ผู้รอดตายเพียงคนเดียวจากเครื่องบินตก

เด็กหญิงวัย 4 ขวบกลายเป็นผู้รอดตายเพียงคนเดียว
จากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในรัสเซียตะวันออกไกล
และเรื่องที่น่าอัศจรรย์ เธอมีอาการบาดเจ็บเพียงอย่างเดียว

ในวันพุธที่ผ่านมา เครื่องบินขนาดเล็กได้ตกลงในเขต Khabarovsk
ขณะที่กำลังพยายามจะแล่นลงจอดที่สนามบินของหมู่บ้าน Nelkan
ผลของการพยายามลงจอดทำให้เครื่องบินพังเสียหายยับเยิน
มีพนักงานเครื่องบิน 2 คนและผู้โดยสารอีก 4 คนเสียชีวิต
เครื่องบินตกจากที่สูง 600 เมตรลงไปในป่า
แต่เด็กหญิงวัย 4 ปีรอดชีวิตจากอุบัติเหตุได้
ผลของการโหม่งพื้นดิน เธอถูกกระแทกจนขาหัก
Interfax ได้รายงานแหล่งข่าวที่อ้างอิงจาก
ศูนย์บริการตรวจสอบและเฝ้าระวังการจราจรภายในท้องถิ่น

เด็กหญิงคนนี้ถูกย้ายตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลท้องถิ่น
โดยมียายของเธอรอคอยอยู่ที่นั่นเพื่อคอยดูแลเธอที่โรงพยาบาล
เธอตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายอย่างมากในที่เกิดเหตุ
เธอเดินทางโดยลำพังไม่ได้ไปร่วมกับพ่อกับแม่
แต่เดินทางมาพร้อมกับครูโรงเรียนในท้องถิ่น
ครูผู้กอดทับร่างของเด็กหญิงคนนี้ไว้
เพื่อปกป้องเธอจากการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ตามคำบอกเล่าของพยานที่เข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ


เศษซากเครื่องบิน L-410 ระหว่างแล่นลงจอดที่ Nelkan Airport
ในเขตปกครอง Khabarovsk Territory © Sputnik






ในวันที่ 26 มกราคม 1972
Vesna Vulovic พนักงานสายการบิน Yugoslav Airlines
กำลังปฏิบัติหน้าที่บนเที่ยวบินที่ 367
เครื่องบินเกิดมีปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องกลางอากาศ
ระหว่างเส้นทางบินไปยังเบลเกรด Belgrade
เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นใกล้กับ
Srbska Kamenice ในเชโกสโลวะเกีย
มีผู้โดยสารรวม 28 คนบนเครื่องบินลำนั้น
แต่ Vesna Vulovic เป็นคนเดียวที่รอดตาย
หลังจากที่เครื่องบินแล่นลงกระแทกกับพื้นดิน
จากระดับความสูง 10,160 เมตร (33,000 ฟุต)

เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ต้องสงสัยว่า
อาจจะมีการวางระเบิดบนเครื่องบินลำนั้น
เธอต้องทนทุกข์ทรมานจากภาวะกระดูกหักหลายท่อน
ทั้งอยู่ในอาการโคม่าเป็นเวลาถึง 27 วัน
และต้องพักรักษาตัวถึง 16 เดือนในโรงพยาบาล

การรอดตายอย่างน่าอัศจรรย์ของเธอ
มีบันทึกในสถิติของ Guinness Book of World Records
การหล่นจากฟากฟ้าระยะสูงสุดโดยไม่มีร่มชูชีพ

" หลายคนมักอยากจะขอนั่งข้างฉัน  เวลาอยู่บนเครื่องบิน " เธอเคยกล่าวไว้
Vesna Vulovic กลับไปทำงานกับสายการบินบนภาคพื้นดิน
แม้ว่าจะมีข่าวว่า เธอไม่กลัวที่จะกลับไปทำงานบนเครื่องบินอีก


Vesna Vulović  © Wikipedia




เครื่องบิน Yak-42 ได้พานักกีฬาทีมสโมสรฮอกกี้ Lokomotiv Yaroslavl ของรัสเซีย
โหม่งโลกในเวลาเพียงไม่กี่นาทีก่อนแล่นขึ้นบนอากาศ
มีผู้เสียชีวิตถึง 43 คนในวันที่ 7 กันยายน 2011
ในช่วง 5 วันแรกนักกีฬาทีมฮอกกี้ Aleksandr Galimov ยังมีชีวิตอยู่
แต่หลังจากนั้น Aleksandr Galimov ตายเพราะอาการบาดเจ็บ
มี Aleksandr Sizov ลูกเรือของสายการบินรอดชีวิตเพียงคนเดียว

" เครื่องบินของเราแล่นไถลออกจากลู่วิ่งไปบนพื้นที่ไม่ได้ลาดยาง
ผมตระหนักดีว่า เครื่องบินกำลังตกลงและเรากำลังตกอยู่ในอันตราย "
Aleksandr Sizov ให้สัมภาษณ์หลังจากนั้น

หนึ่งในโศกนาฏกรรมครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของรัสเซียในวันนั้น
ทำให้ไม่มีการแข่งขันในลีกฮอกกี้ระดับชาติในวันนั้น
หายนะดังกล่าวที่เกิดขึ้นไม่ใช่มีแต่เพียงทีมของรัสเซียเท่านั้น
แต่ยังมีผู้เล่นฮอกกี้ของทีมชาติอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย มีของชาติ
เบลารุส สาธารณรัฐเช็ก เยอรมันนี ลัตเวีย สโลวะเกีย สวีเดนและยูเครน


Alexander Sizov ถูกนำส่งไปยัง Sklifosovsky Emergency Institute
เพื่อรับการรักษาบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุเครื่องบิน Yak-42 ตกใกล้ Yaroslavl © Sputnik




Bahia Bakari เด็กหญิงชาวปารีสวัย 12 ปี
พบว่าตนเองอยู่ในน้ำและเกาะติดกับเศษซากเครื่องบิน
หลังจากสายการบิน Yemenia Airways เดินทางสู่หมู่เกาะ Comoros
โดยมีผู้ร่วมโดยสาร 153 คนพุ่งลงสู่มหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน  2009
Bahia Bakari ต้องอยู่ในน้ำร่วม 10 ชั่วโมง
กว่าเรือประมงลำหนึ่งแล่นเรือผ่านมาจะช่วยดึงเธอขึ้นจากมหาสมุทร
" เราเห็นเครื่องบินตกลงในน้ำ  และผมถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น "
ชาวประมงรายหนึ่งกล่าว

" ฉันพบว่าตัวฉันเองอยู่ในน้ำ ฉันได้ยินคนพูด
แต่ฉันไม่เห็นใครเลย  มันมืดมากจนฉันไม่สามารถเห็นอะไรเลย
ฉันว่ายน้ำไม่เป็น แต่ฉันคว้าอะไรสักอย่างได้ แต่ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร "
Kassim Bakari กล่าวในภายหลังจากที่รอดตาย
ขณะที่ผู้ร่วมโดยสารอีก 152 คนบนเที่ยวบินเสียชีวิต
เรื่องราวของเธอนับว่าเป็นเรื่องปาฏิหาริย์อย่างมาก

" ในช่วงระหว่างการไว้อาลัยให้กับสายการบินลำนั้น
ยังมีข่าวดีว่า Bahia รอดตายได้ มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์จริง ๆ
มันเป็นการต่อสู้เพื่อให้ชีวิตรอดอย่างไม่ธรรมดามาก "
Alain Joyandet รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความร่วมมือระหว่างประเทศฝรั่งเศส


Bahia Bakari วัย 13 ขวบ ถ่ายภาพในวันที่ 15 ธันวาคม 2009 ในปารีส © Patrick Kovarik / AFP




Ruben Van Assouw กลายเป็นข่าวพาดหัวทั่วโลก
หลังจากรอดตายจากจากเครื่องบิน
สายการบิน Afriqiyah Airways Airbus 330-200 ตก
ใกล้กับตริโปลีเมืองหลวงของลิเบีย เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2010
อุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้กัปตัน ลูกเรือและผู้โดยสารจำนวน 103 คน
ซึ่งมีพ่อแม่และพี่ชายของเด็กชายวัย 9 ขวบเสียชีวิต

ครอบครัวนี้กำลังจะเดินทางกลับบ้าน
หลังจากไปเที่ยวที่ซาฟารีในแอฟริกาใต้
เพราะบิดามารดาของเด็กชายเดินทางไป
เฉลิมฉลองครบรอบวันแต่งงานครบรอบ 12 ปีตามประเพณีชาวดัตช์

Ruben มีอาการไม่ได้สติและมีเลือดไหล
พบว่าติดอยู่กับเก้าอี้ที่นั่งท่ามกลางเศษซากเครื่องบิน
" ผมกำลังนอนอยู่ในโรงพยาบาล  มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงหลายคน
ผมไม่รู้เหมือนกันว่า ผมมาที่นี่ได้อย่างไร ผมไม่รู้สึกตัวเลย "
กล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ De Telegraaf
ขณะที่กำลังพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาลเพราะกระดูกขาหักหลายท่อน

เด็กชายอยู่ในความอุปการะของลุงกับป้าในเนเธอแลนด์หลังจากออกจากโรงพยาบาล


Ruben van Assouw เด็กชายดัชต์วัย 9 ขวบ นอนอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
หลังจากที่เครื่องบินโดยสารมุ่งหน้าไปเนเธอแลนด์ แล้วตกที่สนามบิน Mitiga ใน Tripoli
วันที่ 15 พฤษภาคม 2010 © Reuters



เรียบเรียง/ที่มา


https://goo.gl/4pi5ZS


หมายเหตุ

อาจจะมีรายที่รอดตายมากกว่านี้ก็ได้  
แต่ที่เรียบเรียงมาให้ข้อมูลระบุเท่านี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่