เชื่อว่าหลายคนที่เคยไปประเทศญี่ปุ่นน่าจะเคยมีความคิดอยากจะ
“พิชิตภูเขาไฟฟูจิ” กันดูซักครั้งบ้าง แต่ในใจลึกๆก็อาจจะกังวลเกี่ยวกับความลำบากของตัวเองที่จะต้องปีนป่ายเดินขึ้นเขาไปเพื่อให้ถึงยอด บางคนอาจสงสัยว่าจะมันลำบากมากไหม ร่างกายเราจะฟิตพอปีนไหวหรือเปล่า
ตัวผมเองก็เคยมีคำถามในใจแบบนี้เช่นเดียวกัน วันนี้เลยอยากจะเขียนบทความบอกเล่าประสบการณ์ที่ครั้งหนึ่งผมเคยได้พิชิตยอดภูเขาไฟแห่งนี้ เผื่อเป็นข้อมูลสำหรับใครหลายๆคนที่มีความสนใจ อยากลองหาประสบการณ์ชีวิตที่แปลกใหม่สำหรับการผจญภัยท่องเที่ยวญี่ปุ่นไปในครั้งหน้าครับ
"เริ่มต้นดี มีชัย ไปกว่าครึ่ง"
ก่อนจะไปปีนเขา เรามารู้จัก
"ภูเขาไฟฟูจิ" กันสักเล็กน้อยก่อนดีกว่า...
ภูเขาไฟฟูจิ หรือ ฟูจิซัง (Mt.Fuji) ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดชิสุโอกะ และยามานาชิ ด้วยความสูงถึง 3,776 เมตร หรือ 12,388 ฟุต จากระดับน้ำทะเล ทำให้ภูเขาไฟแห่งนี้ได้สถิติว่าเป็น
"ภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น" ความยิ่งใหญ่ อลังการ ตระการตา และความงามอันทรงเสน่ห์ ทำให้ภูเขาไฟแห่งนี้สร้างแรงบันดาลใจแก่ชาวญี่ปุ่นมาตลอดหลายช่วงศตวรรษ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ.2013 ที่ผ่านมา องค์การ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้ภูเขาไฟแห่งนี้เป็น "มรดกโลกด้านวัฒนธรรม"
ฟูจิแบ่งออกเป็นทั้งหมด 10 ชั้น จุดเริ่มต้นการปีนเขาจะอยู่ที่ชั้น 5 (ระดับความสูง 2,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล) แล้วค่อยๆเดินไต่ระดับความชันไปเรื่อยๆจนถึงยอดที่ชั้น 10 (ความสูง 3,776 เมตร )
บุคคลทั่วไปสามารถมาพิชิตยอดเขาฟูจิ ได้ในช่วงต้นเดือนกรกฏาคม-ปลายสิงหาคมของทุกปี ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่อากาศบนยอดเขาไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 4-5 องศาเซลเซียส หิมะบนยอดเขาละลายจนหมด เราจึงสามารถพบเห็นนักท่องเที่ยวจากหลายสารทิศทั่วทุกมุมโลกเป็นจำนวนมากต่างหลั่งไหลกันมา โดยทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือ "เพื่อพิชิตยอดเขาแห่งนี้"
ฟูจิมีเส้นทางการปีนเขาอยู่ทั้งหมด 4 เส้น คือ Yoshida Trail, Subashiri Trail, Gotemba Trail และ Fujinomiya Trail แต่เส้นทางที่เป็นที่นิยม สะดวก ปลอดภัย และเดินได้ง่ายที่สุด คือ
"เส้นทางปีนเขาโยชิดะ (Yoshida Trail)" ระยะทางเดินรวมทั้งหมดประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินรวมกันประมาณ 6-8 ชั่วโมง มีจุดเริ่มต้นการทางที่เมืองคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi)
เส้นทางการปีนเขา Yoshida Trail
สามารถศึกษาเส้นทางการปีนเขาทั้งหมดอย่างละเอียดที่ :
http://www.fujisan-climb.jp/en/trails/index.html
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รู้หรือไม่? : ภูเขาไฟฟูจิทีดูเงียบสงบอย่างเราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้นั้น แท้ที่แล้วยังไม่ได้ดับสนิท! ด้านในของภูเขาไฟที่ชั้นใต้ผิวเปลือกโลกนั้น ยังคงมีหินร้อนหนืดหรือแม็กม่าไหลเวียนวน และสามารถปะทุขึ้นมาเป็นลาวาได้อยู่ มีข้อมูลพบว่าภูเขาไฟฟูจิระเบิดและพ่นลาวาออกมาครั้งล่าสุดในช่วงยุคสมัยเอโดะ (ค.ศ.1707) ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์จัดหมวดหมู่ของภูเขาไฟแห่งนี้ให้เป็นภูเขาไฟที่มีโอกาสเกิดการปะทุต่ำ
ก่อนออกเดินทางผมมีความกังวลเรื่องการปีนเขาอยู่พอสมควร เนื่องจากไม่เคยมีประสบการณ์และทักษะการปีนเขามาก่อนเลยในชีวิต กำลังกายก็ไม่ค่อยได้ออก แถมยังไม่มีอุปกรณ์อะไรสักอย่าง หลังจากที่ใช้เวลาศึกษาข้อมูลในอินเตอร์เนตอยู่นาน สุดท้ายแล้วก็สามารถวางแผนการเดินทางดังนี้ครับ
มาดูแพลนการปีนฟูจิในอุดมคิตของผมกันก่อนดีกว่า...
7 August 2017
7.45 - 10.20 น. Bus From Shinjuku to Mt. 5th Station*
10.30 - 11.30 น. รับชุดเช่าที่ FUJISAN MIHARASHI
12.00 - 18.00 น. Climb Mt.Fuji (Yoshida Trail)
Stay at Mt.Fuji 8th Station : Hon-Hachigome-TOMOEKAN (本八合目トモエ館)*
8 August 2017
2.00 น. Depart from Hon-Hachigome-TOMOEKAN
4.00 น. Top of Mt.Fuji
5.00 น. Sunrise and Sigthseeing Around area
7:00 น. ฺBack to Hon-Hachigome-TOMOEKAN (Hotel Include Breakfast)
8:00 น. Depart from Hon-Hachigome-TOMOEKAN
11.00 - 13.00 น. Fuji 5th station (rest, lunch and return goods at FUJISAN MIHARASHI)
13:25-14.10 น. Fuji 5th station to Kawaguchiko Station
Check in at <a href="
http://walkwhereworld.com/2017/09/18/cabin-lounge-highland-station-inn/" target="_blank"> CABIN & LOUNGE HIGHLAND STATION INN* </a>
17:00 - 21.00 น. Onsen at Fujiyama Onsen
หมายเหตุ : * ต้องจองล่วงหน้า
วางแพลนเสร็จแล้วต่อมาก็ถึงขั้นการเตรียมตัวครับ
มาดูกันเลยครับว่า ก่อนจะปีนฟูจิต้องเตรียมตัวอะไรกันบ้าง...
สิ่งที่ต้องเตรียมจากเมืองไทย
1. เลือกวันเวลาที่จะเดินทาง : ควรศึกษาพยากรณ์อากาศล่วงหน้า โดยดูจากเว็บไซต์พยากรณ์อากาศต่างๆ หลีกเลี่ยงวันเดินทางที่อาจมีฝนตก และหลีกเลี่ยงการขึ้นเขาในวันหยุด โดยเฉพาะวันที่ 11 สิงหาคม ซึ่งเป็น "วันแห่งภูเขา (Mountain Day)" วันหยุดราชการของญี่ปุ่นที่สนับสนุนให้คนออกมาปีนเขาครับ (แน่นอนว่าภูเขาที่ว่าก็คือฟูจิเนี่ยแหละ)
2. จองรถบัส : ผมเลือกจองรถบัสจากเมืองไทยไปก่อนครับ โดยเลือกเส้นทางที่วิ่งตรงจากชินจูกุ - ภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทาง ราคารถเที่ยวละประมาณ 2,700 เยน ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 35 นาที
จองรถบัสได้ที่ :
https://highway-buses.jp/thai/ (ภาษาไทย)
3. เลือกโรงแรมที่พักระหว่างทางบนภูเขา : มีคำแนะนำจากคนรู้จักชาวญี่ปุ่นให้จองที่พักที่ภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 8 เนื่องจากเมื่อเดินขึ้นมาจากจุดเริ่มต้นตอนเที่ยงจะถึงจุดนี้เวลาประมาณหกโมงเย็นพอดี ใช้เวลาอีกไม่นานก็จะเดินขึ้นถึงยอด (หรอ?) จากที่จุดนี้จะเป็นจุดที่ขาลงเราสามารถเดินวกลงมาเจอที่พักเพื่อทานอาหารเช้าได้ด้วย ผมเลือกจองโรงแรมชื่อ Hon-Hachigome-TOMOEKAN (本八合目トモエ館) ครับ (ที่พักในชั้นอื่นๆ ไม่มีทางเดินขาลงที่วกไปถึง ดังนั้นจะต้องรีบตื่นเช้ากว่าตีสอง และเดินค่อนข้างเหนื่อย เพื่อปีนขึ้นไปให้ถึงยอดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น แถมไม่สามารถแวะรับประทานอาหารเช้าได้)
จองโรงแรม :
https://tomoekan.com/ (ภาษาญี่ปุ่น)
จองโรงแรมอื่นๆ :
https://www.fujimountainguides.com/mountain-hut-reservations.html (ภาษาอังกฤษ)
4. เตรียมชุดปีนเขา : เนื่องจากผมไม่เคยปีนเขามาก่อน จึงไม่มีอุปกรณ์อะไรเกี่ยวกับการปีนเขาทั้งสิ้น หลังจากที่หาข้อมูลทำให้ผมทราบว่า ในญี่ปุ่นมีร้านสำหรับเช่าชุดปีนภูเขาไฟฟูจิอยู่หลายร้าน ผมเลือกจองของบริษัท Lamont ซึ่งข้อดีของบริษัทนี้คือ ชุดและรองเท้าสามารถเลือกสีได้ สามารถจองล่วงหน้าแล้วจ่ายเงินผ่าน paypal แล้วค่อยรับสินค้าวันที่จะปีน ณ ร้านค้าบนฟูจิชั้น 5 ก็ได้ แถมที่นั่นยังมีบริการห้องนั่งพักให้เปลี่ยนชุดฟรีอีกด้วย (แต่ไม่ใช่ห้องแต่งตัวนะเป็นแค่ห้องห้องโล่งๆให้พักผ่อนใส่ๆถอดๆอะไรได้นิดหน่อยเฉยๆ) แถมหลังจากปีนแล้วสามารถคืนชุดเช่าได้เลยที่จุดรับชุดที่รับมา ไม่ต้องขนลงไปให้เหนื่อย)
เว็บไซต์จองชุดร้าน Lamont :
https://lamont.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
เว็บไซต์จองชุดร้าน Kobeoutdoors :
https://mtfujirental.com/ (ภาษาอังกฤษ)
อุปกรณ์ที่อยากแนะนำให้เตรียมพร้อมก่อนการปีนภูเขาไฟฟูจิ
- เสื้อและกางเกงกันลม (ถ้ากันฝนเปียกได้ด้วยจะดีมาก)
- รองเท้าปีนเขา (แนะนำเป็นรองเท้าที่หุ้มข้อครับ ไม่แนะนำรองเท้าผ้าใบธรรมดา เพราะอาจปวดขามากๆได้)
- ถุงมือ (แนะนำเอาที่แบบจับหินแล้วไม่ลื่นครับ)
- Tracking Pole (ไม้ค้ำยันพื้นระหว่างปีนเขา)
- ถุงกันกรวดเข้ารองเท้า
- กระเป๋าเป้สะพายสำหรับเดินเขา (หรือแบบผ่อนแรง)
- ไฟฉายแบบสวมคาดหัว
- หมวกกันแดด
- เสื้อลองจอน
- ออกซิเจนกระป๋อง
- เจลเพิ่มพลังงาน (แนะนำ 3-4 ถุง)
- เครื่องดื่มเพิ่มพลังงาน เช่น เกลือแร่ 1 ขวดลิตร
- กล้องถ่ายรูปและ Power Bank
- เงิน (สำคัญมาก)
เตรียมการทุกอย่างล่วงหน้าเสร็จแล้วก็ได้เวลาเดินทางกันแล้วครับ...
"A journey of a thousand miles must begin with a single step.” - Lao Tzu
การเดินทางนับพันไมล์เริ่มต้นได้จากก้าวเล็กๆ เพียงหนึ่งก้าว
7 August 2017
เริ่มต้นการเดินทางด้วยการเดินทางไปขึ้นรถบัสที่ Shinjuku Expressway Bus Terminal (Busta Shinjuku) สถานีรถโดยสารแห่งใหม่ล่าสุดของชินจูกุ เปิดให้บริการทดแทนของเดิมเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ.2016 ที่ผ่านมา อาคารตั้งอยู่ตรงข้ามทางออก South Exit ของสถานีรถไฟ JR Shinjuku ครับ
Busta Shinjuku
เมื่อเจอตึกแล้วให้ข้ามถนนเดินขึ้นบันไดเลื่อนจากทางเท้าขึ้นมาที่ชั้น 4 ได้เลย
เดินข้ามทางม้าลายอันนี้
บันไดเลื่อนขึ้นชานชาลารถบัส
ที่ชั้นสี่จะเป็นจุดจำหน่ายตั๋วเดินทางโดยรถบัส สำหรับใครที่ไม่ได้จองตั๋วมาล่วงหน้าสามารถซื้อตั๋วรถบัสได้จากที่นี่ครับ บรรยากาศภายในเป็นตามรูปเลย
นั่งรอได้สักพักก็ถึงเวลาที่รถมาครับ
ก่อนขึ้นรถต้องแสดงใบจองหรือตั๋วกับคนขับเสียก่อน
ขึ้นมาสำรวจบนรถกันเลยดีกว่าครับว่า... บนรถบัสด่วนวิ่งตรงเส้นทาง ชินจูกุ – ภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 (Shinjuku – Mt.Fuji 5th Station) เที่ยวเวลา 7.45 น. คันนี้จะมีอะไรอยู่ด้านในบ้าง...
บรรยากาศที่นั่งบนรถ
ด้านหน้าที่นั่งมีช่องใส่ของและเอกสารความปลอดภัยอยู่
มีฟรี Wifi บริการบนรถด้วยครับ
หลังจากที่คนขึ้นครบหมด ก็ได้เวลาออกเดินทางครับ
รถบัสกำลังออกแล้ว...
บรรยากาศระหว่างทาง
ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 35 นาที ก่อนจะถึงเราจะได้ยินเสียงเพลงพร้อมเสียงประกาศบนรถว่าป้ายต่อไปที่จะถึงคือ “ภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5”
จอที่หน้ารถมีข้อความเด้งขึ้นมาพร้อมเสียงประกาศ
มาถึงแล้วครับ…
ร้านค้าบนภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5
มาเดินสำรวจบรรยากาศแถวนี้กันหน่อยดีกว่า…
ที่จุดนี้จะมีร้านค้าอยู่เป็นจำนวนมาก มีทั้งศาลเจ้า Komitake ร้านขายของฝาก ร้านอาหาร ร้านอุปกรณ์ปีนเขา และมีห้องน้ำให้ใช้บริการ (เสียเงินครั้งละ 200 เยน) อยากจะบอกว่าจริงๆตรงจุดนี้มีห้องน้ำฟรีอยู่ด้วย ให้เดินลงมาเข้าห้องน้ำตรงลานจอดรถครับ
ป้ายบอกวันที่ อีกมุมหนึ่งที่นักท่องเที่ยว (โดยเฉพาะชาวจีน) นิยมมาถ่ายรูปด้วย
[CR] [รีวิว] ประสบการณ์ “ปีนภูเขาไฟฟูจิ” ครั้งนั้น…ฉันไม่ลืม
เชื่อว่าหลายคนที่เคยไปประเทศญี่ปุ่นน่าจะเคยมีความคิดอยากจะ “พิชิตภูเขาไฟฟูจิ” กันดูซักครั้งบ้าง แต่ในใจลึกๆก็อาจจะกังวลเกี่ยวกับความลำบากของตัวเองที่จะต้องปีนป่ายเดินขึ้นเขาไปเพื่อให้ถึงยอด บางคนอาจสงสัยว่าจะมันลำบากมากไหม ร่างกายเราจะฟิตพอปีนไหวหรือเปล่า
ตัวผมเองก็เคยมีคำถามในใจแบบนี้เช่นเดียวกัน วันนี้เลยอยากจะเขียนบทความบอกเล่าประสบการณ์ที่ครั้งหนึ่งผมเคยได้พิชิตยอดภูเขาไฟแห่งนี้ เผื่อเป็นข้อมูลสำหรับใครหลายๆคนที่มีความสนใจ อยากลองหาประสบการณ์ชีวิตที่แปลกใหม่สำหรับการผจญภัยท่องเที่ยวญี่ปุ่นไปในครั้งหน้าครับ
ก่อนจะไปปีนเขา เรามารู้จัก "ภูเขาไฟฟูจิ" กันสักเล็กน้อยก่อนดีกว่า... ภูเขาไฟฟูจิ หรือ ฟูจิซัง (Mt.Fuji) ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดชิสุโอกะ และยามานาชิ ด้วยความสูงถึง 3,776 เมตร หรือ 12,388 ฟุต จากระดับน้ำทะเล ทำให้ภูเขาไฟแห่งนี้ได้สถิติว่าเป็น "ภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น" ความยิ่งใหญ่ อลังการ ตระการตา และความงามอันทรงเสน่ห์ ทำให้ภูเขาไฟแห่งนี้สร้างแรงบันดาลใจแก่ชาวญี่ปุ่นมาตลอดหลายช่วงศตวรรษ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ.2013 ที่ผ่านมา องค์การ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้ภูเขาไฟแห่งนี้เป็น "มรดกโลกด้านวัฒนธรรม"
ฟูจิแบ่งออกเป็นทั้งหมด 10 ชั้น จุดเริ่มต้นการปีนเขาจะอยู่ที่ชั้น 5 (ระดับความสูง 2,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล) แล้วค่อยๆเดินไต่ระดับความชันไปเรื่อยๆจนถึงยอดที่ชั้น 10 (ความสูง 3,776 เมตร )
บุคคลทั่วไปสามารถมาพิชิตยอดเขาฟูจิ ได้ในช่วงต้นเดือนกรกฏาคม-ปลายสิงหาคมของทุกปี ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่อากาศบนยอดเขาไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 4-5 องศาเซลเซียส หิมะบนยอดเขาละลายจนหมด เราจึงสามารถพบเห็นนักท่องเที่ยวจากหลายสารทิศทั่วทุกมุมโลกเป็นจำนวนมากต่างหลั่งไหลกันมา โดยทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือ "เพื่อพิชิตยอดเขาแห่งนี้"
ฟูจิมีเส้นทางการปีนเขาอยู่ทั้งหมด 4 เส้น คือ Yoshida Trail, Subashiri Trail, Gotemba Trail และ Fujinomiya Trail แต่เส้นทางที่เป็นที่นิยม สะดวก ปลอดภัย และเดินได้ง่ายที่สุด คือ "เส้นทางปีนเขาโยชิดะ (Yoshida Trail)" ระยะทางเดินรวมทั้งหมดประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินรวมกันประมาณ 6-8 ชั่วโมง มีจุดเริ่มต้นการทางที่เมืองคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi)
เส้นทางการปีนเขา Yoshida Trail
สามารถศึกษาเส้นทางการปีนเขาทั้งหมดอย่างละเอียดที่ : http://www.fujisan-climb.jp/en/trails/index.html
ก่อนออกเดินทางผมมีความกังวลเรื่องการปีนเขาอยู่พอสมควร เนื่องจากไม่เคยมีประสบการณ์และทักษะการปีนเขามาก่อนเลยในชีวิต กำลังกายก็ไม่ค่อยได้ออก แถมยังไม่มีอุปกรณ์อะไรสักอย่าง หลังจากที่ใช้เวลาศึกษาข้อมูลในอินเตอร์เนตอยู่นาน สุดท้ายแล้วก็สามารถวางแผนการเดินทางดังนี้ครับ
มาดูแพลนการปีนฟูจิในอุดมคิตของผมกันก่อนดีกว่า...
7 August 2017
7.45 - 10.20 น. Bus From Shinjuku to Mt. 5th Station*
10.30 - 11.30 น. รับชุดเช่าที่ FUJISAN MIHARASHI
12.00 - 18.00 น. Climb Mt.Fuji (Yoshida Trail)
Stay at Mt.Fuji 8th Station : Hon-Hachigome-TOMOEKAN (本八合目トモエ館)*
8 August 2017
2.00 น. Depart from Hon-Hachigome-TOMOEKAN
4.00 น. Top of Mt.Fuji
5.00 น. Sunrise and Sigthseeing Around area
7:00 น. ฺBack to Hon-Hachigome-TOMOEKAN (Hotel Include Breakfast)
8:00 น. Depart from Hon-Hachigome-TOMOEKAN
11.00 - 13.00 น. Fuji 5th station (rest, lunch and return goods at FUJISAN MIHARASHI)
13:25-14.10 น. Fuji 5th station to Kawaguchiko Station
Check in at <a href="http://walkwhereworld.com/2017/09/18/cabin-lounge-highland-station-inn/" target="_blank"> CABIN & LOUNGE HIGHLAND STATION INN* </a>
17:00 - 21.00 น. Onsen at Fujiyama Onsen
หมายเหตุ : * ต้องจองล่วงหน้า
วางแพลนเสร็จแล้วต่อมาก็ถึงขั้นการเตรียมตัวครับ
มาดูกันเลยครับว่า ก่อนจะปีนฟูจิต้องเตรียมตัวอะไรกันบ้าง...
สิ่งที่ต้องเตรียมจากเมืองไทย
1. เลือกวันเวลาที่จะเดินทาง : ควรศึกษาพยากรณ์อากาศล่วงหน้า โดยดูจากเว็บไซต์พยากรณ์อากาศต่างๆ หลีกเลี่ยงวันเดินทางที่อาจมีฝนตก และหลีกเลี่ยงการขึ้นเขาในวันหยุด โดยเฉพาะวันที่ 11 สิงหาคม ซึ่งเป็น "วันแห่งภูเขา (Mountain Day)" วันหยุดราชการของญี่ปุ่นที่สนับสนุนให้คนออกมาปีนเขาครับ (แน่นอนว่าภูเขาที่ว่าก็คือฟูจิเนี่ยแหละ)
2. จองรถบัส : ผมเลือกจองรถบัสจากเมืองไทยไปก่อนครับ โดยเลือกเส้นทางที่วิ่งตรงจากชินจูกุ - ภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทาง ราคารถเที่ยวละประมาณ 2,700 เยน ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 35 นาที
จองรถบัสได้ที่ : https://highway-buses.jp/thai/ (ภาษาไทย)
3. เลือกโรงแรมที่พักระหว่างทางบนภูเขา : มีคำแนะนำจากคนรู้จักชาวญี่ปุ่นให้จองที่พักที่ภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 8 เนื่องจากเมื่อเดินขึ้นมาจากจุดเริ่มต้นตอนเที่ยงจะถึงจุดนี้เวลาประมาณหกโมงเย็นพอดี ใช้เวลาอีกไม่นานก็จะเดินขึ้นถึงยอด (หรอ?) จากที่จุดนี้จะเป็นจุดที่ขาลงเราสามารถเดินวกลงมาเจอที่พักเพื่อทานอาหารเช้าได้ด้วย ผมเลือกจองโรงแรมชื่อ Hon-Hachigome-TOMOEKAN (本八合目トモエ館) ครับ (ที่พักในชั้นอื่นๆ ไม่มีทางเดินขาลงที่วกไปถึง ดังนั้นจะต้องรีบตื่นเช้ากว่าตีสอง และเดินค่อนข้างเหนื่อย เพื่อปีนขึ้นไปให้ถึงยอดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น แถมไม่สามารถแวะรับประทานอาหารเช้าได้)
จองโรงแรม : https://tomoekan.com/ (ภาษาญี่ปุ่น)
จองโรงแรมอื่นๆ : https://www.fujimountainguides.com/mountain-hut-reservations.html (ภาษาอังกฤษ)
4. เตรียมชุดปีนเขา : เนื่องจากผมไม่เคยปีนเขามาก่อน จึงไม่มีอุปกรณ์อะไรเกี่ยวกับการปีนเขาทั้งสิ้น หลังจากที่หาข้อมูลทำให้ผมทราบว่า ในญี่ปุ่นมีร้านสำหรับเช่าชุดปีนภูเขาไฟฟูจิอยู่หลายร้าน ผมเลือกจองของบริษัท Lamont ซึ่งข้อดีของบริษัทนี้คือ ชุดและรองเท้าสามารถเลือกสีได้ สามารถจองล่วงหน้าแล้วจ่ายเงินผ่าน paypal แล้วค่อยรับสินค้าวันที่จะปีน ณ ร้านค้าบนฟูจิชั้น 5 ก็ได้ แถมที่นั่นยังมีบริการห้องนั่งพักให้เปลี่ยนชุดฟรีอีกด้วย (แต่ไม่ใช่ห้องแต่งตัวนะเป็นแค่ห้องห้องโล่งๆให้พักผ่อนใส่ๆถอดๆอะไรได้นิดหน่อยเฉยๆ) แถมหลังจากปีนแล้วสามารถคืนชุดเช่าได้เลยที่จุดรับชุดที่รับมา ไม่ต้องขนลงไปให้เหนื่อย)
เว็บไซต์จองชุดร้าน Lamont : https://lamont.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
เว็บไซต์จองชุดร้าน Kobeoutdoors : https://mtfujirental.com/ (ภาษาอังกฤษ)
อุปกรณ์ที่อยากแนะนำให้เตรียมพร้อมก่อนการปีนภูเขาไฟฟูจิ
- เสื้อและกางเกงกันลม (ถ้ากันฝนเปียกได้ด้วยจะดีมาก)
- รองเท้าปีนเขา (แนะนำเป็นรองเท้าที่หุ้มข้อครับ ไม่แนะนำรองเท้าผ้าใบธรรมดา เพราะอาจปวดขามากๆได้)
- ถุงมือ (แนะนำเอาที่แบบจับหินแล้วไม่ลื่นครับ)
- Tracking Pole (ไม้ค้ำยันพื้นระหว่างปีนเขา)
- ถุงกันกรวดเข้ารองเท้า
- กระเป๋าเป้สะพายสำหรับเดินเขา (หรือแบบผ่อนแรง)
- ไฟฉายแบบสวมคาดหัว
- หมวกกันแดด
- เสื้อลองจอน
- ออกซิเจนกระป๋อง
- เจลเพิ่มพลังงาน (แนะนำ 3-4 ถุง)
- เครื่องดื่มเพิ่มพลังงาน เช่น เกลือแร่ 1 ขวดลิตร
- กล้องถ่ายรูปและ Power Bank
- เงิน (สำคัญมาก)
เตรียมการทุกอย่างล่วงหน้าเสร็จแล้วก็ได้เวลาเดินทางกันแล้วครับ...
การเดินทางนับพันไมล์เริ่มต้นได้จากก้าวเล็กๆ เพียงหนึ่งก้าว
เริ่มต้นการเดินทางด้วยการเดินทางไปขึ้นรถบัสที่ Shinjuku Expressway Bus Terminal (Busta Shinjuku) สถานีรถโดยสารแห่งใหม่ล่าสุดของชินจูกุ เปิดให้บริการทดแทนของเดิมเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ.2016 ที่ผ่านมา อาคารตั้งอยู่ตรงข้ามทางออก South Exit ของสถานีรถไฟ JR Shinjuku ครับ
Busta Shinjuku
เมื่อเจอตึกแล้วให้ข้ามถนนเดินขึ้นบันไดเลื่อนจากทางเท้าขึ้นมาที่ชั้น 4 ได้เลย
เดินข้ามทางม้าลายอันนี้
บันไดเลื่อนขึ้นชานชาลารถบัส
ที่ชั้นสี่จะเป็นจุดจำหน่ายตั๋วเดินทางโดยรถบัส สำหรับใครที่ไม่ได้จองตั๋วมาล่วงหน้าสามารถซื้อตั๋วรถบัสได้จากที่นี่ครับ บรรยากาศภายในเป็นตามรูปเลย
นั่งรอได้สักพักก็ถึงเวลาที่รถมาครับ
ก่อนขึ้นรถต้องแสดงใบจองหรือตั๋วกับคนขับเสียก่อน
ขึ้นมาสำรวจบนรถกันเลยดีกว่าครับว่า... บนรถบัสด่วนวิ่งตรงเส้นทาง ชินจูกุ – ภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 (Shinjuku – Mt.Fuji 5th Station) เที่ยวเวลา 7.45 น. คันนี้จะมีอะไรอยู่ด้านในบ้าง...
บรรยากาศที่นั่งบนรถ
ด้านหน้าที่นั่งมีช่องใส่ของและเอกสารความปลอดภัยอยู่
มีฟรี Wifi บริการบนรถด้วยครับ
หลังจากที่คนขึ้นครบหมด ก็ได้เวลาออกเดินทางครับ
รถบัสกำลังออกแล้ว...
บรรยากาศระหว่างทาง
ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 35 นาที ก่อนจะถึงเราจะได้ยินเสียงเพลงพร้อมเสียงประกาศบนรถว่าป้ายต่อไปที่จะถึงคือ “ภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5”
จอที่หน้ารถมีข้อความเด้งขึ้นมาพร้อมเสียงประกาศ
มาถึงแล้วครับ…
ร้านค้าบนภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5
มาเดินสำรวจบรรยากาศแถวนี้กันหน่อยดีกว่า…
ที่จุดนี้จะมีร้านค้าอยู่เป็นจำนวนมาก มีทั้งศาลเจ้า Komitake ร้านขายของฝาก ร้านอาหาร ร้านอุปกรณ์ปีนเขา และมีห้องน้ำให้ใช้บริการ (เสียเงินครั้งละ 200 เยน) อยากจะบอกว่าจริงๆตรงจุดนี้มีห้องน้ำฟรีอยู่ด้วย ให้เดินลงมาเข้าห้องน้ำตรงลานจอดรถครับ
ป้ายบอกวันที่ อีกมุมหนึ่งที่นักท่องเที่ยว (โดยเฉพาะชาวจีน) นิยมมาถ่ายรูปด้วย