ขอเริ่มการเดินทางสู่ Nikko ตั้งแต่การซื้อตั๋วเลยนะคะ ว่าซื้อที่ไหน ซื้อยังไงดี?
(ตารางราคาตั๋วจะตามมาทีหลังนะ)
โอเค การจะเดินทางไป Nikko เราเดินทางโดยรถไฟสาย Tobu-Nikko Line
ออกเดินทางจาก Asakusa Station(Tobt skytree Line) ตามภาพนะ
ซื้อตั๋วได้ที่ Tobu Tourist Information Center
แนะนำว่าให้ซื้อล่วงหน้าก่อนเดินทาง 1 วัน หรือ 2 วัน
อย่างของเราเดินทาง 7.30 น. ถ้าไปซื้อวันที่เดินทางก็กลัวจะไม่ทันขึ้นรถไฟ เพราะว่าที่ขายตั๋วเปิดประมาณ 7.30 น.
ตอนเราไปถึง 7 โมงเช้า มีคนยังไปต่อแถวเข้าคิวรอซื้ออยู่
หน้าตาตั๋วที่เดินทางก็อันนี้นะ อันนี้เป็นตั๋ว Nikko All Area คือใ้เดินทางจาก Asakusa ไป Nikko และใช้เดินทางรถบัสใน Nikko
ราคา Nikko All Area ราคา 4520 yen = 1356 บาท
ทีนี้ ถ้าจะเดินทางไป Nikko ก็จะมีรถไฟธรรมดา กับแบบ limited express ถ้าธรรมดาเปลี่ยนประมาณ 3 ต่อ แต่ถ้า express นั่งยาวไปเลย
แต่ว่าต้องจ่ายเพิ่มนะ
ราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มสำหรับ express train 1080 yen = 354 บาท แต่ถ้าเป็นวันหยุดส. อา. จะราคา 1160 yen = 348 บาท
บนตั๋ว จะบอกเวลาที่รถไฟออก และเลขที่นั่งของเรา
เวลาจะเข้า platform เราต้องเข้าไปในห้องให้พนง.ตรวจตั๋ว อยู่ใกล้ๆช่องที่คนมีบัตร IC ผ่าน
เราต้องเตรียมตั๋วทั้งสองใบให้เจ้าหน้าที่ดู คือ 1.ตั๋วราคา 4520 yen และ 2.ตั๋วที่เราอัพเพื่อเป็น limited express train
เข้าไปแล้วจะมีหมายเลขชานชาลาบอกชัดเจน
นี่รถไฟที่เราจะขึ้นไป Nikko
นั่งสบายมากกว่าเครื่องบินอีก ดีมาก อัพเถอะ ไม่เสียเวลาขึ้นๆลงๆ นั่งทีเดียวถึง
โอเค ถึง Nikko แล้ว เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่โรงแรม ได้เวลาเที่ยว
วันนี้เราวางแผนไปดูน้ำตก Kegon Falls และเดินชิวแถว Lake Chuzenji
การเดินทางไป Kegon falls เราต้องนั่งรถบัสสาย 2c
มีป้ายบอกชัดเจน แต่ถ้าอยากจะแน่ใจจริ๊งจริง มีเจ้าหน้าที่ให้ถาม เดินไปถามเลยลุงๆใจดี
นั่งสาย 2c ไปลงที่ Chuzenji onzen bus stop หรือหมายเลข 26
ใช้เวลาเดินทางจาก Tobu-Nikko Station ประมาณ 45-50 นาที ถ้ารถติดเป็นชม.ได้
พอลงป๊าบบบ เดินไปขอแผนที่ที่ Information centre ก่อนเลย อยู่แถวๆที่ลงรถบัสนั่นแหละ
จริงๆเดินเล่นไม่ยาก ไม่งงมาก มีแค่เลือกทางซ้ายไป Lake ทางขวา ไปน้ำตก
ถ่ายรูปมาให้ชมเล่นๆ
บ้านเมือง ร้านค้า มากมาย เรียงแถวเป็นระเบียบเรียบร้อย
เราตัดสินใจไปเดินเล่นที่แถวทะเลสาบก่อน เพราะว่าดูจากปริมาณผู้คนที่ถาโถมไปน้ำตกแล้ว ต้องโดนเบียดเป็นปลากระป๋องแน่
ฉะนั้น ไปค่ะ ไปทางซ้าย เดินทอดน่องเรื่อยเปื่อยมาก
ระหว่างทางก็ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย ถ่ายรูปมาให้ชมดู
มีพิพิธภัณฑ์ด้วยนะ เผื่อใครสนใจ แต่เราไม่ได้เข้าอะ
มีเสาโทเรอิขนาดใหญ่ตั้งอยู่ระหว่างทางก่อนถึงทะเลสาบด้วย
ถึงทะเลสาบละจ้า บรรยากาศวันที่ไปดีมาก มีแดดและสายลม
เดินเลาะไปตามริมทะเลสาบเรื่อยเปื่อย ต้นไม้ที่ Nikko นี่เปลี่ยนสีแล้วซะส่วนใหญ่
เดินไปอีกก็จะมีที่นั่งชมวิว ซื้อข้าวกลางวันไปทาน ขนม น้ำ ได้บรรยากาศสุด
จากภาพคือจุดชมวิวที่เรานั่งอยู่ แล้วถ่ายลงไปที่นั่งอีกที่นึง
เดินลงมาจุดชมวิวกลางน้ำ หันหลังไปมีร้านกาแฟเล็กๆอยู่ด้วย
เมื่อเดินเล่นเต็มอื่มแล้ว เราก็เดินย้อนกลับมาเพื่อจะไปน้ำตก
แต่โดนสะกัดด้วยร้านอาหารก่อน เลยได้ขนมมาไม้นึง
ไม้ใหญ่มาก คือทานแล้วอิ่มอะ 300 yen = 90 บาท เท่านั้น
ปลาปิ้งก็น่าทานนะจ๊ะ ไปลองได้
การปิ้งปลาของคนขายไม่ธรรมดา
เมื่อขนมเสร็จแล้ว ต้องต่อด้วย ชาเขียว บังเอิญผ่านร้าน เออ น่านั่งดี เลยลองดูซะหน่อย
ร้านตรงกลางนะ คุณป้าคนทำน่ารัก ใจดีมาก
ชาเขียวมาเสริฟแล้ว พร้อมขนมกรุบกรอบ ราคาอยู่ที่แก้วละ 450 yen = 135 บาท
บรรยากาศภายในร้าน ตกแต่งสวยงามดี
นอกจากที่ร้านจะขายกาแฟแล้ว ยังขายพวกเซรามิค งานไม้ ถุงผ้าญี่ปุ่นสไตล์ด้วย เผื่อใครสนใจ แวะไปชมได้
ได้เวลาเดินไปดู Kegon Falls กันแล้ว
อันนี้ดูจากด้านบนก่อน แบบไม่เสียค่าเข้าชม
ค่าเข้าชม 500 yen = 150 บาท
เคาน์เตอร์ขายตั๋ว อยู่ตรงทางเข้าเลยจ้า
ที่ต้องจ่ายค่าเข้า เพราะว่าจะต้องลงลิฟท์ไปข้างล่าง จำไม่ได้ว่ากี่ชั้น แต่ลึกอยู่
ลงไปป๊าบบบบ เดินอีกหน่อย เจอจุดชมน้ำตก ประทับใจมาก อื้อหือ สดชื่นนน คุ้มค่า
มันอาจจะไม่ชัด กล้องมี capacity เท่านี้ ขอโทษด้วย ไปดูเองดีกว่า
หลังจากชื่นชมน้ำตก พร้อมรับละอองน้ำตกแล้ว เราก็ออกมาหาปลาย่างและซุปหัวไชเท้าทานเป็นอาหารเย็น
จริงๆแถวนั้นมีให้เลือกหลายร้านนะ แต่ตอนออกมา ร้านปิดแล้ว 555
ปลาปิ้งย่าง ราคา 600 yen = 180 บาท ไม่ถูกนะเนี่ย ส่วนซุป 310 yen = 93 บาท
จะบอกว่าไม่ทานหัวไชเท้า แต่เพิ่งมารู้ทีหลังว่ามันคือหัวไชเท้า 555+
แต่ซุปนี้มันเหมาะมากกับอากาศหนาวตอนเย็น ฟินเฟ่อ
ร้านอาหารอื่นๆ รอบๆ รวมทั้งร้านผลไม้ ถ่ายรูปมาให้ดูเล่น
ทานเสร็จ ก็มืดพอดีแล้ว เพราะว่าฤดูนี้ 5 โมงเย็นก็เริ่มมืดแล้วบนเขา
เดินกลับไปที่ลงรถบัส นั่ง bus stop 26B กลับลงไป Tobi Nikko Station
ทริปวันนี้ สนุกสนาน ใช้ชีวิตแบบมีความสุข ไม่เร่งรีบอะไร
เดี๋ยวมารีวิววัดที่ Nikko ต่อ ขอตัวไปนอนก่อนนน
[รีวิว] ทริปญี่ปุ่น ตอนที่ 2 Nikko (จากโตเกียวสู่นิกโก)... แบบละเอียด