อ่านตอนที่ 1 ได้ที่ https://ppantip.com/topic/37041333

อ่านตอนที่ 2 ได้ที่ https://ppantip.com/topic/37048177


เที่ยววันที่สาม (ต่อ)

กลับมาถึงโรงแรมบ่ายโมงครึ่ง วันนี้หิวจัดเพราะเมื่อเช้าลงจากรถไฟมาโรงแรมฝากกระเป๋าแล้วก็ขึ้นรถไปเที่ยวเมืองเปอร์ซีโปลิสกันเลย ลืมกินมื้อเช้า พอเข้าเช็คอินโรงแรมก็หามื้อเที่ยงทานกัน สั่งแบบจัดเต็มเลย

เครื่องดื่มยอดนิยม เบียร์รสผลไม้ (ไร้แอลกอฮอล์)

ห้องที่พวกผมพักอยู่ลึกลับหน่อย ต้องเดินผ่านช่องแคบๆ เข้าไปทางร้านอาหาร

ห้องอยู่ชั้นบนต้องขึ้นบันไดเวียนด้วย ไม่ค่อยจะเหมาะกับ สว. เท่าไหร่

ห้องพักพอเข้าประตูไปจะเจอสองเตียง เดินต่อเข้าไปข้างในมีอีกสองเตียง มีห้องน้ำอยู่ตรงจุดต่อเชื่อมระหว่างสองห้อง

หลังจากเติมพลังมื้อกลางวันและเอากระเป๋าเข้าห้องพักเรียบร้อยก็เรียก Taxi ไปยังสุสานของฮาเฟซ  (Hafez Tomb) ค่าแท็กซี่ 100 บาท ค่าผ่านประตู 200 บาท ที่นี่คนเยอะมาก ฮาฟิซเป็นกวีชาวอิหร่าน บทกวีของเขาได้รับความนิยมมากใช้กันจนติดปากจนกลายเป็นสุภาษิตในชีวิตประจำวัน เขาเป็นกวีที่เขียนเกี่ยวกับเปอร์เซียมากกว่านักเขียนคนอื่นๆ เขาเกิดและตายที่เมืองชีราซ

ออกจากสุสานฮาเฟซหลังพระอาทิตย์ตกดิน

เรียกแท็กซี่ไปที่ Shah Cheragh Shirne ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ที่พัก (ค่า Taxi 100 บาท)

เดินผ่านร้านไอศครีมท้องถิ่น ไม่กินกลัวจะถูกว่าๆ มาไม่ถึงชีราซ ข้างในไอศครัมมีเส้นกรุ๊บๆ แปลกดีแต่ขอเตือนก่อนว่าหวานมากๆ (ถ้วยละ 50 บาท)

ที่ Shah Cheragh Shirne นี่ เขาไม่ปล่อยให้เรา (คนต่างชาติ) เดินเข้าไปเที่ยวเอง แต่จะมีไกด์อาสาพาเราเข้าไปพร้อมทั้งอธิบายรายละเอียดของที่นี่ ไกด์บอกว่าตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมา มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย จึงไม่อนุญาตให้นำเป้แบกหลังเข้าไปข้างใน รวมทั้งไม่ให้คนต่างชาติเข้าไปภายในตัวอาคารอีกด้วย เดินดูได้เฉพาะบริเวณรอบนอก ยกเว้นแต่ว่าถ้าเป็นมุสลิมก็เข้าไปทำพิธีภายในได้ ที่นี่ไม่เก็บค่าเข้า และถ้าจะให้สวยควรมาช่วงกลางคืนเพราะเปิดไฟแล้วดูงดงามมาก

ออกจากมัสยิดไปทานมื้อเย็นกันที่ร้าน Kateh Mas Restaurant เป็นร้านที่เราถามไกด์แล้วเขาแนะนำ มื้อนี้จ่ายไป 800 บาท แต่รสชาติสู้มื้อกลางวันที่โรงแรมไม่ได้


เที่ยววันที่สี่

หลังทานมื้อเช้าที่โรงแรมเสร็จก็เรียกแท็กซี่ไป Pink Mosque (ค่า taxi 80 บาท) ค่าเข้า Pink Mosque คนละ 150 บาท การมาที่ Pink Mosque นี้ควรมาช่วง 8.00 -10.00 น. เพราะจะเป็นช่วงที่แสงอาทิตย์ฉายมาโดนกระจกสี ทำให้ภายในตัวอาคารกลายเป็นสีแสงหลากสีสวยสดงดงามมาก

ถ่ายภาพข้างในจนพอใจ แล้วเดินออกมาถ่ายข้างนอกบ้าง

กำลังจะออกก็เห็นกลุ่มนักเรียนเดินเข้ามา ก็เลยอยู่ถ่ายภาพต่อ

เดินออกมาพบลุงกับป้าเลยบันทึกภาพไว้

ผ่านร้านขาย Flatbread ด้วย

ออกจาก Pink Mosque เรียกแท็กซี่ไป Eram Garden (ค่าแท็กซี่ 200 บาท) ภาพถ่ายระหว่างทาง

ค่าเข้าสวนคนละ 200 บาท (เข้าใจว่าคนอิหร่านเสียค่าเข้าถูกกว่านี้มาก) Eram Garden เป็นสวนขนาดใหญ่ที่คนอิหร่านมักมาพักผ่อนหย่อนใจกัน ถ้ามาฤดูใบไม้ผลิคงจะสวยงามกว่าช่วงนี้มาก

หนุ่มๆ สาวๆ ตั้งวงคุยกัน

ได้รูปนกมาฝากด้วย

ตัวนี้น่าจะเป็นอีกามากกว่า มีเยอะมาก และไม่กลัวคนด้วย

หลังจากเดินชมสวนกันจนพอใจผมแวะเข้าไปซื้อไอศครีมอิหร่านกิน ลักษณะเหนียวๆ หวานๆ เหมือนไอศครีมตรุกี ถ้วยใหญ่ราคา 200 บาท ถือมาให้ลูกและภรรยาชิม ลูกๆ บอกว่าพ่อน่าจะถูกต้ม (โกง) เพราะไม่อร่อยเลยและราคาก็ไม่น่าจะแพงขนาดนั้น

ออกจากสวนเรียกแท็กซี่กลับโรงแรม (ค่าแท็กซี่ 100 บาท) ทานกลางวันกันที่โรงแรม ยังติดใจเนื้อแกะมื้อเที่ยงเมื่อวาน ทานเสร็จออกไปเดินเที่ยว Arg of Karim Khan ป้อมปราการของข่านในสมัยก่อน

เดินผ่าน Vakil Mosque และ Vakil Bath แล้วเดินเข้าไปในตลาด Vakil Bazaar

มองหาร้าน Saraye Mehr Restaurant ตามที่หนังสือ Lonely Planet แนะนำ แวะกินมื้อเย็นกันที่นั่น รสชาติก็ธรรมดาๆ และเป็นร้านแรกที่ไม่ค่อยประทับใจกับการบริการเลย

ติดตามอ่านตอนต่อไปได้ที่ https://ppantip.com/topic/37060680