แบล็คเบอร์รี่ เตรียมปลดพนักงานออก 40% หลังผลประกอบการยังย่ำแย่ สู้คู่แข่ง แอปเปิล-ซัมซุง ไม่ได้
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2556 เว็บไซต์อีโคโนมิค ไทมส์ รายงานว่า แบล็คเบอร์รี ลิมิเต็ด บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อดังสัญชาติแคนาดา เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่ยอดขายสินค้าของบริษัทยังคงไม่เป็นไปตามเป้า และไม่สามารถแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของคู่แข่งอย่าง แอปเปิล อิงค์ และซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ได้เลย
รายงานระบุว่า การปลดพนักงานออกเกือบครึ่งหนึ่งจากจำนวนพนักงานของแบล็คเบอร์รีที่มีอยู่ในเวลานี้ 12,700 คน ก็เพื่อปรับโครงสร้างองค์กรและลดค่าใช้จ่ายภายในเพื่อความอยู่รอด โดยทางด้านโฆษกแบล็คเบอร์รีกล่าวว่า การปลดพนักงานครั้งนี้จะเหลือแต่พนักงานที่มีความเหมาะสม และเป็นคนที่ใช่จริง ๆ เท่านั้นไว้ในองค์กร
ทั้งนี้ แบล็คเบอร์รีเหลือส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนในสหรัฐฯ เพียงแค่ 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นและยังมีแนวโน้มลดลงอีกด้วย ทั้งที่เมื่อปี 2011 ส่วนแบ่งการตลาดของแบล็คเบอร์รีในสหรัฐฯยังอยู่ที่ 14 เปอร์เซ็นต์ และแม้ว่าก่อนหน้านี้บริษัทยังได้พิจารณาขายกิจการทั้งหมดให้กับนักลงทุนที่สนใจเพื่อความอยู่รอดของบริษัทมาแล้วเช่นกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://hilight.kapook.com/view/91343
แบล็คเบอร์รี่ เตรียมปลดพนักงานออก 40% หลังกิจการยังย่ำแย่
แบล็คเบอร์รี่ เตรียมปลดพนักงานออก 40% หลังผลประกอบการยังย่ำแย่ สู้คู่แข่ง แอปเปิล-ซัมซุง ไม่ได้
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2556 เว็บไซต์อีโคโนมิค ไทมส์ รายงานว่า แบล็คเบอร์รี ลิมิเต็ด บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อดังสัญชาติแคนาดา เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่ยอดขายสินค้าของบริษัทยังคงไม่เป็นไปตามเป้า และไม่สามารถแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของคู่แข่งอย่าง แอปเปิล อิงค์ และซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ได้เลย
รายงานระบุว่า การปลดพนักงานออกเกือบครึ่งหนึ่งจากจำนวนพนักงานของแบล็คเบอร์รีที่มีอยู่ในเวลานี้ 12,700 คน ก็เพื่อปรับโครงสร้างองค์กรและลดค่าใช้จ่ายภายในเพื่อความอยู่รอด โดยทางด้านโฆษกแบล็คเบอร์รีกล่าวว่า การปลดพนักงานครั้งนี้จะเหลือแต่พนักงานที่มีความเหมาะสม และเป็นคนที่ใช่จริง ๆ เท่านั้นไว้ในองค์กร
ทั้งนี้ แบล็คเบอร์รีเหลือส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนในสหรัฐฯ เพียงแค่ 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นและยังมีแนวโน้มลดลงอีกด้วย ทั้งที่เมื่อปี 2011 ส่วนแบ่งการตลาดของแบล็คเบอร์รีในสหรัฐฯยังอยู่ที่ 14 เปอร์เซ็นต์ และแม้ว่าก่อนหน้านี้บริษัทยังได้พิจารณาขายกิจการทั้งหมดให้กับนักลงทุนที่สนใจเพื่อความอยู่รอดของบริษัทมาแล้วเช่นกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้