Velika Planina เป็นอีกที่หนึ่งในสโลวีเนียที่ผมอยากมานานแสนนาน เมื่อคราวมาเที่ยวประเทศนี้ครั้งที่ ๒ ก็ไปไม่ได้ เพราะตารางรถไม่เอื้ออำนวย จนฝันเป็นจริงเมื่อมาสโลวีเนียเป็นครั้งที่ ๓ แม้ว่าจะต้องตื่นตี ๔ จาก Tolmin เพื่อนั่งรถกลับมาที่เมืองหลวง Ljubljana ๔ ชั่วโมง แล้วต่อรถไปอีกที่ Kamnik อีกราวเกือบ ๒ ชั่วโมงก็ยอม
Velika Planina แปลตรงตัวว่า ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ในเทือกเขา Julian Alps ลักษณะเด่นของบ้านเรือนที่นี่ คือ หลังคาที่ทำด้วยแผ่นไม้สนซ้อนกันไล่เรียงแผ่ราบลงไปด้วยองศาที่ค่อนข้างต่ำจนเกือบจะติดพื้น
ที่นี่ผสมผสานเทคโนโลยีกับความเป็นอยู่ดั้งเดิมได้อย่างดี จะสังเกตเห็นได้ว่า บ้านเรือนยังเป็นแบบเก่าแต่บนหลังคามีโซลาร์เซลล์ด้วยนะ ดูเป็นการเปิดรับเทคโนโลยีที่ฉลาด อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและอัตลักษณ์ของตนได้อย่างกลมกลืน
ทุกเดือนมิถุนายน เกษตรกรจะนำฝูงปศุสัตว์กลับมาที่นี่เพื่อให้สัตว์กินหญ้าจนถึงเดือนกันยายน พร้อมเสนอผลิตภัณฑ์นมนานาชนิดให้แขกมาเยือนได้ชิม แต่ตอนที่ไปเป็นเดือนพฤษภาคม ดูเหมือนยังไม่มีคนเลี้ยงสัตว์ที่ไหนกลับมา แต่เท่านี้ผมก็พอใจมากแล้ว
"ร้านอาหารข้างบนที่ Velika Planina เปิดไหมครับ" ผมถามร้านขายเครื่องดื่มที่ตีนเขาก่อนจะขึ้นมาที่นี่ ก่อนมาก็เช็คจากเว็บไซต์แล้วว่า ข้างบนมีร้านอาหาร แต่ถามเพื่อความแน่ใจ ไม่งั้นจะได้ซื้ออะไรจากข้างล่างขึ้นไป ตอนขึ้นมาเลยมีแค่น้ำเปล่าขวดนึงติดตัวมา
"เปิดค่ะ" หญิงสาวชาวสโลวีนตอบอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส
แต่จนแล้วจนรอด ผมก็หาร้านอาหารที่ Velika Planina ไม่เจอจนหิวโซ เดินมาพบหญิงชาวสโลวีนที่มาเดินเขาเหมือนกัน ๒ คน ผมถามหาร้านอาหาร สองคนนั้นดูไม่แน่ใจเหมือนกัน ผมเลยลองเดินวนไปวนมา แต่ก็ยังหาไม่เจอ
จนวนมาเจอสองสาวอีกรอบ เมื่อทั้งสองรู้ว่า ผมยังไม่ได้กินอะไร ก็ยื่นกล้วยหอมกับแอปเปิ้ลมาให้ แต่ผมปฏิเสธไปเพราะรู้ดีว่า ทางนั้นก็กำลังเดินเขาอยู่เหมือนกันและอาหารก็เป็นสิ่งสำคัญ
"รับไปเถอะค่ะ" หญิงสาวยืนยันในความปรารถนาดี
"งั้นผมขอกล้วยหอมลูกนึงก็พอครับ"
สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อหญิงสาวยัดแอปเปิ้ลเข้ามาในมือพร้อมกับกล้วยหอมด้วย เป็นการเดินทางครั้งหนึ่งที่ผมประทับใจมาก เลยต้องขอถ่ายรูปทั้งสองสาวกลับมาไว้เป็นที่ระลึก
หลังจากลงไปที่ตีนเขา เจ้าของร้านขายเครื่องดื่มถามว่า กินอะไรมาที่ข้างบน ผมตอบไปว่า หาร้านอาหารไม่เจอ หญิงสาวทำท่าตกใจด้วยรู้ว่า ผมคงจะหิวมากจากการเดินเขา
ตอนนั้นผมต้องรอรถเมล์ราวชั่วโมงครึ่ง แต่ประจวบเหมาะกับที่เจ้าของร้านเครื่องดื่มกำลังจะปิดร้านพอดี เจ้าบ้านเลยอาสาขับรถพามาส่งที่เมือง Kamnik ที่ผมพักอยู่ เป็นเมืองที่ผ่านทางไปเมือง Ljubljana จุดหมายปลายทางของเธอพอดี ทำให้ผมได้กลับเมืองเร็วขึ้นและหาของกินจนจุใจเลยทีเดียว
เป็นการท่องเที่ยวที่อิ่มทั้งตาอิ่มทั้งใจอีกครั้งหนึ่ง
-----------------------------------
ผมได้ทำเฟสบุ๊คแฟนเพจเพื่อบอกเล่าประสบการณ์การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น การเรียนระดับปริญญาโทที่สาธารณรัฐเช็กและเนเธอร์แลนด์ การทำงานด้านการทูตที่เบลเยียม และการท่องเที่ยวในยุโรป อาหรับ และเอเชีย ใครสนใจก็ขอเรียนเชิญไปที่เพจ "ยุโรปรำลึก ระทึกอาหรับ กลับสู่เอเชีย" ที่ลิงก์นี้ครับ
https://www.facebook.com/MemoirsOfMrNomad/
สโลวีเนีย (๔): น้ำใจคนสโลวีนที่ Velika Planina
Velika Planina แปลตรงตัวว่า ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ในเทือกเขา Julian Alps ลักษณะเด่นของบ้านเรือนที่นี่ คือ หลังคาที่ทำด้วยแผ่นไม้สนซ้อนกันไล่เรียงแผ่ราบลงไปด้วยองศาที่ค่อนข้างต่ำจนเกือบจะติดพื้น
ที่นี่ผสมผสานเทคโนโลยีกับความเป็นอยู่ดั้งเดิมได้อย่างดี จะสังเกตเห็นได้ว่า บ้านเรือนยังเป็นแบบเก่าแต่บนหลังคามีโซลาร์เซลล์ด้วยนะ ดูเป็นการเปิดรับเทคโนโลยีที่ฉลาด อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและอัตลักษณ์ของตนได้อย่างกลมกลืน
ทุกเดือนมิถุนายน เกษตรกรจะนำฝูงปศุสัตว์กลับมาที่นี่เพื่อให้สัตว์กินหญ้าจนถึงเดือนกันยายน พร้อมเสนอผลิตภัณฑ์นมนานาชนิดให้แขกมาเยือนได้ชิม แต่ตอนที่ไปเป็นเดือนพฤษภาคม ดูเหมือนยังไม่มีคนเลี้ยงสัตว์ที่ไหนกลับมา แต่เท่านี้ผมก็พอใจมากแล้ว
"ร้านอาหารข้างบนที่ Velika Planina เปิดไหมครับ" ผมถามร้านขายเครื่องดื่มที่ตีนเขาก่อนจะขึ้นมาที่นี่ ก่อนมาก็เช็คจากเว็บไซต์แล้วว่า ข้างบนมีร้านอาหาร แต่ถามเพื่อความแน่ใจ ไม่งั้นจะได้ซื้ออะไรจากข้างล่างขึ้นไป ตอนขึ้นมาเลยมีแค่น้ำเปล่าขวดนึงติดตัวมา
"เปิดค่ะ" หญิงสาวชาวสโลวีนตอบอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส
แต่จนแล้วจนรอด ผมก็หาร้านอาหารที่ Velika Planina ไม่เจอจนหิวโซ เดินมาพบหญิงชาวสโลวีนที่มาเดินเขาเหมือนกัน ๒ คน ผมถามหาร้านอาหาร สองคนนั้นดูไม่แน่ใจเหมือนกัน ผมเลยลองเดินวนไปวนมา แต่ก็ยังหาไม่เจอ
จนวนมาเจอสองสาวอีกรอบ เมื่อทั้งสองรู้ว่า ผมยังไม่ได้กินอะไร ก็ยื่นกล้วยหอมกับแอปเปิ้ลมาให้ แต่ผมปฏิเสธไปเพราะรู้ดีว่า ทางนั้นก็กำลังเดินเขาอยู่เหมือนกันและอาหารก็เป็นสิ่งสำคัญ
"รับไปเถอะค่ะ" หญิงสาวยืนยันในความปรารถนาดี
"งั้นผมขอกล้วยหอมลูกนึงก็พอครับ"
สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อหญิงสาวยัดแอปเปิ้ลเข้ามาในมือพร้อมกับกล้วยหอมด้วย เป็นการเดินทางครั้งหนึ่งที่ผมประทับใจมาก เลยต้องขอถ่ายรูปทั้งสองสาวกลับมาไว้เป็นที่ระลึก
หลังจากลงไปที่ตีนเขา เจ้าของร้านขายเครื่องดื่มถามว่า กินอะไรมาที่ข้างบน ผมตอบไปว่า หาร้านอาหารไม่เจอ หญิงสาวทำท่าตกใจด้วยรู้ว่า ผมคงจะหิวมากจากการเดินเขา
ตอนนั้นผมต้องรอรถเมล์ราวชั่วโมงครึ่ง แต่ประจวบเหมาะกับที่เจ้าของร้านเครื่องดื่มกำลังจะปิดร้านพอดี เจ้าบ้านเลยอาสาขับรถพามาส่งที่เมือง Kamnik ที่ผมพักอยู่ เป็นเมืองที่ผ่านทางไปเมือง Ljubljana จุดหมายปลายทางของเธอพอดี ทำให้ผมได้กลับเมืองเร็วขึ้นและหาของกินจนจุใจเลยทีเดียว
เป็นการท่องเที่ยวที่อิ่มทั้งตาอิ่มทั้งใจอีกครั้งหนึ่ง
-----------------------------------
ผมได้ทำเฟสบุ๊คแฟนเพจเพื่อบอกเล่าประสบการณ์การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น การเรียนระดับปริญญาโทที่สาธารณรัฐเช็กและเนเธอร์แลนด์ การทำงานด้านการทูตที่เบลเยียม และการท่องเที่ยวในยุโรป อาหรับ และเอเชีย ใครสนใจก็ขอเรียนเชิญไปที่เพจ "ยุโรปรำลึก ระทึกอาหรับ กลับสู่เอเชีย" ที่ลิงก์นี้ครับ https://www.facebook.com/MemoirsOfMrNomad/