สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวหัวหินกับแฟน ซึ่งโอกาสนี้เราทำการจองโรงแรมจากเวปไซต์ Agoda
โรงแรมอยู่ซอยหัวหิน 19 ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนักแต่ทางเข้าจากถนนใหญ่แอบลึกพอสมควร
ที่จอดรถแอบห่างจากอาคารเล็กน้อยแต่ไม่ต้องกังวลครับ ทางโรงแรมจัดรถกอล์ฟไว้รับคุณไป Lobby แบบสบายๆ
อ่อ ด้านหน้าโรงแรมจะมีสนามฟุตบอลให้ด้วยนะครับ แต่ไม่มี Sport light ฉะนั้นเล่นช่วงเย็นๆถ้ามาหลายคนนี้แจ่มมากคับ
เหมาะกับท่านที่มากันเป็นหมู่คณะ รับรองมีจัดเตะบอลกันแน่
เข้ามาCheck -in ก็มีจะ Welcome drink ให้นะครับ จำไม่ได้แล้ววันนั้นได้มาเป็นอะไร ใช้เวลานิดเดียวครับก็จะมีพนักงานพาไปที่ห้อง
พร้อมยกกระเป๋าไปส่งให้ สมกับโรงแรมขนาดใหญ่มาก ห้องพักของผมเป็นห้องแบบ Rest Green นะครับ ในห้องก็จะมีการ
จัดสัดส่วนที่ดีเลย มี Sofa bed อยู่ตรงมุมห้องข้างทีวีไว้นอนเล่น นอกระเบียงก็จะมี Sofa ไว้นั่งเล่นแก้เบื่อ แต่เข้ามาแล้ว
เจอเลยครับ ผลไม้วางอยู่แล้วเป้น ส้ม กล้วยและแอปเปิ้ล (แอบเหี่ยวไปนิดหน่อยนะ) ส่วนในห้องก็มีพวก Amenities ครบครันมากครับ
อยากจะบอกว่าใครชอบกลิ่นตะไคร้ ที่นี่คุณได้ดมจุใจมาก โลชั่นหอมตะไคร้จริงๆครับ เตียงนอนนิ่มมากครับ แล้วก็หมอนก็นิ่มถูกใจแฟนผมมาก
ก็ช่วงกลางวันเราก็ใช้เวลาในห้องนี่แหละครับ ตกเย็นก็ออกไปเที่ยว Cicada market ตามปกติ ซึ่งมีละครเวทีแก้วหน้าม้าอยู่ อยากบอกว่า
นักแสดงโดยเฉพาะนางเอกของเรา เล่นได้ดีมากๆครับ อารมณ์ร่วมมาเต็ม ร้องเพลงได้เพราะมาก
ก็กลับมานอนแล้วตื่นมาทานอาหารเช้าที่ โรงแรมนี่แหละครับ อาหารเช้าไลน์อาหารหลากหลายดี รสชาติใช้ได้เลยครับ
แต่ทีนี้ปัญหาของผมเกิดตอน Check-out ครับ ผมลืมสร้อยพระซึ่งเป็นสร้อยทองไว้ในห้อง ซึ่งผมจำตำแหน่งได้เลยครับ
นั่นคือตรงหัวเตียงซึ่งจะเป็นหัวเตียงแคบๆเล็กๆ ยื่นจากผนังราว 1 - 2 นิ้ว หลายคนอาจจะสงสัยว่าไม่หล่นหรอ ไม่หล่นครับ
ผมถอดวางไว้ตั้งแต่ก่อนนอน เช้ามาก็ยังอยู่ใส่ลงไปทานอาหารเช้า แต่พอกลับขึ้นมาอาบน้ำก็ถอดสร้อยวางที่เดิม (ตอนลงไปไม่ได้อาบน้ำครับ)
สาเหตุว่าทำไมวางตรงนั้น เพราะมันเป็นพื้นที่เดียวในห้องที่สามารถวางสร้อยได้น่ะครับเพราะอยู่สูงกว่าหัว บนโต๊ะก็ไม่ได้เพราะเราวางของ
จะไม่เหมาะสมได้ ซึ่งกว่าจะรู้ตัวก็นู้นเลยครับ ทุ่มนึงแล้วกลับ เข้าบ้านจะอาบน้ำแล้ว ซึ่งระหว่างทางกลับเราแวะเข้าปั๊มเพื่อฉี่ระหว่างทางเท่านั้น
และไม่ได้แวะที่ไหนเลย ซึ่งผมเองก็ดูจากรูปถ่ายที่ถ่ายกันกับแฟน ว่าตอน check out ผมยังมานั่งทำงานใน Lobby ซักพักนึงแล้วเราถ่ายรูปกัน
ณ ตอนนั้นที่คอผมก็ไม่มีสร้อยแล้ว ซึ่งผมก็มั่นใจมากครับว่าลืมไว้ตรงนั้นแหละ เพราะก่อนออกเราค่อนข้างรีบเพราะจะเลยเวลา check out
พอดีตื่นสายน่ะครับ ซึ่งสิ่งที่ผมไม่โอเคคือ
1. ผมโทรไปแจ้งราว 1 ทุ่ม มีการติดต่อกลับมาก็ปาไป 19.45 แล้วครับ ควร มีการ แจ้งเป็นะระยะมั้ย
2. ผมแจ้งตำแหน่งและข้อสงสัยแล้วว่าน่าจะอยู่กับทางแม่บ้าน ทำไมไม่รีบไปดูไปสอบถามกันตรงนั้น
3. ผมแจ้งขอชื่อ/เบอร์ติดต่อแม่บ้านไป ทางโรงแรมเพิกเฉยมาก เข้าใจเรื่องเบอร์นะครับแต่ชื่อนี่มันไม่ควรปิดมั้ย
4. กว่าจะแจ้งชื่อคือต้องให้ผมอธิบายขั้นตอนว่าเอาชื่อทำไม เพราะผมมองว่ากรณีเค้าเอาทองไปขายที่ร้านทอง
ร้านทองจะต้องขอบัตรประชาชนไว้ เก็บเป็นหลักฐานด้วย ในระยะหลังๆนี้เพราะทางร้านทองเองต้องทำเอกสาร
ใบซื้อทองเก่ามา เพื่อเป็นต้นทุนของร้าน ซึ่งตรงนี้ผมทราบเพราะทำงานร่วมกับร้านทองอยู่
5. ในกระบวนการสืบหาข้อเท็จจริง ผมสอบถามแม่บ้านพบว่า
5.1 หลังการ Check out แม่บ้านคนที่ 1 เป็นคนตรวจสอบ Mini-Bar และผ้าขนหนู ซึ่งผมค่อนข้างมั่นใจถ้าไปดูในห้องน้ำคุณก็ต้องเห็นสร้อยแล้วครับ
มันวางชัดเจนพอควรเลย
5.2 หลังจากนั้นผู้จัดการฝ่ายหน้า มาช่วยรับกระเป๋าของผมหน้าห้องซึ่งไม่ได้เข้ามาข้างในผมก็ไม่ได้สงสัยเค้าเลยตรงนี้
5.3 ประมาณ 4 โมงเย็นแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดห้องมีพนักงานชายอีกคน
จากตรงนี้หากมีการนำสร้อยไปจริงคนที่น่าสงสัยก็อยู่ใน 3 คนนี้ โดยกลุ่มพนักงานที่ต้องทำความสะอาดห้องมีความน่าสงสัยสุด
แต่สิ่งที่ผมรู้สึก หมดหวังเลยคือ การหาข้อเท็จจริงนี้ ทำโดย ผู้จัดการฝ่ายหน้าซึ่งก็คือหัวหน้าของพนักงานทำความสะอาดห้องแถมตัวเองยัง
เข้ามาในห้องด้วย ซึ่งผมทำงานด้านการตรวจสอบ มันค่อนข้างรู้กันทั่วไปคือ เราไม่เอาคนที่เกี่ยวกับกิจกรรมนั้นๆมาตรวจสอบเรื่องนั้นๆ
เพราะมันมี bias และตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ทางโรงแรมเงียบมากครับไม่ติดต่อผมเลย ต้องเป็นผมติดต่อไปฝ่ายเดียว โดยทางผู้จัดการแจ้งว่า
จะทำรายงานสรุปส่งให้ ก็ไม่ค่อยมีประโยชน์มากนักหรอกครับรายงานนั้น ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ผมเสียความรู้สึกมาก ผมเข้าใจผมผิดเองที่ลืมของ
แต่เราก็คาดหวังว่าเวลาของหายทีไหนก็จะได้คืน บทเรียนครั้งนี้ผมจะจำไว้ว่าไม่ว่าที่นั่นจะดูดีแค่ไหน ห้ามไว้ใจอะไรก็ตามที่เกียวกับคนทั้งสิ้น
ทาง โรงแรมแจ้งผมว่า พนักงานทำความสะอาดได้รับรางวัลดีเด่นหลายหนและคืนของให้แขกหลายคนแล้ว
สถานการณ์มันต่างกันมั้ย
นี่แหละครับประสบการณ์แย่ๆของผมกับที่แห่งนี้ แฟนผมมา 2 ครั้งแล้วชอบมาก แต่ผมครั้งนีเครั้งแรก มาเพราะเค้าอยากมามากๆ
แต่ก็เข็ดละครับ
การบริการอื่นทางโรงแรมดีนะครับ ไม่ได้มีปัญหาอะไร
[CR] ประสบการณ์แสนเศร้ากับโรงแรมดังในหัวหิน รูปลิงปิดหูปิดตาปิดจมูก (Rest Detail)
โรงแรมอยู่ซอยหัวหิน 19 ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนักแต่ทางเข้าจากถนนใหญ่แอบลึกพอสมควร
ที่จอดรถแอบห่างจากอาคารเล็กน้อยแต่ไม่ต้องกังวลครับ ทางโรงแรมจัดรถกอล์ฟไว้รับคุณไป Lobby แบบสบายๆ
อ่อ ด้านหน้าโรงแรมจะมีสนามฟุตบอลให้ด้วยนะครับ แต่ไม่มี Sport light ฉะนั้นเล่นช่วงเย็นๆถ้ามาหลายคนนี้แจ่มมากคับ
เหมาะกับท่านที่มากันเป็นหมู่คณะ รับรองมีจัดเตะบอลกันแน่
เข้ามาCheck -in ก็มีจะ Welcome drink ให้นะครับ จำไม่ได้แล้ววันนั้นได้มาเป็นอะไร ใช้เวลานิดเดียวครับก็จะมีพนักงานพาไปที่ห้อง
พร้อมยกกระเป๋าไปส่งให้ สมกับโรงแรมขนาดใหญ่มาก ห้องพักของผมเป็นห้องแบบ Rest Green นะครับ ในห้องก็จะมีการ
จัดสัดส่วนที่ดีเลย มี Sofa bed อยู่ตรงมุมห้องข้างทีวีไว้นอนเล่น นอกระเบียงก็จะมี Sofa ไว้นั่งเล่นแก้เบื่อ แต่เข้ามาแล้ว
เจอเลยครับ ผลไม้วางอยู่แล้วเป้น ส้ม กล้วยและแอปเปิ้ล (แอบเหี่ยวไปนิดหน่อยนะ) ส่วนในห้องก็มีพวก Amenities ครบครันมากครับ
อยากจะบอกว่าใครชอบกลิ่นตะไคร้ ที่นี่คุณได้ดมจุใจมาก โลชั่นหอมตะไคร้จริงๆครับ เตียงนอนนิ่มมากครับ แล้วก็หมอนก็นิ่มถูกใจแฟนผมมาก
ก็ช่วงกลางวันเราก็ใช้เวลาในห้องนี่แหละครับ ตกเย็นก็ออกไปเที่ยว Cicada market ตามปกติ ซึ่งมีละครเวทีแก้วหน้าม้าอยู่ อยากบอกว่า
นักแสดงโดยเฉพาะนางเอกของเรา เล่นได้ดีมากๆครับ อารมณ์ร่วมมาเต็ม ร้องเพลงได้เพราะมาก
ก็กลับมานอนแล้วตื่นมาทานอาหารเช้าที่ โรงแรมนี่แหละครับ อาหารเช้าไลน์อาหารหลากหลายดี รสชาติใช้ได้เลยครับ
แต่ทีนี้ปัญหาของผมเกิดตอน Check-out ครับ ผมลืมสร้อยพระซึ่งเป็นสร้อยทองไว้ในห้อง ซึ่งผมจำตำแหน่งได้เลยครับ
นั่นคือตรงหัวเตียงซึ่งจะเป็นหัวเตียงแคบๆเล็กๆ ยื่นจากผนังราว 1 - 2 นิ้ว หลายคนอาจจะสงสัยว่าไม่หล่นหรอ ไม่หล่นครับ
ผมถอดวางไว้ตั้งแต่ก่อนนอน เช้ามาก็ยังอยู่ใส่ลงไปทานอาหารเช้า แต่พอกลับขึ้นมาอาบน้ำก็ถอดสร้อยวางที่เดิม (ตอนลงไปไม่ได้อาบน้ำครับ)
สาเหตุว่าทำไมวางตรงนั้น เพราะมันเป็นพื้นที่เดียวในห้องที่สามารถวางสร้อยได้น่ะครับเพราะอยู่สูงกว่าหัว บนโต๊ะก็ไม่ได้เพราะเราวางของ
จะไม่เหมาะสมได้ ซึ่งกว่าจะรู้ตัวก็นู้นเลยครับ ทุ่มนึงแล้วกลับ เข้าบ้านจะอาบน้ำแล้ว ซึ่งระหว่างทางกลับเราแวะเข้าปั๊มเพื่อฉี่ระหว่างทางเท่านั้น
และไม่ได้แวะที่ไหนเลย ซึ่งผมเองก็ดูจากรูปถ่ายที่ถ่ายกันกับแฟน ว่าตอน check out ผมยังมานั่งทำงานใน Lobby ซักพักนึงแล้วเราถ่ายรูปกัน
ณ ตอนนั้นที่คอผมก็ไม่มีสร้อยแล้ว ซึ่งผมก็มั่นใจมากครับว่าลืมไว้ตรงนั้นแหละ เพราะก่อนออกเราค่อนข้างรีบเพราะจะเลยเวลา check out
พอดีตื่นสายน่ะครับ ซึ่งสิ่งที่ผมไม่โอเคคือ
1. ผมโทรไปแจ้งราว 1 ทุ่ม มีการติดต่อกลับมาก็ปาไป 19.45 แล้วครับ ควร มีการ แจ้งเป็นะระยะมั้ย
2. ผมแจ้งตำแหน่งและข้อสงสัยแล้วว่าน่าจะอยู่กับทางแม่บ้าน ทำไมไม่รีบไปดูไปสอบถามกันตรงนั้น
3. ผมแจ้งขอชื่อ/เบอร์ติดต่อแม่บ้านไป ทางโรงแรมเพิกเฉยมาก เข้าใจเรื่องเบอร์นะครับแต่ชื่อนี่มันไม่ควรปิดมั้ย
4. กว่าจะแจ้งชื่อคือต้องให้ผมอธิบายขั้นตอนว่าเอาชื่อทำไม เพราะผมมองว่ากรณีเค้าเอาทองไปขายที่ร้านทอง
ร้านทองจะต้องขอบัตรประชาชนไว้ เก็บเป็นหลักฐานด้วย ในระยะหลังๆนี้เพราะทางร้านทองเองต้องทำเอกสาร
ใบซื้อทองเก่ามา เพื่อเป็นต้นทุนของร้าน ซึ่งตรงนี้ผมทราบเพราะทำงานร่วมกับร้านทองอยู่
5. ในกระบวนการสืบหาข้อเท็จจริง ผมสอบถามแม่บ้านพบว่า
5.1 หลังการ Check out แม่บ้านคนที่ 1 เป็นคนตรวจสอบ Mini-Bar และผ้าขนหนู ซึ่งผมค่อนข้างมั่นใจถ้าไปดูในห้องน้ำคุณก็ต้องเห็นสร้อยแล้วครับ
มันวางชัดเจนพอควรเลย
5.2 หลังจากนั้นผู้จัดการฝ่ายหน้า มาช่วยรับกระเป๋าของผมหน้าห้องซึ่งไม่ได้เข้ามาข้างในผมก็ไม่ได้สงสัยเค้าเลยตรงนี้
5.3 ประมาณ 4 โมงเย็นแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดห้องมีพนักงานชายอีกคน
จากตรงนี้หากมีการนำสร้อยไปจริงคนที่น่าสงสัยก็อยู่ใน 3 คนนี้ โดยกลุ่มพนักงานที่ต้องทำความสะอาดห้องมีความน่าสงสัยสุด
แต่สิ่งที่ผมรู้สึก หมดหวังเลยคือ การหาข้อเท็จจริงนี้ ทำโดย ผู้จัดการฝ่ายหน้าซึ่งก็คือหัวหน้าของพนักงานทำความสะอาดห้องแถมตัวเองยัง
เข้ามาในห้องด้วย ซึ่งผมทำงานด้านการตรวจสอบ มันค่อนข้างรู้กันทั่วไปคือ เราไม่เอาคนที่เกี่ยวกับกิจกรรมนั้นๆมาตรวจสอบเรื่องนั้นๆ
เพราะมันมี bias และตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ทางโรงแรมเงียบมากครับไม่ติดต่อผมเลย ต้องเป็นผมติดต่อไปฝ่ายเดียว โดยทางผู้จัดการแจ้งว่า
จะทำรายงานสรุปส่งให้ ก็ไม่ค่อยมีประโยชน์มากนักหรอกครับรายงานนั้น ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ผมเสียความรู้สึกมาก ผมเข้าใจผมผิดเองที่ลืมของ
แต่เราก็คาดหวังว่าเวลาของหายทีไหนก็จะได้คืน บทเรียนครั้งนี้ผมจะจำไว้ว่าไม่ว่าที่นั่นจะดูดีแค่ไหน ห้ามไว้ใจอะไรก็ตามที่เกียวกับคนทั้งสิ้น
ทาง โรงแรมแจ้งผมว่า พนักงานทำความสะอาดได้รับรางวัลดีเด่นหลายหนและคืนของให้แขกหลายคนแล้ว
สถานการณ์มันต่างกันมั้ย
นี่แหละครับประสบการณ์แย่ๆของผมกับที่แห่งนี้ แฟนผมมา 2 ครั้งแล้วชอบมาก แต่ผมครั้งนีเครั้งแรก มาเพราะเค้าอยากมามากๆ
แต่ก็เข็ดละครับ
การบริการอื่นทางโรงแรมดีนะครับ ไม่ได้มีปัญหาอะไร
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น