พึ่งได้การโฆษณาบนรถเมล์ว่า จะมีการเปลี่ยนไปใช้ระบบ e-ticket โดยการแตะบัตรที่เครื่องและการซื้อตั๋วโดยการหยอดเหรียญที่เครื่องจำหน่ายตั๋วบนรถเมล์
ผมคิดว่ามันก็สะดวกดี แต่กลับรู้สึกว่ามันไม่สุด
เพราะจะซื้อบัตร e-ticket ต้องมีบัตรสวัสดิการผู้รายได้น้อยจากรัฐบาล ส่วนคนปกติที่ไม่มีบัตรก็หยอดเหรียญใส่เครื่อง
ถ้าจะทำระบบนี้แล้ว ทำไมถึงไม่ให้ประชาชนทุกคนสามารถใช้ระบบ e-ticket ได้โดยไม่ต้องมีบัตรสวัสดิการละครับ
ถ้าทำบัตรใหม่แล้วมันยุ่งยาก ก็“อัพเกรด”บัตรที่ทุกคนมีอยู่แล้วสิ..... บัตรประชาชนไง
ไหนๆก็มีบัตรประชาชนฝังชิพ(ที่ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์)แล้ว ก็พัฒนาให้กลายเป็นบัตรที่ใช้จ่ายค่าเดินทางไปในตัวสิครับ เช่น ใช้จ่าย e-ticket รถเมล์, จ่ายค่าทางด่วน
ส่วนเรื่องระบบเงินในบัตร ก็สร้างเว็ปซักเว็ปนึงเพื่อใช้การลงทะเบียน ผูกเข้ากับบัญชีธนาคาร และกำหนด“เพดาน”ของจำนวนเงินในบัตร
โดยที่เพดานเงินในบัตรจะเป็นตัวควบคุมในการ “เติมเงิน” เข้าบัตร
เช่น กำหนดเพดานในบัตรไว้ 100บาท แต่ในเดือนนั้นใช้ไป 57บาท เหลือ 43บาท พอเข้าเดือนใหม่ ก็หักเงินจากบัญชีมา 57บาท เพื่อเติมเงินในบัตรให้ครบ 100บาท
ถ้าเพดานในบัตร 200บาท แต่เดือนนั้นใช้ไป 160บาท เหลือ 40บาท พอเข้าเดือนถัดไปก็หักจากบัญชี 160บาท เพื่อจะได้มีเงินในบัตร 200บาท
ผมคิดว่าน่าจะสะดวกสบายสำหรับประชาชนทุกคนนะครับ อีกอย่างก็ลดปัญาหาเรื่องเครื่องหยอดเงินไม่รับเหรียญด้วย
E-Ticket ของรถเมล์
ผมคิดว่ามันก็สะดวกดี แต่กลับรู้สึกว่ามันไม่สุด
เพราะจะซื้อบัตร e-ticket ต้องมีบัตรสวัสดิการผู้รายได้น้อยจากรัฐบาล ส่วนคนปกติที่ไม่มีบัตรก็หยอดเหรียญใส่เครื่อง
ถ้าจะทำระบบนี้แล้ว ทำไมถึงไม่ให้ประชาชนทุกคนสามารถใช้ระบบ e-ticket ได้โดยไม่ต้องมีบัตรสวัสดิการละครับ
ถ้าทำบัตรใหม่แล้วมันยุ่งยาก ก็“อัพเกรด”บัตรที่ทุกคนมีอยู่แล้วสิ..... บัตรประชาชนไง
ไหนๆก็มีบัตรประชาชนฝังชิพ(ที่ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์)แล้ว ก็พัฒนาให้กลายเป็นบัตรที่ใช้จ่ายค่าเดินทางไปในตัวสิครับ เช่น ใช้จ่าย e-ticket รถเมล์, จ่ายค่าทางด่วน
ส่วนเรื่องระบบเงินในบัตร ก็สร้างเว็ปซักเว็ปนึงเพื่อใช้การลงทะเบียน ผูกเข้ากับบัญชีธนาคาร และกำหนด“เพดาน”ของจำนวนเงินในบัตร
โดยที่เพดานเงินในบัตรจะเป็นตัวควบคุมในการ “เติมเงิน” เข้าบัตร
เช่น กำหนดเพดานในบัตรไว้ 100บาท แต่ในเดือนนั้นใช้ไป 57บาท เหลือ 43บาท พอเข้าเดือนใหม่ ก็หักเงินจากบัญชีมา 57บาท เพื่อเติมเงินในบัตรให้ครบ 100บาท
ถ้าเพดานในบัตร 200บาท แต่เดือนนั้นใช้ไป 160บาท เหลือ 40บาท พอเข้าเดือนถัดไปก็หักจากบัญชี 160บาท เพื่อจะได้มีเงินในบัตร 200บาท
ผมคิดว่าน่าจะสะดวกสบายสำหรับประชาชนทุกคนนะครับ อีกอย่างก็ลดปัญาหาเรื่องเครื่องหยอดเงินไม่รับเหรียญด้วย