การเลย์ออฟพนักงานสายไอทีที่แรงที่สุดประจำปี 2017

แม้อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ จะมีแนวโน้มดีขึ้นตามนโยบายของท่านประธานาธิบดีผู้น่าเกรงขาม แต่วงการไอทีก็ยังประสบเคราะห์กรรมครั้งใหญ่โดยเฉพาะกระแสเชิญพนักงานออกในปี 2560 ที่มาแรงจนฝุ่นตลบ ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ใหญ่อย่าง Oracle หรือ Microsoft หรือแม้แต่บริษัทอินดี้ที่มีประวัติหอมหวานยาวนานอย่าง Etsy


ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงของความต้องการในตลาด หรือก็คือ ใครปรับตัวช้ากว่าแพ้ ทั้งนี้ CIO.com ได้รวบรวมการเลย์ออฟขององค์กรไอทีที่ควรเป็นอุทาหรณ์สอนใจในปีนี้ ดังต่อไปนี้

•   ไมโครซอฟท์
จากข่าวลือในช่วงต้นปีว่าบริษัทมีแผนจะเลย์ออฟหลายพันคน โดยเฉพาะแผนกเซลล์ทั้งหลาย ด้วยเหตุผลที่ต้องการเบนเข็มเป้าหมายทางการตลาดมาเน้นแพลตฟอร์มบนคลาวด์อย่าง Azure แทน ซึ่งในที่สุดเมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา ก็มีคำสั่งฟ้าผ่าเชิญพนักงานออกจากออฟฟิศรวมกว่า 3,000 – 5,000 คน แม้จะคิดเป็นแค่ 10% ของกำลังคนบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่คนที่โดนแจ๊กพ็อตส่วนใหญ่กลับเป็นพนักงานนอกสหรัฐฯ ถือว่าทำตามนโยบายนำสหรัฐฯ กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งได้เป็นอย่างดี (เหรอ)

•   Etsy
บริษัทที่ภาพลักษณ์ดูดีเป็นมิตรกับชาวเย็บปักถักร้อยทั่วโลก กลับเจอปัญหาหนักตั้งแต่ตอนประกาศเข้าตลาดหุ้นเมื่อสองปีที่ผ่านมา จนต้องประกาศเชิญพนักงานออกถึง 22 เปอร์เซ็นต์ ที่นับเป็นการตัดคนออกที่รุนแรงมากสำหรับบริษัทขนาดเล็กเลยทีเดียว

•   Oracle
แม้ภาพรวมจะดูเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่กำไรได้อย่างต่อเนื่อง แต่คงไม่ใช่กับแบรนด์ Sun Microsystems ที่ตัวเองไปซื้อมาตั้งแต่ 7 ปีที่แล้ว ที่ระบบปฏิบัติการอย่าง Solaris และไมโครโปรเซสเซอร์ SPARC ก็เสื่อมความนิยมไปกว่า 7 ปีแล้วเช่นกัน ดังนั้นเมื่อกันยายนที่ผ่านมาจึงมีการเลย์ออฟพนักงานส่วนนี้ไปถึง 2,500 ตำแหน่ง ด้วยการแจ้งผ่านโทรศัพท์อัตโนมัติที่ดูน่าเกลียดมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นการแจ้งเลย์ออฟพนักงานมาในประวัติศาสตร์

•   SoundCloud
บริการอัพเพลงขึ้นคลาวด์สำหรับคออินดี้ทั้งหลาย เริ่มมีอาการช็อตเงินอย่างรวดเร็ว จนเมื่อมิถุนายนได้เลย์ออฟพนักงานมากถึง 40 เปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้งเดินสายหาแหล่งเงินทุนมาโปะเพิ่มเติมจนสายตัวแทบขาด

•   Seagate
ทุกอย่างเป็นสมการ ที่ฮาร์ดไดรฟ์ส่วนใหญ่ขายพ่วงไปกับแลปท็อป เมื่อยอดขายแล็ปท็อปลดลง รวมไปถึงการเปลี่ยนมาใช้แฟลชเมโมรี่แทน จึงเริ่มเห็นสัญญาณด้วยการเลย์ออฟพนักงาน 155 คนในมินิโซต้า และตามมาด้วยการเชิญพนักงานออกอีกกว่า 600 ตำแหน่งเมื่อกลางปี ซึ่งรวมถึงซีอีโอ Steve Lusco ด้วย

•   AOL/Yahoo!
หลังเข้าซบอก Verizon จากการสูญเสียตำแหน่งเจ้าตลาดอินเทอร์เน็ตเมื่ออดีตอันไกลโพ้น เมื่อมิถุนายนที่ผ่านมาจึงมีการเลย์ออฟพนักงานกว่า 2,100 คน คิดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

•   Citrix Systems
ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์เวอร์ช่วลเดสก์ท็อปที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ก็ถึงเวลาที่ต้องเบนเข็มมาเน้นผลิตภัณฑ์ด้าน SaaS และคลาวด์คอมพิวติงตามกระแส ซึ่งจำเป็นต้องยุบกลุ่มธุรกิจที่ได้กำไรน้อยลงตามลำดับ อันเป็นที่มาของการประกาศเลย์ออฟพนักงานทั้งในสำนักงานใหญ่ที่ Ft. Lauderdale และที่สำนักงาน Raleigh, NC แม้จะไม่ออกมาเปิดเผยตัวเลขที่แน่นอน แต่ก็เชื่อว่าหนักหน่วงพอสมควรเมื่อดูจากการลดพื้นที่สำนักงานควบคู่กันไปด้วย

•   IBM
จากองค์กรที่ไม่ค่อยได้เห็นการเชิญพนักงานเข้าแถวออกจากตึกเท่าไรนั้น กลับไม่พ้นกระแสเลย์ออฟอันหนักหน่วงในปีนี้ โดยมีนาคมที่ผ่านมาได้เริ่มแจกซองขาวให้พนักงานเก่าแก่ที่กินเงินเดือนสูงๆ ออกไปตามสไตล์ไทยๆ ซึ่งไอบีเอ็มแจ้งว่าเป็นการเลย์ออฟพนักงานในส่วนของ Research Triangle Park ในนอร์ธแคโรไลนา แม้จะไม่ได้ชี้แจงตัวเลขพนักงานที่โดนหางเลขชัดเจน ต่อมาเมื่อพฤษภาคมก็มีการเลย์ออฟแบบอ้อมๆ ด้วยการประกาศให้พนักงานที่เคยอนุญาตให้ทำงานนอกสำนักงานอย่างยืดหยุ่นสะดวกสบายตามสไตล์โมบิลิตี้นั้น กลับเข้ามาประจำในออฟฟิศที่กำหนด หรือไม่งั้นก็กรุณาไปหางานสบายที่อื่นแทน ซึ่งคาดการณ์ว่านโยบายนี้จะสามารถจูงใจให้พนักงานที่รับการเปลี่ยนแปลงกะทันหันนี้ไม่ได้ออกจากไอบีเอ็มมากถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของกำลังคนทั้งหมดเลยทีเดียว

•   Hewlett-Packard Enterprise
ยังคงยึดหลักการเดิมตั้งแต่สมัย HP ที่แน่วแน่เทขายส่วนธุรกิจเก่าแก่หมดอายุอย่างพีซีและเครื่องพิมพ์ เพื่อหันมาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีองค์กรระดับไฮเอนด์แทน โดยล่าสุดเมื่อกันยายนที่ผ่านมา HPE ประกาศเลย์ออฟพนักงานกว่า 5,000 คน คิดเป็น 10% ของพนักงานในองค์กรทั้งหมด

ปล. ยังมีอีก 2-3 บริษัทที่มีการเลย์ออฟเหมือนกันแต่อาจจะไม่ได้สายไอทีตรงๆ เช่น BoA, Wallmart ฯลฯ แต่ถ้าสนใจสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ – https://www.cio.com/article/3234568/it-industry/techs-worst-layoffs-2017.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่