สวัสดีชาว Pantip ทุกคนนะคะ รอบนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปปีน "ภูเขาไฟฟูจิ" หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า "ฟูจิซัง" กัน ซึ่งภูเขาไฟฟูจินั้นได้ชื่อว่าเป็นภูเขาที่สูงที่สุดใน ประเทศญี่ปุ่น มีความสูงราวๆ 3,776 เมตร โดยการปีนภูเขาไฟนั้นจะเปิดให้ปีนได้แค่ช่วงหน้าร้อนเท่านั้น คือต้นเดือน ก.ค – ต้นเดือน ก.ย.
แค่นั้นเอง
โดยทริปนี้เริ่มต้นจากเราและสมาชิกรวม 5 คน ซึ่งเป็นเหยื่อการตลาดของบรรดาตั๋วโปรทั้งหลายซึ่งจองข้ามปีกันเลยทีเดียว ในรอบนี้เราได้ตั๋วของสายการบิน Scoot ในราคาไปกลับ 6 พันกว่าบาท เดินทางวันที่ 9 - 12 ส.ค.62 ( 3 วัน!! เพื่อฟูจิคนเดียว!! ) แถมใช้ Dreamliner บินอีกต่างหาก ถือว่าคุ้มฮะ
ขอเกริ่นสักหน่อย เส้นทางการเดินขึ้น "ฟูจิ" นั้น หลายๆคนอาจทราบแล้วว่ามีทั้งหมด 4 เส้นทาง คือ
1. Yoshida trail : ระยะทางขึ้น 7.5 กม./ลง 7.6 กม. เริ่มต้นจาก Fuji-Subaru Line 5th Station เส้นนี้ถือเป็นเส้นทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยว มีจุดพักและที่พักหลายที่ให้เลือก และตั้งแต่สถานีที่ 8 ขึ้นไปมีการใช้เส้นทางร่วมกับเส้น Subashiri trail (จากโตเกียวลง Kawaguchiko หรือ Fujisan Stations)
2. Subashiri trail : ระยะทางขึ้น 7.8 กม./ลง 6.2 กม. เริ่มต้นจาก Subashiri Trail 5th Station เส้นทางนี้จากสถานีที่ 5 จนเกือบๆสถานีที่ 7 นั้นจะปกคลุมด้วยต้นไม้ใบหญ้าซึ่งเส้น ทางอื่นไม่มีจึงมีความร่มรื่นพอให้หายร้อนได้ และตั้งแต่สถานีที่ 8 ขึ้นไปมีการใช้ เส้นทางร่วมกับเส้น Yoshida trail (จากโตเกียวลง Gotemba หรือ Shinmatsuda Station)
3. Gotemba trail : ระยะทางขึ้น 11 กม./ลง 8.5 กม. เริ่มต้นจาก Gotemba Trail New 5th Station เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ระยะไกลที่สุดเพราะสถานีที่ 5 ที่เริ่มต้นนั้นจะอยู่ต่ำสุดคือ 1,450 เมตร เท่านั้น และตลอดเส้นทางการเดินนั้นจะเป็นหินภูเขาไฟเกือบทั้งหมด และมีจุดพักเพียงแค่ 2-3 ที่ (จากโตเกียวลง Gotemba Station)
4. Fujinomiya trail : ระยะทางขึ้น 5 กม./ลง 5 กม. เริ่มต้นจาก Fujinomiya Trail 5th Station เส้นทางนี้เป็นเส้นทางขึ้นลงที่ระยะสั้นที่สุด และมีจุดพักทุกสถานี (จากโตเกียวลง Mishima, Fuji, Shin-Fuji หรือ Fujinomiya Stations)
ซึ่งทุกเส้นทางนั้นจะมี Mountain bus ให้บริการจากสถานีรถไฟหลักของสถานที่นั้นๆ ไปยังสถานีที่ 5 ของแต่ละรูท สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.fujisan-climb.jp/en/index.html
เอาล่ะเกริ่นมาพอสมควรแล้ว
โจทย์ของเราในทริปนี้คือเราจะเดินขึ้นทาง “Gotemba Trail” และลงทาง “Subashiri Trail” จุดประสงค์คืออยากจะท้าทายตัวเองนี่แหละไม่มีอะไรมาก เพราะเส้น Gotemba คือเส้นที่เดินไกลที่สุดระยะทางยาวที่สุด ส่วนเส้น Subashiri คือเส้นที่ได้ชื่อว่าตอนลงนี่มันส์อย่าบอกใคร อีกอย่างคือเราสามารถกลับโตเกียวได้จาก Gotemba Station ได้จากทั้ง 2 เส้นทาง
"แผนที่แสดงเส้นทางต่างๆ ใครสะดวกเส้นไหนจัดไป !!"
"การจองที่พักบนฟูจิ"
มาว่าด้วยเรื่องการจองที่พัก กว่าเราจะระลึกได้ว่าต้องจองที่พักนั้นก็เกือบจะสายไปซะแล้ว ด้วยความที่ชะล่าใจไปหน่อย เพราะวันที่เราจะเดินขึ้นนั้นคือวันเสาร์ซึ่งคนจะแน่นเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แถมวีคที่เราไปนั้นอยู่ในช่วงที่คนญี่ปุ่นออกมาปีนเขากันเยอะที่สุด และที่พักบน Gotemba trail route นั้น มีเพียงแค่ 2-3 ที่ซึ่งอยู่ตามชั้น 7 และ 8 ซึ่งเราก็กางลิสและไล่จองทุกที่บนเส้น Gotemba ทั้งจากเว็บ, Email และโทรทางไกลซึ่งทุกที่เต็มหมด แถมเรายังไล่ดูที่พักในเส้นทางอื่นด้วยเพราะทำใจไว้เหมือนกันว่าอาจจะต้องเปลี่ยนเป็นเดินเส้นอื่นแทน สุดท้ายเราเลยได้ที่พักแห่งหนึ่งที่ตอบ Email กลับมาว่าว่างพอดีคือ
"Chojo Fujikan" ซึ่งอยู่บน Station 10 นั่นคือบริเวณ "ปากปล่องฟูจิ" เลย (ค่าที่พักตกหัวละ 9,000 เยน รวม Dinner และ Breakfast/จ่ายเงินสดตอนเข้าพักเท่านั้น)
ด้วยความที่ที่พักเราอยู่ Station 10 นั่นหมายความว่าเราต้องเดินรวดเดียวจากชั้น 5 ถึงชั้น 10 แบบรวดเดียวเลย ตอนนั้นในใจคิดจะรอดมั้ย เพราะสมาชิกในกลุ่มบางคนไม่เคยผ่านการเดินเขาเดินป่าหรือ Trek ใดๆ ทั้งสิ้น และอีกความท้าทายหนึ่งคือเราต้องรีบเดินให้ไปถึงชั้น 10 ก่อน 6 โมงเย็น เพราะเค้าจะรับเช็คอินถึงแค่ 6 โมงเย็นเท่านั้น และประตูโรงแรมก็จะปิดตอน 1 ทุ่ม ถ้าไปช้ากว่านี้ก็อดจ้า 5555 "แต่เราจะเล่าข้อดีของการพักชั้น 10 ให้ฟังทีหลังว่าคืออะไร แต่คิดว่าเพื่อนหลายคนคงจะพอเดาออก"
ปล. จริงๆ แล้วตามลิสโรงแรม Fujikan นั้นจะอยู่ในเส้นทาง Fujinomiya Trail แต่ก็สามารถขึ้นจากเส้น Gotemba Trail ได้เช่นกันใช้เวลาแค่นิดเดียว
"List ที่พักบนฟูจิ"
สามารถอัพเดทข้อมูลที่พักเพิ่มเติมได้ที่http://www.fujisanclimb.jp/en/hospitality/mountain_huts_and_toilets.html
"การเตรียมตัว"
เราแพ็คกระเป๋าไปแบบเต็มมาก เพราะแอบกังวลสภาพอากาศที่หลายคนเคยบอกว่าจะมีทั้งอากาศหนาว,ลม, ฝน หรือถึงขั้นอาจจะเจอพายุ ซึ่งจริงๆ แล้วผิดคาดมาก ช่วงที่เราไปอากาศดีสุดๆ ฝนตกลมแรงไม่มีเลยโชคดีมากๆ แต่ก็เอาน่ะเตรียมไปเผื่อไว้น่ะดีแล้วค่ะ เพราะอะไรก็คาดเดาไม่ได้ กันไว้ดีกว่าแก้เนอะ เราจะลิสของที่จำเป็นๆ ไว้ให้นะคะว่าอะไรควรเอาไปบ้าง
"รายการสิ่งที่ควรจะนำขึ้นไป"
"Trip Plan"
ด้วยเวลาเรามีจำกัดเพราะทริปนี้จุดประสงค์คือมาเพื่อฟูจิเท่านั้นแพลนเราเลยเป็นอย่างที่เห็น เพื่อนๆสามารถปรับเปลี่ยน หรือเพิ่มวันได้ตามใจชอบเลย
Day 1 (9 ส.ค.62)
- ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองเที่ยวบิน TR868 เวลา 00.45น.
- เดินทางถึงสนามบินนาริตะ ญี่ปุ่น เวลาประมาณ 09.00น.
- นั่ง NEX ไปสถานี Shinjuku (ค่ารถคนละ 3,390เยน) เพื่อต่อรถบัส Odakyu Hakone Highway Bus ที่ Shinjuku Expressway Bus Terminal ลงสถานี Gotemba Station (ค่ารถคนละ 1,680 เยน)
- เข้าพักโรงแรม The Gotembakan แถว Gotemba Station (ค่า รร. 29,000 เยน/3 ห้อง)
Day 2 (10 ส.ค.62)
- นั่ง Taxi ไป Gotemba 5
th Station (ค่ารถ 5,600 เยน ตามมิเตอร์)
- เดินหวานเย็นไป 10
th Station
- เข้าพักที่โรงแรม Fujikan บนชั้น 10 (คนละ 9,000 เยน รวม Dinner & Breakfast)
Day 3 (11 ส.ค.62)
- ดูพระอาทิตย์ขึ้น & เดินรอบปากปล่องฟูจิ
- เดินลงเส้น Subashiri Trail ไปยัง Subashiri 5
th Station
- นั่ง Mountain Bus กลับ Gotemba Station (ค่ารถคนละ 1,540 เยน)
- ต่อรถบัส Odakyu จาก Gotemba Station ไปลง Shinjuku Express Bus Terminal (ค่ารถคนละ 1,680 เยน)
- เข้าพักโรงแรม Tokyo Ueno New Izu Hotel (มีเวลาช๊อปปิ้งเหลือๆ)(ค่า รร. 27,000 เยน/2 ห้อง)
Day 4 (12 ส.ค.62)
- ขึ้น Keisei Skyline ไปสนามบินนาริตะ /เดินทางกลับกรุงเทพ TT (เครื่องออก 10.00น.)
Day 1
หลังจากถึงสนามบินนาริตะในช่วงเช้าประมาณ 09.00น. แล้ว เราต้องนั่งรถไฟไปลง Shinjuku เพื่อขึ้นรถบัส Odakyu Hakone Highway Bus
ไปลง Gotemba Station ซึ่งเป็นจุดเริ่มการเดินของเรา โดยในครั้งนี้เราใช้บริการ Narita Express (NEX) เพื่อไปลงสถานี Shinjuku
จาก Shinjuku Station นั้น เราต้องเดินไปขึ้นรถบัสที่ Shinjuku Express Bus Terminal ซึ่งอยู่ติดกับตัวสถานีรถไฟเลยหาไม่ยาก
ส่วนตั๋วรถบัสนั้นเราสามารถซื้อได้จาก Machine หรือกับเค้าเตอร์ขายตั๋วก็ได้ โดยบนตั๋วจะระบุเวลาออกและที่นั่งไว้เรียบร้อยแล้ว
"ตั๋วรถบัส"
เราใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ครึ่ง จากสนามบินนาริตะไป Shinjuku และใช้เวลานั่งรถบัสจาก Shinjuku Express Bus Terminal ไป Gotemba Station
อีกประมาณ 2 ชม. เท่ากับว่าวันแรกของเราใช้ไปกับการเดินทางอย่างเดียว
ในที่สุดประมาณบ่ายสามโมงเราก็ถึง Gotemba Station จริงๆแล้วเพื่อนๆ สามารถเดินทางมาที่ได้ได้จากรถไฟ JR เช่นกันค่ะ แต่ส่วนตัวแล้วเราไม่ชอบการต่อรถไฟหรือเปลี่ยนสถานีในญี่ปุ่น เลยเลือกใช้การนั่งรถบัสแบบรวดเดียวถึงดีกว่า
"ถึงแล้ววว"
"ที่จอดรถบัสจะอยู่ด้านหลังสถานี Gotemba Station"
"จากที่จอดรถบัสเดินมาทางด้านหน้าก็จะพบกับ JR Gotemba Station"
"หันหลังใน JR Gotemba Station ก็จะเจอโรงแรงที่เราจะพักในคืนนี้ Hotel Gotemba"
"สภาพภายในห้องนอน"
หลังจากเราเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว เราก็ลงมาหาอะไรกินแถวๆ ที่พัก ซึ่งส่วนใหญ่จะเปิดตอนเย็น แล้วก็หาซื้อน้ำซื้อเสบียงเพื่อพกไปกินระหว่างทางในวันพรุ่งนี้ด้วย และรีบเข้านอนเพื่อเอาแรง
ตามแผนเราแพลนจะเริ่มเดินตอน 6 โมงเช้า เพราะเราได้คำนวนเวลาคร่าวๆ ไว้ว่าเราอาจจะใช้เวลา ถึง 10-11 ชม. ในการที่จะเดินรวดเดียวไปจนถึงชั้น 10 เพื่อที่จะให้ไปถึงที่พักและทันเช็คอินภายในเวลา 6 โมงเย็น ซึ่งรอบ Moutain Bus รอบแรกที่จะออกจาก Gotemba Station นั้นออกตอนเวลา 07.35น. กว่าจะถึง Gotemba 5th Station ก็ 8 โมงกว่าไปแล้ว ถ้าเริ่มเดินตอน 8 โมงกว่า ถึงชั้น 10 ไม่ทันแน่ๆ
ดังนั้นเราเลยเลือกที่จะใช้บริการ Taxi โดยให้ โรงแรงมโทรจอง Taxi ให้ตั้งแต่ตอนเย็น นัดให้มารับตอนตีห้า เพื่อไปยัง Gotemba 5th Station
ไปๆมาๆ ค่า Taxi พอหาร 5 แล้วถูกกว่าค่ารถบัสอีก อิอิ แถมเร็วกว่าด้วย เอาล่ะได้เวลานอนเอาแรงแล้วววว ZZZ
Day 2
ตีสี่ครึ่งฟ้าก็สว่างแล้ว เราทยอยลงมาเช็คเอ้าท์ รวมถึงฝากกระเป๋าและของที่ไม่จำเป็นในการเดินขึ้นไว้ที่โรงแรมก่อน โดยจะมารับกลับในวันที่
เดินลงมาแล้ว (หากใครไม่ได้พักโรงแรมนี้หรือโรงแรมอยู่ไกล ก็สามารถฝากกระเป๋าไว้ในตู้ Locker ซึ่งอยู่บนสถานี Gotemba Station ได้เช่นกันค่ะ)
"ตีห้าเป๊ะ Taxi ก็มาถึงโรงแรม"
ใช้เวลานั่ง Taxi ประมาณ 20-30 นาทีก็ถึง Gotemba 5th Station คนน้อยมากๆ บริเวณนั้นจะมีเต้นท์เล็กๆ ซึ่งเป็นจุดให้บริการและ Donate
หากใคร Donate ก็จะมีเข็มกลัดเป็นที่ระลึกให้ (1,000 เยน)
"จุดเริ่มเดิน"
"เข็มกลัดที่ระลึกเมื่อบริจาค Gotemba Route สีเขียว"
ก่อนเริ่มเดินเรารีบอัดอาหารเช้าที่เตรียมไว้รองท้องก่อนเลย เพราะไม่รู้ว่าจะถึงจุดพักอีกเมื่อไหร่ พออัดเข้าท้องเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาเริ่มเดิน
เราเริ่มสตาร์ทตอน "ตีห้าสี่สิบห้า"
ผ่าน Gate มาปุ๊ปเราก็จะเจอวิวน้อง "ฟูจิซัง" ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าเลย มันยิ่งใหญ่อลังการมากๆ ในใจก็คิดนี่เราต้องไปบนนั้นจริงๆ ใช่มั้ย ป.ล. ระยะแรกจะเจอต้นไม้ใบหญ้าแค่ตรงนี้จริงๆ เท่านั้น
"สบายๆ เดินเรื่อยๆ"
เดี๋ยวมาต่อค่ะ
ขึ้นไปดู "Shadow of Mt.Fuji" บน "ภูเขาไฟ Fuji" (ขึ้น Gotemba/ลง Subashiri)
แค่นั้นเอง
โดยทริปนี้เริ่มต้นจากเราและสมาชิกรวม 5 คน ซึ่งเป็นเหยื่อการตลาดของบรรดาตั๋วโปรทั้งหลายซึ่งจองข้ามปีกันเลยทีเดียว ในรอบนี้เราได้ตั๋วของสายการบิน Scoot ในราคาไปกลับ 6 พันกว่าบาท เดินทางวันที่ 9 - 12 ส.ค.62 ( 3 วัน!! เพื่อฟูจิคนเดียว!! ) แถมใช้ Dreamliner บินอีกต่างหาก ถือว่าคุ้มฮะ
ขอเกริ่นสักหน่อย เส้นทางการเดินขึ้น "ฟูจิ" นั้น หลายๆคนอาจทราบแล้วว่ามีทั้งหมด 4 เส้นทาง คือ
1. Yoshida trail : ระยะทางขึ้น 7.5 กม./ลง 7.6 กม. เริ่มต้นจาก Fuji-Subaru Line 5th Station เส้นนี้ถือเป็นเส้นทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยว มีจุดพักและที่พักหลายที่ให้เลือก และตั้งแต่สถานีที่ 8 ขึ้นไปมีการใช้เส้นทางร่วมกับเส้น Subashiri trail (จากโตเกียวลง Kawaguchiko หรือ Fujisan Stations)
2. Subashiri trail : ระยะทางขึ้น 7.8 กม./ลง 6.2 กม. เริ่มต้นจาก Subashiri Trail 5th Station เส้นทางนี้จากสถานีที่ 5 จนเกือบๆสถานีที่ 7 นั้นจะปกคลุมด้วยต้นไม้ใบหญ้าซึ่งเส้น ทางอื่นไม่มีจึงมีความร่มรื่นพอให้หายร้อนได้ และตั้งแต่สถานีที่ 8 ขึ้นไปมีการใช้ เส้นทางร่วมกับเส้น Yoshida trail (จากโตเกียวลง Gotemba หรือ Shinmatsuda Station)
3. Gotemba trail : ระยะทางขึ้น 11 กม./ลง 8.5 กม. เริ่มต้นจาก Gotemba Trail New 5th Station เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ระยะไกลที่สุดเพราะสถานีที่ 5 ที่เริ่มต้นนั้นจะอยู่ต่ำสุดคือ 1,450 เมตร เท่านั้น และตลอดเส้นทางการเดินนั้นจะเป็นหินภูเขาไฟเกือบทั้งหมด และมีจุดพักเพียงแค่ 2-3 ที่ (จากโตเกียวลง Gotemba Station)
4. Fujinomiya trail : ระยะทางขึ้น 5 กม./ลง 5 กม. เริ่มต้นจาก Fujinomiya Trail 5th Station เส้นทางนี้เป็นเส้นทางขึ้นลงที่ระยะสั้นที่สุด และมีจุดพักทุกสถานี (จากโตเกียวลง Mishima, Fuji, Shin-Fuji หรือ Fujinomiya Stations)
ซึ่งทุกเส้นทางนั้นจะมี Mountain bus ให้บริการจากสถานีรถไฟหลักของสถานที่นั้นๆ ไปยังสถานีที่ 5 ของแต่ละรูท สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fujisan-climb.jp/en/index.html
เอาล่ะเกริ่นมาพอสมควรแล้ว โจทย์ของเราในทริปนี้คือเราจะเดินขึ้นทาง “Gotemba Trail” และลงทาง “Subashiri Trail” จุดประสงค์คืออยากจะท้าทายตัวเองนี่แหละไม่มีอะไรมาก เพราะเส้น Gotemba คือเส้นที่เดินไกลที่สุดระยะทางยาวที่สุด ส่วนเส้น Subashiri คือเส้นที่ได้ชื่อว่าตอนลงนี่มันส์อย่าบอกใคร อีกอย่างคือเราสามารถกลับโตเกียวได้จาก Gotemba Station ได้จากทั้ง 2 เส้นทาง
"แผนที่แสดงเส้นทางต่างๆ ใครสะดวกเส้นไหนจัดไป !!"
"การจองที่พักบนฟูจิ"
มาว่าด้วยเรื่องการจองที่พัก กว่าเราจะระลึกได้ว่าต้องจองที่พักนั้นก็เกือบจะสายไปซะแล้ว ด้วยความที่ชะล่าใจไปหน่อย เพราะวันที่เราจะเดินขึ้นนั้นคือวันเสาร์ซึ่งคนจะแน่นเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แถมวีคที่เราไปนั้นอยู่ในช่วงที่คนญี่ปุ่นออกมาปีนเขากันเยอะที่สุด และที่พักบน Gotemba trail route นั้น มีเพียงแค่ 2-3 ที่ซึ่งอยู่ตามชั้น 7 และ 8 ซึ่งเราก็กางลิสและไล่จองทุกที่บนเส้น Gotemba ทั้งจากเว็บ, Email และโทรทางไกลซึ่งทุกที่เต็มหมด แถมเรายังไล่ดูที่พักในเส้นทางอื่นด้วยเพราะทำใจไว้เหมือนกันว่าอาจจะต้องเปลี่ยนเป็นเดินเส้นอื่นแทน สุดท้ายเราเลยได้ที่พักแห่งหนึ่งที่ตอบ Email กลับมาว่าว่างพอดีคือ "Chojo Fujikan" ซึ่งอยู่บน Station 10 นั่นคือบริเวณ "ปากปล่องฟูจิ" เลย (ค่าที่พักตกหัวละ 9,000 เยน รวม Dinner และ Breakfast/จ่ายเงินสดตอนเข้าพักเท่านั้น)
ด้วยความที่ที่พักเราอยู่ Station 10 นั่นหมายความว่าเราต้องเดินรวดเดียวจากชั้น 5 ถึงชั้น 10 แบบรวดเดียวเลย ตอนนั้นในใจคิดจะรอดมั้ย เพราะสมาชิกในกลุ่มบางคนไม่เคยผ่านการเดินเขาเดินป่าหรือ Trek ใดๆ ทั้งสิ้น และอีกความท้าทายหนึ่งคือเราต้องรีบเดินให้ไปถึงชั้น 10 ก่อน 6 โมงเย็น เพราะเค้าจะรับเช็คอินถึงแค่ 6 โมงเย็นเท่านั้น และประตูโรงแรมก็จะปิดตอน 1 ทุ่ม ถ้าไปช้ากว่านี้ก็อดจ้า 5555 "แต่เราจะเล่าข้อดีของการพักชั้น 10 ให้ฟังทีหลังว่าคืออะไร แต่คิดว่าเพื่อนหลายคนคงจะพอเดาออก"
ปล. จริงๆ แล้วตามลิสโรงแรม Fujikan นั้นจะอยู่ในเส้นทาง Fujinomiya Trail แต่ก็สามารถขึ้นจากเส้น Gotemba Trail ได้เช่นกันใช้เวลาแค่นิดเดียว
"List ที่พักบนฟูจิ"
สามารถอัพเดทข้อมูลที่พักเพิ่มเติมได้ที่http://www.fujisanclimb.jp/en/hospitality/mountain_huts_and_toilets.html
"การเตรียมตัว"
เราแพ็คกระเป๋าไปแบบเต็มมาก เพราะแอบกังวลสภาพอากาศที่หลายคนเคยบอกว่าจะมีทั้งอากาศหนาว,ลม, ฝน หรือถึงขั้นอาจจะเจอพายุ ซึ่งจริงๆ แล้วผิดคาดมาก ช่วงที่เราไปอากาศดีสุดๆ ฝนตกลมแรงไม่มีเลยโชคดีมากๆ แต่ก็เอาน่ะเตรียมไปเผื่อไว้น่ะดีแล้วค่ะ เพราะอะไรก็คาดเดาไม่ได้ กันไว้ดีกว่าแก้เนอะ เราจะลิสของที่จำเป็นๆ ไว้ให้นะคะว่าอะไรควรเอาไปบ้าง
"รายการสิ่งที่ควรจะนำขึ้นไป"
"Trip Plan"
ด้วยเวลาเรามีจำกัดเพราะทริปนี้จุดประสงค์คือมาเพื่อฟูจิเท่านั้นแพลนเราเลยเป็นอย่างที่เห็น เพื่อนๆสามารถปรับเปลี่ยน หรือเพิ่มวันได้ตามใจชอบเลย
Day 1 (9 ส.ค.62)
- ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองเที่ยวบิน TR868 เวลา 00.45น.
- เดินทางถึงสนามบินนาริตะ ญี่ปุ่น เวลาประมาณ 09.00น.
- นั่ง NEX ไปสถานี Shinjuku (ค่ารถคนละ 3,390เยน) เพื่อต่อรถบัส Odakyu Hakone Highway Bus ที่ Shinjuku Expressway Bus Terminal ลงสถานี Gotemba Station (ค่ารถคนละ 1,680 เยน)
- เข้าพักโรงแรม The Gotembakan แถว Gotemba Station (ค่า รร. 29,000 เยน/3 ห้อง)
Day 2 (10 ส.ค.62)
- นั่ง Taxi ไป Gotemba 5th Station (ค่ารถ 5,600 เยน ตามมิเตอร์)
- เดินหวานเย็นไป 10th Station
- เข้าพักที่โรงแรม Fujikan บนชั้น 10 (คนละ 9,000 เยน รวม Dinner & Breakfast)
Day 3 (11 ส.ค.62)
- ดูพระอาทิตย์ขึ้น & เดินรอบปากปล่องฟูจิ
- เดินลงเส้น Subashiri Trail ไปยัง Subashiri 5th Station
- นั่ง Mountain Bus กลับ Gotemba Station (ค่ารถคนละ 1,540 เยน)
- ต่อรถบัส Odakyu จาก Gotemba Station ไปลง Shinjuku Express Bus Terminal (ค่ารถคนละ 1,680 เยน)
- เข้าพักโรงแรม Tokyo Ueno New Izu Hotel (มีเวลาช๊อปปิ้งเหลือๆ)(ค่า รร. 27,000 เยน/2 ห้อง)
Day 4 (12 ส.ค.62)
- ขึ้น Keisei Skyline ไปสนามบินนาริตะ /เดินทางกลับกรุงเทพ TT (เครื่องออก 10.00น.)
Day 1
หลังจากถึงสนามบินนาริตะในช่วงเช้าประมาณ 09.00น. แล้ว เราต้องนั่งรถไฟไปลง Shinjuku เพื่อขึ้นรถบัส Odakyu Hakone Highway Bus
ไปลง Gotemba Station ซึ่งเป็นจุดเริ่มการเดินของเรา โดยในครั้งนี้เราใช้บริการ Narita Express (NEX) เพื่อไปลงสถานี Shinjuku
จาก Shinjuku Station นั้น เราต้องเดินไปขึ้นรถบัสที่ Shinjuku Express Bus Terminal ซึ่งอยู่ติดกับตัวสถานีรถไฟเลยหาไม่ยาก
ส่วนตั๋วรถบัสนั้นเราสามารถซื้อได้จาก Machine หรือกับเค้าเตอร์ขายตั๋วก็ได้ โดยบนตั๋วจะระบุเวลาออกและที่นั่งไว้เรียบร้อยแล้ว
"ตั๋วรถบัส"
เราใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ครึ่ง จากสนามบินนาริตะไป Shinjuku และใช้เวลานั่งรถบัสจาก Shinjuku Express Bus Terminal ไป Gotemba Station
อีกประมาณ 2 ชม. เท่ากับว่าวันแรกของเราใช้ไปกับการเดินทางอย่างเดียว
ในที่สุดประมาณบ่ายสามโมงเราก็ถึง Gotemba Station จริงๆแล้วเพื่อนๆ สามารถเดินทางมาที่ได้ได้จากรถไฟ JR เช่นกันค่ะ แต่ส่วนตัวแล้วเราไม่ชอบการต่อรถไฟหรือเปลี่ยนสถานีในญี่ปุ่น เลยเลือกใช้การนั่งรถบัสแบบรวดเดียวถึงดีกว่า
"ถึงแล้ววว"
"ที่จอดรถบัสจะอยู่ด้านหลังสถานี Gotemba Station"
"จากที่จอดรถบัสเดินมาทางด้านหน้าก็จะพบกับ JR Gotemba Station"
"หันหลังใน JR Gotemba Station ก็จะเจอโรงแรงที่เราจะพักในคืนนี้ Hotel Gotemba"
"สภาพภายในห้องนอน"
หลังจากเราเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว เราก็ลงมาหาอะไรกินแถวๆ ที่พัก ซึ่งส่วนใหญ่จะเปิดตอนเย็น แล้วก็หาซื้อน้ำซื้อเสบียงเพื่อพกไปกินระหว่างทางในวันพรุ่งนี้ด้วย และรีบเข้านอนเพื่อเอาแรง
ตามแผนเราแพลนจะเริ่มเดินตอน 6 โมงเช้า เพราะเราได้คำนวนเวลาคร่าวๆ ไว้ว่าเราอาจจะใช้เวลา ถึง 10-11 ชม. ในการที่จะเดินรวดเดียวไปจนถึงชั้น 10 เพื่อที่จะให้ไปถึงที่พักและทันเช็คอินภายในเวลา 6 โมงเย็น ซึ่งรอบ Moutain Bus รอบแรกที่จะออกจาก Gotemba Station นั้นออกตอนเวลา 07.35น. กว่าจะถึง Gotemba 5th Station ก็ 8 โมงกว่าไปแล้ว ถ้าเริ่มเดินตอน 8 โมงกว่า ถึงชั้น 10 ไม่ทันแน่ๆ
ดังนั้นเราเลยเลือกที่จะใช้บริการ Taxi โดยให้ โรงแรงมโทรจอง Taxi ให้ตั้งแต่ตอนเย็น นัดให้มารับตอนตีห้า เพื่อไปยัง Gotemba 5th Station
ไปๆมาๆ ค่า Taxi พอหาร 5 แล้วถูกกว่าค่ารถบัสอีก อิอิ แถมเร็วกว่าด้วย เอาล่ะได้เวลานอนเอาแรงแล้วววว ZZZ
Day 2
ตีสี่ครึ่งฟ้าก็สว่างแล้ว เราทยอยลงมาเช็คเอ้าท์ รวมถึงฝากกระเป๋าและของที่ไม่จำเป็นในการเดินขึ้นไว้ที่โรงแรมก่อน โดยจะมารับกลับในวันที่
เดินลงมาแล้ว (หากใครไม่ได้พักโรงแรมนี้หรือโรงแรมอยู่ไกล ก็สามารถฝากกระเป๋าไว้ในตู้ Locker ซึ่งอยู่บนสถานี Gotemba Station ได้เช่นกันค่ะ)
"ตีห้าเป๊ะ Taxi ก็มาถึงโรงแรม"
ใช้เวลานั่ง Taxi ประมาณ 20-30 นาทีก็ถึง Gotemba 5th Station คนน้อยมากๆ บริเวณนั้นจะมีเต้นท์เล็กๆ ซึ่งเป็นจุดให้บริการและ Donate
หากใคร Donate ก็จะมีเข็มกลัดเป็นที่ระลึกให้ (1,000 เยน)
"จุดเริ่มเดิน"
"เข็มกลัดที่ระลึกเมื่อบริจาค Gotemba Route สีเขียว"
ก่อนเริ่มเดินเรารีบอัดอาหารเช้าที่เตรียมไว้รองท้องก่อนเลย เพราะไม่รู้ว่าจะถึงจุดพักอีกเมื่อไหร่ พออัดเข้าท้องเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาเริ่มเดิน
เราเริ่มสตาร์ทตอน "ตีห้าสี่สิบห้า"
ผ่าน Gate มาปุ๊ปเราก็จะเจอวิวน้อง "ฟูจิซัง" ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าเลย มันยิ่งใหญ่อลังการมากๆ ในใจก็คิดนี่เราต้องไปบนนั้นจริงๆ ใช่มั้ย ป.ล. ระยะแรกจะเจอต้นไม้ใบหญ้าแค่ตรงนี้จริงๆ เท่านั้น
"สบายๆ เดินเรื่อยๆ"
เดี๋ยวมาต่อค่ะ