มา "ก้าว" คนละก้าวเพื่อดูแลสุขภาพตนเองกันครับ จากใจหมอคนหนึ่ง

ผมเป็นแพทย์เฉพาะ อายุ 41 ปี ทำงาน รพ. ชุมชนที่อำเภอใน จ. นครราชสีมา หากเป็นตอนที่ไม่ทำงาน ผมไม่ใช่เป็นคนพูดมาก เน้น”ปฏิบัติ”ครับ555 ได้ติดตามข่าว คุณตูน บอดี้สแลม ร้องเพลงมีคุณภาพ และเพิ่งรู้ว่าคนร้องยิ่งมีคุณภาพกว่าเพลงมากมาย55   ได้ทำโครงการ “ก้าว” ออกวิ่งจากใต้ไปสุดเหนือเพื่อหาทุนให้ รพ. 11 แห่ง ด้วยความที่ผมเป็นหมอกระดูกและข้อและชอบออกกำลังกายอยู่แล้ว  จึงรู้เลยว่าหากทำเช่นนี้จะเป็นการทรมานต่อร่างกาย ต่อข้อต่อ เอ็น กล้ามเนื้อของขาอย่างมาก  น่าจะเกิดการบาดเจ็บแน่นอนครับ  คนที่คิดจะทำต้องมีจิตใจที่แกร่งและแน่วแน่มากๆ   แม้ว่าโครงการ “ก้าว” เพิ่งเริ่มต้นวิ่ง ผมมองว่าประสบความสำเร็จมากมายแล้วครับ คุณตูนได้เข้ามา “ก้าว” อยู่ในหัวใจผม  หัวใจหมอ หัวใจพยาบาลและคนไทยแล้วครับ  ทำให้ผมรู้ว่าในโลกนี้มีสิ่งที่แข็งกว่าเพ็ชรอีก คือหัวใจคุณตูนและทีมงานที่ร่วมวิ่งนั่นเองครับ ขอขอบคุณผู้มีส่วนร่วมโครงการ “ก้าว” ทั้งหมดครับ ทำให้หมอ พยาบาลมีกำลังใจในการทำงานต่อไปอีกนาน
         จุดประสงค์ที่สำคัญของโครงการ “ก้าว” อีกอย่าง คือ อยากให้คนไทยออกมา “ก้าว” มาออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ปั่น และการทำCardio อื่นๆ มาดูแลสุขภาพตนเอง(อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ) อันนี้แหละที่คุณตูนเข้าใจปัญหาสาธารณสุขไทยอย่างแท้จริง ผมเห็นด้วย ล้าน%เลยครับ เพราะแค่คนๆนึง ดูแลสุขภาพตนเองจริงจัง มีความเห็นแก่ตัวเองจริงๆ(ด้านสุขภาพ) แล้วสามารถเลื่อนเวลาการเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หัวใจขาดเลือด ( โรคจากพฤติกรรมรักสบายไม่อยากเหนื่อย เสพความสุขจากอาหารเกินควร ) สมมุติเลื่อนไปแค่1 ปี ก็ลดค่ารักษาของ รพ. รัฐ ได้เป็นหลักพันบาทแล้วครับ ถ้าไม่เป็นเลยยิ่งดีมากๆๆ  เหมือนเราได้บริจาคเงินต่อเนื่องให้ รพ.แล้วครับ  และลดภาระการทำงานของหมอและพยาบาลได้อีกด้วย  ยิ่งหากเราร่างกายแข็งแรงจริงๆ โรคไข้หวัด คออักเสบ ท้องเสีย ก็จะไม่เป็นบ่อยครับ ผมอยากให้คนไทยมีค่านิยมใหม่คือ ปลื้มหรืออิจฉาคนที่ไปออกกำลังกายสม่ำเสมอ,มีสุขภาพดีและพวกนักกีฬาครับ ไม่ใช่อิจฉากันที่ฐานะ วัตถุนิยมต่างๆ ที่เราเห็นโพสต์กันในโลกSocial และทำให้เกิดปัญหาทางสังคมอื่นๆตามมา  ผมจะดีใจที่เห็นเพื่อนในSocial ไปวิ่งออกกำลังกาย หรือไปแข่งวิ่ง แอบทึ่งอาจารย์หมอบางท่าน วิ่ง full marathonได้จบ หรือ บางท่านแข่งไตรกีฬา Ironmanได้จบ ปอดและหัวใจแกร่งมากๆ และ ดีใจมากๆที่คนไข้ของผมลด นน.ได้แล้วอาการเข่าเสื่อม อาการหลังเสื่อมดีขึ้นเองครับ  ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครซักคนที่อ่านมาดูแลสุขภาพตนเองจริงจัง เปลี่ยนคนที่อ่านได้แค่คนเดียวผมก็ดีใจแล้ครับ    อยากให้ออกมา
             1.“ก้าว”มาออกกำลังกายสม่ำเสมอ
             2.”กิน”พอเพียงกินของมีประโยชน์
             3. “นอน” พักผ่อนเพียงพอต่อวัน
             ทำจนเป็นนิสัยต่อเนื่อง อย่าตามใจสมองของเราที่ไม่อยากเหนื่อยและชอบเสพความสุขทาง รูป รส กลิ่นและเสียง ต้องใช้จิตตั้งมั้นควบคุมมันอีกทีครับ แล้วเราจะมีสุขภาพดีไม่มีโรคภัย แค่นี้ผมก็ดีใจแล้วครับ
          หลายคนคงอยากเห็นตัวผมว่าที่ผมเขียนมาทั้งหมด ผมทำได้แค่ไหน เชิญรับชมครับ555

           ปล. สามารถลอกเลียนแบบได้ ไม่ต้องใช้วิจารณญาณในการชม ไม่ได้เกิดจากความสามารถพิเศษใดๆเลยครับ 555
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^



          ส่วนตัวผมว่า พวกเราจะคิดว่ามีหน้าที่นู้น หน้าที่นี้ มีภาระต้องรับผิดชอบต่างๆนาๆ จนลืมหน้าที่หลักคือการดูแลสุขภาพตนเองให้ปลอดโรค ปลอดภัย เพราะถ้าชีวิตเราจบก่อนวัยอันควร หน้าที่ที่เรารับผิดชอบอื่นๆทั้งหมดก็จบตามนะครับ  ผมเสียดายจริงๆเพราะผมเห็นมาเยอะในชีวิตการทำงานของผม

          ท้ายนี้ ผมขอขอบคุณคนที่เข้ามาอ่านนะครับ  และกราบๆๆๆขอบพระคุณอย่างสูงกับคนที่นำไป"ปฏิบัติ" ไปทำได้จริงๆและมีสุขภาพดีอยู่กับคน2คนไปนานๆ       คือ   คนที่คุณรัก และคนที่รักคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่