คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 69
ขอขอบคุณทุกๆความเห็นมากค่ะ ดิฉันประทับใจกับการแสดงความคิดเห็นและซึ้งในความกรุณาให้คำแนะนำจากทุกคนมาก ล้วนเป็นแนวคิดดีๆที่ทำให้ฉันได้ฉุกคิดอะไรได้หลายอย่าง กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของฉัน และเป็นการสมัครใช้งานเป็นครั้งแรก จากที่เคยได้อ่านเรื่องของคนอื่นบ้าง บางครั้งยังเคยคิดนะคะว่าบางกระทู้ได้เจอปัญหาความรักที่จิ๊บจ๊อยมากก็เอามาถามกัน แค่นี้คิดไม่ได้หรอ อะไรประมานนี้ค่ะ ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้วันที่ตัวเองมีความกังวล ลังเลจนจัดการปัญหาไม่ได้ จนต้องเอามาตั้งกระทู้ซึ่งคิดว่าเป็นการระบายอีกทางนึง เพราะไม่สามารถที่จะโพสลงในเฟสไลน์ไอจีได้ และคิดว่าเป็นการระบายอีกทางหนึ่ง ซึ่งไม่ได้คาดคิดเลยจริงๆว่าจะมีคนมาให้ความสนใจขนาดนี้ เกือบทุกคนเม้นด้วยความสุภาพมากๆ ให้ข้อคิดดีมาก จนฉันได้ย้อนกลับไปอ่านคำถามที่ตัวเองตั้งไว้ แล้วบอกกับตัวเองว่า “คำถามไม่ได้ยากเลยแค่นี้ก็คิดไม่ได้น้อ555
***************************************************
และขอชี้แจงเพิ่มเติมอีกนิดนึงนะคะ ไม่ได้จะแก้ตัวแทนแฟน แต่เป็นเพราะไม่ได้เล่าทุกรายละเอียดตั้งแต่ตอนแรก เดี๋ยวคนรอบข้างเข้าอมาอ่านจะหาว่าเราเข้าข้างตัวเอแล้วโบ๊ยความิดให้ผู้ชาย.
คือว่า...ตอนนี้แยกกันอยู่สักพักแล้วค่ะ ฉันย้ายมาอยู่บ้านพ่อแม่เพื่อสะดวกในการทำงาน เวลาที่เขามาหาพ่อแม่ก็ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ค่ะ ที่เราไปไหนมาไหนด้วยกัน ไปเที่ยวต่างจังหวัดสองต่อสองอะไรทำนองนี้ พ่อแม่เลยอยากให้แต่งงานเป็นเรื่องเป็นราวค่ะ อีกทั้งตัวแฟนเองก็อยากจะแต่งค่ะจะได้ช่วยกันทำมาหากินและจะเพื่อไม่ให้ฉันคิดมากเวลาที่อยู่ไกลกัน ในสายตาฉันนั้นเขาก็ดีระดับนึง ใส่ใจ และจากการสังเกตที่คนอื่นๆมาเล่ามาปรึกษาเรื่องแฟน เมื่อเปรียบเทียบดูแล้วปัญหาเกี่ยวกับแฟนฉันนั้นดูเล็กลงไปเลยค่ะ มันเลยทำให้ฉันพอที่หักลบกลบล้างปมในช่วงที่คบกันแรกๆได้ จนมาเจอปัญหาเรื่องแต่งงานค่ะ ทั้งพ่อแม่เร่ง เพราะทราบว่าคบกันหลายปีแล้ว อีกทั้งตัวเขาเองยังไม่มีวี่แววว่าจะมีเงินเก็บ จนเขาได้เอ่ยปากให้เรากู้ ซึ่งเรื่องนี้มันทำให้ลังเลใจ ต้องพิจารณาในตัวเค้าใหม่ จะไปต่อก็เหนื่อยใจ จะขอเลิกก็กลัวจะเป็นคนเห็นแก่ตัว ที่ได้ดีแล้วทิ้งกัน คือคนรอบข้างเรา(ยกเว้นครอบและญาติมิตร)รู้ๆกันค่ะว่าเขาดูแลฉันดี ตั้งแต่คบกันเขาไม่เคยออกไปเที่ยวกลางคืนอีกเลย ทั้งๆที่เมื่อก่อนขอบเที่ยว เขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เขามีความคิดที่จะสร้างตัวตั้งแต่เริ่มคบกัน ดูได้จากเลิกเที่ยวเลิกเมา ตั้งใจใช้หนี้สิน(ที่ตัวเองไม่ได้สร้าง) หารายได้เพิ่มเติมเพื่อมีเงินพาฉันได้เที่ยวบ้าง พาไปกินนู่นนั่นนี่บ้างจากเมื่อก่อนที่เขาแทบตะเอาตัวไม่รอด และพ่อแม่พูดคุยเรื่องแต่งงานมาสักหนึ่งปีแล้ว แต่เงินเก็บยังคงเป็นศูนย์อยู่เลย มันเลยนอยด์ค่ะตอนนี้ ณ ตอนนี้ฉันคิดอย่างไร ตอบเลยว่ายังไม่อยากแต่งแล้ว ในการตั้งกระทู้ครั้งนี้ฉันได้เหตุผลมากพอที่จะสนับสนุนความคิดของตัวเองที่คิดจะไม่กู้เงินเพื่อมาแต่งงาน ฉันจะเวลากับพ่อแม่เพื่อไปพิสูจน์เขา ถึงแม้พ่อแม่จะยื่นข้อเสนอว่าให้ห่างกับเขาก่อนถ้ายังไม่แต่ง ฉันก็จะยอมรับค่ะ ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำแนะนำ
***************************************************
และขอชี้แจงเพิ่มเติมอีกนิดนึงนะคะ ไม่ได้จะแก้ตัวแทนแฟน แต่เป็นเพราะไม่ได้เล่าทุกรายละเอียดตั้งแต่ตอนแรก เดี๋ยวคนรอบข้างเข้าอมาอ่านจะหาว่าเราเข้าข้างตัวเอแล้วโบ๊ยความิดให้ผู้ชาย.
คือว่า...ตอนนี้แยกกันอยู่สักพักแล้วค่ะ ฉันย้ายมาอยู่บ้านพ่อแม่เพื่อสะดวกในการทำงาน เวลาที่เขามาหาพ่อแม่ก็ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ค่ะ ที่เราไปไหนมาไหนด้วยกัน ไปเที่ยวต่างจังหวัดสองต่อสองอะไรทำนองนี้ พ่อแม่เลยอยากให้แต่งงานเป็นเรื่องเป็นราวค่ะ อีกทั้งตัวแฟนเองก็อยากจะแต่งค่ะจะได้ช่วยกันทำมาหากินและจะเพื่อไม่ให้ฉันคิดมากเวลาที่อยู่ไกลกัน ในสายตาฉันนั้นเขาก็ดีระดับนึง ใส่ใจ และจากการสังเกตที่คนอื่นๆมาเล่ามาปรึกษาเรื่องแฟน เมื่อเปรียบเทียบดูแล้วปัญหาเกี่ยวกับแฟนฉันนั้นดูเล็กลงไปเลยค่ะ มันเลยทำให้ฉันพอที่หักลบกลบล้างปมในช่วงที่คบกันแรกๆได้ จนมาเจอปัญหาเรื่องแต่งงานค่ะ ทั้งพ่อแม่เร่ง เพราะทราบว่าคบกันหลายปีแล้ว อีกทั้งตัวเขาเองยังไม่มีวี่แววว่าจะมีเงินเก็บ จนเขาได้เอ่ยปากให้เรากู้ ซึ่งเรื่องนี้มันทำให้ลังเลใจ ต้องพิจารณาในตัวเค้าใหม่ จะไปต่อก็เหนื่อยใจ จะขอเลิกก็กลัวจะเป็นคนเห็นแก่ตัว ที่ได้ดีแล้วทิ้งกัน คือคนรอบข้างเรา(ยกเว้นครอบและญาติมิตร)รู้ๆกันค่ะว่าเขาดูแลฉันดี ตั้งแต่คบกันเขาไม่เคยออกไปเที่ยวกลางคืนอีกเลย ทั้งๆที่เมื่อก่อนขอบเที่ยว เขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เขามีความคิดที่จะสร้างตัวตั้งแต่เริ่มคบกัน ดูได้จากเลิกเที่ยวเลิกเมา ตั้งใจใช้หนี้สิน(ที่ตัวเองไม่ได้สร้าง) หารายได้เพิ่มเติมเพื่อมีเงินพาฉันได้เที่ยวบ้าง พาไปกินนู่นนั่นนี่บ้างจากเมื่อก่อนที่เขาแทบตะเอาตัวไม่รอด และพ่อแม่พูดคุยเรื่องแต่งงานมาสักหนึ่งปีแล้ว แต่เงินเก็บยังคงเป็นศูนย์อยู่เลย มันเลยนอยด์ค่ะตอนนี้ ณ ตอนนี้ฉันคิดอย่างไร ตอบเลยว่ายังไม่อยากแต่งแล้ว ในการตั้งกระทู้ครั้งนี้ฉันได้เหตุผลมากพอที่จะสนับสนุนความคิดของตัวเองที่คิดจะไม่กู้เงินเพื่อมาแต่งงาน ฉันจะเวลากับพ่อแม่เพื่อไปพิสูจน์เขา ถึงแม้พ่อแม่จะยื่นข้อเสนอว่าให้ห่างกับเขาก่อนถ้ายังไม่แต่ง ฉันก็จะยอมรับค่ะ ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำแนะนำ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
แฟนอายุ 32 รายได้สองหมื่น มีภาระหนี้สิน จนเงินเดือนแทบไม่เหลือ
แล้วเขาจะเอาจากไหนมาช่วยใช้หนี้ค่ะจัดงานแต่งงานล่ะคะ ?
เขาเจ้าชู้ ... ยังสนุกกับชีวิตโสด
หากคุณอยากแต่ง เขาบอกว่า ไปกู้มาสิ เขาจะยอมแต่งด้วย และสัญญาลมๆแล้งๆว่าจะช่วยใช้หนี้ !!!
เขาไม่ง้อ .. ขู่จะเลิกบ่อยครั้ง !!!
เอ่อ... ฟังยังไง ก็เหมือนคุณเป็นฝ่ายรักเขามากกว่าค่ะ
ฉะนั้น ...
ถ้าอยากได้คนนี้มาเป็นสามีจริงๆ ก็ทำใจไว้เลยว่า
_คุณจะต้องใช้หนี้ค่าจัดงานแต่งคนเดียว ในอนาคตจะได้ไม่ทะเลาะกันเรื่องนี้
_เขาจะหลีไปเรื่อยๆ ความสุขของเขา แต่อาจจะไม่ถึงขั้นนอกกาย คุณจะหลับตาข้างหนึ่งได้ไหม แต่งแล้วจะได้ไม่ทะเลาะกันเรื่องเดิมๆ
_คุณจะพึ่งพาอะไรจากสภาพการเงินของเขาไม่ได้เลย เพราะทั้งหนี้เก่าหนี้ใหม่ และความไม่มีวินัยทางการเงินของเขา
_คุณต้องยอมรับตั้งแต่วันนี้ ว่าคุณรักเขา มากกว่าที่เขารักคุณ
ถ้าคุณทำใจได้ หักกลบลบล้าง แล้วยังมองว่าเขามีค่าคู่ควรจะเป็นสามี
ก็ขอให้คุณโชคดี และมีพิธีแต่งงานที่ถูกใจที่สุดนะคะ
แล้วเขาจะเอาจากไหนมาช่วยใช้หนี้ค่ะจัดงานแต่งงานล่ะคะ ?
เขาเจ้าชู้ ... ยังสนุกกับชีวิตโสด
หากคุณอยากแต่ง เขาบอกว่า ไปกู้มาสิ เขาจะยอมแต่งด้วย และสัญญาลมๆแล้งๆว่าจะช่วยใช้หนี้ !!!
เขาไม่ง้อ .. ขู่จะเลิกบ่อยครั้ง !!!
เอ่อ... ฟังยังไง ก็เหมือนคุณเป็นฝ่ายรักเขามากกว่าค่ะ
ฉะนั้น ...
ถ้าอยากได้คนนี้มาเป็นสามีจริงๆ ก็ทำใจไว้เลยว่า
_คุณจะต้องใช้หนี้ค่าจัดงานแต่งคนเดียว ในอนาคตจะได้ไม่ทะเลาะกันเรื่องนี้
_เขาจะหลีไปเรื่อยๆ ความสุขของเขา แต่อาจจะไม่ถึงขั้นนอกกาย คุณจะหลับตาข้างหนึ่งได้ไหม แต่งแล้วจะได้ไม่ทะเลาะกันเรื่องเดิมๆ
_คุณจะพึ่งพาอะไรจากสภาพการเงินของเขาไม่ได้เลย เพราะทั้งหนี้เก่าหนี้ใหม่ และความไม่มีวินัยทางการเงินของเขา
_คุณต้องยอมรับตั้งแต่วันนี้ ว่าคุณรักเขา มากกว่าที่เขารักคุณ
ถ้าคุณทำใจได้ หักกลบลบล้าง แล้วยังมองว่าเขามีค่าคู่ควรจะเป็นสามี
ก็ขอให้คุณโชคดี และมีพิธีแต่งงานที่ถูกใจที่สุดนะคะ
ความคิดเห็นที่ 7
อ่านๆดู....
ดูแลดี (ยังไง แค่ไหน ?? ถ้าคุณชอบกินแค่ข้าวแกง เค้าหาข้าวแกงให้กิน นั่นก็ถือว่าดูแลดี)
ตามใจ (เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง??)
ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
แล้วไม่เห็นมีอะไรดีเลยนี่ครับ !!
คือ ความแย่ที่บอกมามันกลบข้อดีแค่ 2 ข้อนั่นหมดเลย
และข้อดีนั่นจะหมดเอาง่ายมากๆ
เทียบกับข้อเสียที่คงอยู่ได้อีกยาววววนานนนน
ถึงขนาดจะต้องเป็นหนี้เพื่อแต่งงาน
แล้ว...ไม่ยอมเป็นเองด้วย !!!
คุณต้องลงทุนซื้อสามีขนาดนั้นเลยเหรอครับ ??
ตรงนี้ขอโทษนะครับที่พูดตรงๆ
ไม่น่า....คุณมีดีมากกว่านี้น่าาาา
จะทำยังไง อยู่ที่คุณจะเดินตรงต่อไป หรือจะเลี้ยว
คุณมองเห็นและรู้วิธีเดินทั้ง 2 เส้นทางแล้ว
....เลือกเอาครับ
แต่.....เอาอะไรที่อยู่ในตาคุณออกก่อนนะครับ
ดูแลดี (ยังไง แค่ไหน ?? ถ้าคุณชอบกินแค่ข้าวแกง เค้าหาข้าวแกงให้กิน นั่นก็ถือว่าดูแลดี)
ตามใจ (เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง??)
ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
แล้วไม่เห็นมีอะไรดีเลยนี่ครับ !!
คือ ความแย่ที่บอกมามันกลบข้อดีแค่ 2 ข้อนั่นหมดเลย
และข้อดีนั่นจะหมดเอาง่ายมากๆ
เทียบกับข้อเสียที่คงอยู่ได้อีกยาววววนานนนน
ถึงขนาดจะต้องเป็นหนี้เพื่อแต่งงาน
แล้ว...ไม่ยอมเป็นเองด้วย !!!
คุณต้องลงทุนซื้อสามีขนาดนั้นเลยเหรอครับ ??
ตรงนี้ขอโทษนะครับที่พูดตรงๆ
ไม่น่า....คุณมีดีมากกว่านี้น่าาาา
จะทำยังไง อยู่ที่คุณจะเดินตรงต่อไป หรือจะเลี้ยว
คุณมองเห็นและรู้วิธีเดินทั้ง 2 เส้นทางแล้ว
....เลือกเอาครับ
แต่.....เอาอะไรที่อยู่ในตาคุณออกก่อนนะครับ
แสดงความคิดเห็น
อยากแต่งงานค่ะ แต่แฟนไม่มีเงิน เลยให้ดิฉันไปกู้เงิน เพื่อมาเป็นค่าสินสอด ควรทำอย่างไรดีคะ
ดิฉัน อายุ 26 ปี ทำงานรับราชการ ส่วนแฟนอายุมากกว่าฉัน 6ปี ทำงานเป็นลูกจ้างมีสวัสดิการประกันสังคม หมื่นนิดๆและรับงานฟรีแลนซ์เพิ่ม เฉลี่ยแล้วตกเดือนประมาณสองหมื่น แต่เขามีภาระทางหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบ จนเงินเดือนที่เป็นงานประจำแทบไม่เหลือ เราคบกันมาเกือบห้าปี. เขาเป็นคนค่อนข้างใช้ได้ ไม่ดื่ม ไม่สูบบุหรี่ ขยันทำงาน ก่อนที่จะคบกับดิฉันเขาน่าจะเจ้าชู้ พอตัว คุยเยอะ ม่อไปเรื่อย จนมาคบกันก็ยังมีบ้างที่ทำให้ดิฉันต้องปวดใจ เพราะเขายังมีแอบคุยกับคนเก่าอยู่ๆ ซึ่งเขาบอกว่าเป็นเพื่อน เป็นน้องที่รู้จัก แค่คุยกันทางออนไลน์เฉยๆค่ะ ในโลกออนไลน์เขาทำตัวเหมือนโสด เราทะเลาะกันเรื่องพวกนี้บ่อยมาก ดิฉันรู้ว่าเรืองพวกนี้เป็นเรื่องงี่เง่า แต่มันอดน้อยใจไม่ได้ กลัวว่าเขาจะมีคนอื่น. (เราอยู่ด้วยมาปีนึงแล้วค่ะ) จนเราขอเลิกเพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรมที่ดูไม่ให้เกียรตินี้. แต่สุดท้ายก็กลับมาคืนดีกันโดยเขารับปากจะปรับตัว ซึ่งมันก็ดีขึ้น แต่มีมาบ้างที่ทำให้เราหึงหวง แต่ดิฉันก็พยายามปรับที่ตัวเองด้วยไม่ให้คิดมากเกินไป เมือคบกันมาถึงปีนี้เราอยากแต่งงานกันเพื่อจะได้ไม่ต้องแอบอยู่ด้วยกัน. (ทางบ้านไม่เห็นด้วยกับการอยู่ก่อนแต่งเลยต้องแอบคบ) แต่มันติดตรงที่ว่าเขาไม่เงินเก็บเลย ไม่มีเครดิตในการกู้อะไรทั้งนั้น จนเขาบอกให้ดิฉันเป็นคนกู้เพื่อมาแต่งงานกันแล้วช่วยกันใช้หนี้ ดิฉันก็มีบ้างที่คิดน้อยใจในเรื่องนี้ แต่ก็เพราะรักมาก อยากมีครอบครัว อยากมีเขาเป็นสามี เพราะเขามีหลายสิ่งหลายอย่างอยู่เหมือนกันที่ทำให้ฉันประทับใจ เขาดูแลดี ตามใจ แต่เขาเป็นตนใจร้อนทะเลาะกันบ่อย นิดหน่อย จะขอเลิก. ไม่เคยง้อ เหมือนฉันไม่มีค่า อยู่ด้วยกันได้เพราะฉันดีกับเขาเฉยๆรึป่าว แต่ไม่รู้ว่าเขารักฉันมากขนาดไหน ดูจากเงินเดือนที่ได้รับแต่ละเดือนก็น่าจะเก็บได้ แต่เขาไม่เก็บ เขาเลือกที่ใช้กับกับเรื่องไร้สาระ (ซึ่งเราก็เป็น) เขามองว่ายังไงก็ไม่มีเงินก้อนแน่นอน เพราะเขาหาเงินคนเดียวส่งเสียทางบ้านนิดหน่อย ดูเหมือนเขาไม่ทุ่มเทเพื่อที่จะให้ได้แต่งงานกัน แค่ถ้าฉันอยากแต่งก็ต้องกู้มา. เขาเลือกอะไรไม่ได้ ดิฉันรู้สึกลังเลค่ะตอนนี้ ว่าเขาจะเห็นคุณค่าพอที่จะ รักษาฉันไว้ไหม ฉันกลัวว่าวันข้างหน้าเขาจะไปจากฉันง่ายๆ ปล่อยให้เราใช้หนี้คนเดียว เพื่อนๆคิดว่าฉันควรจัดการเรื่องนี้อย่างไรดีคะ
ปล. ฉันถ่ายทอดเรื่องราวอาจจะไม่เก่ง ไม่รู้เรื่อง แต่การได้พิมมาครั้งนี้ก็เป็นการระบายที่ดี ขอบคุณพันพทปมากค่ะ ที่พื้นที่ในการเล่าเรื่องราว