จากกระทู้นี้ที่ถกกัน หากพระโสดาบัน ปรารถนาพระโพธิสัตว์ จะไม่สามารถเป็นได้หรือครับ
https://ppantip.com/topic/36961697
สำหรับความเข้าใจของผมตอบว่า คือพระโสดาบันยังคิด ยังกังขา ในคุณธรรมของตนเองอยู่ได้ ดังนั้นพระโสดาบันที่เคยปรารถนาพุทธภูมิ มาอย่างยาวนานแล้ว ย่อมยังคิด ยังข้อง หรือยังกังขา ในเรื่องปารถนาพุทธภูมิ หรือความเป็นโพธิสัตว์อยู่เป็นธรรมดา ด้วยยังเป็นพระอริยแบบเสขะอยู่กิเลสยังไม่หมดสิ้น ย่อมยังถือเอาความดีมากไว้อยู่ และปัญญายังไม่แจ้งชัดในธรรมแห่งตนเองอยู่.
ยกเรื่องที่พอจำได้จากพระไตรปิกฏ เรื่องของพระมหานามะ เป็นกษัตริย์ ครองกรุงกบิลพัฒน เป็นพระญาติของพระพุทธเจ้า ได้ฟังธรรมจนบรรลเป็นพระอริยะ โสดาบัน หรือ สกิทาคามี ได้ตรัสถามพระพุทธเจ้า เชิ่งสงสัยในคุณธรรมของตนเองที่ว่าได้บรรลุธรรมเบื้องต้นแล้ว แต่จิตใจยังไม่มั่นคงที่ระลึกถึง พระพุทธเจ้าได้เนื่องๆ ยังไหลไปตามตัณหาได้อยู่ จึงกังขา คิดว่า ตนเองบรรลุธรรมเป็นพระอริยะเบื้องต้นจริงหรือ.
จนพระพุทธเจ้าตรงตรัสย่ำอธิบายให้ทราบชัดอีกครั้ง.
ดังนั้นผมจึงเห็นว่า พระโสดาบัน ที่เคยปรารถนาพุทธภูมิ หรือเป็นอนิยตโพธิสุตว์มาอย่างยาวนาน แม้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน ย่อมยังคิด ยังกังขาไปในเรื่องพุทธภูมิ หรือโพธิสัตว์ได้อยู่ เพราะคุณธรรมความดีที่ถือไว้นั้น ไม่ได้ถูกละถอนทิ้งไปด้วยพร้อมสังโยชน์ 3 บวกกับเพราะยังไม่เกิดปัญญาเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจน ด้วยมรรคญาณ ที่เกิดเพียงครั้งเดียว
คงทำนองเดียวกัน ผู้บรรลุฌาน 1 เพียงครั้งเดียว ย่อมแยกแยะไม่ได้อย่างขัดเจนว่านี้เป็น ฌานที่ 1 หรือตนได้ฌานที่ 1 แล้วอย่างมั่นใจ แม้จะกางตำราดูก็ตาม แต่เมื่อเพียรปฏิบัติไปจนบรรลุฌาน 2 หรือ 3 ก็จะเกิดความไม่กังขา หรือคิดว่า ที่ผ่านมาใช่หรือไม่ใช่ ฌานที่ 1 หมดคำถามเพราะ ธรรมนั้นเแหละสอนธรรม กับผู้ปฏิบัติเอง
พระโสดาบัน ยังคิดปรารถนาพุทธภูมิ หรือยังคิดว่าตนเองเป็นพระโพธิสัตว์ ได้หรือไม่?
สำหรับความเข้าใจของผมตอบว่า คือพระโสดาบันยังคิด ยังกังขา ในคุณธรรมของตนเองอยู่ได้ ดังนั้นพระโสดาบันที่เคยปรารถนาพุทธภูมิ มาอย่างยาวนานแล้ว ย่อมยังคิด ยังข้อง หรือยังกังขา ในเรื่องปารถนาพุทธภูมิ หรือความเป็นโพธิสัตว์อยู่เป็นธรรมดา ด้วยยังเป็นพระอริยแบบเสขะอยู่กิเลสยังไม่หมดสิ้น ย่อมยังถือเอาความดีมากไว้อยู่ และปัญญายังไม่แจ้งชัดในธรรมแห่งตนเองอยู่.
ยกเรื่องที่พอจำได้จากพระไตรปิกฏ เรื่องของพระมหานามะ เป็นกษัตริย์ ครองกรุงกบิลพัฒน เป็นพระญาติของพระพุทธเจ้า ได้ฟังธรรมจนบรรลเป็นพระอริยะ โสดาบัน หรือ สกิทาคามี ได้ตรัสถามพระพุทธเจ้า เชิ่งสงสัยในคุณธรรมของตนเองที่ว่าได้บรรลุธรรมเบื้องต้นแล้ว แต่จิตใจยังไม่มั่นคงที่ระลึกถึง พระพุทธเจ้าได้เนื่องๆ ยังไหลไปตามตัณหาได้อยู่ จึงกังขา คิดว่า ตนเองบรรลุธรรมเป็นพระอริยะเบื้องต้นจริงหรือ.
จนพระพุทธเจ้าตรงตรัสย่ำอธิบายให้ทราบชัดอีกครั้ง.
ดังนั้นผมจึงเห็นว่า พระโสดาบัน ที่เคยปรารถนาพุทธภูมิ หรือเป็นอนิยตโพธิสุตว์มาอย่างยาวนาน แม้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน ย่อมยังคิด ยังกังขาไปในเรื่องพุทธภูมิ หรือโพธิสัตว์ได้อยู่ เพราะคุณธรรมความดีที่ถือไว้นั้น ไม่ได้ถูกละถอนทิ้งไปด้วยพร้อมสังโยชน์ 3 บวกกับเพราะยังไม่เกิดปัญญาเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจน ด้วยมรรคญาณ ที่เกิดเพียงครั้งเดียว
คงทำนองเดียวกัน ผู้บรรลุฌาน 1 เพียงครั้งเดียว ย่อมแยกแยะไม่ได้อย่างขัดเจนว่านี้เป็น ฌานที่ 1 หรือตนได้ฌานที่ 1 แล้วอย่างมั่นใจ แม้จะกางตำราดูก็ตาม แต่เมื่อเพียรปฏิบัติไปจนบรรลุฌาน 2 หรือ 3 ก็จะเกิดความไม่กังขา หรือคิดว่า ที่ผ่านมาใช่หรือไม่ใช่ ฌานที่ 1 หมดคำถามเพราะ ธรรมนั้นเแหละสอนธรรม กับผู้ปฏิบัติเอง