ทำไมคนที่กินเหล้ากินเบียร์ถึงต้องบังคับให้คนที่ไม่กิน ลองกินดูครับ

ตามประสบการณ์ที่ผมเจอมากับตัว คนกินเหล้ากินเบียร์ 80% ที่เจอ จะต้องพยายามพูดแกมบังคับให้คนที่ไม่กิน ได้ลองกินดู

อยากรู้ว่าทำไมหรือครับ
ส่วนตัวผมก็โดนมาแล้ว ผมไม่ชอบกินเบียร์เพราะมันไม่อร่อย ผมให้เหตุผลไปแบบนี้ แล้วเขาก็เอาเบียร์ยี่ห้อแพงๆมาบังคับให้ลองชิมบอกว่า มันไม่เหมือนกัน

คือทำไมต้องบังคับ ทำไมต้องดึงคนที่ไม่กินให้กิน เขาคิดอะไรอยู่ ผมอยากทำความเข้าใจมากเลยครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
เคยเห็นอะไรแบบนี้ในชีวิตจริงมาพอสมควร หรือ เคยอ่านในพันทิป หรือ เคยมีคนเล่าให้ฟัง

การกระทำแบบนี้ถือเป็นการบุลลี่ชนิดหนึ่ง เป็นการบังคับกดขี่ข่มเหงชนิดหนึ่ง

ซึ่งเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติในสังคมกลุ่ม หรือ สังคมที่คนไม่มั่นใจในตัวเอง
หรือ สังคมที่คนชอบแสดงอำนาจชั่วคราว


คนที่ชอบโชว์พาว มักจะทำอะไรแบบนี้

ส่วนการที่เอายี่ห้อแพงๆ มาให้ลองกิน แล้วบอกว่าไม่เหมือนกัน สามารถคิดได้ 2 แง่

1. อยากให้ดื่มด้วยกัน เพราะเขาหาเพื่อนดื่ม

หรือ

2. ต้องการอวดว่าตนเองมีรสนิยม มีเงิน

แต่หลักๆ คือ การบุลลี่ การบังคับ ควบคุม เพราะพื้นฐานสังคมคือสังคมที่กดขี่ข่มเหง โดยเริ่มตั้งแต่ในครอบครัว ในหมู่เครือญาติ ในสถานศึกษา
ในที่ทำงาน กดขี่ข่มเหงกันเป็นทอดๆ

คนที่มีลักษณะตามที่กล่าวมานี้ ส่วนใหญ่เท่าที่เคยเจอมา มักจะยังมีระบบความคิดที่ยึดถือระบบชนเผ่า เชื่อมั่นระบบอุปถัมภ์
ยึดมั่นระบบอาวุโส ระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง ระบบหัวหน้าลูกน้องเจ้านาย และ มีความอนุรักษ์นิยมสูงมาก มีความคิดในการการแบ่งแยกอายุชัดเจน
แบ่งเพศชัดเจน เช่น ผู้ชายต้องเป็นแบบนึง ผู้หญิงต้องเป็นแบบนึง มีแนวโน้มไม่เคารพเพศที่อ่อนแอกว่า ไม่เคารพคนที่อายุน้อยกว่า
ความคิดเผด็จการ ถูกเลี้ยงดูแบบเข้มงวด-กดขี่ อีคิวไม่สูง (แต่สามารถมีไอคิวสูงได้ เรียนจบสูงได้ ตำแหน่งหน้าที่การงานสูงได้
สถานะภาพทางสังคมสูงได้)


และอีกอย่างหนึ่งคือ คนที่มีความเชื่อ หรือ มาจากสังคม แนวๆ ที่กล่าวมา มักจะแยกไม่ออกระหว่างเรื่องส่วนตัว และ เรื่องงานด้วย


แล้วนอกจากนี้ เรามีความคิดเห็นด้วยว่า คนไทยบางส่วน ติดกับดักของประโยคที่ว่า "ดื่ม(กิน)เหล้า เข้าสังคม"
พอได้ยินเข้าไป เขาเหล่านั้น อาจจะมีอาการเหมือนถูกสะกดจิตหมู่ก็เป็นได้ เพราะเขากลัวที่จะถูกโดดเดี่ยวจากสังคมกลุ่ม
สังคมอุปถัมภ์ ที่คอนเน็คชั่นเป็นเรื่องสำคัญมากนั่นเอง


และ อีกอย่าง คนไทยบางส่วน เวลาทำงาน ไม่ดูคนที่ความสามารถ ไม่ดูที่ผลงาน ไม่ดูที่ความทุ่มเทเอาใจใส่ต่องาน
แต่คนบางส่วน เวลาทำงาน ใช้ระบบความสนิทสนมส่วนตัว ระบบเลือกที่รักมักที่ชัง มีการเล่นการเมืองในที่ทำงานสูง
ต้องมีพวก ต้องมีการเลี้ยงคนเลี้ยงลูกน้อง ต้องหาคนสนับสนุน ต้องตั้งแก๊งค์นอกเวลางาน
ใช้ความสนิทสนมส่วนตัวเอามาปนกับเรื่องงาน ปรึกษางานกันส่วนตัวนอกเวลางาน หาเรื่องเลื่อยขาเก้าอี้
หาเรื่องแทงคนอื่นข้างหลังที่นอกเวลางาน



อันนี้ตอบเท่าที่เคยเจอมา เผอิญชอบศึกษาสังเกตวัฒนธรรมต่างๆ และ คนในวัฒนธรรมต่างๆ
เพราะมันเกี่ยวข้องกัน และ เป็นตัวสะท้อนระบบความคิดของคน ของสภาพสังคม ของ ปท ต่างๆ นั่นเอง

(หากสนใจอยากอ่านกระทู้อื่นๆ ในหลายๆ เรื่อง ที่เราเคยตอบไว้ในพันทิป
สามารถจิ้มคลิ๊กไปที่หมายเลขสมาชิกของเราได้เลย)


ดีแล้วที่คุณปฏิเสธ เพราะแสดงถึงว่า คุณเคารพตนเอง คุณสามารถบอกความชอบ ความไม่ชอบ สามารถบอกความต้องการของตนเองได้
คำถามของคุณ และ ข้อสงสัยของคุณ เป็นคำถามที่ดีมาก แสดงถึงว่า คุณเป็นคนที่มีความคิด ไม่ปล่อยให้ผู้อื่นมาควบคุม หรือ มาโน้มน้าวได้ง่ายๆ
ดีมาก 👍🏻




_________________________



//มาคุยต่อ.......เพราะเห็นคุณนักสืบจิ๋ว มาตอบ คห 41 ที่ข้างล่าง

คุณนักสืบจิ๋วเล่าว่า " ถ้าจะเข้าสังคมหรือสังสรรค์ ผมจะเลือกเครื่องดื่มอย่างอื่นครับ ก็มีความสุขและเข้าสังคมได้ โดยไม่แปลกแยกครับ "

เราจึงขอแชร์ให้ฟังว่า เราเป็นคนที่ไม่ดื่มเหล้า ไม่ดื่มแอลกอฮอร์ทุกชนิด ค็อกเทลที่ผสมแอลกอฮอร์เราก็ไม่ดื่ม น้ำอัดลมก็ไม่ดื่ม
น้ำผลไม้จากขวดจากกล่องก็ไม่ดื่ม

บุหรี่ก็ไม่สูบ ยาเสพย์ติดไม่คิดลอง

เหตุผล คือ ไม่ชอบ และ เพราะเป็นคนที่ชอบออกกำลังกาย ชอบดูแลสุภาพของตนเอง ชอบกินอาหาร+ชอบดื่มเครื่องดื่ม ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

แต่.....แต่เราเป็นคนที่ถ้าต้องเข้าสังคมก็เข้าได้ โดยที่ไม่ต้องดื่มเหล้า

สมัยที่อายุน้อยๆ เราเที่ยวกลางคืนเก่งมาก เที่ยวแทบทุกคืน เที่ยวยันเช้าเลยด้วย (แต่สังคมที่เราเที่ยว เป็นสังคมนานาชาติ
ที่คนไม่ต้องดื่มอะไรเหมือนกัน ไม่ต้องไปพร้อมกัน ไม่ต้องกลับพร้อมกัน)

แต่เวลาเที่ยวกลางคืนเราดื่มน้ำผลไม้ ดื่มน้ำเปล่า

สมัยนี้ก็ยังมีออกไปสังสรรค์อยู่บ้าง แต่นานๆ ที เพราะเคยเที่ยวมาจนเกินพอแล้ว
เวลาออกไปสังสรรค์ คือ ใครอยากดื่มอะไรก็ดื่มไป จะสูบอะไรก็เรื่องของคุณ

ส่วนเราดื่ม น้ำเปล่า น้ำแร่ น้ำผลไม้ฮะ

แต่ส่วนใหญ่เรากับเพื่อน เน้นไปที่ดีๆ ไปนั่งฟังเพลงแจ๊ซ ไปนั่งคุยกันซะมากกว่า

และ สังคมที่เราอยู่ ไม่มีใครมาบังคับใคร ทุกคนเคารพซึ่งกันและกัน (แต่เราอยู่ในสังคมนานาชาติ
ไม่ใช่สังคมไทย 100% ล้วนๆ เราเกิด และ โตในไทยนี่แหละ ไม่ได้เรียนอินเตอร์ด้วย แต่เราไม่ปล่อยให้ระบบกลืนกินเรา )


สิ่งที่เราจะสื่อคือ คนเรา ต้องมีจุดยืน ต้องเคารพตนเอง ต้องรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ไม่ต้องการอะไร
ต้องสามารถเอ่ยคำตอบรับ หรือ เอ่ยคำปฏิเสธได้ โดยที่ไม่ต้องทำอย่างก้าวร้าว แต่ทำอย่างสุภาพ หนักแน่น
แค่นั้นเอง แล้วคือถ้าบังเอิญอยู่ในสังคมที่คนเคารพกัน ก็จะไม่มีใครมาบังคับกัน

แล้วถ้าตัวเราแสดงถึงการเคารพตนเอง คนอื่นก็จะไม่กล้ามาล้ำเส้น ไม่กล้ามาบุลลี่

บางคนที่ถูกบุลลี่ เพราะบุคลิกให้ การแสดงออกให้ จึงตกเป็นเหยื่อในการบุลลี่ของคนอ่อนแอที่ต้องการโชว์พาวนั่นเอง

สังคมจะมีคุณภาพได้ ประเทศจะพัฒนาได้ ทุกคนต้องรู้จักเคารพให้เกียรติตนเองก่อน จากนั้นเคารพผู้อื่น ให้เกียรติผู้อื่นอย่างมีเหตุผล
สังคมถึงจะอยู่ได้ ชาติจึงจะพัฒนาได้ไปในทิศทางที่ดีมีเหตุมีผลได้

ต้องใช้สติคิด ใช้สมองคิด ไม่ใช่ใช้อารมณ์ ไม่ใช่ใช้การแสดงอำนาจ ไม่ใช่ใช้การควบคุมกันอย่างไม่มีเหตุผล  
เพราะการกระทำในทางลบในแบบเช่นที่กล่าวมานี้ในบางข้อ ผลลัพภ์ก็คือ เราจะได้สังคมของชาติที่กำลังพัฒนาแบบที่เรามีกันอยู่นี่แหละ
ที่ไม่พัฒนาสักทีนึงไงแต่ "กำลังพัฒนา" เท่านั้น ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีกี่ปี ก็ยังพัฒนากันไม่เสร็จสักที



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่