนจานเปล่าไปยังลุงเจอร์ราร์ดเพื่อทดสอบทักษะ
ถ้าเป็นผู้อื่นจานอาจจะกระทบกับหัวจนโนหรือไม่ก็แตก แต่ไม่ใช่กับอดีตจอมยุทธ เสือไม่ทิ้งลายอย่างลุงเจอร์ราร์ด พอเห็นจานลอยละลิ่วมาหาก็เอาสองนิ้วคีบจานไว้เร็วๆ ก่อนจะร่อนกลับไปหาเจ้าของแล้วซัดตะเกียบตามไปรัวๆราวกับห่าฝน
“ไม่ได้กินเราเสียล่ะ” ลุงจอร์จร้องออกมาดังๆเอานิ้วคีบจานวางบนโต๊ะจากนั้นจึงคีบตะเกียบที่พุ่งมาหาตนอย่างว่องไวใส่ลงในที่ใส่ตะเกียบจนเต็ม
“ไม่เลวนะท่านจอร์จ กี่ปีๆฝีมือไม่มีตกจริงๆ” ลุงเจอร์ราร์ดชมเปาะ (ดีใจลุงจอร์จหลงกล โดนตนแอบใช้งาน)
“ท่านเจอร์ราร์ดเองก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันหรอกนะ “
บทสนทนาของทั้งคู่ชะงัก เมื่อบรุษผู้นั้นก้าวผ่านประตูโรงเตี๊ยมเข้ามา
ผิวของเขาเป็นสีน้ำตาลมีสีดำพาดเป็นริ้วดูผาดๆราวกับเสือลายพาดกลอน แต่สำหรับคนรักน้องแมวอาจจะมองเห็นเป็นน้องเหมียวหง่าวๆ
แต่เขาผู้นี้ไม่ได้เป็นทั้งเสือหรือแมวแต่เป็นน้องหมาผู้มีสมญานามในยุทธภพว่า จอมยุทธสามจอก ส่วนชื่อดั้งเดิมที่ปรากฏอยู่ในทะเบียนสำมมะโนครัวของเขาคือ หวัง ฟัน ซื่อ ซื่อ ( พระเอกเจคมาแล้วค่ะ ส่วนสมญานามจำเขามาอีกที )
“ยินดีต้อนรับท่านจอมยุทธ “ ลุงเจอร์ราร์ดร้องบอกกุลีกุจอมาต้อนรับ ในขณะที่ลุงจอร์จลอบสำรวจจอมยุทธแปลกหน้า สมองก็ทำงานอย่างหนัก ว่าความสูงเท่านี้จะต้องใช้ไม้เท่าไหร่เวลาต่อโลง
“ท่านผู้แปลกหน้าพอจะบอกได้มั้ยว่าท่านมีชื่อเสียงเรียงนามอะไร แค่เดินทางผ่านมาทางนี้ หรือว่ามีกิจธุระอื่นๆ” เจ้าของโรงเตี๊ยมถามไถ่ตามอัทธยาศรัยอันดีงาม
“ตัวข้าเองมีสมญานามว่า จอมยุทธสามจอก”
“ทำไมจึงแค่สามจอก ไม่สี่จอก หรือห้าจอกล่ะท่าน ” ผู้ที่ถามคือลุงจอร์จที่ลุกจากโต๊ะตัวเองมาร่วมเสวนา ขานี้มีสโลแกนประจำใจ
” เรื่องของชาวบ้านคืองานของเรา”
“แต่ก่อนนั้นข้าเคยกินเหล้าเป็นไห จนวันหนึ่งข้าเกิดหลับไหลแล้วโดนไอ้โขมยกระจอกโขมยกระบี่คู่ใจข้าไป กว่าข้าจะตามหากระบี่กลับมาได้ข้าต้องดั้นด้นลำบากลำบนเกือบจะตายก็หลายครั้งเพราะเงื้อมมือของอันธพาน พอได้คิดข้าก็เลยลดปริมาณจากที่เคยกินเป็นไหเหลือเพียงสามจอก ส่วนทำไมถึงเป็นสามจอกนั้นก็เพราะข้าเกิดวันที่สามเดือนสาม “
“ไอ ซี “ ลุงเจอราร์ดว่า ก่อนจะถามต่อไปในเรื่องที่ค้างคาใจ”แล้วท่านมาที่นี่ ด้วยเหตุใดมิทราบ”
“ข้ามาตามหาคนชั่วที่ฆ่าพ่อแม่ของข้า” จอมยุทธสามจอกหยุดพูดถอนใจยาว ก่อนจะท้าวความไปถึงเรื่องราวอันขมขื่นแต่หนหลัง
“พ่อแม่ของข้าถูกโจรชั่วฆ่าตายต่อหน้าต่อตาแล้วเผากระท่อมที่เราอาศัย ข้าช่วยอะไรพ่อแม่ข้าไม่ได้เพราะถูกมันจับเปลือยกายมัดกับต้นไม้ขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้ มิหนำซ้ำช่วงนั้นเป็นปลายฝนต้นหนาวข้าเลยหนาวสะท้านไปถึงตับไตไส้พุง
“ฆ่าพ่อกับแม่ข้าตายยังไม่หนำใจ มันยังเอาไก่ต้มที่แม่ข้าทำไว้เป็นอาหารมื้อเย็นสำหรับพวกเรามากินต่อหน้าข้าที่หิวโหย ยามที่มันฉีกไก่ออกเป็นชิ้นกัดกร้วมๆน้ำลายข้าก็หยดติ๋งๆ
ข้าถูกมัดกับต้นไม้อยู่อย่างนั้นถึงสามวัน ก่อนที่ท่านอาจารย์กวยเตี๋ยว แห่งสำนักเกาะดอกบัว จะผ่านมาเจอแล้วช่วยข้าเอาไว้ (สำนักเกาะดอกบัว สาขาย่อยของเกาะดอกท้อ)
ท่านอาจารย์กวยเตี๋ยวไม่เพียงแต่จะช่วยชีวิตข้าไว้แต่ยังประสิทธิ์ประสาทวิชาให้กับข้า พอข้ามีฝีมือแกร่งกล้าก็ร่ำลาอาจารย์เพื่อออกตามหาไอ้โจรร้ายที่ฆ่าพ่อกับแม่ข้า”
“ ท่านมีพิคเจอร์ เอ๊ยรูปถ่ายของมันไหมเผื่อข้าจะช่วยท่านได้” ลุงเจอร์ราร์ดถาม
จอมยุทธสามจอกไม่รอช้า ดึงกระดาษที่ม้วนเสียกลมออกมาจากอกเสื้อ ( ? ) คลี่ลงบนโต๊ะ
“ฮืม“ จอมยุทธผู้เฒ่าทั้งสองทำเสียงนั้นออกมาเมื่อเห็นใบหน้าของผู้ที่อยู่ในรูป หมาพันธ์บูลด็อกหน้าตาโหดร้ายคาบซิการ์ฮาวาน่าหมิ่นๆที่มุมปากด้านซ้าย
“มันชื่อ หวัง ฟัน เจ้า”
“เหอ” จอมยุทธผู้เฒ่าร้องออกมาอย่างแปลกใจ มองหน้ากันไปมา ไม่ได้พูดอะไรออกมาก็จริงหากคิดตรงกัน
เกิดอะไรขึ้น วันนี้ถึงเจอแต่พวกตระกูล หวัง ฟัน
หวัง ฟัน ซื่อ ซื่อ
หวัง ฟัน เจ้า
จอมยุทธสามจอกกล่าวต่อไปช้าๆ
“มันปล้นฆ่าเขาไปทั่วแถมเจอลูกเขาเมียใครก็ข่มขืนแล้วฆ่า เหยื่อรายล่าสุดของมันคือลูกสาวโรงเตี๊ยมแห่งนั้น นามของหล่อนคือ แม่นาง เจ้า อย่า หวัง แต่สุดท้ายก็โดนมันฟันจนได้ (ด้วยมีด)
ก่อนที่ทั้งหมดจะพูดอะไรต่อ บรุษผู้นั้นก็ก้าวพรวดเข้ามาในโรงเตี้ยม ใบหน้าและตัวของเขาดำเมี่ยม ใส่หมวกเจ็กหลุบหน้าพาดกระบี่ไว้กับตัว เขาเดินส่ายอาดๆมายังโต๊ะที่ทั้งหมดยืนอยู่ (ทริกเกอร์นั่นแหละจะมีใคร)
“ใครคือเจ้าของโรงเตี๊ยมนี้ ” ถามห้วนๆ ยื่นขาซ้ายไปยังเก้าอี้ตัวนั้นกะจะเกี่ยวมาตั้งตรงหน้าแล้วยกขาขึ้นวางพาดบนนั้นให้ดูเท่ๆ แต่รีบร้อนไปหน่อยเก้าอี้ดันล้มใส่ขาลุงจอร์จไปถูกเอาตาปลาเข้าให้ ลุงจอร์จกระโดดไปมา ชี้หน้าด่า
“เจ็บนะเว้ย ทำอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือบ้างเลย”
“เท้าของท่านอยากไม่หลบเก้าอี้เอง ช่วยไม่ได้” กล่าวจบก็ยิ้มแสยะ
“ทำขาข้าเจ็บ จะขอโทษสักคำก็ไม่มี ”
“ถึงข้าขอโทษท่าน ก็ใช่ว่าท่านจะหายเจ็บเสียเมื่อไหร่”
“เจ้านี่มันสามหาว เสียจริงๆเลยนะ”
“เอ๊ะ ท่านผู้เฒ่ารู้ได้อย่างไรว่าข้าชื่อนี้”
“ท่านชื่อ สามหาว จริงๆหรือนี่” ลุงเจอร์ราร์ดร้องขึ้นมาดังๆอย่างแปลกใจ
“ใช่แล้วท่านผู้เฒ่า นักฆ่าสามหาวคือชื่อของข้าที่เหล่าบรรดาจอมยุทธพร้อมใจตั้งให้“ พูดจบเชิดหน้านิดๆอย่างภาคภูมิใจ
“ข้าไม่แปลกใจจนนิดทำไมเขาจึงตั้งชื่อให้ท่านอย่างนี้” ลุงจอร์จว่ากัดฟันกรอดๆโดนขยี้ตาปลาเจ็บทั้งเท้าเจ็บทั้งใจ
แต่เอ หรือว่างวดนี้ จะออกเลขสาม สามหาว สามจอก จะแทงบนดิน หรือใต้ดินดีนะเรา ลำพึงในใจไม่ให้ใครได้ยิน เพราะกลัวว่าจะมีใครมาก๊อปปี้ความคิดนี้ไป
“ข้าคือเจ้าของโรงเตี๊ยมแห่งนี้ ท่านถามข้าเป็นเพราะเหตุไร”
“เรามาตามหาบรุษหนึ่ง” นักฆ่าสามหาวร้องบอกทุกคน ก่อนจะดึงกระดาษที่เสียบอยู่ที่ชายพกออกมา เอาเท้าหน้าคลี่ออกเร็วๆ
“นี่มันไอ้ หวัง ฟัน เจ้า นี่นา” จอมยุทธสามจอกร้องออกมาดังๆ ตาทั้งสองแทบจะกระโดดออกมาจากเบ้าเมื่อเห็นใบหน้าของผู้ที่อยู่บนประกาศจับ สองจอมยุทธผู้เฒ่าก็ดูจะแปลกใจไม่น้อยไปกว่ากัน
“เจ้ารู้จักมันด้วยหรือ” นักฆ่าสามหาวถามเสร็จ ก็ส่งเสียงหาวหวอดหลายครั้งติดกัน
“ไม่เพียงแต่รู่จัก แต่ข้ากำลังออกตามหาเพื่อเอาชีวิตมัน มันฆ่าพ่อแม่ข้า เผาคฤหาสน์เอ๊ยกระท่อมข้า กินไก่ต้มที่แม่ข้าทำให้ข้ากับพ่อข้า ส่วนตัวข้าเองก็โดนมันทำร้ายจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด”
“ ข้าเองก็โดนมันย่ำยีหัวใจเช่นท่านเหมือนกัน “
“มันฆ่าพ่อแม่ของเจ้างั้นเหรอ” ลุงเจอร์ราร์ดถาม
“มิได้ท่านพ่อเฒ่า พ่อแม่ข้าตายตั้งแต่ข้ายังเล็กๆ ข้าจึงต้องไปอาศัยวัดอยู่”
“ถ้าอย่างนั้น เจ้าแค้นใจมันเรื่องอะไร” ลุงจอร์จถามบ้าง
“มันฆ่าคู่รักของข้า เรากำลังจะแต่งงานเดือนหน้า และวางแผนกันว่าจะไปล่องเรือยอร์ชในแม่น้ำฮวงโห จากนั้นก็จะไปทัวร์กำแพงเมืองจีนด้วยกัน แต่เธอก็ต้องมาตายเพราะมือมันเสียก่อน “
“ถ้าอย่างนั้น ข้ากับเจ้าจงมาร่วมมือกัน ตามหาไอ้ หวัง ฟัน เจ้า กันเถอะ” จอมยุทธสามจอกเสนอ
“ข้าเห็นดีด้วยกับเจ้า ว่าแต่ เจ้าชื่ออะไรข้ายังไม่รู้จักชื่อท่านเลย” นักฆ่าสามหาวถาม
“ข้าชื่อ จอมยุทธสามจอก”
“ชื่อของท่านกับข้าคล้องจองกันเยี่ยงนี้ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากลิขิตของฟ้า ข้ายินดีรู้จักกับท่าน” นักฆ่าสามหาวกล่าวออกมาอย่างยินดี
“ข้าเอง ก็ยินดีรู้จักกับท่านเช่นกัน”
“”เมื่อจอมยุทธทั้งสองรู้จักกันแล้ว จะสั่งอะไรว่ามา ข้าจะไปจัดการให้” ลุงเจอร์ราร์ดถามทั้งสอง เวลาเป็นเงินเป็นทอง
“ข้าขอเหล้า1ไห เนื้อ 1 ชั่ง หมั่นโถว1จาน ชา1กา แล้วเจ้าล่ะ จอมยุทธสามจอก เจ้าจะสั่งอะไรก็บอกไป มื้อนี้ข้าขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงเจ้าเอง” แม้ปากคอจะสามหาว และท่าทีออกจะยะโส แต่นักฆ่าสามหาวก็ใจกว้างขวางน่าชื่นชมยิ่งนัก
“ข้าขอ เหล้าหนึ่งจอก ไก่ต้มหนึ่งตัว“
“รอเดี๋ยว ข้าจะไปทำมาให้ “ ลุงจอร์จพูดเท่านั้นก็เดินกลับไปยังบาร์เพื่อหาเครื่องดื่มและอาหารตามออเดอร์ ลุงเจอราร์ดเองก็กลับไปที่โต๊ะ พอทรุดตัวลงนั่งก็ลูบตาปลาตัวเองไปพลางเงี่ยหูฟังบทสนทนาของทั้งคู่ งานนี้เห็นเหนาะๆสามศพก็สามโลง
อาหารและเครื่องดื่มที่จอมยุทธทั้งสองสั่งยังมาไม่ถึงโต๊ะ ก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน เมื่อสองสามีภรรยาที่เป็นลูกค้าถูกเหล่ามารที่มากันร่วมสิบไปยื้อยุดฉุดกระชากภรรยาของชายผู้นั้น
จอมยุทธสามจอก กับนักฆ่าสามหาวที่กำลังปรึกษาหารือว่าจะจัดการเจ้าหวังฟันเจ้าอย่างไร จึงต้องหยุดแผนเอาไว้ชั่วคราวแล้วไปจัดการเหล่าวายร้ายตามประผู้ทรงคุณธรรม
“โธ่ ไอ้กระจอก ตัวเท่าลูกหมาสะเออะจะมาต่อกรกับข้า เจ้ายังรู้จักง้าวพิฆาตอย่างข้าน้อยไป” สุนัขพันธ์เกรทเดนที่เป็นหัวหน้าตะคอกเสียงใส่นักฆ่าสามหาวพร้อมกับกวัดแกว่งง้าวในมือไปมาข่มขวัญ ลูกน้องของมันที่ยืนอยู่ข้างกันก็เสริมขึ้นมาดังๆ
“ไอ้นี่ ไม่เห็นโลงไม่หลั่งน้ำตานะนายท่าน”
“ ถ้าไม่เห็นโลง แปลว่าเจ้าไปผิดศาลาเข้าใจเสียใหม่ด้วยนะไอ้ซื่อบื้อ “นักฆ่าสามหาวยังคงสามหาวต่อไปไม่หยุด
“ชิชะ ชะชิ เจ้านี่มันสามหาวอะไรอย่างนี้” จอมง้าวพิฆาตตวาดแว้ด
“นั่นแหละคือชื่อข้า รู้เอาไว้ก่อนตายก็ยังไม่สายเกินไป “ นักฆ่าสามหาวกล่าวจบก็หันไปพยักหน้าให้จอมยุทธสามจอก นาทีต่อมาโรงเตี๊ยมของลุงจอร์จ ก็กลายเป็นลานประลองฝืมือ
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ….
ลุงจอร์จทยอยเก็บศพจอมยุทธง้าวพิฆาตกับลูกน้องที่ตายเกลื่อนออกไปใส่รถม้าที่จอดอยู่ที่หน้าร้านไปยังร้านทำโลงศพของตน
ลุงเจอร์ราร์ดก็ต้อนรับลูกค้าที่มาใหม่
ส่วนจอมยุทธสามจอก กับนักฆ่าสามหาวกำลังวางแผนจัดการกับเจ้า หวัง ฟัน เจ้า
จอมยุทธทั้งสองยื่นจอกเหล้าไปชนกัน ตามองตา สายตามาจ้องมองกันไม่จำเป็นต้องพูดอะไรก็เข้าใจกัน
ยุทธภพกำลังจะนองเลือดอีกครั้งในไม่ช้านี้.