เหตุเกิดจากทริปแรกในการไปเยือนญี่ปุ่นเพื่อไปดูฟูจิซังที่สวยงามดังรีวิวและคำเล่าลือของเพื่อนสนิทมิตรสหายหลายท่านปรากฏว่า พี่เขาอาย มาเต็มทั้งเมฆหมอก บดบัง ไร้เงาแม้จะนอนเฝ้าแล้วเฝ้าอีก รอวันแล้ววันเล่าก็ไม่เจอ ก็เลยตั้งเป้าหมายว่า
"เดี๋ยวกลับมาอีกครั้ง...ฉันจะปีนขึ้นไปหาเธอเลยล่ะกัน!!!"
และแล้วก็เริ่มวางแผนศึกษาเส้นทางต่าง เฝ้ารอฤดูปีนฟูจิอย่างใจจดจ่อซึ่งเขามีให้แค่ 3 เดือน คือ กรกฏาคม-สิงหาคม-กันยายน ของทุกปี
จนกระทั่งใกล้วันจะเริ่มออกเดินทาง ความตื่นเต้นก็ทยอยมาทักทาย วัดใจให้เราว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ เริ่มจากมีข่าวพายุเข้าญี่ปุ่น
สภาพอากาศที่ไม่ค่อยจะดีนัก ไหนจะข่าวหินหล่นใส่หัวมีคนเสียชีวิต บลาๆ นี่ก็กลัวๆ กล้าๆ จะรอดไหม แต่ในเมื่อตั้งใจแล้วก็ต้องไปให้สุดค่ะ
แล้วเส้นทางที่เราได้เลือกแล้วนั่นก็คือ "Gotemba Trail" เอาเส้นที่ยากที่สุดไปเลย
ส่วนทางลงนั้นเดี๋ยวว่ากัน หาข้อมูลไว้ 2 เส้นคือ "Subashiri" กับ "Yoshida" รอดูหน้างานว่าจะไปทางไหนดี
เดินตามแพลนกันไปจ้า
DAY 1 : 31 Aug 2019
เดินทางออกจากสนามบินดอนเมืองโดยสายการบิน NokScoot เที่ยวบิน XW 102 เวลา 02:20น.
ถึง Tokyo - Narita 10:25 น. ตรงเวลาเป๊ะ ต่อรถเข้าเมืองพักผ่อนกินปลาดิบ จิบ ชานม พักผ่อนเก็บแรงไปลุยกันวันพรุ่งนี้
DAY 2 : 1 September 2562 Go To Hakone (เที่ยวให้ครบจบตรงก็ตรงนั้นกับตั๋ว Hakone Freepass)
เราขึ้นรถไฟที่ Shinjuku ขบวน Odakyu Odawara Line Exp. ไปลงที่สถานี Odawara
แล้วต่อรถไฟ Hakone Tozan Train ไปยังสถานี HAKONE-YUMOTO หลังจากนั้นก็ตะลอนทัวร์ ขึ้นรถ ลงเรือ ต่อรถราง สนุกสนานกับการเดินทาง แต่แอบเสียดายวันที่เราไปกระเช้าปิด อดเลยทริปนี้
หลังจากอิ่มเอมกับธรรมชาติและความสวยงามของ Hakone ตลอดทั้งวันก็ได้เวลาพักผ่อนเก็บแรง เตรียมขึ้นไปหาเจ้าฟูจิซังกันแล้วจ้าาาา
ครั้งนี้เราเลือกพักที่ที่โรงแรม Select Inn Fujisan Gotemba ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานี Gotemba Station และยังใกล้ป้ายรถบัสที่จะพาเราไป
Gotemba 5th Station ในวันรุ่งขึ้น แล้วจุดนี้เดินจากโรงแรมมาเพียง 10 นาทีก็ถึงป้ายขึ้นรถบัสค่ะ เริ่ดเวอร์!!!
DAY 3 : 2 September 2562 Go TO Fujisan Gotemba Trail
ก่อนเริ่มปีนเราได้รับคำแนะนำจากเจ้าของที่พักที่เราจองไว้ที่ "Akaiwa Hachigo-kan" ชั้น 7.9 ว่าให้เริ่มออกเดินทางแต่เช้าๆ นะ ไม่ควรเกิน 08:00 น. เพราะเส้นทางนี้ระยะค่อนข้างไกล 11 KM. เลยนะ (โอ้ยไม่เป็นไรจิ๊บๆ วิ่ง 21 กิโลผ่านมาแล้ว นี่แค่ 11 แต่เอาเข้าจริง เหมือน 100 กิโลเลย 5555)
และแล้วเราก็เลยเลือกนั่งรถบัสรอบเวลา 7:35 ถึง Gotemba 5th Station เวลา 8:15 น. ใช้เวลาเตรียมตัว กินข้าวเติมพลัง เข้าห้องน้ำ เก็บภาพความสวยงามนพี่เขานิดหนึ่ง เพราะวันนี้พี่เขาออกมาต้อนรับเราอย่างงดงาม แล้วก็เริ่มออกเดินทางปีนเวลา 08:30 น. (โอเคเลทมานิดหน่อยไม่เป็นไร หยวนๆ)
ช่วงแรกก็ฟิต เดินไปถ่ายรูปไป สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามท่ามกลางความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น มองไปเห็นยอดฟูจิซังอยู่ลิบๆ แล้วฉันจะปีนขึ้นไปหาเธอนะจ๊ะฟูจิจ๋า แต่เมื่อไหร่จะถึงก็ไม่รู้นะ เดินไปเรื่อยๆ เจอที่พักจุดแรกชิลๆ ลมแรกมาก ท้องฟ้าปลอดโปร่ง
ขอบคุณที่ต้อนรับเราเป็นอย่างดี มีกำลังแรงใจไปต่อจ้า
แต่เฮ้ย....ยิ่งเดินยิ่งสนุกว่ะ มองย้อนลงมาก็สวย เงยหน้าขึ้นฟ้าก็งาม ไปต่อๆ ถ่ายรูปต้นไม้ใบหญ้ากรวดหินดินทราย สบายตา สบายใจ
คิดอะไรเพลินๆ เดินไปเรื่อยๆ ก็ถึงครึ่งทาง ดื่มด่ำกับก้อนเมฆที่ลอยผ่านไปมา หมอกไป ฟ้าใสมา สลับกับเสียงฟ้าร้องจากอีกฟากฝั่ง
ส่วนความร้อนของแสงแดดนั้นถูกสายลมพัดผ่านจนไม่รู้สึกร้อนใดๆ เลย เพราะเป้าหมายตอนนั้นคือไปให้ถึงที่พัก Akaiwa Hachigo-kan ชั้น 7.9
ระหว่างเส้นทางนี้ช่างเวิ้งว้างจริงๆ เงียบสงบมากๆ วันที่เราไปมีไม่กี่คนที่เลือกเดินขึ้นในเส้นทางนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นคนเดินลงมากกว่า เราก็ไม่ย่อท้อ เดินไปเหนื่อยก็พัก หิวก็กิน ไม่รีบไม่เร่งไปเรื่อยๆ ตามกำลังขา จนกระทั่งเวลาก็ล่วงเลยมาเกือบค่ำมืดเราก็เจอแสงสว่างจากที่พักของเรา เฮ้ยใกล้จะถึงแล้วสิ!!! อีกนิดเดียว แต่ที่ไหนได้เส้นทางนั้นซิกแซกไปมา หินมาเต็ม ลมแรงมากทำให้ต้องหยุดเพื่อตั้งหลัก เรียกว่ากว่าจะถึงที่พักก็ 19.00 น. พอดีเป๊ะ!!!
เป็นเป็นชะนีสองคนสุดท้ายที่มาถึง หลังจากนั้นเราก็เช็คอิน กินข้าว นอนเก็บแรงไปต่อในวันรุ่งขึ้น
(ก่อนนอนตั้งใจว่าจะตื่น 02.00 เพื่อปีนต่อไปยังยอดฟูจิซัง แล้วนั่งดูพระอาทิตย์แรกด้วยความฟิน
แต่หลับยาวตื่นมาตอน 05.00 งั้นดูหน้าที่พักเอาล่ะกัน5555 )
DAY 4 : 3 September 2562 ขาลงที่ต้องเลือก Yoshida หรือ Subashiri
เช้าวันใหม่เมฆหมอกก็ยังคงหนาแน่นแล้วแบบนี้ฉันจะเห็นอะไรไหมล่ะ ความหนาวก็มาเยือนแบบเย็นสุดขั้วหัวใจ ลมก็แรงสุดสวิงริงโก้
แต่พอพระอาทิตย์ขึ้นความอบอุ่นจากแสงแดดก็ทำให้เราได้ออกมาถ่ายรูป ดื่มด่ำกับธรรมชาติแบบเหนือเมฆ เก็บความทรงจำแบบไม่อยากจากไปไหนเลยแต่เราก็ต้องไปต่อเพื่อจุดหมายปลายทางของเรา "Kengamine Peak" จุดที่สูงที่สุดของภูเขาไฟฟูจิ ที่ระดับความสูง 3,776 เมตร ไปต่อค่ะ
ออกจากที่พัก 06.00 น. เดินไปตามเส้นทาง ท่ามกลางก้อนเมฆที่ลอยผ่านตัว โปรยปรายด้วยสายฝนเบาๆ ให้เราชุ่มชื่นกรุบกริบ
ก้าวต่อก้าวไปเรื่อยๆ เมื่อไหร่จะถึงว่ะ เหมือนวนอยู่ที่เดิมเลย5555
(เส้นทางตรงนี้จะชันมาก แล้วก็เป็นหิน ไม่แปลกใจเลยทำไมมีหินหล่น คำว่า ฉันมาทำอะไรที่นี่ ก็วนๆ อยู่ในหัว555)
จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปประมาณ 09.00น. เราก็ถึงจุดสูงสุด ที่ระดับความสูง 3,776 เมตร
ฟินมากค่ะ เพราะฟ้าเปิด ปลอดโปร่งมาก สดชื่นสุด ความเมื่อยเหนื่อยล้าที่มีมาทั้งหมดจบลงที่ยอดนี้จริงๆ เป็นความประทับใจที่อธิบายไม่ถูก เราใช้เวลาในการนั่งมองปากปล่องภูเขาไฟฟูจิอยู่สักพักก็เริ่มเดินวนตามเข็มนาฬิกาเพราะอยากจะดูให้รอบๆ อยากจะไปให้ครบทุกจุด
หลังจากเดินวนไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางแล้วก็จะมาเจอเส้น Yoshida และ Subashiri
ซึ่งมีร้านค้าขายของที่ระลึกและร้านอาหาร เราก็เลยแวะซื้อไม้เป็นที่ระลึก กลับ พร้อมสแตมป์ตามธรรมเนียม
เอาล่ะมาถึงเวลาลงกันแล้วเราจะไปเส้นไหนดีน้า...เอาว่ะ ต้องเลือกนะระหว่างเส้น Yoshida คนค่อนข้างเยอะ ไอ้เราชอบความเงียบสงบ ไป Subashiri ล่ะกัน ไปจ้าไป เดินลงสวยๆ ท่ามกลางลมเย็นๆ แสงแดดอ่อนๆ เหรอ (แต่หลังจากกลับลงมาหน้าไหม้ มือเกรียมไปเลยค่ะ ของฝากที่หาซื้อไม่ได้55)
ความโหดของเส้นนี้คือกรวดหินดินดำ กำมะถัน มาเต็มมาก เรียกว่ากรวดหนาแน่นเต็มพิกัดเหลือเกินจ้าแม่จ๋า แต่ละก้าวแทบจะจมลงไปในพื้น แถมด้วยสายฝนที่โปรยปราย หมอกเมฆมาพร้อมเพียงกันอย่างมิได้นัดหมาย เราก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินลงไปตามเส้นทางเรื่อยๆ ปวดเท้าเว้ย เส้นทางช่างแสนยาวไกล เมื่อไหร่จะถึง Subashiri 5th Station สักที เพื่อนร่วมทางก็ไม่มี บอกเลยนับคนได้
แต่เขาก็ล่วงหน้าไปกันหมดแล้ว555 เพราะเขาวิ่งลงกันอย่างคล่องแคล่วเลยล่ะ เหลือเพียงชะนีสองนางคลานลงอย่างช้าๆ 555
หลังจากหมดหินดินกรวด ก็เจอกับป่าดงพงไพร โอ้ยช่างยาวไกลจริงๆ บอกเลยลงทรมานกว่าขึ้น ณ จุดนี้ แต่ในที่สุดเราก็เดินลงมาถึง Subashiri 5th Station ในเวลา 16.20น. รอรถบัสรอบ เวลา 16.45 น. ถึง Gotemba Station เวลา 17.40 น. แล้วกลับไปที่ Shinjuku หมดพลัง!!!
เป็นอีกทริปที่จะอยู่ในความทรงจำของเราไปอีกนานแสนนาน ถ้ามีโอกาสกลับไปอีกก็คงไปแน่นอนและจะเลือกเส้นทางที่แตกต่างกันออกไป อยากจะไปให้ครบทุกเส้นทางไม่ว่าจะเป็น Yoshida, Subashiri, Fujinomiya)
สำหรับการเดินครั้งนี้ตลอดการเส้นทางขึ้นและลงมันทำให้เราได้อยู่กับตัวเองจริงๆ เป็นการทำสมาธิที่ดีมากๆ
เพราะกว่าจะถึงเส้นชัยได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เราต้องผ่านความมยากลำบากมานับไม่ถ้วน
อุปสรรคมีให้เราเผชิญและเดินเข้าไปทักทายได้ตลอดเวลา ฉะนั้นแต่ละก้าวต้องระมัดระวัง เพราะถ้าพลาดก็คือล้มลื่นตกเขาเลยทีเดียว55
[CR] >>>>Gotemba Trail 2019 :) ภารกิจพิชิต Mt.Fuji 3,776 >>>>
และแล้วก็เริ่มวางแผนศึกษาเส้นทางต่าง เฝ้ารอฤดูปีนฟูจิอย่างใจจดจ่อซึ่งเขามีให้แค่ 3 เดือน คือ กรกฏาคม-สิงหาคม-กันยายน ของทุกปี
DAY 1 : 31 Aug 2019
เดินทางออกจากสนามบินดอนเมืองโดยสายการบิน NokScoot เที่ยวบิน XW 102 เวลา 02:20น.
เราขึ้นรถไฟที่ Shinjuku ขบวน Odakyu Odawara Line Exp. ไปลงที่สถานี Odawara
เช้าวันใหม่เมฆหมอกก็ยังคงหนาแน่นแล้วแบบนี้ฉันจะเห็นอะไรไหมล่ะ ความหนาวก็มาเยือนแบบเย็นสุดขั้วหัวใจ ลมก็แรงสุดสวิงริงโก้
ฟินมากค่ะ เพราะฟ้าเปิด ปลอดโปร่งมาก สดชื่นสุด ความเมื่อยเหนื่อยล้าที่มีมาทั้งหมดจบลงที่ยอดนี้จริงๆ เป็นความประทับใจที่อธิบายไม่ถูก เราใช้เวลาในการนั่งมองปากปล่องภูเขาไฟฟูจิอยู่สักพักก็เริ่มเดินวนตามเข็มนาฬิกาเพราะอยากจะดูให้รอบๆ อยากจะไปให้ครบทุกจุด
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้