จะทำยังไงให้คนในครอบครัวเข้าใจเราแล้วฟังเราอย่างจริงจังบ้างค่ะ? (ระบาย)

*คำเตือนก่อนอ่าน เรื่องนี้เป็นการระบายเรื่องส่วนตัวและครอบครัวของเราค่ะ เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ใครเชื่อไม่เชื่อแต่อ่านจบขอให้ความแนะนำกับเราด้วยนะคะ ผิดพลาดในการพิมตรงไหนบอกได้ค่ะ *
**ตอนพิมมีน้ำตาไหลเลยตาลายนิดหน่อย

อย่างข้อความเบื้องต้นถาม

เราตอนนนี้อายุ 17 ซึ่งเรารอเวลานี้มานาน เราก็มีความคิดที่อยากจะพูดคุยกับพ่อแม่เรื่องของตัวเองอย่างจริงจังค่ะ แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่อง เรียน หรือ อนาคต แต่ซึ่งเป็นเรื่องตัวเรา และอารมณ์ของเราค่ะ

ที่จริงเวลาเราอยู่ข้างนอกเราจะแสเสร้งยิ้มแล้วทำตัวเองให้ร่าเริง ไม่หงุดหงิดง่าย ไม่ค่อยแสดงอารมณ์โกธรให้ใครเห็น ใครว่าพูดบ่นด่าอะไรเราก็จะแค่เดินผ่านหรือปล่อยไป แต่พอเราอยู่ที่บ้านเราจะปล่อยอารมณ์โกธรออกมาด้วยการทุบโต๊ะทุบของทุบของแข็งๆที่ไม่พังง่ายๆ ตบหน้าตัวเองบาง ข่วนแขนตัวเองบาง (ทำลายข้าวของไม่ค่อยจะทำเท่าไร) บางครั้งพ่อแม่ก็ได้ยิน พี่ก็ได้ยิน ก็เลยคิดว่าเราเก็บกด ซึ่งใช่ เราเก็บกดมาก มีครั้งนึงที่เราดูนักแคสเกมส์เวลาว่างๆ
เรายิ้มแล้วหัวเราะออกมา พ่อมาบอกว่า "ยิ้มอะไร?" เราเลยตอบว่า "หนูดูยูทูลอยู่ แล้วไม่ให้หนูยิ้มเหรอ?" พ่อเลยตอบว่า "ใช่ ห้ามยิ้ม" เราเลยหลายเป็นคนไม่ยิ้มในบ้านทันทีค่ะ อีกครั้งนึง พ่อบอกห้ามมองหน้าเขา ไม่รู้ทำไม เราก็ไม่มอง เหมือนเราจะทำตามที่คนอื่นสั่งทันที่(ไม่รู้ทำไม ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกัน 55555)
พ่อเราเป็นคนที่เวลาโกธรเราจะชอบขว้างของที่มีอยู่รอบตัวอย่างใดอย่างหนึ่ง(ซึ่งต้องเป็นของแข็ง)ใส่เรา ซึ่งตอนนี้มีเราโดนคนเดียวค่ะ(เราเป็นน้องคนเล็กสุด(มีพี่ 2 คน)
ในชีวิตตลอด 17 ปีที่ผ่านมา(ขอรวมตอนนี้ด้วย พึงโดนสดๆ 5555) เราโดนมาประมาณ 3-4 ครั้ง พร้อมพูด บ่น เตือน?? ถามว่าเจ็บมั้ย เจ็บค่ะ แต่ที่เจ็บมากกว่าคือ สภาพจิดใจกับหัวใจรักที่มีแต่พ่อแม่มากกว่า ตอนนี้เราเริ่มหมดรักพ่อแม่ลงเรื่อยๆแล้วค่ะ...
เราว่าเราคงหลายเป็นคนบาปแล้วตกนรกแน่ๆ หนูขอโทษ...

ที่เราเริ่มหมดรักพ่อแม่ลงนั้น คงจะเป็นเรื่องตอนเด็กๆค่ะ

ตอนเด็กๆประมาณตอน ป.4-5 พ่อแม่เราทะเลาะกันค่ะ หนักมาก... เรื่องพ่อมีกิ๊กค่ะ แม่เราเสียใจมากแต่ก็อยู่ด้วยกัน ทะเลาะกันทุกวัน แล้วก็ทำร้ายร่างกายกันด้วยค่ะ พ่อขว้างของใส่แม่จนเลือดออก เราจำวันนั้นได้ดี มีวันหนึ่งเขาทะเลาะกันจนถึงในห้องนอนเรากับพี่สาวพี่ชาย(นอนด้วยกัน) จนเลือดแม่เลอะติดหมอนเรา (และทุกๆวันนี้ ทำให้เราชอบสีแดงออกดำๆ เหมือนเลือดๆมากเลยค่ะ)
พอตอน ป.6-ม.1,2 แม่ก็เริ่มมีอะไรแปลกๆ เรารู้สึกได้ พอวันหนึ่ง ครูที่อบรมโรงเรียนตอนเราอยู่ประถม บอกให้เรา(คนทั้งโรงเรียน)ลองไปกราบเท้าแม่ดูสักครั้งแล้วบอกรักแม่ ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสาของเด็กประถมตอนเย็นแม่เราจะออกจากบ้านไปบ้านใครก็ไม่รุ้ เราเลยขอกราบเท้าแม่ พร้อมกัน ขอโทษแม่ในเรื่องที่ผ่านๆมา แล้วบอกรักแม่ แม่เราก็บอกว่า แม่ก็รักเรา แล้วกอดเรา เราคิดว่ากอดของแม่ตอนนั้นอบอุ่นมากเลยค่ะ อบอุ่นที่สุดในชีวิต... และมันจะไม่มีความอบอุ่นให้เราอีกต่อไป ไม่ว่าจะกอดกี่ครั้ง มันไม่เหมือนมันเหมือนกอดครั้งที่แล้วมันเป็นกอดแสเสร้ง กอดที่แข็งไม่อบอุ่น เราเลยเกลียดการกอดและการให้ความรักของครอบครัวของเราที่สุด...
อีกวันพ่อกลับมาทำหน้าตาตื่น เรางงเพราะเล่นเฟสอยู่ พ่อบอกให้เราเข้าเฟสแม่ เราก็เข้าให้(เรารู้รหัสของแม่คนเดียวค่ะ) ชวนผู้หญิงอีกคน ซึ่งคนนั้นเป็นหมอ ไม่ใช่หมอธรรมดา เป็น หมอที่เกี่ยวกับความเชื่อเรื่องคุณไสย ตอนนั้นเรายังเด็กเราเลยไม่รู้อะไร พอเขาบอกถึงรู้ค่ะ ว่าแม่เรา
" โดนเสน่ห์ยาแฝด "
***เรื่องนี้ขอไม่บอกรายละเอียดต่อนะคะ เป็นเรื่องส่วนตัวค่อนข้างมากและเกี่ยวกับความเชื่อค่ะ***

พอทุกอย่างจบลงได้ แต่ทุกอย่างเริ่มมันแย่ลงเรื่อยๆพอขึ้นม.3 เราก็เริ่มค่อยๆเสเสร้งตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องอารมณ์ของตัวเอง ไม่หลงเชื่อใครง่ายๆ
เริ่มยิ้มบ่อยขึ้นเพราะรู้ว่าตัวเองถ้าโกธรใครมากๆแล้วจะเป็นเหมือนพ่อ ที่ทั้งเสียงดังและปาของใส่คนที่เราโกธร ที่เราเริ่มเก็บอารมณ์ เพราะพ่อแม่ทะเลาะกันทุกวัน มีเรื่องอะไรก็ทะเลาะกันได้หมด ทำร้ายร่างกายกันบางก็มี แม่เมื่อก่อนไม่เคยตะคอกใส่คนในครอบครัว ไม่ใจร้อน ไม่เอาแต่ใจ กลับเป็นอย่างที่พูด
แม่ตะคอกใส่เราบ่อยมาก ทุกๆเช้าถ้าไม่ได้ดุเราด่าเรา เราคงไม่ได้ไปโรงเรียน...
ด่าหนูสิ ดุหนุสิ ทำร้ายจิตใจ ให้เด็กเลวๆคนนี้ตายทั้งเป็น อมยิ้ม04
ผ่านมาจนเราขึ้นม.5
พ่อแม่เราก็ยังทะเลาะกันทุกวันเหมือนเดิม เบื่อแล้ว ตอนเช้าเราก็จะสะดุดทุกครั้งเพราะพ่อแม่ทะเลาะกันตอนเช้า
(ลืมบอกไป พ่อแม่เราเวลาพูดจะเสียงดังมากเหมือนพูดด้วยไมค์ที่ต่อกับลำโพงเลยค่ะ) ทุกๆครั้งที่เราทำอะไรเกิดเสียงดังๆแม่เราก็จะตะคอกใส่เราตลอดค่ะ

" ทำอะไรเสียงดัง!! ไม่พอใจอะไร! ยัง! ยังจะเถียงอีก! "ร้องไห้ฉันยังไม่พูดอะไรเลย ฟังที่ฉันอธิบายหน่อย!!!)
" พ่อให้ท้ายมันไง มันเลยนิสัยอย่างนี้!!" (ที่นิสัยอย่างนี้เพราะฉันเลียนแบบคุณ)
" มีอะไรก็บอกมาตรงๆ!! " (บอกก็หาว่าเถียงสิ จะบอกให้เสียเวลาทำไม)


จนในตอนนี้นิสัยของเราความรู้สึกการรับรู้ของเราเหมือนจะไม่ค่อยรู้สึกอะไรแล้วค่ะ เหมือนชีวิตที่ใช้เวลาให้ผ่านๆไปวันๆ สิ่งที่เคยทำแล้วสนุก เช่น วาดรูป เล่นเกม
คุยกับเพื่อนในแชทและคุยกับคนข้างนอก สะสมตุ๊กตา ฟังเพลง ร้องเพลง ทำอาหาร ชวนพ่อแม่คุยอย่างสนุกสนาน มันไม่มีเลย เราไม่รับรู้ความสนุกได้จากสิ่งพวกนี้ได้เลย ทุกอย่างมันตายด้าน การแสดงความรักของพ่อแม่มันเหมือนกับว่ามันเป็นการเสเสร้งในความรู้สึกเรา พวกพี่ๆก็เรียนจบก็ทำงานกันหมดแล้วเหลือเรา ที่เป็นที่พึ่งของพ่อแม่ เราอยู่คนเดียวในบ้านเมื่อก่อนมันน่ากลัวมากเลยค่ะ ตอนนี้เรากลับเฉยๆ เราควรกลัวการอยู่คนเดียว แต่ตอนนี้ในทุกๆวัน เรากับพบว่า
การอยู่คนเดียวมันดีที่สุดแล้วสำหรับเรา การที่ได้อยู่คนเดียวทำให้ได้ทำอะไรได้อย่างอิสระ ไม่มีใครด่า ไม่รู้ว่าใครกล่าวถึง ไม่มีใครคอยจ้องจับผิด ไม่จำเป็นต้องเสร้งยิ้ม ไม่มีใครให้ความรักปลอมๆให้เรา ยิ้มปลอมๆ เรื่องปลอมๆที่เขาพูดกันไปมา ไม่ต้องเสียใจ ไม่ต้องเสียน้ำตา ไม่ต้องทำร้ายตัวเองเวลาโกธร เพราะไม่มีใครทำให้โกธร ไม่ต้องมาปวดหัวจนอยากจะอาเจียน ไม่ต้องแสดงออกให้หัวใจเต้นแรงจนน่ารำคาณ พูดคนเดียวแล้วตัวเองสามารถตอบเองได้ ไม่มีใครมาพูดตัด ไม่มีใครหาว่าเถียง อยู่ในห้องนี้คนเดียว มีความสุขในห้องของเรา ได้อยู่... ตัวคนเดียว ... .

ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ

ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่