คือบ้านผมถูกน้ำท่วมเมื่อปี 54 น้ำท่วมครึ่งบ้าน หลังน้ำลดก็เก็บเงินมาเรื่อยๆ พอมีเงินซักก้อนก็เลยต้องซ่อมบ้าน แต่ไหนๆจะซ่อมแล้ว
ก็เลยทุบสร้างใหม่ไปเลยแล้วกัน ต้วบ้านเดิมเป็นบ้านปูนชั้นเดียว สร้างใหม่เลยทำเป็นบ้านไม้สองชั้นใต้ถุนโล่ง เพื่อหนีน้ำท่วม
(ถ้าท่วมอีก) โดยรื้อหลังคา และทุบผังเดิมออกหมดเหลือไว้แต่เสาบ้านที่เป็นปูน (เสาบ้านเดิมลงเสาเข็มไว้) เพื่อใช้เป็นเสาบ้านของ
ชั้นสอง (สร้างใหม่) โดยชั้นสองพยายามใช้วัสดุเบาทั้งหมด (กลัวบ้านทรุด) โดยตัวบ้านใช้โครงเหล็กทั้งหมด ปูพื้นด้วยไม้กระดาน
ฝาบ้านใช้ไม้เณอร่า หลังคามุงด้วยกระเบื้องรอนคู่ สร้างเสร็จและอยู่อาศัยมา 1 ปีแล้ว ทั้งๆที่พื้นด้านล่างยังเละเหมือนเดิม
(เศษผนังปูน และหลังคาที่ทุบลงมา) เพราะงบประมาณหมด ก็เก็บเงินมาอีกซักพักเลยกะว่าจะเทพื้นบ้านด้านล่างใหม่
พื้นบ้านชั้นล่าง ขนาด 48 ตรม. เทพื้นแบบ on beam ตัวบ้านต่ำกว่าถนน 50 cm เลยอยากจะยกพื้นบ้านให้สูงขึ้นอีก 50 cm
เพื่อให้พอดีถนน เมื่อเทแล้วจะเหลือความสูงถึงชั้นสอง 2.50 ม. (พื้นเดิมถึงชั้นสองสูง 3 ม.)
แต่ด้วยงบประมาณจำกัด เลยอยากถามว่าควรทำแบบไหนดีถึงจะประหยัดและปลอดภัยที่สุด (ไม่อยากให้บ้านทรุด)
1.ถมทราย+เทพื้นปูนทับ
2.รองด้วยโฟม EPS วางโครงไก่แล้วเทปูนทับ
3.ทำคานลอยยกสูงจากพื้นเดิม (ด้านล่างกลวง)+ปูพื้นสำเร็จ+เทพื้นปูนทับ
แบบไหนจะประหยัดค่าใช้จ่ายและปลอดภัยที่สุดครับ