สวัสดีเพื่อนๆชาว pantip ทุกคน
เราจะมารีวิวทริปท่องเที่ยวในไต้หวัน
สถานที่หลักๆที่เราไป มี 6 แห่ง คือ
1. Alishan
2. Sun Moon Lake
3. Taroko
4. Taichung
5. Kaohsiung
6. Taipei
ตอนที่ 1 Alishan
การเดินทางวันแรก เราออกเดินทางจากสุวรรณภูมิเวลา 11.10 น.โดยสายการบิน China Airlines
ถึงสนามบินเถาหยวน Terminal 1 เวลา 16.10 น. คือดีเลย์อะ กว่าจะออก
ใช้เวลาเดินทางจริงๆ 3 ชม. ถ้วน (เวลาไต้หวันเร็วกว่าเวลาไทย 1 ชม.)
รับกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย เราก็ไปขึ้นรถบัสเข้าเมืองไป HSR Taoyuan
การเดินทางโดยรถบัส เราใช้บริการของ Ubus อยู่ที่ชั้นใต้ดินของสนามบิน
เรา walk-in ไปซื้อตั๋วได้เลย ราคา TWD30 (ประมาณ 33 บาท ; TWD 1 : B1.13 แต่ขอคิดที่ B1.1 จะได้ง่ายๆ)
ป้ายรถบัสก็อยู่ที่ทางเข้า-ออกตรงข้ามที่ซื้อตั๋วเลย รถบัส No.705
จากสนามบิน Taoyuan ถึง HSR Taoyuan ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
เราไปลงที่ HSR Taoyuan เพราะว่าเราจะต่อรถไฟเร็วไปที่เมือง Chiayi
ตั๋ว เราสามารถซื้อที่สถานีได้ แต่เราจองล่วงหน้าทาง website ก็จะได้ตั๋วที่ราคาถูกกว่า
website thsr :
https://irs.thsrc.com.tw/IMINT?locale=en
หากเราจะจองผ่านเวปไซต์ สามารถจองได้ไม่เกิน 28 วันก่อนเดินทาง
อีก website นึงคือ www.kkday.com ลองเช็คราคาทั้งสอง website ก่อนจอง
การรับตั๋ว เรานำ e-mail ที่ได้รับการ confirm จาก thsr+passport ไปรับได้กับพนักงานที่ช่อง periodic ticket counter
อยู่ทางขวามือของทางเข้า ได้ตั๋วมาแว้วว สภาพหน้าตาเป็นแบบนี้
ตั๋วบอกว่ารถไฟเราno.ที่เท่าไร ออกกี่โมง ถึงปลายทางกี่โมง ขึ้นรถไฟขบวนไหน ที่นั่งตรงไหน
เวลาเราจะเข้าชานชาลา เราก็ยื่นทั้งหมดเนี่ยให้พนักงาน ไม่ต้องดึงออกนะ เพราะเค้าจะแสตมป์
รับตั๋วเสร็จแล้ว เราก็เดินเล่นรอบๆหาอาหารเย็นทาน ร้านอาหารในสถานีก็จะมีอาหารญี่ปุ่น, Mos Burger, McDonald, 7-11 etc.
เดินวนกับเพื่อนอยู่หลายรอบ สุดท้ายจบที่ 7-11 เดินเข้าไปไม่รู้จะทานไร
เห็นหลายๆคนไปตักพวกลูกชิ้นต้ม เต้าหู้ต้ม เราเลยอยากรู้ว่ารสชาติมันเป็นยังไงนะ ได้มา 3 อย่าง ราคา TWD40 ประมาณ 44 บาท
เออ มันก็อร่อยดีนะ น้ำซุปอร่อยดีอะ ร้อนๆ เหมาะกับอากาศเย็นๆ
อะ ซื้ออาหารเสร็จ เราก็ไปรอรถไฟ
ป้ายที่ platform ของเรา จะบอกรายละเอียดทั้งหมด เช็คได้ง่ายๆคือ No. ของรถไฟว่าตรงกันมั้ย
ที่เห็น รถไฟขบวนนี้ไปถึง Zuoying โดยจะจอดระหว่างทางที่ Chiayi
รถไฟขบวนที่เราขึ้น ใช้เวลา 1.20 ชม. ถึง HSR Chiayi
เมื่อถึง HSR Chiayi เราเดินทางต่อโดยรถบัสเข้าไปในตัวเมือง เมื่อออกมาจากชาลาแล้ว มีป้ายบอกทางไป Bus Station
สถานีรถบัสก็จะอยู่ทางขวามือของทางออก HSR Chiayi
ตั๋วรถไฟของเรา สามารถใช้ขึ้นรถบัสได้ฟรีนะ ไม่ต้องเสียเงิน
เราไปถึงรอบ 19.54 น. แล้ว ช่วงเวลานั้นจะเหลือรถบัสหมายเลขเดียว คือ 7211 (เพราะ No.7212 รอบสุดท้าย เวลา 18.10 น.)
Bus No.7211 จาก HSR Chiayi ปลายสายจะเขียนว่า Chiayi Park ขึ้นคันนั้นเลย ไปลงที่ TRA Chiayi
โดยรถบัสแต่ละรอบจะห่างกันรอบละ 20 นาที
เมื่อถึงสถานี เราก็มารับตั๋วรถไฟสาย Alishan Forest Railway เพื่อที่จะได้ไม่ต้องรีบมาตอนเช้าตรู่
** เดี๋ยวเราจะมาบอกวิธีจองตั๋วรถไฟ Alishan Forest Railway ใน website ให้นะ **
คืนนี้เรานอนกันที่ Light Hostel
เดินทางจาก TRA Chiayi ไปโรงแรมที่เราพัก ประมาณ 6 นาที
สภาพโรงแรมน่าอยู่มาก สะอาดสุดๆ พนักงานยิ้มแย้ม พูดภาษาอังกฤษได้ สะดวกสำหรับผู้ที่จีนไม่คล่อง
มีที่นั่งชั้นดาดฟ้าให้ดูวิว นั่งเล่น ด้วยนะ
อาหารเช้าก็เป็น Self-service ปิ้งขนมปังเอง อบขนมเอง ขนมปัง นม มีอยู่ในตู้เย็น
ราคาค่าโรงแรมอยู่ที่ 1575 บาท สำหรับ 2 คน
เมื่อ check-in เสร็จเรียบร้อย เราก็ออกไปเดินเล่น night market ใกล้กับโรงแรมมาก เดินไป 10 นาที
เดินวนไป วนมา มาจบที่ร้านปลาหมึกย่าง เพื่อนอยากลองฮะ
ป้าคนขายจะถามว่า "หล้า ปู๋หล้า?" เราก็อะไรว้าาา อ่อ ป้าแกถามว่า เอาเผ็ดหรือไม่เผ็ด
ถ้าเผ็ดมากก็บอกไปว่า "เหิ่นหล้า"
ปลาหมึก 1 ตัว ราคา TWD120 ประมาณ 132 บาท
มาต่อที่ของหวาน อันนี้เพื่อนเดินผ่านร้านละอยากลอง เราก็อะ เอาด้วย
เต้าฮวยใส่ถั่วแดง ราคาอยู่ที่ TWD30 -> 33 บาท อร่อยดีนะ เราชอบ
ร้านนี้เลย
เมื่อท้องอื่มแล้ว เราก็เดินกลับไปนอน
วันที่สอง
ตื่นมาด้วยความสดใส หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรม Light Hostel เสร็จแล้ว
เราก็ออกเดินทางมาที่สถานี Chiayi เพื่อขึ้นรถไฟสาย Alishan Forest Railway ไป Alishan
เรามาถึงหน้าสถานี Chiayi เวลา 8.40 น. รถไฟเราออกเวลา 9.00 น.
** หน้าสถานีจะมีลุงหลายคนมาก เดินเข้ามาหาเรา แล้วพูดภาษาจีนใส่แบบรัวๆ
แม้ว่าเราจะทำหน้ามึนงงก็แล้ว แต่ลุงก็ไม่ไปไหนยังคงพ่นจีนใส่ต่อไป
ไม่ต้องตกใจ ลุงๆแกเป็นคนขับtaxi พยายามจะชวนให้เราไปด้วย
หนทางเดียวคือ เดินหนีเข้าไปในชานชาลา *
โอเค เรามาต่อกันที่การเดินทางไป Alishan
เมื่อเดินเข้าไปในสถานีแล้ว จะเห็น Visitor Information ทางเข้าชานชาลาอยู่ทางซ้ายมือ
รถไฟ Alishan Forest Railway จะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ ป้ายมีบอก ไม่ต้องกลัวหลง
ก่อนเวลาเดินทาง ประมาณ 7 นาที รถไฟของเราก็เทียบท่า
เฮ้ยยยยย! รถไฟคลาสสิคคคคอ๊าาาาา ดีงามมม
ปู๊นๆๆๆ รถไฟออกจากท่า 9 โมงเช้าเป๊ะ
ขึ้นไปถ้าง่วงหลับก่อนได้เลย เพราะช่วงครึ่งชม.แรกไม่มีวิวอะไรให้ดู มีบ้านเรือน
แต่ถ้าไม่ง่วงก็นั่งไปเพลินๆ
เมื่อเวลาผ่านไปสัก 45 นาที อะ วิวดีๆมาละ 2 ข้างทางเต็มไปด้วยป่า ต้นไม้ ใบหญ้า
บางช่วงก็เป็นเหวลึก มีหมอกหนาๆลอยทึบ
เส้นทางนี้ เป็นเส้นทางที่ไม่ควรพลาดเลย คือเพลิดเพลินไปกับวิวข้างทาง
รถไฟเดินทางมาถึงสถานี Fenchihu เวลา 11.20 น.
ปล. เราต้องลงที่สถานี Fenchihu เพราะว่าเส้นทางรถไฟต่อจากนี้ถึง Alishan ถูกปิด เพราะว่าโดนพายุถล่ม เสียใจมาก
เมื่อลงรถไฟแล้ว เราก็ออกมาเดินเล่นกันก่อนที่จะไปขึ้นรถบัส
ใกล้ๆกับสถานีมีร้านค้าให้เดินเล่น เดินชิม เดินชมมากมาย
ก่อนไปขึ้นรถบัสเราแวะซื้อข้าวกล่องที่ร้านที่ติดกับสถานี
ร้านนี้
เมนูที่เราสั่งคือ ข้าวน่องไก่ ราคา TWD130 -> 145 บาท
ทางร้านมีเมนูภาษาอังกฤษให้ ไม่ได้กังวลกับการสั่งอาหาร
นอกจากนี้ถ้าไม่อยากถือข้าวกล่องไปทานข้างนอก ทางร้านมีที่นั่งให้บริการ แต่ราคาข้าวจะราคาสูงกว่า take away
ทีนี้เราจะต้องต่อรถบัสไป Alishan
จากสถานีรถไฟ มองไปทางขวามือ จะมองเห็นพิพิธภัณฑ์รถไฟ
(ต้องขออภัย วันที่ไปหมอกลงหนามากกกกกก ตอนถ่ายเบาลงหน่อยละ)
เราก็เดินเข้าไปข้างในเลย จะเห็นรถไฟเต็มไปหมด เป็นรถไฟที่เคยใช้วิ่งล่ะ
เมื่อเราเดินทะลุออกไปอีกฝั่งแล้ว เงยหน้ามองข้างบนจะเห็นศาลาอยู่บนเนิน นั่นแหละที่รอรถบัส+รถตู้
เข้าไปรอตรงนั้นเลย ถ้าไม่แน่ใจว่าถูกมั้ย ตรงข้ามจะเป็นแบบนี้นะ
**หมายเหตุ เนื่องจากศาลารอรถบัสกับรถตู้ คือที่เดียวกัน
ก็จะมีลุงมาพ่นจีนใส่เราอีก คราวนี้ไม่ต้องงง ฟังให้จบละลุงแกจะพูดราคามาเป็นภาษาอังกฤษ
ถ้าโอเคกับราคานี้ก็ไป แต่เราเลือกที่จะรอรถบัส เพราะว่าลุงแกเสนอมา 300 ดอลล่าร์ไต้หวัน แต่รถบัสแค่ NT95 เองเหอะ
ไม่พอใจก็ต่อราคากันไป คนเวียดนามที่มาก่อนแอบกระซิบบอกเราว่า ลุงเสนอ 250 ดอลล่าร์เอง
อ่าว ลุงง ทำไมทำงี้อ่ะ ข้าคงจะไปกับลุงหรอกนะ*
ประเด็นต่อไปอยู่ที่ รถบัสรอบสุดท้าย คือ 12.50 น. ถ้าพลาดรอบนี้ก็ต้องรถตู้อย่างเดียว
เวลา 12.55 น. รถบัสมาจอดเทียบท่า (รถบัสจะวิ่งลงมาจากเนินนะ)
ต่าโดยสารราคา NT95 -> 105 บาท เท่าน้านนน เตรียมให้พอดี เพราะรถบัสไม่ทอนเงินนะฮะ
แล้วก็เก็บตั๋วไว้ให้ดีๆ เพราะขาลงต้องคืนตั๋วให้คนขับ
เราไปถึง Alishan National Park เวลา 14.10 น.
อ่อ รถบัสจะจอดให้ลงไปซื้อตั๋วเข้าอุทยานก่อนด้วยนะ ค่า admission fee คนละ NT150 -> 165 บาท
ถ้าต้องการข้อมูลภายใน National Park ก็ไปถามที่ Visitor Information Centre ได้เลยนะ หลังจากลงรถบัส
โอเค เมื่อลงรถบัสแล้ว เราก็ไป check-in เอาของเก็บที่โรงแรมก่อน
โรงแรมที่เรานอนคืนนี้ คือ Alishan Shermuh International Tourist Hotel
โรงแรมสะอาด มีอุปกรณ์อาบน้ำครบครัน ชา น้ำร้อน รองเท้าใส่ในห้อง ห้องน้ำสะอาด มีอาหารเช้าบริการ
ปล.หน้าหนาวโรงแรมเปิด heater เวลา 1 ทุ่ม - ตี 5
แอบขี้เหนียวเบาๆ อากาศตอนที่เราไป 10 โมงเช้าแค่ 3 องศา บ้าบอปิด heater ไปแล้ว ละไง ใครจะไปอาบน้ำ
ปล2. น้ำร้อนเปิดบริการเวลา 16.00 น. - 11.00 น.
check-in เรียบร้อย เราก็มุ่งหน้าไป Forest Railway Alishan Station ซื้อตั๋วไปชม Sacred Tree และซื้อตั๋วไปดูพระอาทิตย์ขึ้น
ตั๋วไปดูพระอาทิตย์ขึ้นต้องซื้อก่อนวันที่จะไปดู เพราะว่าตอนเช้ามืดไม่มีขายนะ หมายความว่าต้องซื้อก่อนไป 1 วัน
ราคาตั๋ว Sacred Tree NT100 -> 121 บาท ของเรารอบ 15.45 น. เกือบรอบสุดท้ายแล้ว สถานีรถไฟปิด 16.30 น.
Sacred Tree มีอะไร? เป็นทางเดินชมป่า ชมนก ชมไม้นั่นแหละ เพลิดเพลินกันไป
[รีวิว] ทริปไต้หวัน ตอนที่ 1 Alishan .. แบบละเอียด
เราจะมารีวิวทริปท่องเที่ยวในไต้หวัน
สถานที่หลักๆที่เราไป มี 6 แห่ง คือ
1. Alishan
2. Sun Moon Lake
3. Taroko
4. Taichung
5. Kaohsiung
6. Taipei
ตอนที่ 1 Alishan
การเดินทางวันแรก เราออกเดินทางจากสุวรรณภูมิเวลา 11.10 น.โดยสายการบิน China Airlines
ถึงสนามบินเถาหยวน Terminal 1 เวลา 16.10 น. คือดีเลย์อะ กว่าจะออก
ใช้เวลาเดินทางจริงๆ 3 ชม. ถ้วน (เวลาไต้หวันเร็วกว่าเวลาไทย 1 ชม.)
รับกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย เราก็ไปขึ้นรถบัสเข้าเมืองไป HSR Taoyuan
การเดินทางโดยรถบัส เราใช้บริการของ Ubus อยู่ที่ชั้นใต้ดินของสนามบิน
เรา walk-in ไปซื้อตั๋วได้เลย ราคา TWD30 (ประมาณ 33 บาท ; TWD 1 : B1.13 แต่ขอคิดที่ B1.1 จะได้ง่ายๆ)
ป้ายรถบัสก็อยู่ที่ทางเข้า-ออกตรงข้ามที่ซื้อตั๋วเลย รถบัส No.705
จากสนามบิน Taoyuan ถึง HSR Taoyuan ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
เราไปลงที่ HSR Taoyuan เพราะว่าเราจะต่อรถไฟเร็วไปที่เมือง Chiayi
ตั๋ว เราสามารถซื้อที่สถานีได้ แต่เราจองล่วงหน้าทาง website ก็จะได้ตั๋วที่ราคาถูกกว่า
website thsr :https://irs.thsrc.com.tw/IMINT?locale=en
หากเราจะจองผ่านเวปไซต์ สามารถจองได้ไม่เกิน 28 วันก่อนเดินทาง
อีก website นึงคือ www.kkday.com ลองเช็คราคาทั้งสอง website ก่อนจอง
การรับตั๋ว เรานำ e-mail ที่ได้รับการ confirm จาก thsr+passport ไปรับได้กับพนักงานที่ช่อง periodic ticket counter
อยู่ทางขวามือของทางเข้า ได้ตั๋วมาแว้วว สภาพหน้าตาเป็นแบบนี้
ตั๋วบอกว่ารถไฟเราno.ที่เท่าไร ออกกี่โมง ถึงปลายทางกี่โมง ขึ้นรถไฟขบวนไหน ที่นั่งตรงไหน
เวลาเราจะเข้าชานชาลา เราก็ยื่นทั้งหมดเนี่ยให้พนักงาน ไม่ต้องดึงออกนะ เพราะเค้าจะแสตมป์
รับตั๋วเสร็จแล้ว เราก็เดินเล่นรอบๆหาอาหารเย็นทาน ร้านอาหารในสถานีก็จะมีอาหารญี่ปุ่น, Mos Burger, McDonald, 7-11 etc.
เดินวนกับเพื่อนอยู่หลายรอบ สุดท้ายจบที่ 7-11 เดินเข้าไปไม่รู้จะทานไร
เห็นหลายๆคนไปตักพวกลูกชิ้นต้ม เต้าหู้ต้ม เราเลยอยากรู้ว่ารสชาติมันเป็นยังไงนะ ได้มา 3 อย่าง ราคา TWD40 ประมาณ 44 บาท
เออ มันก็อร่อยดีนะ น้ำซุปอร่อยดีอะ ร้อนๆ เหมาะกับอากาศเย็นๆ
อะ ซื้ออาหารเสร็จ เราก็ไปรอรถไฟ
ป้ายที่ platform ของเรา จะบอกรายละเอียดทั้งหมด เช็คได้ง่ายๆคือ No. ของรถไฟว่าตรงกันมั้ย
ที่เห็น รถไฟขบวนนี้ไปถึง Zuoying โดยจะจอดระหว่างทางที่ Chiayi
รถไฟขบวนที่เราขึ้น ใช้เวลา 1.20 ชม. ถึง HSR Chiayi
เมื่อถึง HSR Chiayi เราเดินทางต่อโดยรถบัสเข้าไปในตัวเมือง เมื่อออกมาจากชาลาแล้ว มีป้ายบอกทางไป Bus Station
สถานีรถบัสก็จะอยู่ทางขวามือของทางออก HSR Chiayi
ตั๋วรถไฟของเรา สามารถใช้ขึ้นรถบัสได้ฟรีนะ ไม่ต้องเสียเงิน
เราไปถึงรอบ 19.54 น. แล้ว ช่วงเวลานั้นจะเหลือรถบัสหมายเลขเดียว คือ 7211 (เพราะ No.7212 รอบสุดท้าย เวลา 18.10 น.)
Bus No.7211 จาก HSR Chiayi ปลายสายจะเขียนว่า Chiayi Park ขึ้นคันนั้นเลย ไปลงที่ TRA Chiayi
โดยรถบัสแต่ละรอบจะห่างกันรอบละ 20 นาที
เมื่อถึงสถานี เราก็มารับตั๋วรถไฟสาย Alishan Forest Railway เพื่อที่จะได้ไม่ต้องรีบมาตอนเช้าตรู่
** เดี๋ยวเราจะมาบอกวิธีจองตั๋วรถไฟ Alishan Forest Railway ใน website ให้นะ **
คืนนี้เรานอนกันที่ Light Hostel
เดินทางจาก TRA Chiayi ไปโรงแรมที่เราพัก ประมาณ 6 นาที
สภาพโรงแรมน่าอยู่มาก สะอาดสุดๆ พนักงานยิ้มแย้ม พูดภาษาอังกฤษได้ สะดวกสำหรับผู้ที่จีนไม่คล่อง
มีที่นั่งชั้นดาดฟ้าให้ดูวิว นั่งเล่น ด้วยนะ
อาหารเช้าก็เป็น Self-service ปิ้งขนมปังเอง อบขนมเอง ขนมปัง นม มีอยู่ในตู้เย็น
ราคาค่าโรงแรมอยู่ที่ 1575 บาท สำหรับ 2 คน
เมื่อ check-in เสร็จเรียบร้อย เราก็ออกไปเดินเล่น night market ใกล้กับโรงแรมมาก เดินไป 10 นาที
เดินวนไป วนมา มาจบที่ร้านปลาหมึกย่าง เพื่อนอยากลองฮะ
ป้าคนขายจะถามว่า "หล้า ปู๋หล้า?" เราก็อะไรว้าาา อ่อ ป้าแกถามว่า เอาเผ็ดหรือไม่เผ็ด
ถ้าเผ็ดมากก็บอกไปว่า "เหิ่นหล้า"
ปลาหมึก 1 ตัว ราคา TWD120 ประมาณ 132 บาท
มาต่อที่ของหวาน อันนี้เพื่อนเดินผ่านร้านละอยากลอง เราก็อะ เอาด้วย
เต้าฮวยใส่ถั่วแดง ราคาอยู่ที่ TWD30 -> 33 บาท อร่อยดีนะ เราชอบ
ร้านนี้เลย
เมื่อท้องอื่มแล้ว เราก็เดินกลับไปนอน
วันที่สอง
ตื่นมาด้วยความสดใส หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรม Light Hostel เสร็จแล้ว
เราก็ออกเดินทางมาที่สถานี Chiayi เพื่อขึ้นรถไฟสาย Alishan Forest Railway ไป Alishan
เรามาถึงหน้าสถานี Chiayi เวลา 8.40 น. รถไฟเราออกเวลา 9.00 น.
** หน้าสถานีจะมีลุงหลายคนมาก เดินเข้ามาหาเรา แล้วพูดภาษาจีนใส่แบบรัวๆ
แม้ว่าเราจะทำหน้ามึนงงก็แล้ว แต่ลุงก็ไม่ไปไหนยังคงพ่นจีนใส่ต่อไป
ไม่ต้องตกใจ ลุงๆแกเป็นคนขับtaxi พยายามจะชวนให้เราไปด้วย
หนทางเดียวคือ เดินหนีเข้าไปในชานชาลา *
โอเค เรามาต่อกันที่การเดินทางไป Alishan
เมื่อเดินเข้าไปในสถานีแล้ว จะเห็น Visitor Information ทางเข้าชานชาลาอยู่ทางซ้ายมือ
รถไฟ Alishan Forest Railway จะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ ป้ายมีบอก ไม่ต้องกลัวหลง
ก่อนเวลาเดินทาง ประมาณ 7 นาที รถไฟของเราก็เทียบท่า
เฮ้ยยยยย! รถไฟคลาสสิคคคคอ๊าาาาา ดีงามมม
ปู๊นๆๆๆ รถไฟออกจากท่า 9 โมงเช้าเป๊ะ
ขึ้นไปถ้าง่วงหลับก่อนได้เลย เพราะช่วงครึ่งชม.แรกไม่มีวิวอะไรให้ดู มีบ้านเรือน
แต่ถ้าไม่ง่วงก็นั่งไปเพลินๆ
เมื่อเวลาผ่านไปสัก 45 นาที อะ วิวดีๆมาละ 2 ข้างทางเต็มไปด้วยป่า ต้นไม้ ใบหญ้า
บางช่วงก็เป็นเหวลึก มีหมอกหนาๆลอยทึบ
เส้นทางนี้ เป็นเส้นทางที่ไม่ควรพลาดเลย คือเพลิดเพลินไปกับวิวข้างทาง
รถไฟเดินทางมาถึงสถานี Fenchihu เวลา 11.20 น.
ปล. เราต้องลงที่สถานี Fenchihu เพราะว่าเส้นทางรถไฟต่อจากนี้ถึง Alishan ถูกปิด เพราะว่าโดนพายุถล่ม เสียใจมาก
เมื่อลงรถไฟแล้ว เราก็ออกมาเดินเล่นกันก่อนที่จะไปขึ้นรถบัส
ใกล้ๆกับสถานีมีร้านค้าให้เดินเล่น เดินชิม เดินชมมากมาย
ก่อนไปขึ้นรถบัสเราแวะซื้อข้าวกล่องที่ร้านที่ติดกับสถานี
ร้านนี้
เมนูที่เราสั่งคือ ข้าวน่องไก่ ราคา TWD130 -> 145 บาท
ทางร้านมีเมนูภาษาอังกฤษให้ ไม่ได้กังวลกับการสั่งอาหาร
นอกจากนี้ถ้าไม่อยากถือข้าวกล่องไปทานข้างนอก ทางร้านมีที่นั่งให้บริการ แต่ราคาข้าวจะราคาสูงกว่า take away
ทีนี้เราจะต้องต่อรถบัสไป Alishan
จากสถานีรถไฟ มองไปทางขวามือ จะมองเห็นพิพิธภัณฑ์รถไฟ
(ต้องขออภัย วันที่ไปหมอกลงหนามากกกกกก ตอนถ่ายเบาลงหน่อยละ)
เราก็เดินเข้าไปข้างในเลย จะเห็นรถไฟเต็มไปหมด เป็นรถไฟที่เคยใช้วิ่งล่ะ
เมื่อเราเดินทะลุออกไปอีกฝั่งแล้ว เงยหน้ามองข้างบนจะเห็นศาลาอยู่บนเนิน นั่นแหละที่รอรถบัส+รถตู้
เข้าไปรอตรงนั้นเลย ถ้าไม่แน่ใจว่าถูกมั้ย ตรงข้ามจะเป็นแบบนี้นะ
**หมายเหตุ เนื่องจากศาลารอรถบัสกับรถตู้ คือที่เดียวกัน
ก็จะมีลุงมาพ่นจีนใส่เราอีก คราวนี้ไม่ต้องงง ฟังให้จบละลุงแกจะพูดราคามาเป็นภาษาอังกฤษ
ถ้าโอเคกับราคานี้ก็ไป แต่เราเลือกที่จะรอรถบัส เพราะว่าลุงแกเสนอมา 300 ดอลล่าร์ไต้หวัน แต่รถบัสแค่ NT95 เองเหอะ
ไม่พอใจก็ต่อราคากันไป คนเวียดนามที่มาก่อนแอบกระซิบบอกเราว่า ลุงเสนอ 250 ดอลล่าร์เอง
อ่าว ลุงง ทำไมทำงี้อ่ะ ข้าคงจะไปกับลุงหรอกนะ*
ประเด็นต่อไปอยู่ที่ รถบัสรอบสุดท้าย คือ 12.50 น. ถ้าพลาดรอบนี้ก็ต้องรถตู้อย่างเดียว
เวลา 12.55 น. รถบัสมาจอดเทียบท่า (รถบัสจะวิ่งลงมาจากเนินนะ)
ต่าโดยสารราคา NT95 -> 105 บาท เท่าน้านนน เตรียมให้พอดี เพราะรถบัสไม่ทอนเงินนะฮะ
แล้วก็เก็บตั๋วไว้ให้ดีๆ เพราะขาลงต้องคืนตั๋วให้คนขับ
เราไปถึง Alishan National Park เวลา 14.10 น.
อ่อ รถบัสจะจอดให้ลงไปซื้อตั๋วเข้าอุทยานก่อนด้วยนะ ค่า admission fee คนละ NT150 -> 165 บาท
ถ้าต้องการข้อมูลภายใน National Park ก็ไปถามที่ Visitor Information Centre ได้เลยนะ หลังจากลงรถบัส
โอเค เมื่อลงรถบัสแล้ว เราก็ไป check-in เอาของเก็บที่โรงแรมก่อน
โรงแรมที่เรานอนคืนนี้ คือ Alishan Shermuh International Tourist Hotel
โรงแรมสะอาด มีอุปกรณ์อาบน้ำครบครัน ชา น้ำร้อน รองเท้าใส่ในห้อง ห้องน้ำสะอาด มีอาหารเช้าบริการ
ปล.หน้าหนาวโรงแรมเปิด heater เวลา 1 ทุ่ม - ตี 5
แอบขี้เหนียวเบาๆ อากาศตอนที่เราไป 10 โมงเช้าแค่ 3 องศา บ้าบอปิด heater ไปแล้ว ละไง ใครจะไปอาบน้ำ
ปล2. น้ำร้อนเปิดบริการเวลา 16.00 น. - 11.00 น.
check-in เรียบร้อย เราก็มุ่งหน้าไป Forest Railway Alishan Station ซื้อตั๋วไปชม Sacred Tree และซื้อตั๋วไปดูพระอาทิตย์ขึ้น
ตั๋วไปดูพระอาทิตย์ขึ้นต้องซื้อก่อนวันที่จะไปดู เพราะว่าตอนเช้ามืดไม่มีขายนะ หมายความว่าต้องซื้อก่อนไป 1 วัน
ราคาตั๋ว Sacred Tree NT100 -> 121 บาท ของเรารอบ 15.45 น. เกือบรอบสุดท้ายแล้ว สถานีรถไฟปิด 16.30 น.
Sacred Tree มีอะไร? เป็นทางเดินชมป่า ชมนก ชมไม้นั่นแหละ เพลิดเพลินกันไป