แบ่งปันประสพการณ์น้ำท่วม ปี54 จากคนดอนเมือง
ปี 54 น้ำเข้าท่วมดอนเมือง ประมาณวันนี้ 20 ตค.54
บ้านผมเป็นบ้านตึกเดี่ยว 3 ชั้นๆล่าง สูงกว่าถนน ประมาณ 50 ซม.
น้ำท่วมสูงสุดกว่าพื้นชั้นล่างประมาณ 40-50 ซม. แต่น้ำไม่เข้ามาในบ้านเพียงแต่ซึมเข้ามานิดหน่อย
วิธีการป้องกัน
1. ใช้ซีลีโคลแบบใส ยิงยาตามวงกบประตู จากด้านล่างถึงขอบข้างสูง ประมาณ 1 เมตร กะว่าสู้แค่นั้น ถ้าน้ำมามากก็คงจะล้นขอบหน้าต่างไหลเข้าบ้าน ก้เลยยาซีลีโคลไว้แค่ 1 เมตร(100 ซม.) เอาซีลีโคนยาวงกบแล้วปิดประตู ประตูเป็นประตูปานไม้สักลูกฟัก น้ำจำไม่เข้าตามขอบวงกบแล้วเพราะยาแนวไว้ แต่น้ำจะซึมเข้าตามปานลูกฟัก และขอบข้างที่เป็นกระจก เอาซีลีโคนยาแนวขอบกระจกกันน้ำซึม ประตุเป็นประตุบานคู่ใหญ่ไม้สัก เอาฟิวเจอร์บอรด์แผ่นใหญ่
แบบหนา 3 มม.ปิดทับประตูและยาด้วยซีลีโคน
เวลาน้ำมา น้ำจะถูกแผ่นฟิวเจอร์บอรดกันไว้ก่อน และถ้ามีบางส่วนซึมเข้า ก็จะเจอกับซีลีโคน ที่ยาแนวที่วงกบประตู
ประตูทุกบานถูกปิดตายหมดเปิดไม่ได้ กันน้ำได้ดี การเข้าออกบ้าน ผมเหลือประตูครัวไว้หนึ่งบาน เป็นประตูบานเดี่ยวไม้สนลูกฟัก ผมเปิดไว้แล้วใช้ไม้ทำเขื่อนกันน้ำไว้สูงประมาณ 1 เมตร แล้วใช้ฟิวเจอรบอรดยาแนวปิดกันน้ำ ประตูครัวเป็นประตู 2 ชั้น ขั้นนอกเป็นประตูไม้ลูกฟักเปิดทิ้งไว้ ประตูชั้นในเป็นประตูเหล็กมีมุ้งลวดกันยุง เปิดปิดได้
ใช้วิธีนี้กันน้ำเข้าบ้านได้ น้ำจะซึมเข้าตามขอบกำแพงตึกบ้าง ตามใต้วงกบบ้าง เราก็เอาผ้ากันไว้แล้วซับออก ตอนเช้าจะมีน้ำซึมเข้ามาในบ้านประมาณ1 - 2 ซม. เราก็เอาเครื่องปั้มน้ำขนาดเล็ก(เครื่องทำน้ำพุ) ดูดน้ำออก กลางวันจะแห้งเพราะเราอยู่บ้านคอยดูดน้ำออก จะมีตอนกลางคืนที่น้ำซึมเข้าก็นิดหน่อย เพราะระดับน้ำรอบบ้านสูงกว่าพื้นบ้านเกือบ 50 ซม.
2. ส่วนของห้องน้ำ ผมใช้ดินเหนียว ใส่ถุงก็อปแก๊บสองสามชั้น ปั้นเป็นแท่งยัดลงไปในท่อน้ำทิ้ง เอาหินหนักๆทับไว้ แล้วเปิดน้ำดี หล่อไว้ด้านบน กำมีน้ำจากข้างนอกซึมเข้ามาบ้างแต่ก็ไม่มาก
3. ส่วนเฟอรืนิเจอร ของใช้ ที่บ้านมีเปียโน เอาผ้าพลาสติกห่อจากพื้นขึ้นมา ก้ไม่ได้รับความเสีหาย
ที่บ้านไม่ใช้กระสอบทราย เพราะมันหนักขนไม่ไหว ไม่ใช้อิฐบล๊อค ใช้แค่ซีลีโคน 3 หลอด๐ละ 80 บาท ใช้ฟิวเจอรบอรด 3 แผ่นใหญ่ แผ่นละ 150 บ.
ผมสู้กับน้ำมาได้สองเดือนจนน้ำแห้ง ข้าวของไม่เสียหายทั้งที่น้ำสูงกว่าพื้นชั้นล่างเกือบ 50 ซม.
จึงอยากแชร์ประสพการณ์นี้ให้คนอื่นนำไปดัดแปลงใช้กับบ้างครับ เสียดายตอนนั้น มือถือผมยังไม่มีกล้อง เลยไม่มีภาพประกอบ
แบ่งปันประสพการณ์น้ำท่วม ปี54 จากคนดอนเมือง
ปี 54 น้ำเข้าท่วมดอนเมือง ประมาณวันนี้ 20 ตค.54
บ้านผมเป็นบ้านตึกเดี่ยว 3 ชั้นๆล่าง สูงกว่าถนน ประมาณ 50 ซม.
น้ำท่วมสูงสุดกว่าพื้นชั้นล่างประมาณ 40-50 ซม. แต่น้ำไม่เข้ามาในบ้านเพียงแต่ซึมเข้ามานิดหน่อย
วิธีการป้องกัน
1. ใช้ซีลีโคลแบบใส ยิงยาตามวงกบประตู จากด้านล่างถึงขอบข้างสูง ประมาณ 1 เมตร กะว่าสู้แค่นั้น ถ้าน้ำมามากก็คงจะล้นขอบหน้าต่างไหลเข้าบ้าน ก้เลยยาซีลีโคลไว้แค่ 1 เมตร(100 ซม.) เอาซีลีโคนยาวงกบแล้วปิดประตู ประตูเป็นประตูปานไม้สักลูกฟัก น้ำจำไม่เข้าตามขอบวงกบแล้วเพราะยาแนวไว้ แต่น้ำจะซึมเข้าตามปานลูกฟัก และขอบข้างที่เป็นกระจก เอาซีลีโคนยาแนวขอบกระจกกันน้ำซึม ประตุเป็นประตุบานคู่ใหญ่ไม้สัก เอาฟิวเจอร์บอรด์แผ่นใหญ่
แบบหนา 3 มม.ปิดทับประตูและยาด้วยซีลีโคน
เวลาน้ำมา น้ำจะถูกแผ่นฟิวเจอร์บอรดกันไว้ก่อน และถ้ามีบางส่วนซึมเข้า ก็จะเจอกับซีลีโคน ที่ยาแนวที่วงกบประตู
ประตูทุกบานถูกปิดตายหมดเปิดไม่ได้ กันน้ำได้ดี การเข้าออกบ้าน ผมเหลือประตูครัวไว้หนึ่งบาน เป็นประตูบานเดี่ยวไม้สนลูกฟัก ผมเปิดไว้แล้วใช้ไม้ทำเขื่อนกันน้ำไว้สูงประมาณ 1 เมตร แล้วใช้ฟิวเจอรบอรดยาแนวปิดกันน้ำ ประตูครัวเป็นประตู 2 ชั้น ขั้นนอกเป็นประตูไม้ลูกฟักเปิดทิ้งไว้ ประตูชั้นในเป็นประตูเหล็กมีมุ้งลวดกันยุง เปิดปิดได้
ใช้วิธีนี้กันน้ำเข้าบ้านได้ น้ำจะซึมเข้าตามขอบกำแพงตึกบ้าง ตามใต้วงกบบ้าง เราก็เอาผ้ากันไว้แล้วซับออก ตอนเช้าจะมีน้ำซึมเข้ามาในบ้านประมาณ1 - 2 ซม. เราก็เอาเครื่องปั้มน้ำขนาดเล็ก(เครื่องทำน้ำพุ) ดูดน้ำออก กลางวันจะแห้งเพราะเราอยู่บ้านคอยดูดน้ำออก จะมีตอนกลางคืนที่น้ำซึมเข้าก็นิดหน่อย เพราะระดับน้ำรอบบ้านสูงกว่าพื้นบ้านเกือบ 50 ซม.
2. ส่วนของห้องน้ำ ผมใช้ดินเหนียว ใส่ถุงก็อปแก๊บสองสามชั้น ปั้นเป็นแท่งยัดลงไปในท่อน้ำทิ้ง เอาหินหนักๆทับไว้ แล้วเปิดน้ำดี หล่อไว้ด้านบน กำมีน้ำจากข้างนอกซึมเข้ามาบ้างแต่ก็ไม่มาก
3. ส่วนเฟอรืนิเจอร ของใช้ ที่บ้านมีเปียโน เอาผ้าพลาสติกห่อจากพื้นขึ้นมา ก้ไม่ได้รับความเสีหาย
ที่บ้านไม่ใช้กระสอบทราย เพราะมันหนักขนไม่ไหว ไม่ใช้อิฐบล๊อค ใช้แค่ซีลีโคน 3 หลอด๐ละ 80 บาท ใช้ฟิวเจอรบอรด 3 แผ่นใหญ่ แผ่นละ 150 บ.
ผมสู้กับน้ำมาได้สองเดือนจนน้ำแห้ง ข้าวของไม่เสียหายทั้งที่น้ำสูงกว่าพื้นชั้นล่างเกือบ 50 ซม.
จึงอยากแชร์ประสพการณ์นี้ให้คนอื่นนำไปดัดแปลงใช้กับบ้างครับ เสียดายตอนนั้น มือถือผมยังไม่มีกล้อง เลยไม่มีภาพประกอบ